ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : woojin x hyeongseop (os) love at fourth sight
Title: Love at Fourth Sight
Couple: Park woojin x Ahn Hyeongseop
Rate: pg-
ผมเจอเขาครั้งแรกที่ร้านอาหาร ตาใสๆนั่นมองมาที่ผมด้วยความสงสัย
"ฮยองซอบนี่อูจินนะ ไปนั่งด้วยกันสิ แม่จะไปนั่งกับเพื่อนอีกฝั่งนะ" คุณแม่ของอีกคนบอกก่อนจะไปนั่งที่เก้าอี้อีกฝั่ง ส่วนคนตัวขาวยังคงยืนจ้องหน้าผมอยู่ สักพักนึงก็ปีนขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ถัดจากผมไปสองตัว เว้นที่ตรงกลางว่างเอาไว้ กลัวผมหรือไง?
"นายสั่งตามเรา" นั่นเป็นคำแรกที่เขาพูดกับผม เป็นคำพูดของเด็กเอาแต่ใจที่เห็นว่าผมดันไปสั่งอาหารเมนูเดียวกับเขา สาบานว่าไม่ได้สั่งตามนี่มันเมนูโปรดของผม แต่ตอนนั้นกลับตอบไปว่าถ้าเปลี่ยนเมนูแล้วเดี๋ยวอาหารจะมาไม่พร้อมกัน แน่นอนว่าเขาไม่ฟังแถมยังยืนยันให้เปลี่ยนเมนู
สุดท้ายผมก็ต้องเปลี่ยนเมนู เพราะขืนยังสั่งเมนูเดียวกับเขาอยู่อีกคนได้เบะปากทั้งวันแน่ๆ ผมยังไม่อยากโดนแม่บ่นว่าแกล้งเด็ก
"แบร่" ผมหันไปแลบลิ้นใส่อีกคนเมื่อพนักงานเอาอาหารหารของผมมาเสิร์ฟก่อน อีกคนเบะปากเบาๆก่อนจะแลบลิ้นกลับมาแล้วกอดอกหันไปอีกฝั่งเหมือนเดิม
ตลกเป็นบ้า
ปัญหาเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อมีคนมาเพิ่ม เก้าอี้ตัวเดียวที่เหลืออยู่คือตัวตรงกลางระหว่างผมกับเขา และแน่นอนว่าพวกผู้ใหญ่ก็ต้องอยากนั่งด้วยกันอยู่แล้วไม่มีใครจะมานั่งคั่นกลางระหว่างเด็กสองคนหรอ
"ฮยองซอบเขยิบมาตรงนี้"
"ไม่ อูจินแหละต้องเขยิบมา"
"ฮยองซอบ"
"อูจิน"
พอมานั่งนึกดูก็สงสัยว่าทำไมตอนนั้นเราถึงเถียงกันเพราะเรื่องเก้าอี้ตัวเดียว แต่เอาเป็นว่าสุดท้ายวันนั้นก็เป็นผมเองที่ยอมขยับไปนั่งเก้าตัวนั้นตามใจเขา
วันนั้นผมแค่รู้สึกว่าไอ้เด็กนี่มันตลกดี
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เราเจอกันครั้งที่สองในงานเลี้ยงรุ่นของแม่ มันเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมไปงานเลี้ยงรุ่นของแม่
เป็นครั้งที่สองที่เรานั่งโต๊ะเดียวกัน อาหารเช้าของโรงแรมวางตรงที่นั่งตรงข้ามผมพร้อมกับอีกคนที่ทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
"โต๊ะอื่นเต็ม เรานั่งด้วยนะ"
"อื้ม"
เป็นบทสนทนาเดียวตลอดระยะเวลาการกินอาหารเช้า ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำเหมือนไม่รู้จักผม หรือตอนนั้นเขาจะจำผมไม่ได้จริงๆ ไม่มีใครพูดอะไรหลังจากที่กินมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว ต่างคนต่างสนใจเครื่องมือสื่อสารในมือของตัวเอง
"ไปกันได้แล้วเด็กๆ" ความเงียบถูกทำลายด้วยเสียงของเพื่อนแม่สักคน ทั้งผมและเขาเงยหน้าขึ้นจากเครื่องมือสื่อสารในมือ ก่อนจะลุกตามพวกผู้ใหญ่ออกไป
ผมถูกใช้ให้เป็นตากล้องจำเป็น ทีแรกผมต้องเข้าไปอยู่ในรูปด้วยแต่ให้เหตุผลไปว่านี่คงเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมจะมาที่นี่ไม่ต้องมีผมในรูปหรอก เถียงกับแม่จนแม่รำคาญเลยไล่มาถ่ายรูป
"หนึ่ง สอง สาม"
แชะ!
