คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Help Me Please!! :: Chapter 4
Chapter 4
ลูกชายเพื่อนสนิท
.
.
.
แรงเขย่าไม่แรงมากปลุกให้ตื่นจากการหลับ ดวงตาสีเข้มปรือขึ้นอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อโดนปลุกขณะหลับสนิทไปแล้ว ผมยันกายลุกขึ้นนั่งอย่างเบลอๆแล้วมองสำรวจคนปลุก
“มีอะไรหรอ?”เสียงแหบเล็กน้อยถามกับคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง รอยยิ้มเล็กๆอมยิ้มขำกับสภาพเบลอสุดขีดของคนเพิ่งตื่นมานั่งถามหลังจากที่กิจกรรมในห้องน้ำจบไป
“ผู้อำนวยการต้องการเจอนาย...บอกว่าให้เวลาอีกสิบห้านาทีเจอกัน”จบคำผมก็เหลือบตามองตรงไปยังนาฬิกาแขวนผนังเรือนสวยที่เข็มสั้นชี้ที่เลขสามส่วนเข็มสั้นเลยเลขสองมาเล็กน้อย
“บ่ายสามโมงแล้วหรอเนี่ย”ผมบ่นกับตัวเองเบาๆแล้วสะบัดหัวไปมาไล่ความง่วง ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าไล่ความง่วงอีกที น้ำเย็นๆช่วยได้เยอะเลย
พอออกมาจากห้องก็เจอกับร่างสูงชะลูดสมส่วนของอันวาร์หยิบเสื้อคลุมของผมมายื่นให้และผมก็รับมาอย่างงุนงงก่อนจะยิ้มอ่อนโยนให้ผม
“เดี๋ยวฉันจะไปสำรวจรอบเขตที่พักก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยให้นายพาสำรวจเขตอาคารเรียน ตกลงนะ”พูดจบก็เดินออกไปไม่รอคำตอบจากผมเรื่องการสำรวจที่ว่าเลยสักนิด
“เอาเถอะ แค่เดินสำรวจโรงเรียนเอง”ผมพูดกับตัวเองและไปจัดการกับธุระของตัวเองบ้าง
ตอนนี้ดัฟฟ์คงจะอยู่ในห้องผู้อำนวยการเหมือนเดิมนั่นแหละนะ ว่าแต่เรื่องที่จะคุยมันเรื่องอะไรกันถึงต้องมาเจอกันตอนนี้
ผมนอนหลับไปหลังจากที่กิจกรรมในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมต้องล้างตัวอีกรอบแล้วออกมานอนเล่นเพลินๆจนหลับไปเพราะความเพลียจัด
แค่วันเดียวที่อยู่ด้วยกันก็โดนไอ้หื่นนั่นมันฟัดไปสองรอบแล้ว! ขอย้ำ! สองรอบ!!
T___T
ตื่นมาอีกทีก็พบว่าผ่านไปเกือบสองชั่วโมงแล้ว แต่ก็ดีที่มันปล่อยให้ผมได้นอน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เมื่อมาถึงหน้าห้องผู้อำนวยการก็เคาะประตูห้องเพื่อขออนุญาตเข้าไปด้านใน ได้ยินเสียงตอบรับเป็นเสียงเข้มของเจ้าของห้องผมก็เปิดประตูเข้าไปทันที
“นายเรียกฉันมามีอะไรหรอดัฟฟ์?”หลังจากที่ปิดประตูและเดินไปนั่งที่โซฟาสุดหรูกลางห้อง มองแผ่นหลังกว้างแสนคุ้นเคยที่นั่งหันหลังให้อยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ริมหน้าต่างผมก็ถามเสียงเรียบกับคนที่ให้อาหารแมวน้อยของมันอยู่
ครับ
แมวน้อยสำหรับดัฟฟ์
แต่มันคือเสือดำตัวใหญ่ที่ชอบกระโดดเกาะผมทุกทีที่เจอหน้ากันตั้งแต่ตัวเท่าลูกแมว!
