ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Fic exo} Belong to you : Krisyeol

    ลำดับตอนที่ #19 : Chapter 18 :: Break

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 733
      2
      16 ก.ค. 58

                                                                 cr.tumblr



    18

    Break

     

                    "แม่..."

     

                    "เรียกฟ่านปิงปิงก็ได้จ๊ะ" ใบหน้าขาวผ่องไม่สมกับอายุสี่สิบปลายๆฉีกยิ้มหวานให้กับลูกชายตัวแสบพร้อมกับมุขกวนๆก่อนจะถูกคนเป็นลูกโถมตัวเข้ากอดเสียแน่น อี้ฝานยิ้มกว้างกว่าที่เคยเมื่อสัมผัสกับความอบอุ่นแสนคิดถึง

                    "ฟ่านปิงปิงที่ไหน นี่อู๋ฟ่านฉิงของอี้ฝานต่างหากครับ" ใบหน้าคมกับมาดขรึมถูกสลัดทิ้งทันทีที่อยู่กับมารดา คริสเหมือนเด็กน้อยที่เรียกหาแม่เวลาไปส่งที่โรงเรียนอนุบาล ใครๆก็รู้ว่าเขารักแม่ยิ่งกว่าใคร แม่เป็นทั้งชีวิตของเขา

                    "ไม่เจอกันนานหมูน้อยของแม่ผอมลงไปตั้งเยอะแหน่ะ" เด็กชายแก้มกลมในวันนั้นกลายเป็นชายใบหน้าคมที่ยังมีแก้มให้เห็นอยู่แต่ก็ถือว่าน้อยกว่าที่เธอเคยเห็นนัก

                    "ไม่เรียกหมูน้อยสิครับ คำนี้เก็บไว้ใช้เวลาอยู่กันสองคนนะ" คริสซบแก้มลงกับฝ่ามือเล็กของมารดา มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากเสียจนอยากจะหยุดอยู่ตรงนี้นานๆ เขาอยากให้แม่อยู่กับเขาไปนานๆ

                    "แล้วนี่มาคุยอะไรกับตาแก่ลงพุงนี่ล่ะ?" ฟ่านฉิงโบ้ยปากไปทางผู้บริหารสูงสุดที่นั่งดูพวกเขาทักทายกันมานานสองนาน อู๋หลงชักสีหน้าไม่พอใจกับสรรพนามที่ภรรยาใช้เรียกแต่ก็ปรับให้เป็นปกติเมื่อเธอมองมา.. ไม่ได้กลัวเมียหรอก จริงจริ๊งง!

                    "เออนี่คุณจะไปสปาไม่ใช่หรอ รีบไปสิ ผมจะได้คุยงานกับลูก" คนเป็นพ่อพูดขึ้นมาทันทีเมื่อคิดได้ว่าเรื่องที่จะคุยกันเขาไม่อยากให้เธอรู้

                    "นี่ไล่หรอ" ฟ่านฉิงเชิดหน้ามองสามีตน

                    "ก็ป่าววว เห็นคุณโทรนัดทางร้านไว้นานแล้วเดี๋ยวเขาจะรอนานไง" หวังว่านั่นจะไม่ดูเป็นข้อแก้ตัวจนเกินไป

                    "ทำตัวมีพิรุธนะ อย่าให้รู้ว่าคุณจะบงการอะไรลูกอีก" ฟ่านฉิงหรี่ตามองเจ้าพ่อใหญ่แห่งกวางโจวอย่างคาดโทษแล้วหันมาล่ำลาลูกชายก่อนจะเดินออกไป จำเอาไว้ เหนือเจ้าพ่อใหญ่ยังมีเมียเจ้าพ่อที่ใหญ่กว่า!

