คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 『CHANGE』- Chapter 9
.
.
“แบควันนี้เรามีแข่งบาสตอนห้าโมงเย็น อย่าลืมไปดูเรานะ”
“ชานยอลคือเรา..”
“นะแบค.. เราอยากให้แบคไปดู แบคเป็นกำลังใจสำหรับเรานะ”
“อืม งั้นยอลไปเตรียมตัวแข่งก่อนเลย เดี๋ยวเราตามไปที่สนาม”
“รักแบคที่สุดเลย”
ชานยอลดึงคนรักเข้ามากอดก่อนจะรีบผละตัวออกแล้ววิ่งไปสนามแข่งเพื่อไปเตรียมตัว แบคฮยอนยืนมองหลังคนรักที่กำลังวิ่งไปอย่างรีบร้อนก่อนจะถอนหายใจออกมา เขารู้สึกปวดหัวตั้งแต่เช้าแต่ก็ไม่อยากขาดเรียนจึงต้องยอมทนไป เรียนเสร็จกะว่าจะรีบกลับห้องไปกินยานอนแต่ดันลืมซะได้ว่าเย็นนี้ชานยอลมีแข่งบาส ถ้าไม่ไปดูก็กลัวจะทะเลาะกัน แบคฮยอนน่ะเรื่องไหนที่ยอมชานยอลได้ก็ยอมตลอดไม่กล้าขัดใจคนที่ตัวเองรักหรอก
นานนับชั่วโมงกว่าการแข่งขันจะสิ้นสุดลงในที่สุดเสียงเฮลั่นสนามก็ดังขึ้นเมื่อทีมตัวเต็งชนะตามที่คาดหวังกันไว้ หลังจากกระโดดกอดเพื่อนในทีมเสร็จปาร์คชานยอลก็รีบวิ่งมาข้างสนามเพื่อมาหาแฟนตัวเล็กของตนทันที โดยที่ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของคนตัวเล็กเลยสักนิด
“ตัวเล็ก! ตอนเราแข่งสุดยอดเลยใช่ม๊า! ”
“ชนะแล้ว.. ดีใจด้วยนะชานยอล”
ส่งรอยยิ้มและคำพูดสุดท้ายไปให้แฟนของตัวเองก่อนที่สติทั้งหมดจะดับวูบลงและนั่นก็ทำให้ปาร์คชานยอลแทบสิ้นสติตาม นี่เป็นครั้งแรกที่อยู่ๆก็เห็นแบคฮยอนหมดสติไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้ ชายหนุ่มร่างสูงลนลานทำอะไรแทบไม่ถูก ได้แต่กอดร่างที่หมดสติไว้พร้อมกับส่งเสียงเรียกชื่อไม่หยุด
“แบคฮยอน! แบคฮยอนเป็นอะไร ตอบฉันสิ! แบคฮยอน!!”
“มีสติหน่อยสิวะไอ่ชานยอล มึงรีบพาแบคฮยอนไปห้องพยาบาลสิ!”
ได้ยินเสียงเพื่อนสักคนในทีมพูดขึ้นมา ร่างสูงจึงรีบอุ้มคนหมดสติขึ้นมาแนบอกพร้อมกับวออกแรงวิ่งไปยังห้องพยาบาลทันที ถ้าเป็นวันปกติห้องพยาบาลคงปิดไปแล้วแต่เพราะวันนี้มีการแข่งบาสของทางโรงเรียนจึงทำให้ห้องพยาบาลยังเปิดใช้บริการอยู่เนื่องด้วยอาจมีเหตุกระทบกระทั่งกันตอนแข่งขันได้
“คุณครูครับช่วยด้วย! เพื่อนผมอยู่ๆก็หมดสติไปเลยครับ”
“ไข้ขึ้นสูงมากเลย ครูว่าพาส่งโรงพยาบาลดีกว่า เดี๋ยวครูโทรเรียกรถพยาบาลให้นะ”
สิ้นเสียงคุณครูประจำห้องพยาบาลชานยอลก็แทบสติแตกยิ่งกว่าเดิม เสียงของคนเป็นครูพูดอะไรกับปลายสายบ้างเจ้าตัวก็ไม่รู้แล้ว ตอนนี้ได้แต่นั่งกุมมืออันร้อนระอุของคนตัวเล็กพร้อมกับบีบนวดฝ่ามือเล็กโดยหวังว่านวดมือแบบนี้อาจจะส่งผ่านความรู้สึกไปให้คนที่สลบอยู่รับรู้ได้ว่ายังมีคนอยู่เคียงข้างไม่ได้หนีหายไปไหน
.
.