ผมพูดให้สัญญาณว่าจะกดถ่ายรูปรวมให้พวกแม่ๆ รวมทั้งฮยองซอบที่อยู่ตรงกลางของรูป ดูก็รู้ว่าเป็นเด็กที่พวกแม่ๆเอ็นดูที่สุดในบรรดาเด็กๆที่มาด้วย
ผมถ่ายรูปให้ทั้งกล้องเล็กกล้องใหญ่และกล้องโทรศัพท์มือถือ เวียนไปมาเป็นสิบตัวการถ่ายรูปถึงได้สิ้นสุดลง ทุกคนเริ่มจะแยกย้ายกันกลับบ้านเหลือเพียงไม่กี่ครอบครัวที่ยังคงคุยกันอยู่ หนึ่งในนั้นคือแม่ผมที่กำลังคุยกับเพื่อนร่วมรุ่น
"อูจินลูก ถ่ายรูปครอบครัวให้น้าหน่อย" ผมหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะเห็นว่าเป็นคุณแม่ของฮยองซอบนั่นเอง
ผมตอบรับคำขอก่อนจะไปยืนถ่ายรูปให้คุณน้า แต่ก่อนจะกดชัตเตอร์ มันก็มีอะไรที่ดูแปลกๆในรูป ฮยองซอบไม่ยิ้ม
"เอ่อ ฮยองซอบ ยิ้มหน่อย" ผมลดกล้องลงแล้วตะโกนบอกอีกคน ฮยองซอบทำหน้าไม่สบอารมณ์แต่ก็ยอมยิ้มออกมา
ยอมรับเลยว่าวินาทีนั้นถึงกล้องจะโฟกัสทุกคนแต่สายตาผมน่ะโฟกัสที่คนตัวขาวคนเดียว
วันนั้นผมได้รู้ว่าฮยองซอบเป็นคนที่ยิ้มได้สดใสที่สุดในโลก
-------------------------------------------------------------------
เราเจอกันครั้งที่สามที่โรงเรียนกวดวิชา
กลิ่นหอมจากคนตรงหน้าเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอโทรศัพท์มองก่อนจะสบตากับคนตัวขาวที่เดินออกมาจากลิฟต์พอดี อีกคนพอเห็นหน้าผมก็เหมือนตกใจเล็กน้อยแต่ก็เร่งฝีเท้าเข้ามาหาผม สงสัยในการกระทำของอีกคนอยู่พักนึงก่อนที่จะหายสงสัยเมื่ออีกคนพูดขึ้นมา
"เราเจอเพื่อนแล้วไม่ต้องเดินตามมาแล้ว" ฮยองซอบพูดขึ้นแล้วเดินมายืนข้างผม พอผมมองเลยไปด้านหลังก็พอจะเข้าใจ มีผู้ชายสองคนเดินตามฮยองซอบมา
"เพื่อนหรอ?" หนึ่งในผู้ชายที่เดินตามมาถามขึ้นเพราะไม่เชื่อ แหงล่ะ คนพวกนั้นน่ะอยู่โรงเรียนเดียวกับผมคงไม่คิดว่าผมจะมีเพื่อนแบบฮยองซอบ
"ชะ...ใช่ดิ นี่อูจินเพื่อนเราไง" คนตัวขาวพูดแล้วหันมายิ้มให้ผม
"จริงหรอครับ พี่อูจิน" คราวนี้สองคนนั้นเบนเป้าหมายมาที่ผมแทน คนพวกนี้ไม่มีอะไรทำหรือไง จะจีบเขาทำไมไม่ทำตัวดีๆวะ
หันไปเห็นว่าอีกคนส่งสายตามาบอกว่าอย่าบอกชื่อเขากับสองคนนั้น ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่ยุ่งแต่พอเห็นสายตาขอร้องนั่นแล้วอยู่เฉยๆก็คงจะดูใจร้ายไปหน่อย
