....โลกที่ฉันมองเห็นวันนี้ดูสดใสงดงาม....
ฉันตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเปาะแปะดังที่นอกหน้าต่าง ท้องฟ้ายังมืดครึ้มไปด้วยเมฆฝนแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาสาย
พรุ่งนี้ฉันมีนัดกับเขาในตอนบ่าย....ฉันเห็นไปมองสายฝนโปรยข้างนอกแล้วยิ้ม ให้กับตัวเอง ....แม้แต่พระพิรุณก็ยังมาอวยพรให้ฉันมีความสุข....
ลมเย็นพัดเข้ามาทำให้ฉันรู้สึกสบายยิ่งขึ้น เสียงนกกระจอกดังจิ๊บจั๊บระงมเซ็งแซ่ดังเช่นทุกวัน ราวกับพวกมันกำลังร้องเพลงให้ฉันฟัง ฉันลุกจากเตียงเข้าห้องน้ำไปทำกิจวัตรด้วยความกะปรี้กะเปร่า....ออกไปเดิน เที่ยวเล่นสักหน่อยคงจะดี
ฉันเดินออกจากห้องพักด้วยความสดใส ฝนใกล้จะหยุดตกแล้ว เมฆหายลับไปจากเบื้องบนเผยให้เห็นฟ้าสีครามสวย อะไรๆก็ดูดีไปหมดในวันนี้
สุนัขตัวโตของเพื่อนบ้านในซอยส่งเสียงเห่าทักทายลั่นอึงมาอย่างทุกทีที่ฉัน เดินผ่าน ฉันยิ้มให้พวกมันน้อยๆรับการทักทายนั้นแล้วเร่งฝีเท้าขึ้นอีก นั่น รถเมล์สายที่ฉันต้องขึ้นกำลังจะออกไปแล้ว
ไอร้อนสีดำลอยผ่านหน้าพร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่แว่วไกลออกไป ฉันยืนหอบก่อนทิ้งตัวนั่งลงตรงเก้าอี้ตรงป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้าน ....เอาน่ะ เหลือเวลาอีกเยอะแยะ นั่งรอก่อนจะเป็นไรไป.... ฉันคิดพลางมองหยดน้ำไหลร่วงลงมาจากหลังคาของเพิงทีละหยดๆ ทำให้เงาของฉันที่สะท้อนในแอ่งน้ำผิดรูปไปตามจังหวะดูตลกแปลกตาไปอีกแบบ
ผู้คนเริ่มหนาตาขึ้น ตรงข้ามกับเม็ดฝนที่อันตธานหายไป ฟ้าสดใสด้วยแดดจ้า ขณะที่ฉันนึกย้อนไปถึงเมื่อวาน
เสียงสดใสของเขายังคงดังกระจ่างชัดก้องอยู่ในโสต รอยยิ้มของเขาตราตรึงชัดอยู่ในความทรงจำ
ฉันยิ้มนึกกับตัวเองอย่างมีความสุขราวกับมีดอกไม้ผลิบานอยู่เต็มใจ ....เขาเป็นอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตฉัน....
รถเมล์มาแล้ว ฉันลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง เบียดเสียดเหล่าผู้คนขึ้นไปจับจองที่ของตัวอย่างสบายๆ
ณ ที่หมาย ฉันยกนาฬิกาขึ้นดู พบว่ามีเวลามากพอให้ฉันเดินเที่ยวเล่นตามอารมณ์ จึงขยับเยื้องย่างออกจากจุดที่ยืนอยู่
ภาพสองข้างทางที่ผ่านไป มีแต่ผู้คนเป็นคู่ ....เห็นแล้วก็อดนึกถึงเขาไม่ได้.... คิดพลางหัวเราะคิกคักอยู่ในใจ เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้คู่ของเราก็จะได้ร่วมเดินกันบ้าง พร้อมทั้งดวงใจที่มีความคนึงหาถึงกัน
เท้าก้าวสืบไปตามทาง สายตาส่ายสอดมองทั่ว แม้เป็นทิวทัศน์ที่คุ้นเคย แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากได้อยู่กับเขาฉันคงเห็นมันสวยงามขึ้นจากเดิม
ยกนาฬิกาขึ้นดูอีกครั้ง เกือบถึงเวลานัดหมายแล้ว ฉันหันมองโดยรอบเพื่อหาทางลัดไปยังจุดนัดพบ ....และทันใดฉันก็ได้เหลือบไปเห็น.....เขา....
