ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Fic exo} Belong to you : Krisyeol

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 :: What happened?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.73K
      11
      29 เม.ย. 57



    3

    What happened?

                   

                    

      *** มีบางอย่างหายไป เจอกันที่กาแล็คซี่ของคริสที่เดิมครับ***

                   
     

                           เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะข้างเตียงนอนแผดเสียงร้องเรียกร่างสูงให้หลุดจากภวังค์ คริสหยิบมันขึ้นมาก่อนจะสไลด์หน้าจอเพื่อรับสายบุคคลแสนคุ้นเคย

                    (ฝานฝาน นายอยู่ไหนอ่ะ?) เสียงใสจากปลายสายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย

                    "อยู่โรงแรม" คริสตอบก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาสวมใส่ปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าเอาไว้

                    (ผมมาวันแรกถึงกับต้องไปหาสาวมาซั่มเลยรึไง) ลู่หานเอ่ยแซวพร้อมหัวเราะน้อยๆ

                    "เรื่องของฉันหน่า ทีเมื่อวานนายยังไปหาเมียได้เลย" ตอกกลับแล้วยกยิ้มที่มุมปาก รอฟังอีกคนแก้ตัว

                    (เมียไม่สนใจผมอ่ะ สงสัยต้องตามตื้ออีกสักหน่อย) หน้าสวยบ่นด้วยเสียงเซ็งๆ ก็เมื่อวานอุตส่าห์ไปเต๊าะถึงที่แต่อีกคนกลับทำไม่สน มัวแต่ชงกาแฟให้ลูกค้า เดินไปเดินมาไม่ยอมหยุดคุยกันสักคำ แต่ก็นะขึ้นชื่อว่าลู่หาน ไม่มีทางยอมแพ้แน่ คนนี้น่ะต่อให้แลกด้วยโรงงานกาแฟก็ไม่หวั่น ยังไงก็ต้องได้! ยังไงก็จะเอา!

                    "ถ้าเขาไม่สนใจ นายก็มาเป็นเมียให้ฉันแค่นั้นก็จบ" หน้าคมพูดแกล้งหยอกอีกคนเล่น ลู่หานหัวเราะน้อยๆ ไม่มีทางซะหรอก ลู่หานคนแมนไม่มีทางยอมโดนบุกรุกประตูหลังแน่นอน

                    "พี่คริสครับคือ... ขะ..ขอโทษครับ" ชานยอลที่เดินออกมาจากห้องน้ำไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าร่างสูงกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ คริสมองกลุ่มผมที่เปียกปอน หยดน้ำใสไหลลงกระทบพวงแก้มนิ่ม ริมฝีปากสีชมพูที่อิ่มน้ำ น้องชานยอลน่าฟัดอีกแล้ว ชายอู๋อยากจู่โจมม ม ~

                    (ก็เคยยกทั้งตัวให้ไปแล้วก็ไม่ยอมเอาเองนี่หน่า เอ๊ะ! ฝานฝาน เมื่อกี้ผมได้ยินเสียงผู้ชาย นี่นายอยู่กับผู้ชายหรอ?) จากหยอกล้อในตอนแรกก็กลายเป็นสงสัย เสียงใหญ่ๆจากชานยอลทำให้ลู่หานแปลกใจไม่น้อย ผู้ชายที่คาบนางแบบหุ่นเลิศไม่ซ้ำหน้าหันมาพาผู้ชายเข้าโรงแรมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

                    "เปล่าๆ ลูกน้องคนใหม่น่ะ แค่นี้ก่อนนะ ดูแลตัวเองด้วยละ เดี๋ยวฉันรีบกลับ" คริสตัดสายทิ้งอย่างไม่ต้องการหาข้อแก้ตัว หน้าหวานที่ยืนหัวเปียกอยู่จ้องมองร่างสูงพร้อมกับคำถามมากมายอยู่หัวในร่วมทั้งคำว่า 'ลูกน้องคนใหม่' นั่นด้วย

                    "ชานยอลเมื่อกี้นายเรียกฉันมีอะไรรึเปล่า?"

