ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] -『CHANGE』- { ChanBaek }

    ลำดับตอนที่ #11 : 『CHANGE』- Chapter 10 ~ ♡ ~

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 57




     

     

     

     

     

     


     

     

    “ปาร์คชานยอล! หยุดลากฉันเดี๋ยวนี้นะ”

     

     

                    “อีกสองนาทีเดี๋ยวฉันก็หยุดลากนายเองแหล่ะ”

     

     

                    “มันก็ถึงหน้าห้องฉันแล้วแหล่ะ !

     

     

     

                    เมื่อครบสองนาทีชานยอลก็หยุดลากแบคฮยอนตามที่พูดจริงๆ ทั้งคู่ต่างหยุดยืนอยู่หน้าห้องห้องหนึ่ง ไร้ซึ่งคำพูด มีเพียงสองสายตาที่จ้องมองฟาดฟันกันอย่างไม่ลดละ

     

     

     

                    “รีบๆเอาคีย์การ์ดมาแตะแล้วเข้าไปในห้องเร็วๆเข้า”

     

     

                    “นี่ห้องฉัน ฉันจะเข้าไปคนเดียว วันนี้ฉันไม่ต้อนรับนาย!

     

     

     

                    “พยอนแบคฮยอน อย่าทำให้ฉันต้องขโมยคีย์การ์ดนายมาถอดรหัสผ่านนะ รู้ไว้ซะด้วยไอ่เครื่องแตะติ๊ดๆเข้าห้องนี่มันคือเทคโนโลยี RFID ฉันขโมยคีย์การ์ดนายมาได้ รู้ว่าใช้คลื่นความถี่ที่เท่าไหร่ หาเครื่องอ่านคีย์การ์ดนายมาถอดรหัสแล้วก๊อปรหัสนั้นมาใส่คีย์การ์ดที่ฉันทำขึ้นมาใหม่ แค่นี้ฉันก็ได้คีย์การ์ดเข้าห้องนายอีกใบแล้ว ฉันเรียนวิศวะอย่าให้เอาความรู้ที่ได้เรียนมาพลิกใช้ให้มันเป็นสายมืดขึ้นมานะ”

     

     

     

                    คิดว่าเรื่องที่ชานยอลพูดซะยืดยาวนี่แบคฮยอนเข้าใจมั๊ย ?

     

     

     

                    บอกเลยว่าไม่สักนิด  แต่เท่าที่ฟังแล้วแปลออกมาเป็นภาษามนุษย์ให้เข้าใจกันได้ก็คือชานยอลสามารถทำคีย์การ์ดเข้าห้องเขาขึ้นมาได้อีกอัน จะเปรียบเทียบก็คงเหมือนเอากุญแจไปปั๊มนั่นแหล่ะ - -

     

     

     

                    “ถ้ายังยืนจ้องหน้าฉันอยู่อย่างนี้ อีกสามวิฉันปล้ำนายอยู่หน้าห้องนี้แน่”  คนตัวเล็กทำท่าฟึดฟัดเล็กน้อยก่อนจะรีบควานหาคีย์การ์ดเข้าห้องในกระเป๋าแล้วรีบพาคนอารมณ์ร้อนเข้ามาทะเลาะกันต่อในห้องทันที

     

     

     

                    “นายเป็นบ้าอะไรอีกชานยอล อยู่ๆมาอารมณ์เสียใส่แล้วลากฉันกลับห้องทำไม ฉันยังคุยธุระไม่เสร็จเลยนะ”

     

     

     

                    “คุยธุระ ??? ได้ข่าวว่าคุยกันตั้งแต่เช้ากลางวันเย็นยันมืดค่ำนี่ยังคุยกันไม่เสร็จอีกหรอครับคุณแฟน”

     

     

                    “มันเป็นงานนะชานยอล งานของมหาลัยเลยนะไม่ใช่งานเล็กๆของคณะ จะให้คุยกันสองคำแล้วเสร็จหรอ”

     

     

                    “แล้วทำไมต้องเป็นไอ่รุ่นน้องหน้าหล่อน้อยกว่าฉันคนนั้นด้วย”

     

     

                    “น้องแอลเป็นฝ่ายประสานงานระหว่างคณะวิศวะกับคณะนิเทศ”

     

     

                    “น้องแอล~ หึ! เป็นแค่ข้ออ้างของคนที่กำลังนอกใจ”

     

     

