ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Help Me Please!!ช่วยด้วยครับ เขาขโมยหัวใจผมไป!!! YAOI

    ลำดับตอนที่ #7 : Help Me Please!! :: Chapter 5

    • อัปเดตล่าสุด 17 มิ.ย. 57


     

    Chapter 5

    ทำความสะอาดครั้งใหญ่

    .

    .

    .

     

    หลังจากที่คุยกับดัฟฟ์เมื่อวานนี้ผมก็คุยเรื่องกำหนดการต่างๆก่อนจะเปิดเทอมกันจริงๆ ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่วันนี้เราต้องทำความสะอาดทั่วโรงเรียนครั้งใหญ่พอตกเย็นเราก็จะให้นักเรียนปีหนึ่งพบอาจารย์ที่ปรึกษา ให้นักเรียนสำรวจรอบโรงเรียนในวันพรุ่งนี้กับมะรืน วันถัดไปก็ให้ได้พักผ่อนหรือเตรียมตัวก่อนเปิดเรียน

     

    ผมรับหน้าที่ถ่ายทอดคำพูด(?)ของผู้ถือครองอำนาจสูงสุดของโรงเรียนนี้จากผู้อำนวยการอย่างดัฟฟ์ ก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมงก่อนผมได้นัดแนะเพื่อประสานงานจากอาจารย์ท่านอื่นๆ

     

    เมื่อก่อนผมก็เป็นนักเรียนของโรงเรียนฟาริสแห่งนี้นะ ผมเป็นนักเรียนดีเด่นและพ่วงตำแหน่งสารวัตนักเรียนด้วยล่ะ แต่ปัจจุบันได้ศิษย์เอกอย่างไทริคมารับหน้าที่ต่อ

     

    เอาล่ะ กลับเข้าเรื่องกันต่อดีกว่า

     

    “ตอนนี้ 9.10 น. แล้วนะครับนักเรียน ซึ่งเป็นเวลาที่เรานัดกันไว้ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำความสะอาด...ไหนช่วยดูหน่อยสิว่ายังมีรูมเมท คนที่เคยเห็นหน้าผ่านๆหรือเพื่อนของใครยังไม่มาบ้างครับ”

     

    ผมพูดเสียงก้องไปทั่วบริเวณ ตรงหน้าผมคือนักเรียนปีหนึ่งจำนวนกว่าสองร้อยคนที่ยืนสอดส่องสายตามองสำรวจคนอื่นๆตามเสียงของผม นักเรียนที่อยู่ตรงหน้ามีทั้งเด็กตัวเล็กๆอายุไม่น้อยกว่าสิบสอง วัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้กระทั่งคนแก่ก็มี

     

    โรงเรียนฟาริสน่ะแบ่งออกเป็นสี่ชั้นปีก็จริงแต่ที่สามารถเริ่มเรียนได้ก็ตั้งแต่อายุสิบสองปีขึ้นไปจนถึงหลายร้อยปีก็มี ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็เรียนที่นี่ได้ถ้าใจรักที่จะเรียน ทำการสมัครโดยการสอบข้อเขียนในทฤษฎีต่างๆและการปฏิบัติทดสอบความสามารถด้านร่างกาย

     

    กลับมาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่าครับ คนที่เดินเข้ามาสมทบใหม่คือไทริคกับคาร์วินโดยคนตัวเล็กกว่าอย่างไทริคฉุดกระชากลากถูคาร์วินที่ทำหน้าทะเล้นใส่ พอดีดัฟฟ์น่ะจัดห้องให้สองตัวนี้มาเป็นรูมเมทกันครับ จะได้ดูแลคาร์วินได้ใกล้ชิดขึ้น ไทริคถีบคาร์วินจะร่างใหญ่ๆนั่นกระเด็นเข้าฝูงชนแล้วสะบัดหน้าหนีจากนั้นก็ไปรวมกลุ่มกับเพื่อนสารวตคนอื่นๆ คนโดนถีบก็เลยเดินเข้ามาทางผมด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมยืนเรียบร้อยไม่พูดอะไร

     

    ใบหน้าเละๆ(แค่มีแผลที่มุมปากกบสำวีแปะหัว)เมื่อวานหายดีแล้วจากอันวาร์ที่ใช้เวทย์รักษาให้ รู้สึกว่าจะมีแผลที่ชายโครงด้วย ค่าตอบแทนที่อันวาร์เรียกเก็บจากผม(แทนที่จะเป็นคาร์วิน)คืออะไรลองเดาดูนะครับ