                    "คือที่นี่ไม่มีผ้าเช็ดผมหรอครับ?" ชานยอลยกมือขึ้นสะบัดผมที่เปียกน้ำก่อนจะช้อนตาหาคำตอบจากร่างสูง

                    "มานี่สิ" คริสเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ก่อนจะหยิบผ้าผืนน้อยและกวักมือเรียกร่างโปร่งให้เข้าไปหา ชานยอลเลิ่กลั่กเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินเข้าไปหาอย่างว่าง่าย หวังว่าคริสคงไม่เล่นพิเรนทร์อะไรกับเขาอีกนะ

                    ร่างสูงนั่งลงบนเตียงก่อนจะดึงให้ชานยอลนั่งลงบนพื้น มือหนาวางผ้าผืนเล็กลงบนผมนิ่มของร่างโปร่งแล้วบรรจงเช็ดความเปียกปอนให้หมดไปจากกลุ่มผมของชานยอล

                    "ชานยอลเขยิบเข้ามาใกล้ๆหน่อยสิ ฉันเช็ดผมให้นายไม่ถนัด" หน้าหวานตอบรับแล้วขยับเข้าไปกลางหว่างขาแกร่งพาดพิงแผ่นหลังเข้ากับเตียงนอนใหญ่ ความเงียบเข้าแทรกความอ่อนละมุนของการกระทำ มือใหญ่ยังคงเช็ดผมนิ่มต่อไปอย่างแผ่วเบา หน้าหวานนั่งนิ่งปล่อยให้อีกคนเข้ามาป่วนในหัวใจจากการกระทำแสนอ่อนโยนนี่ คงไม่ต้องบอกเลยว่าตอนนี้หน้าหวานเปลี่ยนเป็นสีแดงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะมันคงเปลี่ยนไปพร้อมๆกับหัวใจที่เต้นถี่รัวนี่ด้วยเหมือนกัน

                    "นายชื่ออะไร? ฉันหมายถึงชื่อเต็มๆของนายน่ะ" คริสทำลายความเงียบสงบด้วยคำถามราวกับต้องการทำความรู้จัก ซึ่งชานยอลเองก็อยากจะทำมันตั้งแต่ตอนแรกที่เจอกับผู้ชายหน้าคมคนนี้แล้ว

                    "ปาร์คชานยอลครับ ผมชื่อปาร์คชานยอล" หน้าหวานตอบออกไปโดยไม่รับรู้เลยว่าผู้ชายที่มีอธิพลด้านหลังของเขานั้นคิดจะทำอะไร คริสจดจำชื่อเสียงเรียงนามของหน้าหวานไว้แม่น ราวกับฝังมันลงลึกในความทรงจำ

                    "ฉันชื่ออู๋อี้ฝานนะ มาจากกวางโจว เอาจริงๆก็ไม่เชิงว่าเป็นคนจีนหรอกมีเลือดฝรั่งผสมอยู่หน่อยๆน่ะ" พูดไปก็เล่นผมอีกคนไป ความเปียกชื้นเริ่มเหือดแห้งไปจากเส้นผมหนา คริสจึงได้แต่เกลี่ยผมหอมตรงหน้าไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว ชานยอลพยักหน้ารับเบาๆเพราะเป็นลูกครึ่งสินะถึงได้ชื่อคริสมันดูเหมาะกับใบหน้าคมๆนั่นมากกว่าอู๋อี้ฝานเป็นไหนๆ

                    "จะเป็นอะไรมั้ยถ้าผมอยากถามว่าพี่ทำงานอะไรหรอครับ? ถ้าไม่สะดวกที่จะตอบไม่ต้องตอบก็ได้นะครับ" มันคงเป็นเพราะบอดี้การ์ดหลายคนนั่นทำให้ชานยอลสงสัยสินะ