                    “ปาร์ค ชาน ยอล !!!”  แบคฮยอนอยากจะทึ้งหัวตัวเองให้เป็นคนบ้ามันกับความงี่เง่าของแฟนตัวเอง ให้ตายเถอะ ทีตัวเองไปคุยกับสาวๆรุ่นน้องหรือโปรยยิ้มหว่านเสน่ห์ผู้ชายหน้าตาน่ารัก เขายังไม่หยิบยกมันขึ้นให้มาเป็นเรื่องทะเลาะกันเลย เพราะชานยอลเป็นคนเจ้าชู้แถมยังมีแรงดึงดูดให้เพศตรงข้ามและเพศเดียวกันได้หลงใหล อยู่ๆจะให้เลิกนิสัยแบบนี้ไปเลยก็จะใจร้ายเกินไป ต้องเข้าใจในจุดนี้แล้วค่อยๆให้คนเจ้าชู้ปรับตัวช้าๆ .. แต่แบคฮยอนคิดว่าวิธีค่อยเป็นค่อยไปสำหรับปาร์คชานยอลมันคงไม่เวิร์คซะแล้วล่ะ

     

     

     

                    “แล้วทีนายล่ะ ดีแค่สามวันแรกที่คบกันแล้วก็กลับไปทำตัวเหมือนเดิม ปล่อยให้ฉันโดนเอาไปเม้าทั่วมหาลัยว่าโดนหลอกฟันแล้วทิ้ง.... มันก็ไม่ผิดถ้าฉันจะมองใครสักคนเผื่อไว้หากอนาคตอันใกล้นี้จะได้สละโสดอีกครั้ง”

     

     

                    “พยอนแบคฮยอน !! คิดว่าฉันจะยอมให้คนอื่นได้ตัวนายไปง่ายๆงั้นหรอ”

     

     

                    “ก็หยุดงี่เง่าเรื่องบ้าๆนี่สักที  แล้วก็ฟังที่ฉันพูดบ้าง !   ร่างสูงยอมสงบลงเมื่อเห็นน้ำตาที่คลอปริ่มอยู่รอบนัยย์ตาคู่สวยนั่น ปาร์คชานยอลกำลังปรับปรุงตัวเป็นคนดี ไม่อยากให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของตัวเองต้องเสียน้ำตาเพราะต้นเหตุคือเขาอีก

     

     

     

                    มือใหญ่คว้าร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมกอดพร้อมกับยกมือลูบเรือนผมนุ่มเพื่อปลอบให้คนที่กำลังจะปล่อยน้ำสีขาวใสให้ทะลักออกจากดวงตาให้ใจเย็นๆลง ช้อนร่างเล็กที่กำลังสั่นสะท้านอยู่กับอกของตนขึ้นมาและพาไปวางไว้บนโซฟาตัวใหญ่กลางห้องอย่างนุ่มนวล ก้มกระซิบข้างหูเบาๆว่า ขอโทษ.. ชานยอลขอโทษที่ทำตัวงี่เง่าให้แบคฮยอนเหนื่อยใจแล้วเสียน้ำตานะ

     

     

     

                    “พร้อมจะฟังที่ฉันจะพูดบ้างรึยัง”  เมื่อเห็นคนงี่เง่าพยักหน้าพร้อมที่จะให้ตนได้อธิบายเรื่องที่ทำให้ทะเลาะกันแล้ว เสียงหวานจึงพูดต่อทันที

     

     

     

                    “อีกสองเดือนจะถึงงานประจำปีของมหาลัยเรา แล้วทางคณะอาจารย์ก็เสนอมาว่าปีนี้ละครเวทีที่จะแสดงถ้าหากคณะนิเทศไปขอร้องให้คณะวิศวะมาร่วมแสดงด้วยก็คงจะดีนะ พี่ลู่หานรับหน้าที่เป็นเฮดของงานกำลังวางแผนจัดการเรื่องแบ่งงานให้แต่ละฝ่ายอยู่ เห็นพี่เค้ายุ่งๆฉันก็เลยเป็นตัวแทนไปคุยกับทางคณะวิศวะแทน ...” 

     

     

                    “ฉันก็อยู่คณะวิศวะ แล้วทำไมไม่มาคุยกับฉัน”

     

     

    “อยู่ให้คุยมั๊ยล่ะ หายหัวไปเลย..  อีกอย่างเรื่องกิจกรรมต้องติดต่อฝ่ายประธานคณะ น้องแอลเป็นรองประธานคณะนายนะ”

     

     

    “อ้าว งั้นไม่ไปคุยกับพี่คริสล่ะ นั่นประธานวิศวะนะ จะคุยกับรองประธานทำไม”

     

     

    “ฉัน.. ไม่กล้าเข้าไปคุยกับพี่คริส พี่เค้าดูน่ากลัวอ่ะ เลยฝากงานผ่านน้องเค้าแทน ก็เลยกลายเป็นว่าน้องต้องวิ่งวุ่นคอยส่งเอกสารไปมาระหว่างคณะนายกับคณะฉัน”

     

     

                    “ห้ามพัฒนาความสนิทกับไอ่รุ่นน้องคนนั้นไปมากกว่านี้เด็ดขาดเลยนะ”

     

     

                    “โธ่ ทีงี้ทำมาเป็นหึง ดีไม่ปล่อยให้ฉันท้องแล้วมีลูกกับน้องเค้าไปก่อนค่อยมานึกหึงได้”

     

     