     

    ขณะนี้พวกเราทั้งหมดอยู่ที่สนามฝึกประจำโรงเรียน ด้านหน้าคือนักเรียนที่ยังยืนชะเง้อมองคนนั้นคนนี้ และมีบางคนที่รีบวิ่งเข้ามาสมทบอย่างรวดเร็ว

     

    “ตอนนี้เหลืออีกไม่กี่นาทีก่อนจะถึง 9.30 น. ที่เรานัดกันไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ครบสองร้อยคนหรือยังครับ?”อาจารย์มูร์กล่าวถามด้วยเสียงทุ้มออกดุดันกับนักเรียนพร้อมกวาดสายตาคมๆนั่นมองทั่ว

     

    “อาจารย์คะนินเน่กับแคร์ร่ายังไม่มาค่ะ”เสียงหวานของนักเรียนหญิงที่ยืนกระสับกระส่ายอย่างเห็นได้ชัดดังขึ้นกระทบโสตประสาท คนทั้งลานกว้างหันมามองเธอเป็นตาเดียวจะเจ้าตัวสะดุ้ง

     

    “เหลืออีกสองนาทีนะครับ”เสียงทุ้มน่าฟังดังขึ้นจากด้านหลัง ทันทีที่ได้ยินผมก็รู้ว่าเป็นเสียงของใคร นักเรียนหญิงหลายคนเลิกสนใจนักเรียนคนเดิมแล้วจ้องไปด้านหลังผมตาเป็นมัน

     

    “ไม่ทราบว่าใครเป็นรูมเมทของพวกเธอ...หรือทั้งสองคนเป็นรูมเมทกันเองครับ?”ผมหันไปมองร่างสูงใหญ่ที่ทอประกายอ่อนละมุนด้านหลัง อันวาร์อยู่ใกล้ผมแค่เอื้อม ถึงอีกฝ่ายจะยืนอยู่ด้านหลังผมแต่ด้วยส่วนสูงที่สูงประมาณร้อยเก้าสิบเซนของอีกฝ่ายที่เทียบกับคนสูงแค่ 177 ซม. อย่างผมแล้ว

     

    ผมดูเตี้ยไปเลยล่ะ

     

    “สองคนนั้นเป็นรูมเมทกันครับอาจารย์”คาร์วินตอบคำถามของอันวาร์ ดวงตาสีเขียวสดสบกับดวงแก้วสีฟ้าใสครู่หนึ่งก่อนจะละสายตามามองผมอย่างล้อเลียน

     

    “นายรู้ได้ไงคาร์น?”ผมถามเสียงเรียบติดจะไม่พอใจอีกฝ่ายหน่อยๆ ถึงจะไม่รู้ว่าล้อเลียนอะไรแต่ยังไงมันก็ล้อเลียนอยู่ดี

     

    คาร์วินเดินเข้ามาใกล้ผมและกระซิบเบาๆว่า

     

    “เมื่อวานนินเน่มาชวนผมไปที่ห้องของเธอแต่คนที่ชื่อแคร์ร่าบอกว่าไม่อนุญาตเพราะเป็นห้องของเธอเหมือนกัน”คาร์วินว่าเสียงเบาติดเจ้าเล่ห์

     

    โป๊ก!!!

     

    ผมยกมือขึ้นเขกกบาลไอ้เด็กบ้าในปกครองแรงๆจนร้องลั่นเป็นการลงโทษ นี่ถ้าแคร์ร่าไม่ขัดคงสบายเรื่องตัณหาเลยสิแก!

     

    “กรี้ดดดดด ปล่อยฉันนะยะแคร์ร่า!!!!”เสียงกรี้ดแสบแก้วหูจากทางเข้าเรียกความสนใจจากทั้งผมทั้งคาร์วินรวมไปถึงคนอื่นๆอีกกว่าสองร้อยคน

     

    ภาพที่ปรากฏอยู่ในการมองเห็นคือหญิงสาวผมสีน้ำตาลเข้มใบหน้าสวยคมไร้อารมณ์กำลังฉุดกระชากลากถูหญิงสาวอีกคนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยการที่โวยวายมาตลอดทาง เส้นผมสีบลอนด์ทองอ่อนๆสะบัดไปมายามที่เจ้าตัวส่ายหัว

     

    แขนเรียวแข็งแรงเหวี่ยงอีกคนจนล้มก้นจ้ำเบ้า เสร็จแล้วเจ้าตัวก็เดินสะบัดเส้นผมสีน้ำตาลเข้มและไปยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้ชายของเธอ