เขายังคงมีรอยยิ้มสดใสเหมือนเคย เสียงหัวเราะทุ้มเสนาะหูยังคงดังกังวานใสเช่นทุกครั้งที่มีให้
หากแต่ที่ผิดแผกไปคือข้างกายเขามีสาวแปลกหน้าคนหนึ่งยืนเคียงคู่ แย้มยิ้มตอบโต้การกระทำของเขา
หญิงสาวคนอื่น ที่ไม่ใช่ฉัน
ราวกับโดนน้ำสาด ฉันรู้สึกหนาวเยือก ประสาทสัมผัสทั้งหมดด้านชาราวกับถูกปิดลง คล้ายกับว่าเป็นระบบป้องกันตัวของฉันที่ต้องการให้จิตใจได้รับความเสียหาย น้อยที่สุด
จิตใต้สำนึกสั่งการแทนฉัน ให้พาตนเองออกไปจากที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด....ให้พาตนเองไปยังที่ๆน่าจะ ปลอดภัยที่สุด.....
เมื่อรู้สึกตัวอีกที ฉันพบว่าตัวเองอยู่ที่ห้องอันคุ้นเคยของฉันแล้ว ความด้านชาหายไป และรู้สึกได้ถึงความนุ่มของฟูกเตียงที่ได้พาร่างของตนไปหยุดอยู่....หากแต่ ความคิดของฉันหาได้หยุดไปด้วยไม่....
เธอคนนั้นเป็นใคร?.....เธอคนนั้นเป็นใคร?
ทำไมถึงได้ดูสนิทสนมกับเขามากนัก? ทำไมเขาจึงยิ้มให้เธอ? ทำไมเขาจึงหัวเราะกับเธอ?
ฟ้าอับแสง แต่ก็ไร้ดวงดาวกระจ่างฟ้า....สายฝนเริ่มโปรยลงมาเงียบๆอีกครั้ง พร้อมกับฉันที่ค่อยๆจมดิ่งลงไปในกองน้ำตา
############################
....โลกที่ฉันมองเห็นวันนี้ดูหม่นหมองมืดมัว....
ฉันตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเปาะแปะดังที่นอกหน้าต่าง ท้องฟ้ายังมืดครึ้มไปด้วยเมฆฝนแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาสาย
วันนี้ฉันมีนัดกับเขาในตอนบ่าย....ฉันเห็นไปมองสายฝนโปรยข้างนอกแล้วทอด อาลัยให้กับตัวเอง แม้แต่ท้องฟ้ายังร่ำไห้ไปกับฉัน
ลมเย็นพัดเข้ามาบาดผิวของฉัน เสียงนกกระจอกดังจิ๊บจั๊บระงมเซ็งแซ่ดังเช่นทุกวัน ราวกับพวกมันกำลังหัวเราะเยาะความโง่เง่าของฉันที่ไม่รู้อะไร ฉันลุกจากเตียงเข้าห้องน้ำไปทำกิจวัตรอย่างสะโหลสะเหล....ออกไปทำให้มันจบไป ในวันนี้คงจะดี
ฉันเดินออกจากห้องพักด้วยความหม่นหมอง ฝนใกล้จะหยุดตกแล้ว เมฆหายลับไปจากเบื้องบนเผยให้เห็นฟ้าสีหมอง อะไรๆก็แย่ไปหมดในวันนี้
สุนัขตัวโตของเพื่อนบ้านในซอยเห่าเสียงขรมอย่างทุกทีที่ฉันเดินผ่าน ฉันถอดหายใจรับเสียงการกร่นด่านั้นแล้วเร่งฝีเท้าขึ้นอีก นั่น รถเมล์สายที่ฉันต้องขึ้นกำลังจะออกไปแล้ว
ไอร้อนสีดำลอยผ่านหน้าพร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่แว่วไกลออกไป ฉันยืนหอบก่อนทิ้งตัวนั่งลงตรงเก้าอี้ตรงป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้าน ....ช่างเถอะ รุดรีบไปก็ใช่ว่าเขาจะรอฉัน เสียเวลาอีกสักหน่อยเป็นอะไรไป.... ฉันคิดพลางมองหยดน้ำไหลร่วงลงมาจากหลังคาของเพิงทีละหยดๆ ทำให้เงาของฉันที่สะท้อนในแอ่งน้ำผิดรูปไปตามจังหวะดูบูดเบี้ยวไม่น่ามอง
ผู้คนเริ่มหนาตาขึ้น ตรงข้ามกับเม็ดฝนที่อันตธานหายไป ฟ้าเริ่มเปิดด้วยแดดแรงแยงตา ขณะที่ฉันนึกย้อนไปถึงเมื่อวาน
เสียงสดใสของเขายังคงดังกระจ่างชัดก้องอยู่ในโสต รอยยิ้มของเขาตราตรึงชัดอยู่ในความทรงจำ
ฉันแค่นยิ้มกับตัวเองอย่างมีหดหู่ราวกับดอกไม้ในใจเหี่ยวเฉาโรยรา ....เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่หักหลังฉัน....
