ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Fic exo} Belong to you : Krisyeol

    ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 15 :: Changing

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 633
      2
      30 พ.ค. 58



    15

    Changing

                   

                   
                    แก้วไวน์ทรงสูงถูกวางลงบนบาร์เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ แต่ถ้าดูจากปริมาณของเหลวในขวดแอลกอฮอล์ที่ค่อนไปแล้วกว่าครึ่งขวดไม่นับรวมที่หมดไปแล้วสองก็คงบอกได้คำเดียวว่าหนัก หลังจากที่ชานยอลกลับไปและแผนทุกอย่างพังไม่เป็นท่าคริสก็เปลี่ยนร้านกาแฟให้เป็นร้านเหล้าไปโดยปริยาย

                    "ผมว่าเก้อพอเถอะ เมามากแล้วเนี่ย" ลู่หานที่เฝ้าดูอยู่ห่างๆเดินเข้ามาดึงขวดแอลกอฮอล์ออกจากมือใหญ่ มองดูใบหน้าคมแดงกล่ำด้วยความเป็นห่วง

                    "ปล่อยฉันไว้คนเดียวเถอะ" ขวดถูกแย่งคืนกลับมาเทใส่แก้วจนเต็มก่อนจะยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด

                    "ไม่ได้หรอก ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ที่นี่แล้วนอกจากผมกับเก้อ ถ้าเกิดเก้อเมาหนักอ้วกใส่ร้านเมียผมขึ้นมาผมก็ซวยดิ" หวังว่ามันจะเป็นข้ออ้างที่ฟังขึ้นนะ

                    "กลัวเมียหรอเราน่ะ" ร่างสูงแซวพร้อมยีผมอีกคนจนต้องปัดออก

                    "ก็กลัวเหมือนที่เก้อกลัวนั่นแหละ" คริสชะงักไปชั่วขณะ ใช่.. เขากลัว.. กลัวว่าชานยอลจะไม่รัก

                    "หานหานจะนั่งเป็นเพื่อนฝานฝานเองเพราะงั้นมาดื่มกัน!" ร่างเล็กกระโดดขึ้นนั่งบนเก้าอี้ เอื้อมไปหยิบแก้วอีกใบแล้วรินของเหลวใส่ลงไปก่อนจะยกขึ้นมาตรงหน้า

                    "ให้เกียรติชนแก้วกับลู่หานหน่อยสิครับอู๋อี้ฝาน" คริสยิ้มบางๆ ยกแก้วขึ้นมาชนตามคำขอก่อนทั้งสองจะดื่มกันแบบไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไป ลู่หานไม่กลัวว่าหมิ่นซอกจะว่าหรอกเพราะรายนั้นน่ะเป็นคนบอกให้เขามาเองเลยน่ะสิ ขอแค่อี้ฝานผ่านค่ำคืนที่แสนโหดร้ายนี้ไปได้ก็พอแล้ว

                   

     

     

    ------------------ Belong to you ----------------

     

     

     

                    เสียงนกร้องขานในยามเช้าดังแว่วมาจากทางหน้าต่าง ดวงตากลมเหม่อลอยกับร่างกายที่อ่อนแรงเพราะขาดการพักผ่อน ชานยอลไม่ได้นอนทั้งคืน เขานึกสมเพชตัวเองที่กล้าทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดแต่สุดท้ายก็กลับมานั่งเสียใจเพราะผู้ชายคนนั้นอยู่ดี เขาเกลียดคำหวานที่สร้างภาพราวกับถูกโอบอุ้มด้วยความรักหมดทั้งใจ เกลียดการกระทำที่หลอกลวง เกลียดเพียงเพราะมันไม่ได้เกิดกับเขาเพียงคนเดียว

                   

                   

                    ลับหลังปาร์คชานยอล อู๋อี้ฝานทำแบบนี้กับใครบ้าง?

                 แค่คิดก็ยิ่งเกลียด..