     

    ผู้ชายหลายคนทำท่าว่าจะเข้าไปช่วยพยุงเธอขึ้นมาแต่ก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อรับรู้ความกดดันที่ผมส่งไปให้เป็นเชิงสั่งประมาณว่า ไม่ต้องยุ่ง...ให้เธอลุกขึ้นเอง

     

    “หึหึ โหดเหมือนกันนะ แต่ไม่เข้ากับหน้าเลยสักนิด”เสียงทุ้มชวนหลงดังขึ้นข้างหูแต่ไม่ใช่กับผมเพราะผมเริ่มชินแล้ว หลังจากที่คุยกับดัฟฟ์เมื่อวานกลับถึงห้องก็ได้ยินเสียงนี้ ก่อนนอนก็ได้ยิน ตื่นเช้าก็ได้ยิน

     

    ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่พลางถลึงตามองเล็กน้อยแล้วมาให้ความสนใจนักเรียนมากกว่ามารผจญด้านหลังนี่

     

    “ลุกขึ้นสิครับ ถือว่าพวกคุณทั้งสองมาช้ากว่าเวลานัดหนึ่งนาที ให้ไปทำความสะอาดห้องเก็บของหลังตึกสองนะครับ”ผมยื่นคำขาดกับบทลงโทษของทั้งสองคน

     

    ถ้าไม่หัดลงโทษซะบ้างเดี๋ยวคนอื่นจะไม่ทำตาม

     

    “คนที่นั่งอยู่น่ะนินเน่”เสียงคาร์วินดังแว่วมา

     

    “อะ อะไรกันคะอาจารย์ หนูแค่มาสายไปนาทีเดียวเองนะ”นินเน่พูดเสียงตุกตะกักพลางขยับลุกขึ้น

     

    “อันที่จริงพวกครูนัดปีหนึ่งมาตั้งแต่ยี่สิบนาทีที่แล้ว เราแค่ยืดเวลาให้เฉยๆ ถ้ามาภายในยี่สิบนาทีน่ะไม่เป็นไรหรอกแต่พวกเธอทั้งสองคนน่ะมาสายกว่าเวลาที่ยืดให้แล้ว”อาจารย์มูร์คนเดิมตอบคำถามแทนผม

     

    “ค่ะ จะทำให้เสร็จภายในวันนี้”เสียงนิ่งๆของแคร์ร่าบอกแล้วเธอก็หันไปสนใจกลุ่มเพื่อนต่อ

     

    “แต่อาจารย์คะ หนูไม่เคยทำงานต่ำๆแบบนั้นหรอกค่ะ!!”นินเน่เธอกระแทกเสียงใส่ ถึงรูปประโยคจะพูดกับพวกผมก็จริงแต่ดวงตาสีชมพูอ่อนกลับมองตรงไปที่แคร์ร่า

     

    “งานต่ำๆก็ให้คนต่ำๆทำไปสิคะ อย่าเอาชนชั้นสูงอย่างหนูไปเกี่ยว เสื่อมเสียกันพอดี”เธอยังพูดต่อไปไม่หยุดท่ามกลางสายตาอันหลากหลายของนักเรียนกว่าสองร้อยคน

     

    “กีเซียร์”ผมเรียกชื่อสารวัตนักเรียนสาวชั้นปีสามที่ยืนห่างออกไปคุยกับสารวัตคนอื่นๆอยู่ “เดี๋ยวหลังจากที่ครูปล่อยให้ไปทำความสะอาดเธอไปคุมสองคนนี้ทำความสะอาดห้องเก็บของหลังอาคารสองทีนะ”

     

    “ค่ะอาจารย์”

     

    เธอขานรับแล้งโค้งศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นไหมสีเทาเข้มของเธอลงเล็กน้อยเป็นเชิงขอตัวคุยกับเพื่อนต่อแต่ดวงตาคมสีเดียวกับเส้นผมก็เหลือบไปมองทางนินเน่อย่างเหยียดๆ

     

    “เอาล่ะครับนักเรียน!คงไม่มีใครหายไปแล้วนะครับ”เสียงทุ้มด้านหลังผมพูดขึ้นเรียกความสนใจจากนักเรียนและอาจารย์ทั้งหลายให้หันไปมองแต่ผมแค่ยืนนิ่งอยู่เฉยๆปล่อยให้เขาพูดไป

     