ลุกขึ้นยืนแล้วกระตุกยิ้มให้สองคนนั้นเบาๆ ก่อนจะคว้าเอวอีกคนให้เข้ามาใกล้กว่าเดิม
"พี่ว่าเพื่อนพี่คงไม่อยากบอกชื่อพวกน้องเท่าไหร่นะครับ"
หลังจากวันนั้นเรื่องของผมกับฮยองซอบก็เป็นประเด็นในโรงเรียนผมอยู่สักพัก
'พัคอูจินมีแฟนแล้ว'
'แฟนพัคอูจินโคตรน่ารักเลย'
อะไรประมาณนี้
แต่ผมจะไม่แก้ข่าวหรอกนะ ก็อันฮยองซอบน่ะน่ารักจริงๆ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ครั้งนี้ผมเจอเขาเป็นครั้งที่สี่ เพิ่งรู้ว่าคนตัวขาวนี่อายุเท่าผมตอนที่พี่เขาจับคู่ให้น้องปีหนึ่ง ไม่รู้มาก่อนว่าอีกคนเรียนมหาวิทยาลัยนี้คณะนี้ จริงๆคิดว่าอีกคนเด็กกว่าด้วยซ้ำ
เรานั่งนิ่งๆไม่มีใครเริ่มต้นบทสนทนาจนพี่ปีสองต้องเดินเข้ามาบอกให้เราแนะนำตัวเอง
"เราชื่ออันฮยองซอบนะ" อีกคนพูดขึ้นมาเบาๆแล้วยื่นมือมาจะเช็กแฮนด์กับผม
"เจอกันตั้งสี่ครั้งแล้ว จำได้น่า" ตอบไปอย่างนั้นแต่ก็ยื่นมือไปจับมือคนตรงหน้า มือเล็กกว่าผมเยอะเลยแฮะ
"ก็เผื่ออูจินจะจำเราไม่ได้ไง แฮะๆ" ฮยองซอบตอบแล้วก็ยิ้มแหยๆออกมา ใครจะจำคนน่ารักแบบนี้ไม่ได้วะ
กิจกรรมรับน้องจะเรียกว่าผ่านไปได้ด้วยดีก็ไม่เชิง ผมไม่ได้มีปัญหากับอีกคนออกจะคุยกันถูกคอด้วยซ้ำ ที่ทำให้มันผ่านไปด้วยดีไม่ได้ก็คงจะเป็นเพราะกลุ่มผมแพ้เกมเนี่ยแหละ
"น้องๆกลุ่มไหนที่แพ้ก็เขียนหน้ากันไปเลยนะคะ" นั่นแหละ บทลงโทษคือโดนเขียนหน้า ผมนั่งมองหน้าอีกคนที่กำลังละเลงหน้าผมอยู่ จ้องไปสักพักก็คิดออกว่าจะวาดอะไรลงบนหน้าฮยองซอบดี
"อ่ะ เสร็จละ" อีกคนยื่นพู่กันมาให้ผม
"มียางรัดผมป่ะ" ผมหันไปสะกิดเพื่อนผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหลังผม เธอพยักหน้าเบาๆแล้วส่งยางมาให้ผม
"เห้ย ทำอะไร" ฮยองซอบยกมือขึ้นมาจะปัดมือผมแต่โดนผมจับมือไว้ก่อน รวบผมหน้าม้าของอีกคนขึ้นก่อนจะมัดจุกแอปเปิ้ลไว้ข้างบน
"จะเขียนหน้าเดี๋ยวผมเลอะหมด" พูดแค่นั้นแล้วอีกคนก็ยอมนั่งนิ่งๆ ผมวาดหนวดเล็กๆที่ข้างแก้มของอีกคนก่อนจะแต้มสีชมพูที่จมูกเล็กน้อย เสร็จแล้วก็วางพู่กันลงชื่นชมผลงานตัวเอง เอาจุกแอปเปิ้ลออกได้ป่ะวะ น่ารักเกินไปละ
"อูจินวาดอะไรอ่ะ แมวหรอ?"