     


                    "แม่เอ็งนี่นะ" อู๋หลงถอนหายใจพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ

                    "แม่เข้าใจผมเสมอ" คริสนั่งลงตรงข้ามกับคนเป็นพ่อเพื่อที่จะได้เริ่มคุยเรื่องที่เตรียมมาวันนี้เสียที

                    "งั้นก็หาผู้หญิงแบบแม่แกมาเป็นภรรยาซะสิ" คนเป็นพ่อเสนอความคิดแต่จุดประสงค์มันคือการบังคับมากกว่า

                    "ไม่ล่ะ ผมมีชานยอลอยู่แล้ว อยู่กับเขาสบายใจกว่าอยู่กับพ่อหลายเท่าเลย" อู๋หลงหัวเราะเบาๆในลำคอ นึกขำกับคำพูดที่เขาไม่เคยคิดจะเอามาใส่ใจ    

                    "ฉันก็อยากจะรู้จริงๆเลยว่าถ้าเด็กนั่นมันรู้ว่าแกเล่นสกปรกอะไรมันจะยังอยู่กันอย่างสบายใจอยู่มั้ย.." อี้ฝานเบิกตาโตทันทีที่ได้ยิน ประโยคนั่น นายใหญ่แสยะยิ้มเย็นหันมองลูกชายคนโตอย่างเหนือกว่า

                    "อี้ฝานเอ้ย... มีอะไรบ้างที่คนอย่างฉันจะไม่รู้ หืม" รอยยิ้มเยาะเย้ยที่เหมือนกับเขาเป็นเพียงแค่ลูกไก่ในกำมือถูกส่งมา คริสกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยมีอะไรที่เขาปิดพ่อได้ ไม่เคยมี

                    "พ่อเลิกยุ่งกับพวกเราเหอะ" ตาคมแข็งกร้าว จ้องมองคนเป็นพ่ออย่างไม่เกรงกลัว

                    "งั้นก็แต่งงานกับผู้หญิงที่ฉันเลือกให้สิ" อู๋หลงยื่นข้อเสนอที่อี้ฝานเกลียดแสนเกลียด การแต่งงานเพื่อธุรกิจ มีเพียงแค่ผลประโยชน์ที่พ่อเขาต้องการโดยไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของเขาสักนิด

                   

                    วันนั้นที่พ่อจัดฉากให้เขาไปเจอกับเธอเพื่อสร้างข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์นั่น พวกเขาได้คุยกันแล้วก็ได้รู้ว่าต่างคนก็ต่างถูกบังคับ เธอยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานและยิ่งได้รู้ว่าคริสมีคนรักอยู่แล้วเธอยิ่งไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ของใคร   

                   

                    "วันนั้นเธอบอกว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับผมด้วยซ้ำ! พ่อเลิกเอาธุรกิจของพ่อมาทำลายชีวิตของผมสักที!" กำปั้นทุบลงบนโต๊ะทำงานอย่างแรงจนป้ายแก้วที่ระบุชื่อเขาหล่นลง โชคดีที่พื้นตรงนั้นเป็นพรมไม่อย่างนั้นที่นี่คงไม่มีผู้บริหารชื่ออู๋อี้ฝานอีกต่อไป

                    "งั้นถ้าเด็กนั่นเดินจากแกไปก็ไม่ต้องโทษใครเลยนะอี้ฝาน" คริสทึ้งหัวตัวเองด้วยความเครียด ถ้าพ่อเขาบอกเรื่องนั้นกับชานยอลเขาจะต้องเสียความรักไปแน่ๆ ไม่.. เขาจะไม่ยอมให้ชานยอลจากเขาไป ไม่มีทางยอม

     



                ปาร์คชานยอลต้องเป็นของอู๋อี้ฝานเท่านั้น...

                     

     

     



    ------------------ Belong to you ----------------

     

     

     

     

                    "มานั่งทำอะไรตรงนี้" จงอินเดินเข้ามาทักร่างโปร่งที่นั่งอยู่ในสวนข้างบ้าน ชานยอลยังอยู่ในชุดนอนสีสะอาดแม้ว่าตอนนี้เวลาจะล่วงเลยไปยามบ่ายแล้วก็ตาม คนถูกถามหันหน้ามายิ้มน้อยๆก่อนจะกวักมือเรียกเขาเข้าไปหา

