คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 『CHANGE』- Chapter 5
Sex คือเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ เพียงแต่อย่าลุ่มหลงจนเกินคำว่าพอดี..
.....
..
.
“โหหหหหห แบคฮยอนโคตรสวยเลยว่ะ กูอิจฉามึงจริงเลยชานยอล”
หลังจากวันที่ไปถ่ายแบบเพียงอาทิตย์เดียว โฟโต้บุ๊คที่รวบรวมภาพถ่ายจากเกาะโบราโบร่าก็ถูกส่งมาให้ชานยอล และเห็นว่าจะออกวางจำหน่ายในอาทิตย์หน้า แต่ว่าเจ้าเพื่อนสนิทนี่ก็อ้อนวอนพร้อมกับขู่เข็ญให้ตนแบกโฟโตบุ๊คมาให้ดูก่อน.. ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘กูเพื่อนมึงนะชานยอล ขอดูก่อนไม่ได้ใช่มั๊ย’ ..
สุดท้ายชานยอลก็ต้องแบกหนังสือภาพเล่มหนามาให้เซฮุนจนได้ .. แบกมาในสภาพที่กระดาษพลาสติกที่หุ้มผลิตภัณฑ์ไว้ยังไม่ได้แกะออกเลยด้วยซ้ำ
.. ไม่ใช่ไม่มีเวลา แต่ชานยอลไม่สนใจที่จะแกะมันออกมาดูภาพข้างในต่างหาก ..
“โอ้วววววววววว แบคฮยอนสวยเวอร์ !!”
“ไอ่เซฮุน ! มึงนั่งดูเงียบๆไม่เป็นรึไงวะ ทำไมจะต้องใส่เสียงเอ็ฟเฟ็กมันทุกหน้าด้วย” ตั้งแต่หน้าแรกที่เปิดมาก็ชมว่าแบคฮยอนน่ารัก เปิดหน้าถัดไปก็บอกว่าแบคฮยอนสวย ถัดไปอีกหน้าก็บอกว่าน่ากอด ถัดไปก็บอกว่าแก้มสีชมพูนั่นน่าหอม พอเปิดไปอีกก็บอกว่าแบคฮยอนสวยเวอร์ ! จะชมทำไมนักหนา ?!!
“แล้วไม่ทราบว่าคุณมึงจะอารมณ์เสียทำไมล่ะครับ? ก็แบคฮยอนน่ารักจริงๆ ผมชมแล้วมันผิดตรงไหน ?”
“หมอนั่นน่ารักตรงไหน ??!! ใช้ข้อศอกดูรึไงถึงบอกว่ามันน่ารัก !”
“ชานยอล ! มึงใช้หัวเข่าดูหรอ ? ตรงไหนวะที่ไม่น่ารัก บอกกูทีดิ๊ !”
เซฮุนดันโฟโต้บุ๊คมาตรงหน้าของชานยอลพร้อมกับยัดเหยียดให้ตากลมโตของเพื่อนมองรูปภาพในกระดาษตรงหน้า.. ภาพของคนใบหน้าหวานที่กำลังวิ่งเล่นกลางทะเล ใบหน้ายิ้มแย้มที่สะท้อนแดดสีส้มยามใกล้พลบค่ำนั้นยิ่งส่งผลให้ภาพออกมาน่ามองยิ่งขึ้น
“หึ ! เห็นหน้าหวานๆสวยๆอย่างนี้มึงรู้มั๊ยว่าตัวจริงน่ะร่านขนานไหน”
“ไอ่ยอล ! มึงว่าแบคฮยอนเค้าแรงไปแล้วนะโว้ย”
“มีอะไรกับกูเสร็จ พอเย็นวันต่อมาก็ไปยืนจูบกับผู้ช่วยตากล้องอยู่ริมหาด แบบนี้หรอที่เรียกว่าไม่ร่านน่ะ !”