หลังจากเหตุการณ์ที่แบคฮยอนเป็นไข้แล้วไม่ยอมบอกผมในคราวนั้น ผมจึงสั่งแบคฮยอนเด็ดขาดในเรื่องนี้ว่าถ้าเป็นอะไรให้รีบบอกไม่ใช่ปล่อยให้อาการมันหนักแบบนี้ ผมเองก็เริ่มใส่ใจและสังเกตเขามากขึ้นกว่าก่อน เห็นเขาแปลกๆไปก็ต้องรีบถามว่ารู้สึกไม่สบายหรือเป็นอะไรรึป่าว
ครั้งหนึ่งในชีวิตผมเคยเป็นห่วงเขามากขนาดที่ว่าเป็นอะไรไปผมแทบจะบ้าตายได้เลย ผมลืมความรู้สึกแบบนั้นไปได้ยังไงกันนะ
ผมเลิกนั่งคิดถึงอดีตแล้วรีบลุกไปหายาลดไข้มาให้คนป่วยกิน แต่ผมเรียกเท่าไหร่คนป่วยก็ไม่ยอมลืมตามีแต่เสียงครางในลำคอเบาๆตอบผมกลับมาเท่านั้น ในเมื่อคนป่วยไม่สามารถลุกขึ้นมากินยาด้วยตนเองได้ผมก็ต้องทำเหมือนพระเอกละครทั่วๆไปที่ต้องเป็นคนอมยาไว้แล้วป้อนให้กับที่ไม่ได้สติแทน
“อือออ” เสียงเล็กครางออกมาหลังจากที่กลืนยาลงคอไปแล้วแต่ผมยังไม่ถอนริมฝีปากออกมา
ร่างกายแบคฮยอนไม่ว่าจะส่วนไหนผมบอกได้เลยว่าถ้าได้มีโอกาสสัมผัสแล้วมันไม่ง่ายเลยที่จะหยุดการกระทำเหล่านั้น ผมจึงขอเก็บเกี่ยวรสชาติหอมหวานจากตัวเขาอีกนิดจนเมื่อพอใจแล้วจึงละออกจากริมฝีปากบางสวยนั่นก่อนจะลุกไปหาภาชนะบรรจุน้ำเล็กๆแล้วนำผ้าขนหนูมาชุบน้ำและไล่เช็ดตามตัวของเขาเพื่อให้อุณหภูมิในร่างกายที่สูงกว่าปกตินั้นลดลง
“นายนี่นอกจากจะไม่สูงขึ้นแล้วยังผอมเหมือนเดิมอีก”
ผมพูดเหน็บแนมขึ้นเมื่อไล่เช็ดแขนเล็กๆนี่เสร็จเป็นอย่างสุดท้าย ยกน้ำไปเททิ้งก่อนจะกลับมายังที่นอนของตนเอง ผมจับมือเล็กขึ้นมากอบกุมไว้พร้อมกับไล่จูบนิ้วเรียวสวยทีละนิ้วและสอดนิ้วตัวเองเข้าไปภายในช่องว่างระหว่างนิ้วของเขา
“ความรักมันคืออะไรกันแน่นะแบคฮยอน ยังไงฉันก็ไม่เห็นจะเข้าใจมันสักนิดเลย”
ผมเห็นใบหน้าของแบคฮยอนเป็นคนสุดท้ายก่อนที่จะหายเข้าไปสู่ห้วงนิทราโดยที่มือของผมก็ยังคงสอดประสานอยู่กับมือของเขา.. ก็แค่กลัวว่าเขาอาจไข้ขึ้นอีกเลยต้องจับมือวัดอุณหภูมิไว้ตลอดเวลาเท่านั้นเองครับ
.
.
ผมรู้สึกคอแห้งมากจึงต้องฝืนเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นออก ภาพแรกที่ปรากฏอยู่ภายในนัยน์ตาของผมไม่ใช่เพดานห้องสีขาวหรือหน้าต่างที่ถูกแสงแดดกระทบยามเช้าแต่เป็นใบหน้าหล่อของปาร์คชานยอลที่นอนลืมตาจ้องมองมายังใบหน้าของผม
!!