                    "ไม่ได้มานั่งนานแล้วน่ะ" ตากลมฉายความสดใสออกมาอย่างเห็นได้ชัด ไหนจะรอยยิ้มที่ไม่ยอมหุบตั้งแต่เขาเดินเข้ามา

                    "มีความสุขมากสินะ" ชานยอลยิ้มพร้อมกับพยักหน้ารับ มือใหญ่ยกขึ้นลูบผมนุ่มด้วยความอ่อนโยน เขาดีใจที่อีกคนมีความสุขแต่ก็ไม่ชอบใจนักเพราะรู้ว่าต้นเหตุของความสุขนั่นมาจากไหน

                   

                    จงอินยอมรับว่าเขาเองก็ไม่ได้รู้จักคริสดีถึงแม้ว่าจะทำงานด้วยกันมานาน ความลับทุกอย่างถูกซ่อนอยู่ภายใต้ดวงตาคมนั่น คริสไม่เคยเปิดเผยสิ่งที่เขาไม่อยากให้ใครรู้ให้ได้เห็นเลยสักครั้งราวกับถูกฝึกให้สวมหน้ากากมาอย่างดีเยี่ยม ถ้าเทียบกับการศึกษาก็คงได้เกียรตินิยม แต่มีสิ่งหนึ่งที่คริสยอมให้ลูกน้องกลุ่มหนึ่งได้รู้เพื่อช่วยดำเนินแผนการ คงเป็นโชคดีที่คิมจงอินเป็นหนึ่งในนั้น แต่หลังจากทำภารกิจเสร็จมันก็กลายเป็นโชคร้ายเพราะเขารู้ความจริงแต่ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย มันกลายเป็นเรื่องที่ค้างคาใจจงอินมาตลอด ยามมองใบหน้าที่ไร้เดียงสาของชานยอลทำให้เขารู้สึกผิดทุกครั้ง ได้แต่ภาวนาในอกขอหากเรื่องทุกอย่างถูกเปิดเผยปาร์คชานยอลอย่าโกรธไคเลยนะครับ..

                   

                    แต่ถึงคริสจะไม่ดียังไงจงอินก็นับถือในความรักของผู้ชายคนนี้เหลือเกิน

     

     

     

                    "รักเขาไหม?"

                    "หืม.."  ตาใสหันสบเข้ากับใบหน้าคม

                    "คริสน่ะ รักเขามากไหม..." น้ำเสียงที่อ่อนลงจนเกือบทำให้รู้สึกว่านั่นไม่ใช่คำถาม ชานยอลเม้มปากเข้าหากันก่อนจะทอดสายตามองไปที่น้ำตกตรงหน้า เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ความรู้สึกที่ตันอยู่ในอกนี่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ได้รัก แต่เขาก็พูดคำว่ารักได้ไม่เต็มปากอยู่ดี

     


                    "ไม่รู้สิ" เขาถอนหายใจเมื่อต้องมาพูดเรื่องนี้กับจงอิน

                    "ถ้าเกิดเขาไม่ดียังจะรักเขาอยู่ไหม?.." ใบหน้าหวานหันมองคนที่นั่งข้างๆอีกครั้งกับประโยคแปลกๆนั่น ไม่ดีงั้นหรอ?..

                    "อู๋อี้ฝานน่ะไม่ได้ดีอย่างที่นายคิดหรอกนะ" จงอินมองตาพร้อมกับลูบผมเขาอีกครั้งก่อนจะยกยิ้มน้อยๆ แต่ชานยอลไม่ได้สนใจ เขากำลังไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกคนพูด คิ้วสวยขมวดเข้ากันด้วยความสงสัย

     


                    ปากอิ่มกำลังจะเอ่ยถามแต่กลับได้รับจูบแสนหวานเป็นคำตอบแทน ลิ้นร้อนกวาดไปทั่วกลีบปากบางดุนดันหวังเข้าไปเชยชิมความงดงามด้านใน คิมจงอินกำลังทำให้เขาลืมความสงสัย ทำให้ปาร์คชานยอลลืมทุกอย่างเพราะตอนนี้จงอินเองก็ยังไม่อยากตอบโจทย์แสนยากที่อีกคนหยิบยื่นมาถามเช่นกัน