                    "ฉันทำธุรกิจทั่วๆไปนั่นแหละ แต่ที่มีบอดี้การ์ดเพราะฉันเป็นลูกเจ้าพ่อ... " คริสเงียบไปสักพักก่อนจะโน้มหน้าลงมาเกยคางบนผมนิ่มๆของชานยอล

                    "แต่นายไม่ต้องกลัวฉันหรอกนะ ปาร์คชานยอล ฉันจะไม่ทำร้ายนาย" ...ถ้านายไม่ขัดใจฉัน คริสได้แต่เพียงพูดในใจพร้อมแสยะยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์ ประโยคที่ฟังดูเหมือนจะปลอดภัยแต่คนฟังกลับรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างแฝงอยู่ภายในนั้น ปากบางเม้มเข้าหากันอย่างหวาดกลัว ปาร์คชานยอล.. นี่นายคิดถูกหรือคิดผิดกันนะที่ถามออกไปแบบนั้น ถ้าสุดท้ายแล้วจะต้องมารับรู้สิ่งที่ทำให้ความปลอดภัยในชีวิตเขาลดลงขนาดนี้... จะไม่เอ่ยปากถามสักคำเลย

                    คริสกดจูบแผ่วเบาลงบนผมหอมๆก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไป เมื่อแผ่นหลังแกร่งลับสายตาหน้าหวานก็ถอดถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ร่างสูงที่แอบมองอยู่หลังประตูห้องน้ำหลุดขำออกมากับระเบิดที่ทิ้งไว้ให้ชานยอลได้คิดหนักเล่นๆ ตราบใดที่นายไม่ทำให้ฉันโมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ยังไงฉันก็ไม่มีวันทำร้ายนายหรอกนะ... ปาร์คชานยอล

     

                    เมื่อทั้งสองจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จ รถสปอร์ตคันคู่ใจก็เคลื่อนย้ายไปตำแหน่งใหม่ทันที คริสขับรถมาตามที่ชานยอลเป็นคนบอก แม้จะพยายามขอร้องด้วยความเกรงใจสักแค่ไหนแต่ร่างสูงก็ไม่ยอมฟังดื้อรั้นจะมาส่งอยู่ท่าเดียวจนหน้าหวานต้องยอม รถหยุดตัวลงหน้าซอยแคบภายในย่านที่บ้านช่องดูทรุมโทรมบ่งบอกฐานะความเป็นอยู่ได้ไม่ยาก

                    "ต่อจากนี้เดี๋ยวผมจะเดินไปเอง ขอบคุณที่มาส่งนะครับ" ชานยอลก้าวขาเรียวลงจากรถ โค้งให้หน้าคมก่อนจะปิดประตูรถแล้วเดินจากไป คริสมองตามร่างโปร่ง ส่วนสูงที่ไล่เลี่ยกับเขา ขาโก่งๆกับหูกางๆแล้วก็อดที่จะขำไม่ได้ นี่ฉันมองว่านายน่ารักไปได้ยังไงกันนะ  แต่แล้วจู่ๆสมองพลันก็นึกถึงสิ่งที่คริสตั้งใจจะทำขึ้นมาได้ฉับพลันมือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออกหาบุคคลที่สามารถช่วยเขาได้ทันที

                    "ไค ช่วยสืบหาประวัติคนชื่อ ปาร์คชานยอล ให้ฉันหน่อย ขอละเอียดและเร็วที่สุด" ลูกน้องคนโปรดมือขวาที่อยู่กับเขามาเนิ่นนานถูกฝากฝังงานชิ้นใหม่ ซึ่งปกติแล้วไคมักเป็นคนหาข้อมูลเกี่ยวกับลูกหนี้ของคริสเสียมากกว่าแต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป

                   
                    ถ้าถามว่าจะต้องโทษใคร? ฉันขอบอกเอาไว้...