ชานยอลยังไม่รู้ตัวว่าได้เผลอหลุดปากพูดถึงความสัมพันธ์ของตัวเองกับแบคฮยอนออกไป คนฟังก็ได้แต่ทำตาโตเท่าไข่ห่าน อึ๊งด้วยความช๊อค และกว่าชานยอลจะนึกได้ว่าพูดอะไรออกไปก็แทบแก้ข่าวไม่ทันแล้ว
“เห้ยยย ! คือ....”
“จะเอาฉันไปโฆษณาให้คนเค้ารู้กันทั่วมหาลัยเลยมั๊ย ปาร์ค ชานยอล ..”
เสียงหวานดังแทรกขึ้นมาทำเอาทั้งสองคนรีบหันไปมองข้างหลังทันที เจ้าของร่างเล็กยืนกอดอกมองชานยอลอย่างขุ่นเคือง ใจหนึ่งชานยอลก็อยากจะเอ่ยขอโทษแต่ติดที่ว่าตัวอคติมันมีมากกว่า จากคำขอโทษจึงกลายเป็นว่าพูดดูถูกออกไปแทน
“หรือว่ามันไม่จริงล่ะ ไปยืนกอดยืนจูบกับผู้ช่วยตากล้องริมหาดทั้งที่ก่อนหน้านั้นเพิ่งจะมีอะไรกับฉัน”
“ก็นายไล่ให้ฉันไปร่านเองไม่ใช่หรอ ?? ฉันก็ร่านตามที่นายบอกยังจะมีหน้ามาว่าฉันอีกเน๊อะ”
“.........”
“อ๊ะๆ แต่นายน่าจะดีใจนะชานยอล ที่ได้ใช้บริการจากฉันเป็นคนแรกน่ะ หึ..”
“พยอน แบคฮยอน !!”
เจ้าของชื่อไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านกับเสียงตวาดตรงหน้านี่เลยแม้แต้น้อย กลับยิ้มระรื่นกวนประสาทกลับไปให้อีกคนโมโหหนักกว่าเดิมมากขึ้นอีก แต่แล้วอยู่ๆเสียงเรียกเข้าจากเครื่องมือสื่อสารของร่างเล็กก็ดังขึ้นขัดจังหวะของทั้งคู่ ชานยอลจับใจความได้แค่ว่า ‘อืมๆ อยู่แถวคณะนายแล้ว เดี๋ยวพี่จะรีบไปหา’
“ฉันไปก่อนนะชานยอล.. พอดีมีคนเรียกใช้บริการน่ะ”
จบประโยคร่างอรชรก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้อีกสองคนยืนนิ่งค้างอยู่กับที่ได้นานนับนาที
“มึงเห็นรึยังไอ่ฮุน เห็นรึยังว่าคนที่มึงปลื้มนักปลื้มหนามันเป็นยังไง ?!”
“เออ .. เห็นแล้ว แล้วทำไมมึงต้องทำท่าทางกระวนกระวายด้วยวะชานยอล? มึงกับเค้าไม่ได้เป็นอะไรกันนี่” เซฮุนมองท่าทีของเพื่อนที่ปั้นหน้าหงุดหงิดชะเง้อคอคอยมองตามหลับร่างเล็กไปจนลับตาแล้วก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ ปากก็ด่าก็ว่าเค้าซะเสียหาย แต่อาการที่แสดงออกมานี่หึงหวงชัดๆ
“ก็แค่ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนเหมือนคนก่อนๆนั่นแหล่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่านี้หรอก”
“แน่ใจหรอชานยอล.. กูว่ามึงสองคนมีอะไรมากกว่าคนที่เพิ่งรู้จักนะ”
“................”
