คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter:2 เศษขนมที่เหลืออยู่ก้นจาน
ChocoNila มนต์รักเบเกอรี่
Chapter:2 เศษขนมที่เหลืออยู่ก้นจาน
ชานซองขับรถสปอร์ตหรูของตนมาจอดที่โรงรถตามปกติของทุกวันแต่ที่แปลกจากเดิมของทุกวันก็ตรงที่เขากลับบ้านเร็วครั้งแรกในรอบปี ในทุกๆวันเขาจะกลับไม่ต่ำกว่าห้าทุ่มเที่ยงคืนเสมอ ชานซองกำลังจะก้าวเท้าขึ้นไปที่ชั้นสองแต่ก็ถูกทักจากพี่ชายของตัวเองสะก่อน
“วันนี้ฟ้าผ่าแน่ๆ ที่แกกลับเร็ว” แทคยอนพูดประชด
“แล้วไง” ชานซองกำลังจะเดินขึ้นต่อ
“พ่อแกบอกให้ฉันดูแลแก ดังนั้นตอนนี้แกอยู่ในความดูแลของฉันรวมถึงแฟนใจง่ายของแกด้วย” แทคยอนพูดให้อีกคนหยุดเดิน
“ถ้าพี่พูดถึงเขาแบบนั้นอีกผมคงจะไม่ไว้หน้าพี่อีกแล้ว พี่แทคยอน” ชานซองพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ พยายามไม่ใช้อารมณ์เพราะแค่เรื่องเรียนแก้ก็เครียดมากพออยู่แล้ว
แทคยอนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินออกไปจากบ้าน
“ไปหานังแฟนปากจัดนั่นสินะ เหอะ!” ชานซองกระตุกยิ้มอย่างเวทนาพี่ชายตัวเองที่ไปหาแฟนแบบนั้นมาจากไหน
“นี่พี่คิมมินจุน รุ่นพี่ฉันเองที่บอกว่าจะมาช่วยงานที่ร้านแทนชานซอง แล้วนี่ก็อูยองเชฟของร้านเราครับพี่” นิคคุณแนะนำพนักงานในร้านคนใหม่ที่ชื่อว่า มินจุน ถึงหน้าพี่เขาจะแก่ไปหน่อยแต่อายุพี่เขาก็ห่างจากพวกเขาแค่ปีสองปีเท่านั้นเอง
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ตัวเล็ก” มินจุนยื่นมือไปเพื่อแสดงความรู้จักแต่กลับถูกเมินจากอูยองแล้วก็ตวาดอีกคนกลับ
“ใครตัวเล็ก ตัวเล็กแล้วทำไม!” อูยองเถียงกลับ เขารู้สึกไม่ถูกชะตากับอิตาหน้ายาวตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้าแถมยังมาพูดหาว่าเขาตัวเล็กอีก นิคคุณที่เห็นลูกค้าเดินเข้ามาเลยไปต้อนรับลูกค้าแทนแล้วให้สองคนนี้คุยกันเอง
“นายทำขนมพวกนี้เองหมดเลยเหรอ” มินจุนถาม
“ใช่ ทำไม!” อูยองตอบห้วนๆ เหมือนอยากจะมีเรื่อง
“เก่งดีนี่ สำหรับเชฟที่ยังเรียนไม่จบแต่กลับทำเบเกอรี่พวกนี้ได้” มินจุนพูดหยั่งเชิงอีกคน
“ฉันรู้ตัว ไม่ต้องชมทำงานสะ” อูยองยิ้มให้มินจุนสองวิแล้วทำท่าทะเล้นใส่ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวเหมือนทุกวัน มินจุนยิ้มบางกับการกระทำที่ดูเหมือนเด็กของอูยองแล้วหันไปต้อนรับลูกค้าอีกรายที่เข้ามาใหม่ ลูกค้าร่างสูงหล่อเหลาดูมีระดับ มินจุนจัดการเดินนำให้เขามานั่งที่โต๊ะสวนดอกไม้หลังร้านก่อนจะบอกให้ลูกค้ารอสักครู่แล้วเขาก็รีบเดินไปหานิคคุณที่กำลังจะเดินไปเสิร์ฟขนมอีกโต๊ะหนึ่ง
“คุนนี่นายไปรับออเดอร์ที่โต๊ะนั้นหน่อยสิ พี่ยังไม่รู้เลยว่าลิสต์รายการอาหารมีอะไรบ้าง เดี๋ยวโต๊ะนั้นพี่ไปเสิร์ฟเอง”
“อ่อ ได้ครับ^^” นิคคุณยิ้มให้แล้วรีบเดินไปรับออเดอร์ทันที