                    โทษตัวเองเลยนะ ปาร์คชานยอล... นายเข้ามาทำให้ฉันอยากเก็บนายไว้เป็นกาแล็คซี่ของฉันแค่เพียงคนเดียว

                    และแน่นอนว่าต่อจากนี้ จะมีฉันอยู่ทุกช่วงชีวิตของนายเลยละ :")

     

     

     

    ........................................................-- Belong to you --..........................................................

     

     

                    ร่างสูงเยื้องกายเข้ามาในบ้านหลังใหญ่หลังกลับจากจัดการธุระที่แสนวุ่นวายทุกอย่างจนเสร็จ ทิ้งร่างกายอันเมื่อยล้าลงบนโซฟานุ่ม แต่แล้วเสียงใสๆกับหน้าสวยๆก็โผล่มาจากทางด้านหลังเกยคางนิ่มลงบนไหล่แกร่งของเขา

                    "ฝานฝานหายไปตั้งแต่เมื่อคืน จิตใจจะทิ้งผมให้เฉาตายอยู่ในบ้านนี้เลยรึไง รอตั้งนานแหน่ะ" ลู่หานเอ่ยด้วยน้ำเสียงดูน้อยใจ มือใหญ่จึงเอื้อมขึ้นไปลูบผมปลอบใจเด็กขี้ใจน้อยป้อยๆ

                    "มานั่งนี่มะ"คริสตบเบาะข้างกายเรียกให้คนตัวเล็กเดินมานั่งใกล้ๆ ตาคมจ้องมองใบหน้าขาวใสเงียบๆ เนิ่นนานซะจนอีกคนขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัย

                    "มองไรอ่ะ" ลู่หานโบกมือตรงหน้าเพื่อเรียกสติอีกคนที่เอาแต่จ้องหน้าเขาแบบไม่วางตา คือจ้องกันอย่างนี้กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวเลยมั้ยครับ?

                    "ขอพิสูจน์หน่อยนะ" ไม่ทันได้ตั้งตัวจู่ๆร่างสูงก็ยื่นหน้าเข้ามาประกบริมฝีปากบาง ตาหวานเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนจะค่อยๆปิดลงสัมผัสที่อีกคนมอบให้ คริสผลักลำตัวบางลงนอนแนบสนิทไปกับโซฟา ไม่ทันได้ล่วงเกินหน้าหวานไปมากกว่าหน้าท้องขาวๆก็ถูกมือเล็กตะปบความซนที่เริ่มเคลื่อนตัวขึ้นสู่แผ่นอกบางของเขา คริสดูดดุ้นกลีบปากสีสวยจนคนตัวเล็กเริ่มเจ็บและผลักคนบนร่างออกไปในที่สุด  

                    "พิสูจน์อะไรของเก้อเนี่ย ผมเกือบเสียตัวแล้วมั้ยละ" พี่ชายคนนี้ไปโดนใครปั่นหัวมานะถึงได้ขอพิสูจน์อะไรบ้าๆแบบนี้ แล้วไอ้ความที่มือไว้ใจเร็วของเขานี่อุกอาจมากนะ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าลู่หานไม่ห้ามคงได้มีหนังสดกลางบ้าน ใส่กันให้แม่บ้านอ้าปากข้างกันไปเป็นแทบๆ แต่ไม่หรอก เพราะ.. ลู่หานคนแมน ลงทุนมาเกาหลีเพื่อหาเมียเลยนะ ไม่ยอมกลายเป็นเมียให้ใครแทนหรอก เสียหมาแย่ -^-

                    "ไม่เห็นเหมือนกันเลยวะ! เป็นไรเนี่ย" มือหนาทึ้งผมตัวเองด้วยความหัวเสีย ลู่หานหน้าสวยกว่าชานยอลเป็นไหนๆ ใบหน้าที่ทำให้คนสอยแต่นางแบบอย่างเขายอมรับว่างดงามเหมือนผู้หญิง สวยซะจนมองกี่ครั้งใจก็ยังคงเต้นไม่ยอมหยุด แต่เวลาจูบกลับแตกต่าง มันไม่ใช่ มันแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

                   
                ทำไมหัวใจไม่หยุดเต้นเหมือนตอนที่จูบเขา
    ... ไม่โหยหาเหมือนตอนที่มีเขาอยู่ข้างกาย

                ชานยอล... นายทำอะไรฉัน? ทำไมทั้งสมองและหัวใจมันถึงมีแต่นายเต็มไปหมด...