และในไม่ช้าเสือดำตัวใหญ่นั่นมันก็ลุกขึ้นและวิ่งมาโถมตัวเข้าใส่ผมเต็มรักจนร่างของผมแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกับโซฟาไปแล้ว
สองขาหน้าขนาดใหญ่ตะปบเบาๆเข้าที่ไหล่ผมทั้งสองข้างเพื่อตรึงไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหน ปลายลิ้มร้อนแลบเลียใบหน้าของผมจนชุ่ม แต่รู้อะไรมั๊ย?
หนัก
หนักมาก
หนักกี่ตันวะเนี่ย
“หยุด! ดาร์ค หยุด!”
ผมพยายามเบี่ยงหน้าหนีจากลิ้นเพราะไหล่ทั้งสองข้างถูกตรึงไว้ทำให้ใช้แขนทั้งสองข้างไม่ได้มากนักแต่ก็เพียงพอสำหรับใช้ผลักขาทั้งสองข้างออก
แต่แรงคนตัวเล็กอย่างผมมีหรือจะสู้แรงเสือตัวใหญ่กว่าสามเท่าได้
“ฮะๆๆๆ สงสัยเจ้าดาร์คมันจะคิดถึงนายมากเลยสิเนี่ยถึงได้กระโจนเข้าหาแบบนั้น”เสียงเข้มว่าด้วยท่าทีขบขัน ลุกขึ้นเดินอ้อมจากเก้าอี้นั่งทำงานมานั่งที่โซฟาตรงข้ามกับผมด้วยท่าทีสบายๆ
“เฮ่!! ดัฟฟ์มาช่วยกันหน่อยสิ เจ้าดาร์คมันเป็นของนายนะ!! อีกอย่างฉันหนัก!!”ผมโวยเมื่อเจ้าของเสือดำตรงหน้าไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามาช่วยกนบ้างเลย เอาแต่นั่งหัวเราะเมื่อเจ้าดาร์คมันเลิกเลียหน้าแล้วซุกคอผมแทน
“คิกๆๆ หยุดนะดาร์ค คิก มะ มันจั๊กจี้ คิกๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ”ครับ จั๊กจี้สุดๆเมื่อหัวใหญ่ๆเต็มด้วยขนสีดำสนิทไซ้ไปตามซอกคอ ผมหัวเราะจนท้องแข็งแต่คนที่นั่งมองอยู่กลับมองเฉยๆ
เมื่อพอใจแล้วเจ้าดาร์คเสือดำขนาดใหญ่เพศผู้อายุสามปีกว่าก็เลิกซุกและปล่อยให้ผมเป็นอิสระ แต่ขึ้นมานอนบนโซฟายาวตัวเดียวกันกับผมตามด้วยนอนทับอย่างสบายอารมณ์
ชักไม่แน่ใจว่าดาร์คเป็นเสือของผมหรือของดัฟฟ์กันแน่ =___=
เมื่อสถานการณ์กลบมาอยู่ในความสงบสุข(?)...
ตรงหน้าผมคือชายหนุ่ม(?)รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าเข้มคมสันดุดันหล่อเหลาแบบเจ้าเล่ห์สุดๆทำให้น่าค้นหา คิ้วเข้มสีสนิทวางพาดเฉียงสูงขึ้นเหนือดวงตาคมและเรือนผมสีนิลกาฬตัดกับผิวสีขาวจัดอย่างลงตัวอย่างดี จมูกโด่งเป็นสันต่ำลงมาคือริมฝีปากบางสีซีดเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม
บอกเลยว่าถึงจะดูยงหนุ่มยังแน่นแบบนี้อายุก็ปาไปหลายร้อยปีแล้วครับ
“ตกลงนายมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันกันแน่ดัฟฟ์?”ผมถามขึ้นพร้อมลูบหัวเจ้าดาร์คไปด้วยแต่สายตาก็จดจ้องไปยังบุคคลสุดแสนเจ้าเล่ห์ตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจกับสายตานั้นเท่าไหร่นัก
“ฉันก็แค่...มีคนจะแนะนำให้นายรู้จักน่ะ”น้ำเสียงราบเรียบช่างขัดกับสายตานั่นจริงๆเลยให้ตายเถอะ
“ใคร?”ผมถามสั้นๆแต่ได้ใจความพร้อมคิ้วขมวดเป็นปมแทบจะผูกโบว์และมัดทบอีกสามรอบ(?)
