คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : - 2 -
2
ที่ร้านกาแฟใจกลางเมืองแห่งหนึ่งมีผู้ชายสองคนที่นั่งอยู่ในส่วนลึกสุดของร้านผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งกำลังยุ่งอยู่กับการดูรูปภาพจากกล้องที่อยู่ในมือของเขา ส่วนอีกคนเป็นผู้ชายที่มีหุ่นละม้ายคล้ายกับผู้หญิง …บางทีอาจจะหุ่นดีกว่า กำลังจ้องมองไปที่ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้าม พลางคิดว่า…ถ้าถึงวันที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับเขาแล้ววันนั้นเขาจะเป็นยังไง? ตั้งแต่วันนั้น…วันที่เขาสลบไปทั้งสองคนก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น…มากจนทำให้ อีซองจง หลงรักผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าจนถอนตัวไม่ขึ้น
“นี่ อีซองจงหน้าฉันมีอะไรติดหรือเปล่า?” …คิมมยองซูพูดขึ้นมาทั้งๆที่ยังดูรูปในกล้องต่อไป…นั่นทำให้อีซองจงสะดุ้งสุดตัว
“อะ…เอ่อเปล่าครับ ไม่มีอะไรหรอกผมแค่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี” อีซองจงแก้ตัว….สิ่งที่เขาอยากทำมีเพียงสิ่งเดียวคือจดจำใบหน้าของชายอันเป็นที่รัก
“นายเบื่องั้นเหรอ…ขอโทษทีนะฉันมัวแต่ดูรูปเพลินไปหน่อยน่ะ” คิมมยองซูวางกล้องลงแล้วหันไปมองรอบๆร้าน ที่มุมร้านมีกีตาร์วางไว้อยู่ตัวหนึ่งเขาเดินไปหยิบกีตาร์ตัวนั้นแล้วกลับมานั่งที่เดิม
“พี่เล่นกีตาร์เป็นด้วยเหรอครับ?” อีซองจงถามขึ้นเมื่อเห็นมยองซูกำลังปรับสายกีตาร์อย่างชำนาญ
“เป็นสิ” แล้วมยองซูก็นิ่งไปซักพักแล้วร่างสูงก็เริ่มบรรเลงเพลง นิ้วเรียวยาวเปลี่ยนคอร์ดไปเรื่อยๆอย่างเคยชิน ร่างบางที่นั่งตรงข้ามอดชื่นชมไม่ได้ …คนแอบรักมักจะคิดไปเอง …และเขากำลังคิดไปเองอีกแล้วคิดว่าเขากำลังเล่นเพลงนี้ให้ตน….คิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ...ถึงอย่างนั้นการคิดไปเองนี่แหละที่ทำให้เขามีความสุขจนถึงทุกวันนี้ …เสียงเพลงจบลงแล้วเสียงปรบมือจากคนทั้งร้านก็ดังขึ้น
“พี่เท่ห์มากเลยครับ” อีซองจงปรบมือพร้อมกับยิ้มให้คนตรงหน้าที่กำลังเกาหัวแกรกๆพร้อมกับก้มหน้าก้มตา
“เห้ยฉันเขินนะ คนทั้งร้านได้ยินหมดเลย…นี่ถ้าไม่ใช่เพราะนายฉันไม่เล่นหรอก” แค่ประโยคนั้นก็ทำให้อีซองจงหัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมา….
“ขอบคุณมากนะครับ…” อีซองจงพูดพร้อมกับก้มหน้ายิ้มอยู่คนเดียว …ถ้ามยองซูชอบเขาบ้างก็ดีสิ…
ซักพักใหญ่ๆทั้งสองก็เดินออกมาจากร้านระหว่างทางมยองซูก็ถ่ายรูปไปตลอดเวลาถึงแม้ว่ามันจะทำให้เขาไม่ค่อยได้คุยกับมยองซูแต่นั่นเป็นสิ่งที่มยองซูรัก…เขาก็ขอแค่ได้ยืนอยู่ข้างๆเป็นกำลังใจให้เขาก็พอแล้ว
“น้อง! น้องคะ!” อยู่ดีๆก็มีผู้หญิงที่สวมแว่นหนาเตอะวิ่งตามออกมาจากร้านพร้อมกับตะโกนตามหลังมา
“เรียกผมเหรอครับ?” มยองซูเงยหน้าจากแปลงดอกไม้แล้วสำรวจผู้มาใหม่…เขาเป็นใคร? นั่นเป็นคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว
“น้องใช่คนที่เล่นกีตาร์ในร้านกาแฟเมื่อกี้หรือเปล่าคะ?” หญิงสาวพูดพลางหอบอย่างเหนื่อยอ่อน
“อะ….เอ่อ ใช่ครับพี่มีอะไรหรือเปล่า?”