                   

                    คริสอู๋คงไม่มาพิสูจน์อะไรผิดแปลกพิสดารขนาดนี้ถ้าวันทั้งวันไม่มีแต่ผู้ชายหูกาง ตาโต ตัวหอม ท้องขาว ขาโก่ง มาวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่ในความคิดของเขา สมองที่จะเอาไว้ทำงานกลับต้องปั่นป่วนด้วยรอยยิ้มจริงใจนั่น มันเป็นครั้งแรกที่คู่นอนทำให้ชีวิตประจำวันของผมวุ่นวายขนาดนี้ คุณเชื่อไหมว่าผมเผลอเรียกชื่อลูกน้องด้วยคำว่า 'ชานยอล' ไปถึง 3 ครั้ง แมร่งโคตรเพ้อ เหม่อแบบที่ไม่เคยเป็น มันไม่ปกติ ผมพูดเลยว่าโกรธตัวเองพอสมควรที่ปล่อยให้ใครคนหนึ่งเข้ามาควบคุมสมาธิขนาดนี้ บ้าที่สุด!

                    "ฝานฝาน!" คริสสะดุ้งตกใจเพราะเสียงตะโกนเรียกจากลู่หานที่นั่งอยู่ข้างๆ

                    "อยู่ใกล้จนจะหายใจรดกันอยู่แล้ว จะตะโกนทำไมเนี่ย" ร่างสูงเสยผมขึ้นไปลวกๆก่อนจะเอนหลังพิงกับโซฟาอย่างเหนื่อยหน่าย เรื่องนายมันยังไม่ออกไปจากความคิดของฉันเลยนะชานยอล - -*

                    "เรียกรอบที่สามละ ถ้าตะโกนแล้วยังไม่ได้ยินกะว่าจะเอาปืนมาเป่าหัวเสียให้เข็ด" ลู่หานหน้ามุ่ย เบ้ปากเซ็งๆ กอดอกหันหน้าหนี มาเต็มกับสเต็ปการงอนเหมือนผู้หญิง คนที่รู้ตัวว่าผิดผลักไหล่เล็กเบาๆเพื่อเช็คระดับความรุนแรง หน้าสวยสะบัดไหล่หนีเชิดๆ รู้เลยว่าระดับแปด มันยังโอเคที่จะง้อด้วยวิธีเบสิคๆได้ อย่างเช่น...

                    "เห้ย อย่างอนดิ หานหาน น น~ ไม่เอาไม่งอนนะ เดี๋ยวพาไปช้อปปิ้ง" นั่นแหละครับ! เรื่องจ่ายใช้สอยหน้าละหันขวับอย่างรวดเร็ว ลู่หานยิ้มหวานให้คริสราวกับเรื่องก่อนหน้านี้มันระเหิดหายไปกับคำว่าช้อปปิ้งคำเดียว

                    "ปะ ไปตอนนี้เลยนะ" ดูไว้นะครับนี่คือนิสัยของผู้ชายที่บอกว่าจะมาหาเมีย สาวกว่าคนที่ร้องครางใต้ร่างผมเมื่อวานซะอีก...

                    นั่นไง! ผมคิดถึงเขาอีกแล้ว ให้ตายเถอะ!

     

     

     

    ........................................................-- Belong to you --..........................................................