     

     

     


     

    ------------------ Belong to you ----------------

     

     

     

     

                    หลังจากร่างโปร่งขึ้นไปอาบน้ำชำระร่างกายจนสะอาดทุกซอกทุกมุมแล้วจึงพาตัวเองลงมาขลุกอยู่ในห้องครัว ชานยอลอารมณ์ดี ดีจนลงมือทำอาหารเย็นไว้รอร่างสูงกลับมา มือขาวหยิบวัตถุดิบใส่หม้ออย่างคล่องแคล่วเพราะเมื่อก่อนเขาก็เป็นคนทำกับข้าวให้แม่ทานตลอด ชานยอลถอนหายใจเมื่อนึกถึงมารดาที่หายตัวไป ขนาดคริสที่มีเส้นสายใหญ่โตยังหาไม่เจอปาร์คชานยอลคงต้องทำใจแต่เขาก็ยังคงหวังว่าสักวันนึงจะได้กอดแม่อีกสักครั้ง ..ก็ยังดี

     


                    สะโพกกลมกลึงส่ายไปมาตามจังหวะเพลงจากไอพอดที่เขาหยิบมาใช้เพราะรู้สึกว่ามันเงียบเกินไป ร่างขาวเต้นไปพร้อมกับอาหารเย็นที่กำลังจะถูกจัดใส่จานช่างดูเย้ายวนในสายตาคมที่ยืนพิงประตูดูอยู่นานสองนาน เหมือนกระต่ายน้อยขนฟูกำลังกวักมือเรียกให้ราชสีห์อย่างเขาเข้าไปขย้ำเสียเหลือเกิน สองเท้าหนาค่อยๆย่องเข้าไปประชิดกระต่ายน้อยก่อนจะสวมกอดเอวคอดจากด้านหลัง


                    "เฮ้ย!" กระต่ายน้อยตัวนี้เสียงใหญ่จริงๆ.. ชานยอลสะดุ้งน้อยๆก่อนจะรีบวางจานกับข้าวแล้วหันมาตีแขนแกร่งทำโทษคนขี้แกล้ง

                    "หิวจังเลย" คริสทำเป็นไม่สนใจแล้วเกยคางคมลงบนไหล่อีกคน

                    "นี่ไงผมทำกับข้าวไว้รอพี่เลยนะ" นิ้วเรียวชี้จานกับข้าวที่วางอยู่หน้าแต่หน้าคมกลับส่ายหัวไปมา

                    "หิวชานยอลมากกว่า" พูดจบก็ฉวยโอกาสหอมแก้มขาวเสียฟอดใหญ่

                    "ไม่ต้องมาพูดเลย อ่ะนี่ชิมก่อน" ชานยอลจิ้มหมูมาจ่อที่ปากหยัก คริสรับมันเข้าไปแล้วก็อดอมยิ้มกับรสชาติที่ได้รับไม่ได้ นอกจากจะสวยแล้วยังทำกับข้าวเก่งอีกนะ เมียใครเนี่ย

                    "กับข้าวยังอร่อยขนาดนี้แล้วคนทำจะอร่อยขนาดไหนนะ" คริสยกยิ้มกรุ้มกริ่มมองร่างโปร่งตั้งแต่หัวจรดเท้าจนชานยอลต้องฟาดป้าบเข้าที่แขนอีกที

                    "ทะลึ่ง!"

                    "ตอนนี้เลยมั้ย.. เปลี่ยนบรรยากาศ บนเตียงบ่อยแล้วเปลี่ยนมาเป็นบนเคาน์เตอร์บ้างคงสนุกดี" พูดจบคริสก็อุ้มร่างขาวขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ครัวทันที

                    "ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้เลยนะ เดี๋ยวมีคนมาเห็น" มือขาวผลักไหล่หนาที่กำลังเลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ   

                    "ชานยอลก็อย่าร้องดังสิครับ" หน้าคมบีบคางมนด้วยความหมั่นเขี้ยว แก้มขาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูไปทั่วด้วยความเขิน