                    “ขี้ประชดจริงๆเลย”  ชานยอลดึงตัวอีกคนให้มานั่งตักแล้วจับให้หันหน้าเข้าหาตนเอง มือใหญ่ยกขึ้นลูบแก้มคนที่ทำหน้างอเบาๆ

     

     

                    “ฉันหึงยังดีกว่าไม่หึงเลยนะ”

     

     

    “มีความสุขแค่สามวันแรกที่คบกัน หลังจากนั้นนายก็ไม่สนใจเลย.. ฉันก็น้อยใจเป็นนะ”

     

     

    “ขอโทษ.. ให้โอกาสฉันอีกครั้งนะ แล้วสัญญาว่าจะไม่ทำให้แบคฮยอนเสียใจอีก”  พูดจบก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยเอาจมูกตัวเองถูกับปลายจมูกอีกคนไปมาเบาๆ

     

     

     

    ปาร์คชานยอล ง้อวิธีนี้คิดว่าจะหายหรอ ?!

     

     

     

                    “ถ้ายังไม่หายงอนจะง้อแบบฟูลเวอร์ชั่นแล้วนะ”  เสียงทุ้มกระซิบเข้าไปข้างหูเบาๆก่อนจะผลักให้อีกคนนอนราบไปกับโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง รอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากนั่นทำเอาแบคฮยอนถึงกับขนลุกซู่

     

     

     

                    ฟูลเวอร์ชั่นของชานยอลก็ไม่ต่างอะไรกับปีศาจแสนเจ้าเล่ห์นักหรอก !

     

     


     

                   

    (ของแถมที่หายไปนานค่ะ แหะๆ ใครอยากอ่านแปะเมล์ไว้เหมือนเดิมเลยนะ)

     

     



     

    ......

    ..

    .

     

     


     

    “อยากทำตัวน่ารักเองช่วยไม่ได้... ยังไม่เช้าฉันไม่หยุดหรอกนะ”

     

     

     

    เมื่อได้สัมผัสร่างกายนุ่มนิ่มของคนคนนี้ ชานยอลบอกได้เลยว่าการบังคับให้ตัวเองนั้นหยุดมันช่างเป็นเรื่องยากพอๆกับสอบไฟนอลเลย

     

     

     



     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

     

     


     

     

     

    “ภาคต่อของ Frozen ??

     

     

    “อาห๊ะ ตกลงนายจะเล่นรึป่าวล่ะ ถ้านายไม่เล่นบทเจ้าชายลำดับที่ 10  พี่ลู่หานจะให้น้องแอลมาเล่นแทนนะ” 

     

     

     

    แบคฮยอนตอบก่อนจะเดินไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องเอกสารอะไรสักอย่างต่อ ปล่อยให้ชานยอลยืนอ่านบทคร่าวๆที่แฟนตัวเล็กของตนเองเอามาให้อ่านดูก่อน ดวงตากลมโตแต่ดุดันไล่กวาดดูชื่อตัวละครและนักแสดงที่ถูกทาบทามไว้ไปเรื่อยๆ จะว่าไปบทของเขาก็โอเคนะ แต่ที่มันไม่โอเคเพราะตัวละครที่โผล่มาอีกตัวแล้วต้องเล่นประกบคู่กับแบคฮยอนของเขานี่แหล่ะ

     

     

     

    อันนา ลู่หาน

    คริสตอฟฟ์ เซฮุน

    เอลซ่าแบคฮยอน

    เจ้าชายชาร์ล ณ เกาะทะเลใต้  - ชานยอล

    แจ็คฟรอสต์  -  คริส

     

     

     

    คือจะเอาแจ็คฟรอสต์มาคู่กับเอลซ่าให้ได้เลยใช่มั๊ย แล้วคิดว่าบทเจ้าชายของเขาคือยังไง? ตัวประกอบหรือตัวร้ายที่ต้องต่อยกับแจ็คฟรอสต์เพื่อแย่งเอลซ่าล่ะ  แล้วพี่คริสอย่างหล่อให้มาเล่นคู่กับแบคฮยอนถ้ารายนั้นเผลอใจไปกับความหล่อของรุ่นพี่คนนี้เข้าล่ะ ไม่ยอมหรอกนะ

     

     
     

     

    ถ้าบทไม่เด่น ปาร์คชานยอลคนนี้จะทำให้บทตัวเองเด่นขึ้นมาเอง  !

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

    TBC

    #changeCB

     
     

    เรื่อง RFID อย่าไปสนใจมันมากค่ะ แต่ถ้าจะทำมันก็ทำได้จริงๆนะแต่ไม่ง่ายเหมือนที่ชานยอลพูดหรอก ฮ่าๆ

    ละครเวทีหลุดโลกมาก อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ มันจะเป็นเรื่องที่ปูไปสู่ตัวละครสำคัญที่ได้คิวแสดงแล้ว อิอิ

    ขอบคุณทุกๆคอมเม้นเลยนะคะ  ^^



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×