คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : Chapter 17 :: Heart
17
ชายสูงวัยในชุดสูทยี่ห้อหรูนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่กลางห้องรับแขกที่รายล้อมด้วยชายร่างใหญ่อีกห้าหกคนที่ทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้กับเจ้าพ่อใหญ่แห่งกวางโจว ใบหน้าเหี่ยวย่นที่ยังคงความหล่อเหลาเรียบนิ่งทว่าสง่าและน่าเกรงขามกำลังจ้องมองผลงานตัวเองที่เดินเข้ามาหยุดลงตรงหน้า ผลงานชิ้นใหญ่ที่ใครๆก็ต่างบอกกันว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเรื่องนี้ก็คงต้องยกความดีความชอบให้กับอู๋หลง
"นั่งสิอู๋อี้ฝาน" ผายมือพร้อมรอยยิ้มบางเป็นมารยาทเหมือนกับที่เขาทำประจำเวลาคุยธุรกิจแต่ครั้งนี้มันต่างออกไป รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความนัย อี้ฝานสัมผัสได้ถึงการบังคับ
"ไม่ พ่อมีอะไรก็รีบพูดเถอะ" เสียงแข็งและแววตาต่อต้านฉายชัดออกมา เขาไม่ใช่ลูกที่ดีนักหรอกเพราะพ่อก็ไม่ได้ทำดีกับเขาเหมือนกัน
"นั่งลง! ฉันไม่เคยสอนให้แกเป็นคนแบบนี้" อู๋หลงขึ้นเสียง จ้องเขม็งมองลูกชายที่เพิ่งไปสร้างเรื่องให้ต้องเรียกกลับมาคุยเช่นนี้ อี้ฝานยอมนั่งลงตามคำสั่งด้วยความไม่พอใจ แต่มันเป็นเรื่องปกติเวลาคุยกันของพวกเขาไปเสียแล้ว
"พ่อไม่เคยสอนให้ผมเป็นคนแบบไหนทั้งนั้นแหละ" คริสกรอกตาพึมพำแต่ชัดเจนพอให้คนอื่นได้ยิน แต่อู๋หลงเลือกที่จะทำเป็นหูทวนลมไปเพราะเขามีเรื่องที่สำคัญกว่านั้น ชายชรานิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะเริ่มพูดอีกครั้ง
"ฉันจะให้แกแต่งงาน..." ประโยคหนึ่งประโยคที่ทำให้คนเป็นลูกชายหันขวับกลับมาด้วยความตกใจ
"...กับผู้หญิงที่ฉันเป็นคนเลือกให้" ประโยคที่เต็มไปด้วยคำสั่ง คนเป็นพ่อยังคงใบหน้าเรียบเฉยแม้คนเป็นลูกจะแสดงอาการโมโหจนเลือดขึ้นหน้า เขาเลี้ยงอี้ฝานมากับมือ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าถ้าพูดไปอี้ฝานจะมีปฏิกิริยาตอบกลับมาอย่างไร
"แต่ผมมีคนระ.." ไม่ทันที่คริสจะเอ่ยได้จบประโยคก็โดนสวนขึ้นมา
"ไปเลิกกับเด็กนั่นซะ" หน้าคมลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น เขากำหมัดแน่นด้วยโทสะ ตลอดชีวิตเขาถูกพ่อบังคับทำนู้นนี่ ไม่เคยมีโอกาสได้ตัดสินใจเองเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้มันมากเกินไปแล้ว
"ไม่มีทาง" คริสเอ่ยขึ้นนิ่งๆ เขาจะไม่ยอม เรื่องอื่นเขายอมโดนบังคับได้ แต่เรื่องชานยอลเขาจะไม่มีวันยอม
"ฉันบอกให้แกไปเลิกกับเด็กผู้ชายคนนั้นซะ" อู๋หลงย้ำทุกคำพูดอย่างชัดเจนราวกับประกาศิตที่จะไม่มีใครสามารถคัดค้านได้ เหมือนกับที่คริสทำตามที่เขาบอกมาตลอดและครั้งนี้ก็เช่นกัน
"หรือถ้าไม่ แกก็จะไม่มีสิทธิ์อะไรในบริษัทตระกูลอู๋อีก" นั่นมันก็คงไม่ต่างอะไรกับการตัดออกจากกองมรดกสินะ คริสยกยิ้มที่มุมปาก มองคนเป็นพ่ออย่างไม่กลัวกับการตัดสินใจของตัวเอง เขาเบื่อกับการถูกบังคับเต็มทีแล้ว
"งั้นพ่อก็เตรียมหาผู้บริหารคนใหม่มาแทนผมได้เลย" พูดจบขายาวก็พาร่างสูงเดินออกมาในทันที อู๋หลงอึ้งไปก่อนจะโมโหจนตัวสั่น
"อู๋อี้ฝาน!!"