                    "ถ..ถ้าพี่คริสไม่ปล่อยผมจะต่อยจริงๆด้วยนะ!" มือขาวกำหมัดแน่นยกขึ้นมาขู่ถึงแม้จะรู้ว่าสู้อีกคนไม่ได้ก็เถอะ

                    "โอเค พี่ยอมแล้ว เดี๋ยวกินข้าวเพิ่มพลังแล้วค่อยไปทบต้นทบดอกบนห้องก็ได้" ร่างสูงยอมปล่อยพร้อมกับยักคิ้วและส่งยิ้มกวนไปให้คนที่นั่งหน้ามู่ทู่อยู่บนเคาน์เตอร์ ชานยอลเดินตามอีกคนมานั่งที่โต๊ะก่อนอาหารมื้อเย็นจะเริ่มขึ้น

     

     


                    "เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะพาไปเรียนยิงปืนนะ" ชานยอลดูตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อได้ยินเรื่องนั้น เขาเบื่ออยู่บ้านเฉยๆแล้ว

                    "แล้วก็.." คริสหยุดพูดไปชั่วขณะ กลืนน้ำลายลงคอก่อนจะพูดขึ้นมาอีกครั้ง

                    "...จะพาไปพบใครคนนึง" ใครคนนั้นคงมีอิทธิพลมากสินะถึงทำให้คริสพูดถึงด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคงแบบนี้ ต้องเป็นคนใหญ่คนโตไม่ก็พ่อของพี่คริสแน่ๆ ชานยอลเอื้อมมือไปกุมมือใหญ่

                    "ไม่เป็นไรนะครับ ผมพร้อมสำหรับทุกอย่างแล้ว" ในเมื่อคริสยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะยืนอยู่ข้างเขาแล้วชานยอลก็ต้องไม่ทำให้คริสไม่สบายใจ

                    "พี่ก็หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น.."

     

                   

                    หวังว่านายจะพร้อม แล้วจะไม่เดินจากไปพี่ไป..

     

     

     



     

    ------------------ Belong to you ----------------

     

     

     

     

                    รถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนตัวไปข้างหน้าเรื่อยๆ แอร์เย็นฉ่ำกับเสียงพูดไม่หยุดของคนข้างๆทำให้คริสอดที่จะยิ้มไม่ได้ พวกเขาเพิ่งกับจากการเรียนยิงปืน ชานยอลที่เพิ่งเคยจับปืนเป็นครั้งแรกเลยตื่นเต้นจนพูดเป็นต่อยหอย เล่านู้นนี่ที่เกิดระหว่างการเรียนให้ฟังทั้งๆที่เขาก็อยู่ในเหตุการณ์

     

                    "สนุกมากเลยอ่ะ ผมจะตั้งใจเรียนจะได้ยิงปืนแม่นๆแล้วก็จะดูแลตัวเองได้" ยิ้มกว้างถูกส่งมาให้เขาไม่รู้กี่ครั้งตั้งแต่ขึ้นรถมา หน้าหวานดูจะชอบเอามากๆแล้วฝีมือสำหรับคนแรกเริ่มก็ถือว่าดีเสียด้วย

                    "ไม่อยากให้พี่ดูแลแล้วงั้นสิ" คริสพูดเสียงตัดพ้อ แสร้งทำหน้าหงอยลงจนชานยอลต้องเข้ามาปลอบ

                    "เปล่านะ ผมก็แค่ไม่อยากเป็นภาระของพี่"

                    "พี่ไม่เคยคิดว่าเราเป็นภาระ.." คริสหันหน้ามามองใบหน้าหวาน

                    "..ชานยอลสำคัญสำหรับพี่นะครับ" ส่งมือใหญ่เข้ายีผมนิ่มไปมาจนชานยอลนึกหมั่นเขี้ยวจึงคว้าแขนที่ลูบผมตัวเองมางับเบาๆ พี่คริสอ่ะ.. ชอบทำให้เขินอยู่เรื่อย -///-

     

                    ตากลมทอดมองไปยังเส้นทางที่ไม่คุ้นตา นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้าน เขารู้สึกเหมือนกำลังออกนอกตัวเมืองไปเรื่อยๆเมื่อความเจริญเริ่มลดลง