“ชานยอล.. กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงกับแบคฮยอนมีปัญหาอะไรกันรึป่าว แต่เท่าที่กูอยู่ในสถาณการณ์ด้วยเมื่อกี๊กูมีความรู้สึกว่าแบคฮยอนเค้ากำลังประชดมึง ถ้าไม่อยากปล่อยให้แบคฮยอนเค้าต้องตกไปเป็นของคนอื่นอีก มึงก็ควรเลิกอคติกับเค้าได้แล้ว”
“มึงโกหกคนทั้งมหาลัยได้ว่าไม่ได้เป็นอะไรกับแบคฮยอน.. แต่มึงโกหกความรู้สึกของตัวเองไม่ได้หรอกนะ”
.
.
สองเท้ารีบวิ่งตรงไปยังห้องน้ำของคณะ ถ้าลางสังหรณ์ของเขาเดาถูก ร่างเล็กที่ตนกำลังตามหาจะต้องอยู่ที่นั่นและมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ.. พยอนแบคฮยอนกำลังเอียงคอให้ได้องศาเพื่อตอบรับรสจูบที่รุ่นน้องถ้าชานยอลเองจำไม่ผิดจะชื่อ ‘มยองซู’ เชยคางขึ้นและกำลังจะจูบลงที่ริมฝีปากบางสวยนั่น
ผลั่ก .. !
“อ่ะ !! มยองซู” เสียงหวานเอ่ยอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆคนที่กำลังมอบรสจูบหอมหวานให้กับตนลงไปนอนกองกับพื้น
“ต่อจากนี้ห้ามมายุ่งกับแบคฮยอนอีก .. เพราะคนคนนี้เป็นของกู !!”
.......
...
.
“ชานยอลปล่อย ! เป็นบ้าอะไรเนี่ย ?!!” ข้อมือเล็กหลุดจากพัธนาการของอีกฝ่ายทันทีที่ถูกลากมายังสวนหย่อมเล็กๆหลังมหาลัย แบคฮยอนยังงุนงงกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ไม่หาย อยู่ๆชานยอลก็เข้ามาต่อยรุ่นน้องคณะวิศวะแล้วก็ลากให้เขาเดินตามมาที่นี่โดยที่ไม่เอ่ยปากบอกอะไรสักคำ
“ไปจูบกับมันทำไม”
“ก็น้องเค้าอยากจูบ ฉันก็ให้จูบ”
“จะเก็บผู้ชายให้หมดมหาลัยเลยรึไง”
“เป็นความคิดที่ดีนะ”
“แบคฮยอน ! อย่ามากวนประสาทฉันได้มั๊ย ?!”
“ไม่ได้กวนประสาท ! ก็คิดจะทำจริงๆ อื้อออออ....”
ริมฝีปากหนาเข้าประกบริมฝีปากสีชมพูระเรื่อของอีกฝ่ายทันที จากจูบที่รุนแรงด้วยอารมณ์โมโหก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนไปเป็นเร้าร้อนและลึกซึ้ง
.
“ต่อจากนี้ร่านกับฉันแค่คนเดียวได้มั๊ย แบคฮยอน ”
“หึ.. อะไรที่ได้มาง่ายๆเดี๋ยวก็ทิ้งขว้างไปง่ายๆอีก .. ตามจีบฉันใหม่สิชานยอล”
xxxxxxxx
คุณเคยสับสนในเรื่องของความรักบ้างรึป่าวครับ ?