“สวัสดีครับ อยากทานอะไรดีครับ วันนี้ทางเราของเรามีเซตเค้กวนิลาช็อกโกที่เสิร์ฟคู่กับกล้วยหอมพร้อมดิ๊ฟครับ หรือจะเป็นชาเขีย……”
“ขอนายที่นึงสิ!” ยังไม่ทันที่นิคคุณจะพูดจบร่างสูงที่ก้มหน้าก้มตามองออเดอร์ในมือก็เงยหน้าขึ้นสบตากับร่างบางแล้วพูดจาหยาบคายใส่
“พี่แทคยอน!” นิคคุณเผลอหลุดปากไปเพราะความตกใจ
“อย่าทำเรียกฉันว่าพี่ ฉันไม่ใช่พี่นาย! ว่าไงขอนายสักที่หนึ่งได้รึเปล่า ฉันจะได้จองโรงแรมจิ้งหรีดแถวๆนี้ไว้” แทคยอนจงใจพูดจาดูถูกนิคคุณ นิคคุณถึงเลือดขึ้นหน้าไม่สบอารมณ์แต่ก็ไม่ได้ด่าอะไรกลับไป
“ถ้าคุณจะมาก่อกวนผมว่าอย่าเลยนะครับ ผมจะได้ทำงาน ผมขอตัว” นิคคุณพยายามหลีกเลี่ยงแล้วเดินกลับไป
“เดี๋ยวสิ! หรือจะเอาโรงแรมห้าดาวก็ได้นะ!” นิคคุณถึงกับชะงักกับคำพูดจาที่แสนจะดูถูกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ถ้าเป็นคนที่ผมถูกใจข้างถนนผมก็เอา! ผมว่าคุณควรออกไปจากร้านได้แล้วไม่งั้นผมคงจะต้องเรียกตำรวจ” นิคคุณตอกกลับแทคยอนเหวอเล็กน้อยเพราะไม่คิดเลยว่าร่างบางที่ดูบอบบางเช่นนี้จะง่ายมากกว่าที่เขาคิด แทคยอนกระตุกยิ้มอย่างพอใจ
“งั้นฉันจะรอจนกว่านายถูกใจฉัน เผื่อว่า……ข้างถนนอย่างนายจะถึงใจ” แทคยอนทิ้งคำดูถูกไว้เหมือนเดิมแล้วก็เดินออกไป นิคคุณรู้สึกผิดหวังที่ร่างสูงมองตัวเขาเป็นคนใจง่าย แต่มันก็ไม่แปลกเพราะชานซองติดเขาแจจนไม่เอาการเอางานคนเป็นพี่ก็คงจะห่วงน้องเป็นธรรมดา มินจุนเห็นนิคคุณหน้าซีดไปเลยเดินเข้ามาถาม
“มีอะไรหรือเปล่าคุนนี่”
“เปล่า ไม่มีอะไรครับ ไปต้อนรับลูกค้ากันดีกว่า^^” ถึงแม้เขาจะรู้สึกไม่ดีแต่รอยยิ้มบนหน้าก็ทำให้คนอื่นอ่อนใจไปไม่ได้
“แทคค่ะ คุณจะไปไหน” หญิงสาวร่างผมเพรียวบางในสภาพเปลือยเปล่าทั้งตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงมีเพียงแค่ผ้าห่มผืนบางปิดอย่างไม่มิดเอ่ยถามแทคยอนที่กำลังแต่งตัวอยู่
“กลับบ้านนะ” แทคยอนตอนบสั้นๆ
“ช่วงนี้แทคเป็นอะไร ดูเหนื่อยๆนะคะ” หญิงสาวพูดเสียงอ่อยแกมน้อยใจที่แทคยอนไม่ค่อยสนใจเธอแล้วยังจะรีบกลับบ้านหลังทำกิจกรรมร่วมกันอีก
“ช่วงนี้ที่บริษัทมีปัญหานะ แถมเรื่องชานซองอีก” แทคยอนยังคงแต่งตัวต่อ โดยหญิงสาวเอาผ้าห่มบางที่ปิดเรือนร่างของเธออยู่มาห่อหุ้มแล้วเธอก็เดินมาใกล้กับแทคยอนส่งสายตาอ่อนโยนไปให้
“มีอะไรให้เจสช่วย บอกเจสได้เลยนะคะ น้องคุณก็เหมือนน้องเจส” เจสสิกายิ้มพราย แทคยอนกดจูบที่ริมฝีปากบางของเจสสิกาก่อนจะจากลาออกไป
“หึ!” เจสสิก้ายกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มันไม่ง่ายเลยที่เธอจะมาถึงจุดๆ นี้ เธอจะต้องได้แทคยอนมาครอบครองให้ได้เพื่ออนาคตที่จะสุขสบายไปทั้งชีวิต