และนั่นคือคำพูดสุดท้ายที่คริสได้ยินจากพ่อของเขาและเพราะอย่างนั้นสินะพ่อถึงมาหาชานยอลที่นี่ ในเมื่อบังคับให้เขาทำตามไม่ได้ก็เลยมาลงที่ชานยอลแทน หึ... พ่อเขาเป็นแบบนี้มาตลอด
คริสนึกถึงเหตุการณ์นั้นเป็นวันหนึ่งในตอนที่เขาหายไป เขานอนมองเด็กน้อยแก้มใสที่ต้องมารับรู้เรื่องราววุ่นวายนี่ ชานยอลยังหลับอยู่ เปลือกตาบางจนเห็นเส้นเลือดฝอยปิดสนิทด้วยความเหนื่อยอ่อนเพราะโดนเขาจัดไปอีกรอบตอนเช้ามืด ช่วยไม่ได้ก็คนมันคิดถึง คนตัวเล็กกว่าครางหงิงๆเหมือนลูกหมายามที่ตัวตนของเขาเข้าไปในร่างแต่ก็ร้องเรียกชื่อเขาได้อย่างรื่นหู ให้ตายเถอะ! คิดถึงเสียงหวานๆนั่นชะมัด นึกแล้วก็อยากจะปลุกเด็กน่ารักขึ้นมาอีกสักรอบสองรอบ
นิ้วยาวลูบแก้มขาวอย่างทะนุถนอมก่อนจะไล้ไปตามสันจมูกโด่งแล้วบีบด้วยความหมั่นเขี้ยว คนถูกรังแกสะลึมสะลือปัดป่ายมือออกเพราะถูกรบกวนการนอนแต่แล้วก็ถูกมือใหญ่รั้งเอวเข้ามากดประทับจูบเข้าอย่างรวดเร็ว
"อื้ออ.. พี่คริสพอเลย ผมเหนื่อยแล้วนะ" ร่างขาวดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดอุ่น ผลักอกอีกคนออกแล้วหันหลังหนี ตอนนี้เขาต้องการพักผ่อนที่สุด
"ตื่นมาฟังพี่พูดก่อนเร็ว" คริสเขย่าไหล่ขาวๆให้หันกลับมาหาเขาแต่อีกคนกลับนอนนิ่ง เฮ้อ.. ดื้อจริงๆเลยปาร์คชานยอล หน้าคมขยับเข้ากดจูบบนลาดไหล่เปลือยเปล่าเรื่อยไปยังซอกคอขาวแล้วขบติ่งหูเรียกร้องความสนใจและมันได้ผลเมื่อชานยอลหดคอเข้าหากันด้วยความจั๊กจี้แล้วหันกลับมาทำท่ายอมแพ้
"โอเคๆ ตื่นแล้ววว" หน้าหวานยิ้มขำกับสัมผัสก่อกวนของคริส
"เหลืออีกข้อนึงที่นายจำเป็นต้องรู้นะ ข้อนี้สำคัญมาก" ดวงตาคมมองเข้าไปในดวงตากลมอย่างจริงจัง มือใหญ่ลูบแก้มใสแผ่วเบา
"อะไรหรอครับ?" ชานยอลจ้องตาเขาด้วยความสงสัย
"ข้อสุดท้ายคือ..."
"พี่รักนายนะ"
"พี่รักชานยอล"
นี่คือสิ่งที่เขาอยากให้ชานยอลรู้ที่สุด..
เพราะมันคือเหตุผลที่เขายอมทำทุกอย่าง
"งื้อออออ" หน้าหวานอึ้งไปก่อนแก้มใสจะขึ้นสีชมพูไปทั่ว ชานยอลร้องเบาๆก่อนจะมุดซ่อนความเขินอายลงกับอกอุ่น แต่เขาอยากจะจูบเด็กน้อยหลังจากบอกรักนี่หน่า..