“เย้ ดีเลย” เธอทำท่าทางราวกับเจอสมบัติอันล้ำค้า เธอหยิบนามบัตรจากกระเป๋าของเธอแล้วยื่นให้มยองซู “พี่เป็นตัวแทนจากค่าย Hk เมื่อกี้น่ะน้องเล่นกีตาร์ดีมากเลยนะ น้องสนใจอยากเป็นนักร้องบ้างมั้ย?” มยองซูรับนามบัตรมาก่อนจะอ่านอย่างพิจารณา
“ผม…ขอคิดดูก่อนนะครับ” มยองซูโค้งให้เธอแล้วจับมือซองจงเดินออกมา
“พี่มยองซู…พี่สนใจจะไปออดิชั่นบ้างมั้ย? ค่าย Hk ดังมากเลยไม่ใช่เหรอ?”
“พี่….ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน ถึงบ้านแล้วเข้าไปเถอะ” ทั้งสองคนหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของซองจง
“งั้น….ผมเข้าบ้านก่อนนะครับ” ซองจงโค้งให้มยองซูก่อนจะหันหลังเข้าบ้านไป
- Lee Sung Jong -
“ซองจงกลับมาแล้วเหรอลูก เป็นไงวันนี้สนุกไหม?” แม่ที่เดินออกมาจากครัวมาโอบไหล่ผมพร้อมกับส่งยิ้มให้
“แม่…แม่เคยชอบใครไหม?” แม่เงียบไปซักพักเหมือนกับย้อนอดีตแล้วก็ยิ้มออกมา
“เคยสิ..”
“ใช่พ่อหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่หรอก….ลูกรู้มั้ยบางทีทุกอย่างมันก็ไม่ได้จบลงด้วยความสุขเสมอไป”
“ครับ…ผมรู้”
“แล้วทำไมอยู่ดีๆถึงมาถามแม่เรื่องนี้ล่ะ?”
“แม่…ถ้าสมมติแม่ชอบคนๆนึงอยู่แล้วความฝันของเขาเป็นสิ่งที่ทำให้เราอาจจะไม่ได้คุยกับเขาอีก แม่จะยื้อเขาไว้หรือเปล่า?”
“บางที….แม่คงไม่ยื้อเขาไว้หรอก ในเมื่อเป็นความฝันของคนที่เรารัก สิ่งที่มีความสุขที่สุดสำหรับคนแอบรักก็คือเห็นเขามีความสุขไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมวันนี้มาแปลกมยองซูจะไปทำตามความฝันเหรอ คิกคิก”
“โหยแม่ ไม่ได้พูดถึงพี่มยองซูซักหน่อย…ขอบคุณมากนะครับแม่” จริงๆตั้งแต่เริ่มผมหมายถึงพี่มยองซูหมดแหละครับ….แต่มันแค่ยังไม่ถึงเวลาจะบอกเท่านั้นเอง
ผมนอนลงบนเตียงของผมแล้วหลับตา….สิ่งแรกที่เห็นคือใบหน้าของคนที่ผมรัก…มยองซู
‘ในอนาคตพี่อยากทำงานอะไรเหรอ?’
‘พี่เหรอ…อืม ไม่ช่างภาพก็นักร้องแหละ’
‘ทำไมพี่ไม่ไปออดิชั่นอ่ะ?’
‘พี่ไม่อยากทิ้งนายไว้คนเดียวไง…อีซองจง’
ผมคว้าโทรศัพท์ที่อยู่หัวเตียงแล้วกดเบอร์โทรของพี่มยองซู ซักพักเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น
[ อื้อ…ว่าไง ]
“พี่มยองซู…พี่ทำอะไรอยู่เหรอ?”