    “เราจะแบ่งออกเป็นกลุ่มนะครับ กลุ่มละ 10 คน รวม 20 กลุ่มนะครับ โดยแต่ละกลุ่มจะมีอาจารย์หรือสารวัตนักเรียนไปคอยคุมทำความสะอาดในสถานที่ต่างๆ”อันวาร์กล่าวยิ้วหวานให้

     

    “อ้อ! นินเน่กับแคร์ร่าสองคนต้องไปทำความสะอาดที่ห้องเก็บของหลังอาคารสองนะครับ”ผมพูดต่อเสียงเรียบและให้สัญญาณแบ่งกลุ่มกันได้

     

    “แบ่งเร็วๆนะครับ เราเสียเวลามามากแล้ว เดี๋ยววันนี้ไม่เสร็จเราจะลงโทษแล้วพรุ่งนี้ก็ให้ทำต่อให้เสร็จ เรื่องสำรวจโรงเรียนจะถือว่าเป็นอันโมฆะทันที!! วันรับน้องใครเละก็อย่ามาว่ากันว่าไม่รู้จักสถานที่(เพราะยิ่งรู้มากก็ยิ่งสนุกมาก)!!”และในที่สุดเฟธก็ทำหน้าที่ประธานนักเรียน(โดยการข่มขู่)เสียที

     

    “ให้เวลาหนึ่งนาทีในการแบ่งกลุ่ม!”เสียงเย็นเยียบที่ดังขึ้นโดยที่ผมไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร คนๆนั้นคือ ไทริค ที่โผล่มาจากไหนข้าเจ้าก็ไม่สามารถทราบได้ นักเรียนแต่ละคนวิ่งจ้าละหวั่นบ้างก็จับกลุ่มกับคนใกล้ตัว

     

    “วุ่นวายชะมัดเลย”ทันทีที่ได้ยินเสียงนั้นผมกับไทริคก็พร้อมใจกันหันไปมองเจ้าของเสียงทันที เจ้าตัวยังยืนทำหน้ามุ่ยใช้ดวงตาสีเขียวสดมองภาพตรงหน้าอย่างรำคาญ

     

    “ไอ้เด็กบ้า!!แกเองก็ต้องไปทำความสะอาดด้วย!!”ผมแวดใส่คาร์วินเสียงดังจนเจ้าตัวยกมือขึ้นปิดหู และก่อนที่ผมจะได้ด่าไอ้เด็กบ้านี่ต่อไทริคก็

     

    “ฮึบ!”ยกขาขึ้นถีบคาร์วินจนเจ้าตัวแทบจะพุ่งไปด้านหน้าในทันทีแต่ก็ยังตั้งตัวทันทำให้หัวไม่ทิ่มลงพื้น

     

    “ทำบ้าอะไรเนี่ย!บอกกันดีๆก็ได้นะครับคุณสารวัตนักเรียนคนสวย”ประโยคแรกเจ้าตัวทำเสียงโหดแต่พอเห็นคนที่ยังยกขาค้างยืนยันว่าเป็นคนลงมือก็เปลี่ยนน้ำเสียงเป็นหวานหยดทันที

     

    ไอ้กะล่อน

     

    =__=

     

    “ไปหากลุ่มสิงเลยไป ไทริคนายคุมกลุ่มไอ้กะล่อนนี่ด้วยนะ”ผมบอกไทริค เจ้าของชื่อคิ้วกระตุกทันทีก่อนปรายตามามองผมเล็กน้อยแล้วหันไปมองเจ้าตัวปัญหาดังเดิมและก้มหัวเล็กน้อยเป็นเชิงตอบรับ

     

    “เอาล่ะครับนักเรียน หวังว่าคงแบ่งกลุ่มกันเรียบร้อยแล้วนะครับ” ผมว่ายิ้มๆแต่เป็นรอยยิ้มเย็นที่หลายคนเห็นแล้วกลืนน้ำลายดังเอือก “แต่ที่ที่เราต้องไปทำความสะอาดกันมีอุปกรณ์ให้กันอย่างครบครัน จะพักอีกทีตอน 11.30 น. นะครับ เอาล่ะแยกย้ายกันได้ครับ”

     

    สิ้นเสียงสารวัตนักเรียนบางคนกับพวกอาจารย์ที่ว่างจัดก็เข้าไปประจำกลุ่มนักเรียนและพาไปสถานที่อันเป็นจุดหมายปลายทาง(?)เพื่อทำความสะอาด

     

    เพียงไม่ถึงห้านาทีลานฝึกกว้างก็เหลือเพียงผมแค่สองคน เอ่อ ผมกับอันวาร์น่ะครับ ช่างเปล่าเปลี่ยวหัวใจ(?)และขนลุกพรึบไปกับสายตาที่จ้องมองมา ทำไมมันถึงขนลุกได้ขนาดนี้นะ ผมหันหลังและกำลังจะเดินหนีแต่มือใหญ่ก็คว้าแขนผมไว้ก่อน

     

    “จะไปไหนล่ะ”อันวาร์ดึงผมให้เข้าปะทะอกหนาแล้วเลื่อนมือมากอดเอวคอดไว้หลวมๆ แต่บอกเลยว่าดิ้นไม่หลุด!