“เป็นไงบ้าง ปวดหัวปวดตัวอะไรตรงไหนบ้างมั๊ย”
“หิวน้ำ” ผมพยายามกลั่นเสียงตัวเองออกมาจากลำคอที่แห้งผาก ชานยอลได้ยินดังนั้นจึงปล่อยมือออกจากมือผมก่อนจะลุกขึ้นรินน้ำที่วางไว้บนโต๊ะตัวเล็กข้างเตียงนอนฝั่งเขาใส่แก้วมาให้ผมกิน
“มานอนจ้องหน้าทำไม” หลังจากที่ผมรับน้ำเปล่าที่เขายื่นมาให้และดื่มมันจนหมดแก้วแล้วก็เริ่มถามข้อสงสัยที่อยากรู้ทันที
“ก็อยากมองหน้าคนที่กำลังตามจีบอยู่ตอนหลับ”
“แล้วทำไมต้องจับมือ”
“ก็อยากจับไว้ให้รู้ว่าจะไม่ปล่อยให้ไปไหนอีกแล้ว”
“.........”
“ฉันจีบนายติดรึยังแบคฮยอน รีบๆมาเป็นแฟนกันสักทีเถอะ”
จบประโยคนั่นผมได้แต่นั่งพิงหัวเตียงหลบสายตาคนที่จ้องมาที่ผมเหมือนกดดันให้ผมรีบตอบคำถาม จ้องมองมือของตัวเองตรงหน้าตักที่กำลังบีบเข้าหากันแน่น ริมฝีปากที่ผมเผลอเม้มเข้าหากันอ้าออกพร้อมกับเอ่ยถามคำถามเขากลับเพื่อ
“เชื่อใจได้ใช่มั๊ย”
“ก็ลองมาคบกันสิ”
.
.
“สาบานว่ามึงสองคนคบกันแล้วจริงๆ”
“โถ่มึง ให้เวลากูปรับตัวหน่อยดิ อยู่ดีๆจะให้กูเลิกเจ้าชู้ไปเลยเหมือนกูโดนหักดิบอ่ะ”
“เออดีจริง เลิกเรียนก็มานั่งเฝ้าผับจ้องหาเหยี่อเหมือนเดิม ปล่อยให้รุ่นน้องหน้าตาดีเดินเข้าเดินออกคณะนิเทศไปเต๊อะแฟนตัวเองได้ทั้งวัน”
“หืม? มึงหมายความว่าไงวะไอ่จงอิน”
“วันนี้กูไปอยู่เป็นเพื่อนคยองซูเพราะเห็นว่าเพิ่งจะย้ายมาใหม่กลัวยังไม่มีเพื่อน ก็เลยเห็นรุ่นน้องที่ชื่อมยองซูหรือแอลอะไรนั่นเดินวุ่ยวายกับแฟนมึงตั้งแต่เช้ากลางวันเย็น”
“มันยังกล้ามายุ่งกับแบคฮยอนอีกหรอวะ ?!”
“แฟนมึงเป็นควีนของมหาลัยเลยนะเว้ย ใครๆก็จ้องจะจับป่าววะ มึงแหล่ะคว้าเค้ามาได้แต่ไม่รู้จักรักษาเค้าให้ดีๆ หลุดมือไปกูจะสมน้ำหน้าแถมกระทืบซ้ำให้”
หลังจากวันนั้นที่แบคฮยอนยอมตกลงคบกับตนก็ผ่านมาได้ราวๆสองอาทิตย์แล้ว แน่นอนว่าสามวันแรกชานยอลเรียกได้ว่าตัวติดกับร่างเล็กแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมง ไปรับที่คอนโดเดินไปส่งที่คณะทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเพื่อประกาศว่าตอนนี้ควีนคนสวยมีเจ้าของแล้ว
แทบจะเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์อินยูนิเวอร์ซิตี้ จะไม่ให้เป็นประเด็นร้อนได้ไงล่ะ คิงสุดหล่อกับควีนคนสวยใครๆก็หมายปองทั้งนั้น ยิ่งโฟโต้บุ๊คที่ไปถ่ายด้วยกันวางแผงออกสู่สายตาให้ประชาชนชาวคยองฮีได้เชยชม ยิ่งทำให้ประเด็นฮอตขึ้นไปอีก แถมได้ประเด็นเม้ากันให้แซ่ดว่าได้กันแล้วชัวร์ เพราะดูจากแต่ละรูปชายเทียมหญิงแท้น้ำตาไหลกันเป็นสาย รูปจูบจริงไม่ใช้สแตนอินกลางน้ำทะเลสีฟ้าสวย รูปสายตาที่คิงมองไปยังควีนที่หลับตาพริ้มซบไหล่ของตนอยู่ ถัดไปอีกหน้าก็เป็นรูปคิงแอบหอมแก้มขาวอมชมพูยามเจ้าตัวหลับอยู่นั่นอีก ไหนจะรูปที่มือใหญ่กุมมือเล็กนั่นไว้แล้วเดินไปตามชายหาดยามโพล้เพล้ แสงอาทิตย์ยามเย็นที่สะท้อนเข้ากับสายน้ำที่ทั้งคู่สาดใส่กัน ใบหน้าที่ต่างคนต่างยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างไม่รู้ตัว ถือว่าเป็นรูปที่ธรรมชาติไร้การเฟคใดๆทั้งสิ้น จนคนที่ได้ดูรูปภายในโฟโต้บุ๊คเล่มนี้นึกว่ากำลังดูหนังสือรวมรูปแอบถ่ายคิงกับควีนที่หนีไปฮันนีมูนยังเกาะโบราโบร่าสองต่อสองเสียอีก
แล้วจะไม่ให้คิดว่าได้เสียกันแล้วได้ไงล่ะ สวีทหวานกันขนาดนี้ แล้วยิ่งคิงคนหล่อทำตัวติดกับควีนคนสวยแทบจะทุกฝีก้าวราวกับต้องการให้คนทั้งมหาลัยรู้ว่ากำลังคบกันอยู่ขนาดนี้จะไม่ให้เป็นที่สนใจได้ยังไง แต่ก็นะ ปาร์คชานยอลถึงจะได้ตำแหน่งคิงมาอยู่ในมือแต่ยังไงก็ยังเป็นปาร์คชานยอลวันยังค่ำ ทำดีได้สามวันก็เริ่มดีแตกกลับไปทำตัวแบบเดิมๆ จนขาเม้าทั้งหลายถึงกับต้องพนันกันว่าคบกันได้อีกไม่เกินสองอาทิตย์เลิกกันแน่นอน
“ทำมาเป็นนั่งหน้าบูดอารมณ์เสีย ไม่อยู่เฝ้าเค้าเองนี่หว่า โดนคาบไปกินกูจะร่วมสมน้ำหน้ากับไอ่จงอินพร้อมรุมกระทืบมึงเพื่อความหมั่นไส้ส่วนตัวของกูด้วย”
“แล้วมึงไม่ไปนั่งเฝ้าพี่ลู่หานคนสวยของมึงล่ะครับ เสนอหน้ามานั่งเฝ้าผับกับกูทำไม จะช่วยไอ่จงอินเก็บเก้าอี้หลังร้านปิดหรอครับ”
“ไอ่ห่า มึงไม่รู้เรื่องก็อย่ามาทำเป็นพูด พี่ลู่หานยุ่งๆกับเรื่องละครเวทีงานประจำปีของมหาลัยอยู่เว้ย เห็นว่าได้เป็นเฮดงานเลยต้องวิ่งติดต่อเตรียมเรื่องนู้นนี่ กูก็ไม่รู้จะช่วยอะไรเค้าเลยขอตัวมาอยู่ห่างๆไม่อยากอยู่ให้เกะกะ”
“โอเซฮุน โคตรคนดีของสังคม”
“ใครจะไปเลวเหมือนมึงวะไอ่ยอล”
“มึงอีกคนไอ่จงอิน ไหนบอกรักคยองซูมากแล้วทำไมไม่ไปนอนเฝ้าที่บ้านเค้าเลยล่ะ”
“รักกันแต่ก็ต้องมีช่องว่างให้เค้ามีเวลาส่วนตัวด้วยสิวะ ไม่ใช่เค้าไปแทรกในชีวิตเค้าตลอดเวลา เค้ารำคาญตาย”
เมื่อปาร์คชานยอลหมดเรื่องที่จะหามาเถียงถับถมเพื่อนทั้งสองของตนได้จึงต้องนั่งสงบปากสงบคำคว้าน้ำเมาขึ้นมากระดกให้หายอารมณ์เสีย.. อารมณ์เสียที่เถียงความดีของเซฮุนกับจงอินไม่ได้ แถมยังอารมณ์เสียเรื่องมีคนมาจีบแบคฮยอนด้วย
แต่จะว่าไปมาหาว่าเขาเลวคนเดียวก็ไม่ถูกนะ แบคฮยอนเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองไม่โสดแล้ว แต่ก็ยังปล่อยให้รุ่นน้องหน้าหล่อนั่นมายุ่งวุ่นวายอีก... สรุปก็พอกันทั้งคู่แหล่ะ !!
สงสัยคืนนี้ต้องมีเรื่องให้เคลียร์กันสักหน่อยแล้ว พยอนแบคฮยอน..
.
.
TBC
#changeCB
ขอยกไปเคลียร์กันตอนหน้านะ เป็นของแถมที่หายหัวไปเกือบเดือนค่ะ ฮ่าๆ
แต่ถ้าคอมเม้นไม่ขึ้นจะแอบหนีไปอีกนะ ;-;
ความคิดเห็น