"ชานยอลครับ มาจูบหน่อยเร็ว" คริสยีผมนุ่มของคนที่เอาแต่ขลุกอยู่กับอกเขา
"ไม่เอาาา"
"....."
"ง..งั้นแค่จูบนะ"
"อื้อ"
คนน่ารักค่อยๆถอนหน้าออกจากอกก่อนจะเงยสบกับดวงตาคมที่จ้องมองมาก่อนแล้ว คริสโน้มลงมาประทับจูบอย่างอ่อนโยนชวนให้เคลิบเคลิ้ม รสจูบแสนหวานกับประโยคบอกรักก่อนหน้าทำให้ชานยอลแทบจะหลอมละลายถ้าไม่ติดว่าเขากำลังรู้สึกว่ามีบางสิ่งกำลังหยุกหยิกอยู่บริเวณก้นนิ่มของเขา แต่ก่อนที่ชานยอลจะคิดได้ทันก็ถูกร่างหนาพลิกกายคร่อมทาบทับลงมาเสียแล้ว และนั่นทำให้รู้ว่าเขาติดกับดักของคริสเข้าอย่างจัง !
"พี่คริสสสสส"
อา.. น่าฟังกว่าอู๋อี้ฝานที่พ่อเรียกตอนนั้นเป็นไหนๆ
------------------ Belong to you ----------------
ในช่วงเวลาที่ชานยอลนอนหลับคริสนั่งคิดนอนคิดเรื่องปัญหาที่ยังค้างคาว่าควรจะจัดการอย่างไร ความจริงเขาไม่ได้เดือดร้อนเท่าไหร่กับการถูกตัดออกจากกองมรดกเพราะทุกวันนี้เขาเองก็มีธุรกิจเป็นของตัวเองอยู่ไม่น้อยไหนจะเงินเก็บที่ได้จากการเป็นผู้บริหารแทนพ่ออีกมหาศาล มันมากกว่าที่เขาจะใช้ทั้งชีวิตเสียอีกเพราะงั้นเขาถึงไม่ลังเลที่จะแหกกฎของพ่อ เขาคิดว่ามันคุ้มที่จะได้อิสระในชีวิตกลับคืนมา
คริสตัดสินใจที่จะให้ชานยอลไปเรียนศิลปะการป้องกันตัวขั้นพื้นฐานเอาไว้ อย่างน้อยชานยอลต้องยิงปืนเป็นเพราะเขาคงจะคอยอยู่ปกป้องอีกคนไม่ได้ตลอดเวลา ยามที่เขามองใบหน้าใสหลับใหลมันช่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสาและเขาไม่ต้องการให้ใครมาทำร้ายความบริสุทธิ์นั่นแม้แต่พ่อของเขา
ชานยอลตื่นมาในตอนที่ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีครามและดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน ถึงแม้เขาจะหลับไปนานแต่ก็ยังคงรู้สึกอ่อนเพลียแถมยังปวดเนื้อปวดตัวไปหมด พี่คริสบ้าพลังที่สุด! ปากอิ่มยู่ใส่คนหน้าคมที่นอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตรงหน้าเขา คริสยังไม่ได้ลุกไปไหนตลอดทั้งวัน ชานยอลก็ไม่รู้ว่าอีกคนหลับบ้างรึป่าวเพราะทุกครั้งที่ลืมตาก็จะเห็นคริสยิ้มให้เสมอ
"พี่หลับบ้างรึยัง?" ชานยอลถามพร้อมยื่นมือไปลูบแก้มสาก
"ไปกินข้าวข้างนอกกัน" คริสไม่ได้ตอบคำถามแถมยังพูดเรื่องอื่นแล้วอุ้มเขาเข้าห้องน้ำทั้งที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ชานยอลตกใจแต่ก็ยอมเออออกับอีกคนไป ทั้งสองกลับมาอาบน้ำอย่างปกติแบบไม่มาคุกันอีกครั้ง ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันรู้สึกดีกว่าที่ผ่านมาเสียอีก เหมือนทุกอย่างมันพิเศษมากขึ้นทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย
ชานยอลหย่อนสะโพกนั่งลงในร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดัง แต่กว่าจะมานั่งตรงนี้ได้เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอดในห้องน้ำเพราะคริสพยายามจะหลอกล่อเขาเหมือนครั้งก่อนหน้า แต่พอโดนขู่ว่าจะไม่มาทานข้าวด้วยเจ้าตัวเลยยอมหยุด ไม่เหนื่อยบ้างรึไงนะ ทำเหมือนไปอดอยากมาจากไหนอย่างนั้นแหละ
"รู้ตัวครับว่าหล่อไม่ต้องจ้องขนาดนี้ก็ได้" หน้าคมเอ่ยแซวพร้อมกับยิ้มทะเล้นใส่หน้าหวานที่เอาแต่จ้องหน้าเขาไม่เลิก
"หล่อตรงไหน?" ชานยอลเบ้ปากหมั่นไส้คนหลงตัวเอง
"ทุกตรงเลยโดยเฉพาะตรงนี้" นิ้วยาวชี้ที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเองพร้อมกับยักคิ้วด้วยความกวน
"แหวะ" ชานยอลแทบอยากจะพ่นเฟรนฟรายที่เพิ่งจิ้มเข้าปากไปใส่คนตรงหน้าที่กำลังเก๊กมาดขรึมอย่างภาคภูมิใจ หล่อตายแหละพ่อเงิงใหญ่ ประโยคนี้คิดในใจจะดีกว่า
ทั้งชานยอลและคริสต่างหลุดขำกับมุกแป้กๆที่หยิบเล่นใส่กัน บรรยากาศหวานชื่นกลับมาอีกครั้ง รอยยิ้มเต็มแก้มถูกส่งให้กันนับครั้งไม่ถ้วนบ่งบอกว่าทั้งคู่มีความสุขเพียงใด มื้ออาหารยังคงดำเนินไปเรื่อยๆอย่างไม่เร่งรีบ คริสบอกเรื่องที่จะให้ชานยอลไปเรียนการป้องกันตัวซึ่งหน้าหวานก็ตกลงโดยไม่ขัดข้องแต่อย่างใด ดีเสียอีกทีเขาจะได้ไม่ต้องมาเป็นภาระให้ใครต้องดูแล เว้นเสียแต่...
ชานยอลก็ยังอยากให้ 'ไคดูแล' เหมือนเดิม
ดวงตากลมเสมองออกไปด้านนอกร้านที่มือบอดี้การ์ดมือดียืนอยู่ มือขวาของคริสที่ได้ชื่อว่าเป็นอดีตของปาร์คชานยอล...
วันทั้งวันผ่านไปอย่างไม่มีอะไรมากนัก ทั้งสองอยู่ด้วยกันทั้งวัน คริสดูจะติดชานยอลแจแบบไม่ยอมออกห่างไปไหน หลังจากกลับมาจากทานอาหารเย็นจนมืดค่ำพวกเขาก็กลับมาขลุกอยู่ในห้อง นอนมองแหย่เล่นไปกันมาเพราะหลังจากที่คริสประกาศออกไปว่าจะออกจากการเป็นผู้บริหารเขาก็ไม่ยอมออกไปทำงานที่ไหนเลยยกเว้นก็เพียงแต่รับโทรศัพท์จากเลขาในบริษัทของเขาเอง ส่วนทุกบริษัทในตระกูลอู๋จะถือเสียว่าเขาหมดหน้าที่นั้นแล้ว คุณอู๋หลงจะทำอะไรต่อไปก็เรื่องของเขาเถอะ
ชานยอลมองคิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันบนหน้าคมด้วยความสงสัย คิดอะไรที่ทำให้เครียดอีกแล้วสินะ นิ้วเรียวจิ้มเข้าตรงหว่างคิ้วของอีกคน
"ไม่อยากให้พี่เครียด" บางอิ่มยิ้มน้อยๆเมื่อคริสดึงนิ้วของเขาเข้าไปจุ๊บแล้วขยับเข้ามาคลอเคลียร่างอุ่นๆของชานยอล
"นายรู้ว่าจะคลายเครียดให้พี่ยังไง.." สัมผัสชื้นจาบจวงเข้าลำคอขาวก่อนบทรักจะบรรเลงขึ้นมาอีกครั้งราวกลับย้อนเวลาไปเมื่อคืนเพียงแต่ครั้งนี้มันมีแต่ความอ่อนโยน นุ่มนวล ทะนุถนอม พวกเขาต่างหลงใหลกันและกัน
คริสขอผ่อนคลายก่อนจะไปสะสางปัญหาในวันพรุ่งนี้หน่อยก็แล้วกัน
------------------ Belong to you ----------------
เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ขายาวขาดๆสีซีดช่างเป็นชุดแสนธรรมดาแต่เมื่อมันถูกสวมใส่โดยอู๋อี้ฝานใครๆต่างก็มองว่ามันเพอร์เฟค ไม่ว่าชุดไหนที่ร่างสูงสวมใส่ต่างก็ออกมาดูดีทั้งนั้น Timberland สีน้ำตาลอ่อนย่างเหยียบเข้าไปในตึกที่มีป้ายเขียนไว้ว่า Wu Group พนักงานต่างโค้งให้กับอดีตผู้บริหารด้วยความเคารพเพราะคริสเป็นหัวหน้าที่ดีจึงมีแต่คนรัก
เลขาสาวสวยลุกขึ้นโค้งให้เมื่อเขาเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูที่มีป้ายเด่นหรา 'ผู้บริหารสูงสุด' ก็แค่ห้องทำงานเก่าเท่านั้นแหละ.. คริสผลักบานประตูเข้าไปก่อนจะพบกับผู้ชายที่เขารู้จักเป็นอย่างดีนั่งแทนที่ที่เขาเคยนั่ง แต่เขาก็แค่ตัวแทน ตอนนี้คนที่นั่งอยู่คือผู้บริหารตัวจริง
อู๋หลงมองร่างสูงด้วยสายตาเรียบนิ่งอย่างเคยเพียงแต่ครั้งนี้เขาสัมผัสได้ถึงความแปลกใจแต่ท่านประธานคงไม่ปล่อยให้ใครจับความรู้สึกง่ายๆหรอก
"มาทำไม" ไม่มีแม้แต่คำทักทาย คริสพาตัวเองมายืนอยู่หน้าโต๊ะที่ยังมีป้ายชื่อเขาอยู่เหมือนเดิม แต่แล้วจู่ๆประตูห้องพักผ่อนที่อยู่อีกโซนของห้องทำงานก็เปิดออกพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง
"พูดกับลูกดีๆหน่อย"
นั่นมันนางฟ้า .. นางฟ้าของอู๋อี้ฝาน
คริสเบิกตาโตเมื่อเธอเดินมาหยุดยืนตรงหน้าแล้วเอื้อมมือมาลูบผมเขาเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มที่อบอุ่นที่สุด
"แม่.."
...........................................................................................................
สวัสดี ไรท์เตอร์เอง
ก่อนอื่นเราต้องขอบคุณทุกคนที่อยู่เคียงข้าง คอยให้กำลังใจเราผ่านทางคอมเมนต์ แท็ก และโปรโมตให้
เราดีใจมากๆ ขอบคุณจากใจจริงๆ
ทุกตัวอักษรที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นเรื่องราวนี้ เราใส่ใจทุกคำ พยายามไม่ให้มีคำผิด
เราใส่ใจทุกรูปภาพแม้มันอาจจะไม่ได้สวยอะไร แค่อยากให้รู้ว่าเราใส่ใจ
เราอ่านทุกคอมเมนต์ ทุกแท็ก รู้สึกชื่นใจทุกครั้ง แม้มันจะไม่ได้เยอะมากมายแต่เราก็สนใจ
ฟิคตอนนึงเราใช้เวลาแต่งนานเพราะเราไม่ได้มีความสามารถมากขนาดนั้นแถมเวลาว่างก็มีไม่มากเท่าไหร่ด้วย
แต่ทุกวันที่เราเข้าดูกำลังใจจากทุกคนมันทำให้เรากลับมาแต่งต่อได้จนจบแต่ละตอน
"ฟิคอยู่ได้เพราะกำลังใจจากนักอ่านทุกคน"
วันนี้ไม่ได้จะมาดราม่า ต้นไม้ที่ทุกคนคอยรดน้ำ วันนี้มันยังไม่ตาย
มันโตขึ้นเรื่อยๆและกำลังจะออกดอก
แค่อยากมาบอกว่าอย่าลืมใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้ถ้าอยากให้ดอกมันออกมาสมบูรณ์
.
.
ไม่เอาหน่านักอ่านเงา สละเวลารดน้ำใส่ปุ๋ยให้เราสักนาที
สัญญาว่าจะรีบโตนะ
#ฟิคของคุณ
◈ B L & W H ◈
ความคิดเห็น