     

     

                    หญิงร่างบางวัยเกือบห้าสิบเดินเข้ามาในห้องแสนแคบด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เธอขว้างเงินเหรียญลงพื้นราวกับมันไร้ค่า ก่อนจะเดินไปกระชากประตูไม้ที่มีผู้ชายสูงโปร่งกำลังทำความสะอาดพื้นอยู่ในนั้น กรอบตาที่มีริ้วรอยบ่งบอกถึงความชราเพ่งมองคนตรงหน้าด้วยความโมโห.. แค่เห็นหน้าก็หงุดหงิด

                   
                 ความรู้สึกที่แสดงผ่านดวงตาไม่มีแม้ตาความปรานี

                ไม่มี... แม้แต่เยื่อใยของความเป็นแม่ที่มีต่อลูกชาย

     

                    "ชานยอลเมื่อวานแกหายไปไหนมา?" เธอยืนกอดอกถามลูกชายตัวดีที่หายหน้าไม่กลับมาบ้านทั้งคืน ร่างโปร่งยังคงถูพื้นไปอย่างใจเย็น

                    "ไปทำงานไงครับ" ตอบคนเป็นแม่แบบที่ตายังคงจดจ่ออยู่ที่พื้น

                    "งานอะไรทำไมต้องหายไปทั้งคืนแบบนี้?" หญิงวัยทองยังคงสอบถามลูกชายคนเดียวด้วยความอยากรู้ ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงหรอกนะ แต่รู้งานก็ย่อมรู้ร่ายได้ นั่นแหละที่ผู้หญิงเห็นแก่ตัวอย่างเธอต้องการ

                    "ก็โฮสต์ทั่วไปแหละแม่" ชานยอลยังคงถูพื้นไปตามซอกตามมุมโดยไม่ทันได้สนใจใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยามจากแม่ของตน เธอรู้ดีว่าโฮสต์คืออะไร คนที่ผ่านสังคมแบบนั้นมาอย่างโชกโชนอย่างเธอ ได้ลูกก็เพราะอาชีพบ้าๆแบบนั้น หึ! ลูกไม้มันหล่นไม่เคยไกลต้นเลยสินะ...

                    "ขายตัวน่ะหรอ? ระดับสมองของแกมันทำได้แค่นี้ใช่มั้ย!" คำพูดถากถางจากปากของมารดาทำให้หน้าหวานแถบล้มทั้งยืน ราวกับปล่อยลูกธนูให้พุ่งตรงปักลงที่กลางหัวใจ ยอมทำงานแบบนี้ก็เพื่อผู้หญิงตรงหน้า แล้วสิ่งที่ได้กลับมาคือคำพูดทำร้ายจิตใจกันแบบนี้หรอ ชานยอลกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เรียนจบแค่ม.6 จะมีปัญญาไปทำอะไรได้มากกว่านี้ ก็คงสมแล้วละที่จะถูกคนอื่นเค้าด่า ไม่เคยมีค่าสำหรับใครแม้แต่แม่ตัวเอง

                    “เอาเหอะหน่า อย่างน้อยก็มีเงินมาให้แม่ก็แล้วกัน" ให้ไปโดยที่ไม่เคยรู้เลยว่าแม่เอาไปใช้อะไรบ้าง รู้แค่ว่าอยากตอบแทน อยากเป็นลูกที่ดี ผมก็ทำได้เท่าที่ผมทำ ถึงแม้จะโดนผู้หญิงคนนี้ด่าว่าหรือดูถูกแต่ยังไงเธอก็คือแม่... ของผม

                    "แล้วไหนละ เอาเงินมาสิ" คนเป็นแม่ยื่นมือไปตรงหน้าหมายสิ่งที่ตัวเองต้องการมากที่สุด ชานยอลเงยหน้ามองใบหน้าของมารดาที่เริ่มโรยราไปตามอายุ เธอเคยสวย... สวยแบบที่ใครๆก็ต้องการ ผมอยากเอื้อมมือขึ้นไปสัมผัสพวงแก้มที่เริ่มหย่อนคล้ายตามแรงโน้มถ่วงของโลก อยากจูบซับดวงตาที่แม้จะมีริ้วรอยแต่มันก็ยังคงดูสวยสำหรับผมเสมอ

                   
                ดวงตา... ที่แม้ไม่เคยแสดงออกถึงความรัก

                แต่ผมก็รักมันมากกว่าอะไรทั้งหมดบนโลกใบนี้...   