[ ก็…นอนเล่นน่ะ ]
“อือ…พี่มยองซูพี่จะไปออดิชั่นมั้ย?”
[ ไม่รู้อ่ะ…ถ้าพี่ไปแล้วนายจะอยู่คนเดียวได้เหรอ พี่เป็นห่วงนายนะอีซองจง ] ….พี่เขาเป็นห่วงผม …ผมไม่ได้ฟังผิดใช่มั้ย? …พี่เขาเป็นห่วงผม
“พี่มยองซูผมโตแล้วนะผมอยู่ได้อยู่แล้ว”
[ ฮะฮะ ทำอย่างกับพี่จะไม่ได้อยู่กับนายแล้ว พี่ว่าพี่ออดิชั่นไม่ผ่านหรอกเพราะงั้นพี่คิดว่าพี่คงจะไม่ไปอ่ะ ]
“พี่ควรจะลองไปดูก่อนนะ”
[ ฮะ? ]
“…พี่ไปออดิชั่นนะ เพื่อผมก็ได้”
“ถามจริงอีซองจง ทำไมนายถึงอยากให้พี่ไปออดิชั่นล่ะ?” พี่มยองซูถามขึ้นหลังจากที่เรากำลังขึ้นรถเมล์ไปค่าย Hk ผมเลือกที่นั่งหลังสุดก่อนจะตอบคำถาม
“ก็….มันเป็นความฝันพี่ไม่เหรอ?”
“…นายคิดว่าพี่จะออดิชั่นผ่านหรือไง จริงๆพี่ก็ชอบการถ่ายรูปพอๆกับร้องเพลงนั่นแหละ”
“ถ้าผมบังคับพี่เกินไป….หรือเราควรจะกลับกันดีครับ?”
“ขนาดนี้แล้วก็แค่ไปยืนร้องเพลงเฉยๆเอง ฟรีอีกต่างหากไม่เป็นไรหรอก”
“พี่มยองซู….พี่ได้โอกาสมากกว่าคนอื่นแล้วนะพี่ต้องทำให้เต็มที่นะ…เพื่อความฝันของพี่…” ผมกับพี่มยองซูสบตากัน
“นายซีเรียสขนาดนั้นเลยเหรอ….งั้นก็ได้ฉันจะพยายามให้เต็มที่นะ”
“ต่อไปหมายเลข 45 46 47 48 49 50 ค่ะเชิญเข้าไปได้เลยค่ะ” สิ้นเสียงสตาฟที่เดินออกมาผมก็ชะเง้อไปมองบัตรผู้เข้าออดิชั่นที่พี่มยองซูถือไว้
“พี่มยองซู! เขาเรียกพี่แล้ว” ผมดึงหูฟังของเขาออกแล้วก็ดึงพี่เขาให้ลุกขึ้นมา
“ห้ะ? อะไรนะถึงตาพี่แล้วเหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ…สู้ๆนะ ทำให้เต็มที่ถ้าพี่เข้ารอบไปได้ผมจะเลี้ยงไก่พี่เลย!”
“ขอบคุณนะ…แล้วฉันจะรอไก่จากนาย” พี่มยองซูยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปผมมองแผ่นหลังที่เริ่มไกลออกไป….พี่มยองซูที่ต่อจากนี้อาจจะอยู่ไกลจากผมไปอีกขั้น…ถึงผมอยากจะอยู่ใกล้กับพี่มยองซูต่อไป…แต่ผมรู้ดีว่าความฝันของพี่เขาคืออยากเป็นนักร้อง…และผมก็จะคอยอยู่ข้างๆพี่เขาไม่ว่าจะฐานะอะไร ….สู้ๆนะพี่มยองซูพี่ทำได้อยู่แล้ว …ความสุขของคนแอบรักก็คือเห็นคนที่รักมีความสุข…เหมือนที่แม่บอกไว้ไม่มีผิด….ซักวันหนึ่งก่อนที่เขาจะไม่ใช่แค่คนธรรมดาๆผมจะหาโอกาสบอกรักเขา….ก่อนที่จะสายเกินไป
ความคิดเห็น