มันเป็นความรักจริงๆหรือแค่หลง หรือแค่ชอบ แค่ต้องการ แค่อยากครอบครองเป็นเจ้าของ ? อยากได้มาควงอวดคนอื่นว่าแฟนเราน่ารัก .. แน่นอนว่าเมื่อสองปีที่แล้วผมไม่เข้าในเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่หรอกครับ.. ความจริงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำ
ตอนสมัยผมเรียนอยู่ไฮสคูล โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนชายล้วนครับ.. แน่นอนว่าวันๆเจอแต่ผู้ชายจึงไม่แปลกถ้าผมจะมีแฟนเป็นเพศเดียวกัน พยอนแบคฮยอนไม่ใช่แฟนคนแรกของผมหรอกครับ แต่เค้าคือแฟนคนแรกที่เป็นผู้ชาย แบคฮยอนเป็นผู้ชายน่ารักครับ สดใสร่าเริง ใครได้อยู่ใกล้ๆก็มีความสุขเพราะรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเขา ผมกับเขาคบกันได้ประมาณหนึ่งปี และเมื่อตอนวันเกิดอายุครบ 18 ปี หลังจากที่ไปเดทกันตามประสาคนรักทั่วไปเสร็จผมก็ไปส่งเขาที่บ้านก่อนจะไปปาร์ตี้ต่อกับเพื่อนๆ.. คงสงสัยกันว่าทำไมผมไม่พาแบคฮยอนไปปาร์ตี้วันเกิดด้วย เพราะแบคฮยอนเป็นเด็กดีมากครับ ไม่เคยเที่ยวกลางคืน กลับบ้านก่อนสองทุ่มเสมอ แตกต่างจากผมที่พ่อแม่ทำงานอยู่ต่างประเทศ ไม่ค่อยสนใจความเป็นอยู่ของผมเท่าไหร่ จะไปไหนตอนกลางคืนก็เลยค่อนข้างสะดวก
และในคืนนั้นเพื่อนคนนึงถามขึ้นมาว่าผมกับแบคฮยอนเคยมีอะไรกันรึยัง ผมตอบพวกมันไปว่ามากสุดเราก็แค่จูบกันและก็กอด พวกมันหัวเราะเยอะผมใหญ่เลยครับ หาว่าผมไม่ทันโลกเอาซะเลย สมัยนี้ต่อให้รักมากแค่ไหนการหวงเนื้อหวงตัวรอจนกว่าจะถึงเวลาที่ควรมันไม่ใช่ปัจจัยในการพิสูจน์ความรักอีกแล้ว หวงเพราะยังไม่ถึงเวลาที่ควรให้หรือว่าไม่ได้รัก....
หลังจากที่คุยประเด็นนี้กัน ผมก็เลยหาจังหวะลองขอแบคฮยอนดู.. แน่นอนครับแฟนตัวเล็กของผมไม่ยอม แถมยังมาว่าว่าผมเข้าใจเรื่องความรักมาผิดๆแล้ว คนรักกันเรื่องอย่างนั้นไม่จำเป็นสักหน่อย ในที่สุดวันนั้นผมกับเขาเราก็ทะเลาะกันแรงที่สุดตั้งแต่ที่เคยคบกันมา ผมหนีไปหาแก๊งค์เพื่อนตัวดีและพวกมันก็ปลอบใจผมด้วยแอลกอฮอล์แทบทุกยี่ห้อแล้วยังแถมเด็กผู้หญิงจากที่ไหนไม่รู้มาให้อีกตั้งสองคน และคืนนั้นก็ถือว่าผมนอกใจแบคฮยอนโดนสมบูรณ์
ประสบการณ์เรื่องอย่างว่าครั้งแรกกับผู้หญิงถือว่าไม่เลวครับ.. ความจริงติดใจด้วยซ้ำ ขนาดกับคนที่ผมไม่ได้รัก ไม่ได้รู้จักกันสักนิดด้วยนะ แล้วถ้ากับแบคฮยอนคนที่ผม(คิดว่า)รักมาตลอดล่ะ ? มันจะมีความสุขมากขนาดไหน
ผมลองพูดกับแบคฮยอนเรื่องนี้อีกครั้ง แต่คำตอบก็เหมือนเดิมครับ ...
คนที่เคยลองอะไรบางอย่างมาแล้วครั้งนึง มันมักจะมีความอยากในครั้งต่อไปเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ.. ผมก็เป็นหนึ่งคนที่ตกอยู่ในวังวนคำว่า ‘อยาก’ ผมอยากได้ แต่เค้าไม่ให้ เราก็คงต้องทางใครทางมันครับ
ในเมื่อความหมายของคำว่ารักของเรานั้นมันแตกต่างกัน มันก็คงไม่สามรถยื้อให้เราคบกันต่อไปได้อีก..