     

                    ชานยอลหยิบเงินทั้งหมดจากงานเมื่อคืนมายื่นให้กับเธอ ภายในหวังเพียงแค่รอยยิ้มสวยๆจากคนเป็นแม่ แต่แล้วก็ว่างเปล่า เธอเดินออกไปทันทีที่รับเงินจากลูกชายไม่แม้แต่จะหันมามองหน้ากันอีกสักครั้ง.. ไม่มีเลย

                    แต่แล้วก็เหมือนความหวังของร่างโปร่งจะเป็นจริงขึ้นมาบ้างเมื่อจู่ๆมารดาก็หันหลังเดินย้อนกลับมาตรงหน้าเขา ชานยอลมองเธอด้วยแววตาที่มีความหวัง จุดยิ้มบางเบาที่อาจจะเป็นได้แค่สิ่งน่ารำคาญสำหรับใครบางคน

                    "ฉันจะบอกแกว่าเราต้องย้ายที่อยู่ใหม่ เจ้าหนี้รายใหญ่เค้าหาเราเจออีกแล้ว คิดว่าคงจะมาตามตัวพรุ่งนี้” จบคำพูดจากปากมารดา รอยยิ้มแห่งความหวังหายไปจากใบหน้าหวานทันที นอกจากจะไม่ได้อะไรกลับมาแล้วยังถูกสาดด้วยความทุกข์ใจอีกระลอก

                    “หนี... อีกแล้วหรอ? รายใหญ่นี่รายไหนอีก แม่เคยเอาเงินที่ผมให้ไปใช้หนี้พวกเขาบ้างรึป่าว? เราจะต้องใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน...” ตั้งแต่จำความได้ชีวิตของเขาก็คงมีแต่หอบข้าวของหนีไปทางนั้นทางนี้ที เหตุผลก็เพราะหนี้ทั้งนั้น เหตุผลเดิมๆ การกระทำเดิมๆยาวนานมาสิบปีกว่าๆแล้ว... ไม่รู้ว่าแม่ไปขยันยืมเงินใครมาเท่าไหร่ถึงได้ชดใช้ยังไงก็ไม่ยอมหมดไปสักที ทำงานส่งเงินให้แม่เอาไปใช้คืนเคยตกถึงมือพวกเขามั้ย!

                    “อย่ามาพูดมากแล้วไปเก็บของ เราจะย้ายออกคืนนี้” คนเป็นแม่โบกมือไล่แล้วหันหลังเดินออกไป ทิ้งให้ชานยอลยืนหน้ามุ่ยอยู่ในห้องเพียงลำพัง หนี.. อะไรๆก็หนี หนีครั้งแล้วครั้งเล่า หนีมันทุกเดือน เกลียด เกลียดอะไรแบบนี้ที่สุดเลย!

                    ชานยอลหยิบกระเป๋าเป้ใบใหญ่จากใต้เตียงขึ้นมากกอบโกยข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างยัดใส่ลงในนั้น ชินแล้วกับการย้ายหนีกะทันหันแบบนี้ คิดเหมือนกับทำใจได้ เหมือนกับเข้มแข็งเสียเต็มประดา เหมือนกับชินชากับการถูกไล่ทวงหนี้ แต่น้ำสีใสที่หยดลงบนมือขาวนี่มันอะไร...

                 
                    สร้างภาพหลอกคนอื่นได้ แต่ไม่เคยหลอกความจริงในใจตัวเองได้เลยสินะ... ชานยอล

     

    ........................................................................................................

    #ฟิคของคุณ



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×