“ลูกชายเพื่อนสนิทของฉันเองน่ะ”ดัฟฟ์พูดด้วยรอยยิ้มสดใส
“ฮะๆๆ ดัฟฟ์มีเพื่อนด้วย”ผมพูดด้วยรอยยิ้มสดใสร่าเริงจนตาหยีที่หากดูดีๆจะมีประกายวิบวับปรากฏอยู่รอบๆ
“ฮะๆๆๆ นีอาห์นายอยากเป็นอาหารให้เจ้าดาร์คมันใช่มั๊ย ฮะๆๆ”ดัฟฟ์เองก็พูดด้วยท่าทีแบบเดียวกับผมแต่มีเอฟเฟคเพิ่มขึ้นมาอีกก็คือจิตสังหารแผ่พุงออกมา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“หือ?นั่นไงมาพอดีเลย เข้ามา!”จบเสียงเข้มผมก็หันหลังกลับไปรอดู
ประตูบานสวยขนาดใหญ่แง้มออกและสิ่งที่เห็นคือเส้นผมสีดำสนิทเงางามที่โผล่ออกมาหลังประตู
!!!
ดวงตาคู่คมสีเขียวสดเบิกกว้างเมื่อเห็นผม และผมเองก็ไม่ต่างกัน ก็ไอ้เจ้านี่น่ะมัน...
ไอ้เด็กหัวโจกที่ลวนลามผมเมื่อเช้าไง!!
“เข้ามาสิ คาร์วิน”เสียงเข้มดังขึ้นหลังจากที่ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ คนที่ยังยืนอยู่หน้าประตูทำหน้าลำบากใจแต่ก็ยอมเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูเบาๆและเดินเข้ามาหาพวกผมสองคน+หนึ่งตัวที่อยู่ที่ชุดโซฟา
ดัฟฟ์ชี้ไปยังโซฟาว่างเปล่าใกล้ๆผมให้คนมาใหม่ได้นั่งและมันก็เดินผ่านผมไปนั่งอย่างรวดเร็วและมองผมเป็นระยะๆ ผมเองก็สังเกตใบหน้าขาวๆนั่นที่ดูแปลกตาจากเมื่อเช้าที่เอ่อ...
มีรอยช้ำที่มุมปากและที่หน้าผากมนนั่นมีสำลีแปะหัวอยู่
ไปฟัดกับหมาที่ไหนมานะ?
ช่างเถอะ
เด็กนี่ชื่อคาร์วินสินะ ความหมายของชื่อกับนิสัยต่างกันสุดขั้วเลยนะนั่น =_=
“เรียกผมมามีอะไรหรอครับ?ลุงดัฟฟ์”เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่นั่งแสยะยิ้ม ลุง?ลุงดฟฟ์?
ผมนั่งกลั้นขำสุดชีวิตกับสรรพนามที่ดัฟฟ์ได้รับ เจ้าของชื่อหุบยิ้มลงฉับอย่างรวดเร็วแล้วเปลี่ยนมาปล่อยจิตคุกคามแทนอย่างทันท่วงที ยังไงดัฟฟ์ก็ดูอายุเยอะกว่าผมสักสามสี่ปีแต่ดันมีคนเรียกว่าลุง
แต่จะว่าไปดัฟฟ์ก็แก่แล้วจริงๆนั่นล่ะ
“อย่าเรียกฉันว่าลุง...เข้าใจมั๊ย?”ดัฟฟ์พูดด้วยเสียงเย็นเยียบพร้อมปล่อยจิตคุกคามหนักขึ้นกว่าเดิม สำหรับคนอื่นมันน่ากลัวมากแต่สำหรับผมมันตลกสุดจนแทบจะกลั้นขำไม่อยู่แต่ได้เท้าหน้าของเสือดำตัวใหญ่ที่นอนทับผมอยู่มาช่วยปิดปากให้
เปื้อนมั๊ยเนี่ยเจ้าดาร์ค =___=
อารามจะหัวเราะหดหายเมื่อคิดถึงเรื่องเปื้อนไม่เปื้อน
“ขะ เข้าใจครับ”คาร์วินพูดพร้อมสภาพหน้าซีดเผือด นั่งเรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้อย่างดีขัดกับการกระทำเมื่อเช้าที่เปลี่ยนจากตอนนี้เป็นผ้าเช็ดเท้า(?)ยับๆ
“เมื่อเช้ายังอยู่ดี ทำไมตอนนี้สภาพนายถึงเป็นแบบนั้นล่ะ ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาหรือไง?”ด้วยความที่อยากรู้อยากเห็นเรื่องสภาพหน้าเละๆ(?)นั่นผมเลยตัดบทสนทนาของดัฟฟ์แล้วถาม
“ก็...นิดหน่อย”อีกฝ่ายตอบยิ้มแหยๆและหัวเราะแห้งๆตามหลัง แต่ผมก็จ้องเขม็งจนดวงตาคมสีเขียวสดหลบสายตาไปมองอย่างอื่นแทน
“เอ่อ...แล้วผู้อำนวยการเรียกผมมามีอะไรหรอครับ?”