ผมตัดสินใจบอกเลิกแบคฮยอน ผมใช้เหตุผลว่าคำว่าเบื่อ เข้ามาเป็นตัวแปรในครั้งนี้ คนน่ารักของผมร้องไห้น้ำตานองหน้าเลยครับ.. แต่ผมกลับไม่สงสารเขาเลยแม้แต่น้อย กลับรู้สึกรำคาญน้ำตาพวกนั้นด้วยซ้ำ ในตอนนั้นผมจึงได้แต่คิดว่า หรือที่ผ่านมาผมไม่ได้รักแบคฮยอน? อาจเป็นแค่ความหลง.. หลงไปได้สักพักเดี๋ยวมันก็จะเบื่อในสิ่งๆนั้นเอง คงจะใช่แหล่ะครับ เพราะผมไปนอนกับผู้หญิงที่ไม่รู้จักผมยังทำได้เลยแถมยังรู้สึกสนุกอีก
และนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตผมเลยก็ว่าได้... จากเด็กวัยรุ่นเที่ยวเล่นตามประสาเด็กไปวันๆ มีแฟนมีคนรักมีรักกุ๊กกิ๊กก็กลายเป็นเที่ยวควงคนนู้นคนนี้ไปทั่ว ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่คนที่นอนกับผมจะต้องปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างเคร่งครัดครับ ได้กันแล้วตื่นมาคือทางใครทางมัน ไม่มีใครเสียเปรียบเพราะต่างเต็มใจทั้งคู่ ห้ามผูกมัดซึ่งกันและกันถือซะว่าสนุกไปด้วยกันทั้งคู่
สองปีเต็มที่ผมทำตัวแบบนี้ ควงไม่ซ้ำหน้าจนได้ฉายาว่าเพลย์บอย ทำตัวสนุกสรรสรรค์เฮฮาไปวันๆ ยอมรับว่าลืมแบคฮยอนไปเลยครับ จนเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วที่โดนเจ้าเพื่อนตัวดีที่เพิ่งรู้จักกันตอนเข้ามหาลัยที่คอยลากผมให้เข้าที่เข้าทางกว่าเมื่อก่อนบังคับให้ลงสมัครประกวดดาวเดือนอะไรของมัน
และนั่นก็ทำให้ผมได้เจอกับพยอนแบคฮยอนอีกครั้ง แถมยังเอาคำว่าสับสนมาสาดใส่หน้าผมอีกรอบด้วย ...
ในตอนนี้ผมพูดได้เลยว่าผมยังไม่ได้รักแบคฮยอน แต่ผมอยากได้ตัวเขา ต้องการที่จะครอบครองเรือนร่างนั้นให้เป็นของผมเพียงคนเดียว...
ใช่.. ผมเห็นแก่ตัว แต่ความอยากได้มันก็เป็นกิเลสตัวสำคัญของมนุษย์ด้วยกันทั้งนั้น ตอนนี้ผมแค่อยากได้เขาให้มาเป็นของผม เรื่องรักไม่รักมันเป็นเรื่องอนาคต ผมเองก็บอกไม่ได้ว่าเมื่อได้ตัวเขามาแล้วผมจะรักเขาได้จริงๆด้วยรึป่าว
ต่อไปนี้ก็คือเกมส์ระหว่างปาร์คชานยอลและพยอนแบคฮยอนที่มีเรื่องของความรักเป็นเดิมพัน
.
.
แต่บางที.. ชานยอลก็เป็นเพียงคนเห็นแก่ตัวคนหนึ่งที่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องความสูญเสียในชีวิตของมนุษย์
.
TBC…
#changeCB
พี่ชานแค่สับสน พี่ชานไม่ผิดนะ #แต่เชิญด่าให้เต็มที่ค่ะ 5555
รักมากนะชานยอล ♥
ความคิดเห็น