                   

                    "เรากำลังจะไปไหนกันหรอครับ?" ปากอิ่มเอ่ยถามแต่ไม่ทันที่จะได้ตอบรถก็เลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้านสีขาว สองข้างทางเป็นทุ่งดอกทานตะวันสีเหลืองตัดกับสีเขียวของลำต้น ขับเข้ามาไม่ไกลนักก็เจอกับบ้านสวนหลังน้อยสีฟ้าตระหง่านอยู่บนเนิ่นทุ่ง

                    "ที่นี่ที่ไหนครับเนี่ย น่ารักจังเลย" ชานยอลดูตื่นเต้นกับความสวยงามด้านนอกรถมากเสียจนไม่ได้สนใจใบหน้าคมที่เริ่มหม่นลงเรื่อยๆ

                    "บ้านสวนพี่เองแหละ ถ้าชอบไว้จะพามาบ่อยๆนะ" รถจอดสนิทหน้าบ้านสีฟ้า คริสหันมาสบตาชานยอลช้าๆก่อนจะกุมมือขาวไว้แล้วยกมันขึ้นมาประทับจูบบนหลังมือแผ่วเบา หน้าหวานไม่เข้าใจกับการกระทำของอีกคนนักแต่ก็ยอมเดินตามอีกคนลงรถมาโดยไม่ได้เอ่ยถามอะไร

     

                    คริสหายไปชั่วครู่ก่อนจะกลับมาพร้อมกับดอกทานตะวันสีเหลืองสดใส เขายื่นมันให้กับชานยอลพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่สุด

                    "ขอบคุณนะครับ" ร่างโปร่งระบายยิ้มบางแล้วรับมันมาถือไว้ มือใหญ่เอื้อมมือมาจับมือเขาไว้แล้วเดินไปหยุดหน้าบานประตูสีขาว คริสสูดหายใจเข้าลึกๆ หัวใจเต้นระรัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงเขาก็ต้องยอมรับมันให้ได้..

     

     

     

    ติ้งต่องง~

     

     

     

     

     

     

    แอ๊ดดดด

     

     

     

     

     

     

                    บานประตูเปิดออก แล้วดอกทานตะวันในมือขาวจึงล่วงหล่น...

     

     
     

    ...........................................................................................................


     

    ติ้ง!

    สวัสดีท่านผู้โดยสารทุกท่าน ดิฉัน ไรท์เตอร์ยีนส์ เป็นกัปตันในเที่ยวบินนี้

    ตอนนี้เรากำลังบินอยู่ในระดับความสูง 0627 กิโลเมตรจากพื้นดิน

    บรรยากาศด้านนอกมีเมฆบ้างในแห่ง อาจจะตกหลุมอากาศบ้าง ขอให้ผู้โดยสารได้โปรดเข้าใจ

    อีกไม่นานเครื่องกำลังจะแลนด์ดิ้งสู่ความเวิ้งว้าง ว่างเปล่า และตู้ม เกิดเป็นโกโก้ครั้น

    ขอให้ผู้โดยสารทุกคนโปรดนั่งที่และรัดเข็มขัดนิรภัย

    ดิฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมเดินทางกับท่านในเที่ยวบิน Belong to you

    หากท่านสนใจจะเดินทางกับเราใหม่ โปรดติดต่อ @Diamond_jss

    โดยทางสายการบินได้วางแผนจะเปิด Short Fic ใหม่

    หากผู้โดนสารสนใจสามารถเข้าไปใช้บริการกันได้

    แต่ตอนนี้ยังไม่เปิดบริการค่ะ อิ้อิ้

    เข้าไปให้กำลังใจกัปตันสำหรับการแลนด์ดิ้งที่สวยงามได้ในแท็ก

    #ฟิคของคุณ

     

    สำหรับตอนนี้ยังไม่จบ เจอกันตอนหน้า

    รักผู้โดยสารทุกคน

    ขอบคุณค่ะ







    T H E M E
    ◈ B L & W H ◈
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×