“นั่นสิดัฟฟ์ รีบพูดได้แล้ว”ผมช่วยเร่งเร้าอีกแรงจะได้ไปจัดการกับเรื่องกำหนดการทำความสะอาดโรงเรียนเอย รับน้องเอย และอีกมากมายที่ยังไม่ได้ทำ
“ก็ ฉันคิดว่าพวกนายคงรู้จักกันมาแล้วสินะ?”เสียงเข้มดังขึ้นผมก็พยักหน้าตอบแล้วนั่งจ้องหน้าตาแป๋วรอคำพูดต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ(?)
“คาร์วินเป็นลูกชายเพื่อนสนิทของฉันเอง ส่วนนีอาห์เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของ A-1 นะคาร์วิน หรือก็คือครูประจำชั้นของนาย”ผมกับคาร์วินพยักหน้าทวนคำพูดของดัฟฟ์
“นีอาห์”ดัฟฟ์เรียกชื่อผมเสียงเข้มเชิงข่มหน่อยๆ
“อะไร?”ผมขานรับสั้นๆ
“ฉันอยากให้นายดูแลคาร์วินให้หน่อย อย่าให้ก่อเรื่องเดือดร้อนมากจนเกินความจำเป็น ถ้าโรงเรียนเสียหายนายต้องรับผิดชอบนะนีอาห์”ดัฟฟ์พูดเสียงเย็นข่มขู่ผมจนเสียวสันหลังวูบ
นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย!!
ผมนั่งนิ่งไปสักพัก คิดว่าหน้าผมคงเหวอมากจนดัฟฟ์ถอนหายใจออกมายาวเหยียดแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนพูดอีกประโยคให้ผมได้คลายใจ
“ไม่ต้องห่วงหรอก...ฉันเตรียมผู้ช่วยให้นายแล้ว”เจ้าตัวพูดยิ้มกรุ่มกริ่ม ผมล่ะคิดว่าผู้ช่วยที่ว่านั่นก็ซวยไม่แพ้กันกบผมเลยทีเดียวเชียวล่ะ
“ใคร?”ชักสังหรณ์ใจไม่ดี ผมหันไปมองเจ้าตัวปัญหาที่นั่งลุ้นรอคำตอบจนเนื้อเต้นไม่ต่างจากผม
“ไทริค”
>Hellnight<
120%ค่ะ คิดว่าคาร์วินไปฟัดกับหมา(?)ที่ไหนมา?จีเริ่มเคลียร์โปรเจ็คใหญ่ๆที่อาจารย์ขนมาให้ทำแล้ว คิดว่าอีกไม่นานก็อัพสองสามวันต่อหนึ่งครั้งเหมือนเดิมได้แล้วค่ะ
อีกเรื่องก็คือจีแยกเรื่องของคาร์วินไปอีกที่นะคะ เป็นเรื่องราวที่สอดคล้องกับเรื่องนี้แต่เนื้อหาเป็นบางส่วนที่นีอาห์ไม่ได้บรรยายไว้ จะเป็นเรื่องในมุมที่คาร์วินเป็นตัวเอกและบรรยายออกมาให้อ่านกันค่ะ
ความคิดเห็น