รถเมล์มาแล้ว ฉันลุกขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง เบียดเสียดเหล่าผู้คนขึ้นไปจับจองที่ของตัวอย่างลำบากลำบน
ณ ที่หมาย ฉันยกนาฬิกาขึ้นดู พบว่ามีเวลามากพอให้ฉันเดินเที่ยวเล่นปลดปล่อยอารมณ์ จึงขยับเยื้องย่างออกจากจุดที่ยืนอยู่
ภาพสองข้างทางที่ผ่านไป มีแต่ผู้คนเป็นคู่ ....เห็นแล้วก็อดนึกถึงเขาไม่ได้.... คิดพลางร้องไห้อยู่ในใจ เพราะเดี๋ยวคู่ของเราคงจะได้ร่วมเดินกันบ้าง แม้ว่าดวงใจจะมิได้มีความคนึงหาถึงกัน
เท้าก้าวสืบไปตามทาง สายตาส่ายสอดมองทั่ว แม้เป็นทิวทัศน์ที่คุ้นเคย แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าในวันนี้มันช่างดูหม่นหมองอึมครึมต่างจากทุกที
ยกนาฬิกาขึ้นดูอีกครั้ง เกือบถึงเวลานัดหมายแล้ว ฉันหันมองโดยรอบเพื่อหาทางลัดไปยังจุดนัดพบ ....และทันใดฉันก็ได้เหลือบไปเห็น.....เขา....
เขายังคงมีรอยยิ้มสดใสเหมือนเคย เสียงหัวเราะทุ้มเสนาะหูยังคงดังกังวานใสเช่นทุกครั้งที่มีให้
หากแต่ที่ชวนแปลกใจคือข้างกายเขายังคงมีสาวแปลกหน้าคนนั้นเคียงคู่ แย้มยิ้มตอบโต้การกระทำของเขา
หญิงสาวคนนั้น ที่ไม่ใช่ฉัน
ราวกับโดนไฟสุม ฉันรู้สึกร้อนในอก ประสาทสัมผัสทั้งหมดตื่นตัวราวกับถูกเปิดขึ้น คล้ายกับว่าเป็นระบบต่อสู้ของฉันที่ต้องการให้จิตใจที่สับสนได้รับคำอธิบาย
เธอคนนั้นเป็นใคร?.....เธอคนนั้นเป็นใคร?
ทำไมเขาถึงยิ้มให้เธอ?....ทำไมเขาถึงยังอยู่กับเธอ?....แล้วทำไมเขาถึงให้ เธอมาเจอกับฉัน?
เสียงนุ่มทุ้มดังกระทบโสต ราวกับดวงอาทิตย์ที่แหวกเมฆออกไปจากใจฉัน ขับไล่ความคิดขุ่นมัวของสายฝนให้ได้เห็นรุ้งกินน้ำซึ่งฉันไม่ทันสังเกต
" เอ้า เจอกันพอดีเลย มาสิ มารู้จักกับพี่สาวของผมหน่อย "
############################
Talk
จากวันที่ของไฟล์ในคอมล่าสุด ( ก่อนแก้ไขเพิ่มเติมเล็กๆน้อยๆเพื่อนำมาโพสในบล็อกเมื่อปีที่แล้ว) บอกไว้ว่านี่เป็นเรื่องสั้นที่แต่งเอาไว้เมื่อต้นกุมภาพันธ์พ.ศ. 2549
น่าจะเป็นเรื่องสั้นที่หัดแต่งส่งในวิชาเขียนเรื่องสั้น แต่รู้สึกจะไม่เคยโพสลงเน็ตเนื่องด้วยอายสำนวนหรืออะไรซักอย่าง....แต่พอได้กลับอ่านดูแล้วก็คิดว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น แก้ไขนิดๆหน่อยๆก็เอาลงได้แล้วแฮะ ถึงจะยังมีส่วนแปลกๆอยู่บ้างก็เถอะ
ได้กลับไปอ่านก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ใส่ความคิดของตนเองได้ชัดเจนดี
ถ้าคนอ่านได้เก็บตกสิ่งที่ต้องการจะสื่อไปได้ก็จะยินดีสุดๆเลย : D
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น