แทคยอนที่ขับรถมาถึงบ้านก็รีบวิ่งขึ้นที่ชั้นสองหวังว่าจะอาบน้ำนอนให้สบายใจ แต่แสงที่รอดออกมาจากห้องนอนของน้องชายทำให้เขาเอะใจเพราะตอนนี้ตอนที่เขากลับมามันก็ปาไปตีสองกว่าๆ แล้วทำไมชานซองถึงยังไม่หลับไม่นอนอีก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ใคร!”ชานซองตะโกนกลับไปให้คนที่เคาะห้องตอบ เขากำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างขะมักเขม้นแต่ต้องกลับมาอารมณ์เสียเพราะมีคนมารบกวนการอ่านของเขา
“พี่เอง” ชานซองถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“เข้ามา!” แทคยอนหมุนลูกบิดประตูห้องเข้ามาอย่างเชื่องช้าก็เห็นน้องชายตนเองกำลังอ่านหนังสือเรียนอย่างขะมักเขม้นอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แทบอยากจะไม่เชื่อสายตาตนเอง
“ทำไมอ่านหนังสือดึกขนาดนี้” แทคยอนถามเสียงเรียบ ชานซองเงยหน้าขึ้นไปมองพี่ชายแล้วถอนหายใจ
“ผมต้องลงเรียนซ้ำนะ” แล้วเขาก็หันไปอ่านหนังสือต่อ แทคยอนมองอย่างหน่ายเหนื่อยใจไม่แพ้กันที่มีน้องชายโหลยโท่ยเช่นนี้ แทคยอนถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยของวันก่อนจะเดินออกไปเงียบๆ เพราะเขาเหนื่อยจนไม่อยากจะทะเลาะกับน้องชาย
แสงแดดของดวงอาทิตย์ทำให้คนที่นอนคดคู้อยู่ใต้ผ้าห่มทนไม่ไหวจนต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเหลืออด แทคยอนจัดการลุกบิดขี้เกียจพร้อมเหลียวมองนาฬิกาที่แขวนบนผนังห้องบอกว่าตอนนี้เกือบเที่ยงแล้ว แม่บ้านคนเก่าคนแก่เคาะประตูห้องเรียกแทคยอนก่อนจะเข้ามา
“ตื่นแล้วเหรอค่ะ คุณแทคยอนจะรับอาหารเที่ยงไหมคะ” ป้ามินจีแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของบ้านถาม
“ครับ เออแล้วชานซองละครับป้าวันนี้ออกไปเที่ยวที่ไหน” แทคยอนถามขณะกำลังเดินไปอาบน้ำ
“วันนี้คุณชานซองอยู่ที่บ้านค่ะ พาเพื่อนมาติวหนังที่บ้านบอกว่าจะรับประทานอาหารเที่ยงที่นี่ด้วยนะคะ” ป้ามินจีตอบพร้อมกับจัดเตียงให้เรียบร้อย แทคยอนฟังอย่างแปลกใจและแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองที่น้องชายของเขาจะอยู่บ้านในวันเสาร์อาทิตย์เช่นนี้
“ที่พูดนี่เข้าใจบ้างไหมเนี่ยชาน” นิคคุณถามชานซองที่นั่งตาเยิ้มจ้องเขาไม่กระพริบตาตั้งแต่เริ่มติว วันนี้ชานซองโทรเรียกนิคคุณให้มาติวหนังสือให้เขาที่บ้าน ตอนแรกชานซองกะว่าจะพาไปนั่งติวกันในสวนแต่ด้วยสภาพอากาศที่อบอ้าวเกินไปทำให้ต้องมานั่งติวกันที่โต๊ะรับแขกในห้องนั่งเล่นแทน
“เข้าใจสิ ทำไมจะไม่เข้าใจ” ชานซองตอบเสียงหวานพร้อมเอียงหน้าเข้าไปใกล้นิคคุณ
“ถ้าเข้าใจ งั้นบอกสิข้อนี้ตอบอะไร” นิคคุณชี้ไปที่ข้อแบบฝึกหัดในหนังสือเพื่อวัดแกวของชานซอง ชานซองทำท่าทีอึกอักเพราะเขาตอบไม่ได้
“นี่แนะ! ไหนบอกเข้าใจไงชาน ฉันบอกเฉลยไปแล้วนะข้อนี้น่ะ” นิคคุณตบเข้าที่ไหล่หนาเพื่อเป็นการลงโทษที่ไม่ตั้งใจเรียนกับการติวของเขา