     

    “ฉันไม่ได้ว่างทั้งวันนะ ฉันตั้งไปแจ้งพวกอาจารย์ที่กลับโรงเรียนไม่ถึงให้รีบมาให้ทันก่อนที่พวกนักเรียนจะทำความสะอาดเสร็จ”ผมพูดพลางขืนตัวออกเล็กน้อย เดี๋ยวใครมาเห็นในสภาพนี้เดี๋ยวดัฟฟ์มีต้มมาม่าให้กินอีกสักอาทิตย์เป็นแน่

     

    “เดี๋ยวช่วย แต่มากับฉันหน่อย”ว่าแล้วก็ลากผมทั้งๆที่ตัวยังติดกันอยู่น่ะครับ

     

    “ไปไหน?(นายคงไม่พาฉันไปฆ่าทิ้งหรอกนะ)”ประโยคหลังผมพูดในใจ ถ้าอันวาร์พาผมไปฆ่าทิ้งจริงๆสภาพศพคงไม่สวยแน่ๆล่ะ

     

    “ไม่พาไปฆ่าทิ้งหรอกน่า พอดีฉันตรวจของในห้องพยาบาลแล้วสมุนไพรกับยาบางตัวขาดไปเลยจะให้นายพาไปซื้อหน่อย”

     

    ?

     

    “ไปเองสิ ฉันจะไปทำธุระของฉัน”ขืนตัวไว้สุดแรงแต่ก็สู้มันไม่ได้ อนาถตัวเองจริงๆที่เกิดมาเตี้ยและแรงน้อยแบบนี้ อนาคตจะแรงเยอะกว่ามันให้ได้เลยคอยดู!!

     

    “ก็บอกว่าเดี๋ยวช่วยแต่นายมาช่วยฉันก่อน!”อีกฝ่ายเริ่มทำหน้าโหดเสียงดุ ผมไม่ได้กลัวนะแค่ห่วงสวัสดิภาพตัวเองเฉยๆนะครับ!

     

    “กะ ก็ได้ แต่ต้องเร็วๆนะ”ผมพูดตะกุกตะกัก มองร่างสูงกว่าที่คลี่ยิ้มให้อย่างไม่ไว้ใจเท่าไหร่นัก

     

    “งั้นไปห้องพยาบาลก่อนละกัน ฉันจะเช็คดูว่าต้องซื้อหรือเก็บอันไหนเพิ่มบ้าง”ว่าจบก็หันหลังให้แล้วเดินออกไป เมื่อผมยังไม่ได้ก้าวขาตามร่างสูงก็หันมากวักมือเรียกเหมือนแมวกวัก(?)

     

    “นึกว่านายดูให้แน่ใจแล้วซะอีก”ผมบ่นตามหลังก่อนจะเดินตามอาจารย์ประจำห้องพยาบาลของหอไปยังจุดหมายปลายทาง นั่นคือห้องพยาบาลที่มีฉากบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อวาน

     

    ทั้งที่ไม่อยากนึกถึงแต่ทำไมต้องไปสถานที่นั้นด้วยนะ!

     

    บ้าเอ้ย!!
     

     

    >Hellnight<

     

    100% ครบสักที ที่ลงนี่เพราะทนเห็นความร้างของนิยายไม่ไหว เงียบ มันเงียบมากเจ้าค่ะ ตอนนี้จัดการตัวเองได้แล้วว่าจะอัพยังไงไม่ให้มันวุ่นวาย

    เรื่องนี้จะอัพวันอังคารกับวันศุกร์ อาจจะดึกหน่อยเพราะสมองจะแล่นตอนง่วงนอนมากๆ

    ขอโทษตัวใหญ่ๆกับการหายไปนาน(มาก)ค่ะ

     

    ปล.นินเน่นางอยู่ในเรื่องนี้นะคะ แค่โผล่มาที่นี่ให้หมั่นไส้กันเฉยๆ



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×