"ไม่ใช่แมว กระต่าย"
"ฮื่อ ตลกอ่ะ " ฮยองซอบพูดขึ้นมาหลังจากที่หยิบโทรศัพท์มาเปิดกล้องเช็กหน้าตัวเอง "เธอ เราขอยางรัดผมอันนึงดิ" พูดจบคนตัวขาวก็หันไปขอยางรัดผมจากเพื่อนผู้หญิง
"เห้ย" ผมร้องออกมาเมื่ออยู่ๆอีกคนก็รวบหน้าม้าผมขึ้นไปมัดเป็นจุกแอปเปิ้ลเหมือนที่ผมทำให้เขา
"เราทำแล้วมันตลกอ่ะ อูจินก็ต้องทำด้วย ฮี่ๆ" ฮยองซอบตอบหลับมาพร้อมกับยิ้มจนตาหยี เห็นแบบนี้ผมจะไม่ขัดก็ได้
"นายทำไมมันไม่ตลกหรอก ฉันเนี่ยทำแล้วตลก"
"ไม่ตลกหรอ คึคึ"
"นายขำ"
"มันไม่ตลกจริงๆนะ"
"น้องจุกแอปเปิ้ลสองคนนั้นอ่ะ คุยอะไรกันคะ ออกมาบอกพี่สิ"
สุดท้ายก็โดนเรียกออกไปเต้นตามระเบียบ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี กิจกรรมรับน้องวันแรกจบลงแล้ว วันนี้ผมอารมณ์ดีมาทั้งวันจนตอนนี้เนี่ยแหละที่เริ่มจะอารมณ์ไม่ดี
"เราไปแล้วไม่สนุกหรอก อย่าเลย" คนตัวขาวพยายามปฏิเสธพวกเพื่อนๆที่พยายามมาชวนไปปาร์ตี้คืนนี้
"พรุ่งนี้เรามีเรียนเช้าอ่ะ เดี๋ยวตื่นไม่ไหววว" คนพวกนั้นยังเซ้าซี้ไม่เลิก ฮยองซอบหันมาส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ผม ให้ตายสิสายตานี้อีกแล้ว
"ฮยองซอบไม่ไปก็คือไม่ไป" ตีหน้านิ่งก่อนจะพูดออกไป
"อ่ะ ไม่ไปก็ไม่ไป" พวกนั้นมองหน้าผมแล้วยอมเลิกเซ้าซี้ก่อนจะเดินออกไป ผมน่ากลัวหรอวะ
"อ่า ขอบคุณนะอูจิน" ฮยองซอบตอบผมมาพร้อมกับรอยยิ้ม
"อืม"
"งั้น เรากลับบ้านก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้" ผมพยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบ คนตัวขาวโบกมือลาผมก่อนจะหันหลังเดินไปอีกทาง ผมเองก็หันหลังเตรียมจะเดินกลับหอแต่อะไรสักอย่างดลใจให้ผมตะโกนเรียกอีกคน
"ฮยองซอบ"
"หืม?" อีกคนหันมาตามเสียงเรียก
"ขอเบอร์หน่อยดิ"
"ห้ะ?"
"พรุ่งนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่หรอ เดี๋ยวโทรไปปลุก"
อ่า ผมคงจะตกหลุกรักอันฮยองซอบจริงๆแล้วแหละ
Talk;
ฮื่อ มันงงมั้ยคะเราแต่งตอนมึนๆงงๆ
เมื่อวานน้องซอบก็มาแล่นเรือให้เราอีกแล้วค่ะ
ก็ได้แต่หวังว่าคุณพัคอูจินเขาจะออกมาพูดอะไรบ้างนะคะ55555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น