“ก็นายอยากน่ารักจนฉันไม่มีสมาธิทำไมล่ะ” ชานซองตอบเสียงหวาน แต่กลับทำให้นิคคุณเงียบลง นิคคุณรู้ดีมาตลอดว่าชานซองรู้สึกอย่างไรกับเขาแต่ก็ไม่ใส่ใจเพราะคิดว่าชานซองคงจะเลิกราไปเอง แต่พอเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย ชานซองกลับหนักข้อขึ้นทุกวัน ชานซองชอบแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาจนทำให้เขาเองก็ไม่สบายใจ
ชานซองเห็นนิคคุณเงียบไปก็จัดการจักกะจี้ร่างบางจนดิ้นพล่านเกิดเสียงหัวเราะคิกคักดังไปทั่วบ้าน
“ฮะๆ ชาน พอ ฮะๆๆหยุดเดี๋ยวนี้ชาน ฮะ ฮะ~” นิคคุณดิ้นพล่านนอนดิ้นไปมาบนพื้นพรม ชานซองก็ยังไม่ยอมหยุดมือเพราะเขาชอบเสียงหัวเราะของนิคคุณ เล่นไปเล่นมาจนทำให้ชานซองกับนิคคุณอยู่ในท่าล่อแหลมเพราะตัวชานซองกำลังนั่งค่อมนิคคุณอยู่
“ไม่เกรงใจฉันก็เกรงใจบ่าวไพร่ในบ้านบ้างก็ดี!” เสียงทุ้มเข้มที่คุ้นเคยกล่าวตักเตือนทั้งสองคน ในตอนแรกแทคยอนก็รู้สึกดีที่น้องชายตัวเองอยู่กับบ้านแล้วพาเพื่อนมาอ่านหนังสือติวหนังสือกัน แต่พอมาเจอในสภาพนี้เขาอยากให้ชานซองไปเที่ยวเสเพลสะมากกว่าที่จะต้องมาคลุกกับคนง่ายๆ อย่างนิคคุณ
ชานซองรีบลงมาจากตัวของนิคคุณแล้วกะว่าจะหันไปเถียงกับพี่ชาย แต่แทคยอนกลับเดินหนีไป
“ไหนนายบอกว่าพี่นายไม่อยู่บ้านไงชาน” นิคคุณท้วง เพราะที่เขามาหาชานซองที่บ้านก็เพราะชานซองบอกเขาว่าพี่ชายไม่อยู่บ้าน
“ไม่รู้อ่ะ ก็เห็นทุกทีไม่อยู่” ชานซองเองก็แปลกใจเหมือนกัน แต่ก็ไม่สนใจจึงพานิคคุณไปทานอาหารที่ห้องรับประทานอาหารโดยมีแทคยอนนั่งทานอยู่ก่อนแล้วที่หัวโต๊ะ
บรรยากาศการรับประทานอาหารเป็นไปอย่างอึดอัดใจโดยเฉพาะนิคคุณที่จะตักข้าวเข้าปากแต่ละทีก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบเพราะพี่ชายของชานซองเอาแต่จ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อกันเสียให้ได้
“คุณ ที่ร้านเป็นไงบ้าง” ในที่สุดชานซองก็เป็นคนเปิดปากคุยกัน นิคคุณรีบตอบทันทีเพราะเขาก็ไม่อยากให้การรับประทานอาหารครั้งนี้เงียบเกินไป
“อืมม ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ แต่อูยองกับพี่มินจุนชอบทะเลาะกันบ่อยๆเหมือนเด็กเลยละ^^” นิคคุณตอบด้วยสำหน้าประจำตัว รอยยิ้มที่บริสุทธิ์มันช่างเหมาะกับใบหน้าของร่างบางจริงๆ แต่ไม่ใช่สำหรับแทคยอน
“เสแสร้ง” แทคยอนพูดขึ้นลอยๆ ทั้งชานซองและนิคคุณกันไปมอง
“ฉันเสียดายอ่า ที่ไม่ได้จบพร้อมนาย” ชานซองพูดเสียงอ่อยโดยไม่สนใจคำพูดของแทคยอน
“อย่าเสียดายไปเลยน่า มีฉันช่วยติวอยู่ทั้งคน^^”ทั้งสองคนคุยกันราวกับว่าแทคยอนไม่ได้อยู่ในห้องอาหารนี้
“ช่วยให้ล่มจมนะสิ!” แทคยอนพูดขึ้นลอยๆ อีกครั้ง แต่ครั้งชานซองไม่อยากทนก็เลยตอกกลับไป
“ถ้าพี่ไม่พอใจที่ผมเสเพลเที่ยวเล่นไปวันๆ ก็มาลงที่ผมสิ จะไปลงที่คุณทำไม” ชานซองเดือด
“ฉันให้คนไปสืบมาแล้ว ก็แกเอาแต่ติดหมอนี่แจไม่ยอมทำอะไร!” ตอนนี้กลายเป็นว่ากำลังจะเกิดศึกพี่น้องเดือด นิคคุณพยายามส่งเสียงห้ามแต่ไม่เป็นผล
“แต่พี่ก็ไม่ได้รู้จักคุณดีพอพี่จะไปตัดสินคุณได้ยังไง! พี่มันไม่มีเหตุผล!” ชานซองเถียงกลับอย่างไม่ลดราวาศอก
“แกบอกว่าความเป็นห่วงฉันไม่มีเหตุผลนะเหรอ! แกดูแฟนแกเส้! เป็นลูกผู้หญิงขายตัวอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แถมมีคดีลักขโมยติดตัว เชื่อสิหมอนี่หวังเกาะแกปอกลอกแกกิน แกจะไม่ให้ฉันห่วงแกได้ไงห๊า!!!!” แทคยอนตวาดกลับเสียงดัง ชานซองโกรธจัดเลือดขึ้นหน้าที่พี่ชายเขาต่อว่านิคคุณ
“ถึงผมจะเป็นลูกผู้หญิงขายตัว แต่ผมก็ไม่ได้ขายตัวนะครับคุณแทคยอน” นิคคุณพูดเสียงอ่อยทำให้สองคนที่กำลังเดือดดาลเลือดขึ้นหน้าหยุดเงียบลงแล้วหันมามองร่างบางที่ตอนนี้หน้าถอดสีและดวงตากลมโตมีน้ำเอ่ออยู่ที่พร้อมจะไหลได้ทุกเมื่อ
“ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” นิคคุณกล่าวลาเงียบๆ แล้วเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อนคุณ คุณ!~” ชานซองเรียกนิคคุณอย่างหัวเสียเขาตัดสินใจไม่อยากจะทะเลาะกับแทคยอนต่อแล้ววิ่งตามนิคคุณไป
แทคยอนรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัว เขาพูดจาแบบนั้นออกไปได้ยังไง ก็เพราะเขาเป็นห่วงน้องชายนะสิ
“โธ่เว่ย! จะรู้สึกผิดไปทำไม เด็กนั่นต่างหากที่จะต้องรู้สึกผิด” แทคยอนโวย
รถสปอร์ตคันหรูคันเดิมกับคราวที่มาส่งนิคคุณคราวที่แล้วจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่งเป็นหลังเล็กๆ ชั้นเดียวที่นิคคุณเช่าอยู่ มันเป็นบ้านที่อบอุ่นไม่เก่าและไม่ใหม่ ชานซองปลดสายนิรภัยให้นิคคุณเหมือนเช่นทุกวัน เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้กับนิคคุณหวังจะหอมแก้มขาวที่ตอนนี้ซีดเผือด
“อย่าชาน!” นิคคุณเอามือกั้นหน้าตัวเองไว้แล้วหันมาสบตากับชานซอง
“อย่าทำแบบนี้เลยชาน ต่อไปนี้ไม่ต้องมาส่งฉันแล้วนะ” นิคคุณพูดยิ้มๆ เพื่อรักษาน้ำใจของชานซอง
“ทำไมละคุณ ใครจะคิดยังไงก็เรื่องของมันสิไม่เห็นต้องสนเลย!”ชานซองไม่พอใจที่นิคคุณสั่งห้ามเขามาส่งนิคคุณอีก
“ใช่คนอื่นไม่สำคัญหรอก…..แต่นายต่างหากที่สำคัญชาน ฉันไม่เหมาะกับนายหรอก” นิคคุณพูดเสียงเรียบ
“คุณ! อย่าพูดแบบนี้อีก!”
“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”
“คุณ!” นิคคุณพยายามฉีกยิ้มให้ชานซองก่อนลงจากรถไปแล้วโบกมือลาให้ ชานซองอารมณ์เสียสุดๆ กับการกระทำที่ดูห่างเหินของนิคคุณ เขาเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นตามอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน
“โธ่เว่ย!” ชานซองสบถพร้อมกับคุมพวงมาลัยและลดคันเร่งลง แต่ดูเหมือนจะไม่ทันการณ์ อยู่ๆ ก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมากจากฝั่งถนนด้านซ้ายมาตัดหน้ารถเขากะทันหัน
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด!~~~~~~~~~~~~~
ความคิดเห็น