     

     

                    ไม่อยากจะยอมรับนักว่าเขาร้องไห้อย่างหนักตลอดคืนที่ผ่านมาในห้องสี่เหลี่ยมมืดสนิทที่เมื่อก่อนมันเคยหอมหวานยิ่งกว่าลูกกวาดในโหลสีชมพูดสดใส เหนือสิ่งอื่นใด ชานยอลไม่อยากยอมรับเลยว่าความรู้สึกที่มีให้คริสนั้นช่างพิเศษเหลือเกิน เกินกว่าที่เขาจะไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปเมื่อคืน หากวันนี้บ้านทั้งหลังจะกลับมาเงียบเหงาเหมือนที่ผ่านมาเขาจะไม่โทษสิ่งใดนอกจากโทษตัวเอง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                    Jaguar XJ ขับเคลื่อนเข้าสู่ตัวบ้านดูแปลกตาสำหรับคนงานหลายคนนัก แต่เมื่อเจ้าของรถคันหรูเดินลงมาคนงานทุกคนต่างค้อมตัวคำนับ อู๋หลง เจ้าพ่อใหญ่แห่งกวางโจวหรือบิดาแท้ๆของอู๋อี้ฝาน ใบหน้าที่เหี่ยวย่นไปตามกาลเวลาบ่งบอกว่าเจ้าตัวอายุไม่น้อย แต่ด้วยท่าทางสง่าดูน่าเกรงขามนั่นชวนให้ผู้พบเห็นต่างหวาดกลัวไปตามๆกัน แม่บ้านใหญ่ของบ้านจึงเข้ามาต้อนรับนายใหญ่ด้วยตัวเอง

                    "สวัสดีค่ะนายใหญ่ ตอนนี้นายน้อยไม่อยู่บ้าน ดิฉันไม่ทราบว่าท่านจะมาเลยไม่ได้เรียนให้นายน้อยทราบก่อนค่ะ" หญิงชราโค้งเป็นการขออภัย

                    "ไม่เป็นไร ฉันมาแปบเดียวเดี๋ยวก็กลับแล้ว"

                    "แต่นายน้อยไม่อยู่นะคะ" เธอย้ำ คนเป็นนายส่ายหัวเบาๆก่อนจะถอนหายใจ ใบหน้าเรียบเฉยแต่สายตามุ่งตรงเข้าไปในตัวบ้าน

                    "ฉันไม่ได้มาหาอี้ฝาน"

     

                   

                    เจ้าพ่อใหญ่เดินไปรอบๆบ้านที่เขาไม่ได้มาเสียนาน แม้เวลาผ่านไปแค่ไหนแต่ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิมตามแบบฉบับของอู๋อี้ฝาน ดวงตาคมดุจเหยี่ยวที่ถ่ายทอดไปให้กับลูกชายกวาดสายตามองหาสิ่งที่เขาต้องการ แต่แล้วเสียงเปียโนก็ดังขึ้นเรียกความสนใจและที่นั่นมันมีสิ่งที่เขาต้องการ

     

                    เด็กหนุ่มหน้าตาหวานหยด ผิวขาวนวล เจ้าของดวงตากลมสดใสกำลังบรรเลงเพลงแสนเศร้าแต่ช่างไพเราะจนนายใหญ่ยืนฟังจนโน้ตตัวสุดท้ายสิ้นสุดลงแล้วทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้น..

     

                    "ปาร์คชานยอลใช่ไหม?" อู๋หลงเดินไปหยุดอยู่ที่เปียโนสีขาวในห้องนั่งเล่น มองเด็กหนุ่มที่รีบลุกขึ้นด้วยความตกใจ ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆโค้งให้ตามมารยาท

                    "ชะ..ใช่ครับ" ใบหน้าหวานเลิกลั่ก ชานยอลไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นใครแต่ก็พอจะเดาได้จากบอดี้การ์ดที่ตามมามากกว่าที่คริสมี

                    "ฉันจะคุยกับเด็กคนนี้เพียงลำพัง" ประโยคบอกเล่าที่ทำให้คนทั้งหมดเดินออกไปจนเหลือแต่ปาร์คชานยอลและอู๋หลง ทั้งสองเดินมานั่งที่โซฟาตัวยาวหน้าทีวี

                    "รู้รึเปล่าว่าฉันคือใคร?" คนอายุมากกว่าเอ่ยถามเด็กผู้ชายที่มองมาที่เขา

                    "ไม่ทราบครับ" แต่ถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะเป็น...

                    "ฉันเป็นพ่อของอู๋อี้ฝาน" ชานยอลหลบสายตาคมที่เปี่ยมไปด้วยความมาดมั่น สงบนิ่งจนไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอย่างไร

                    "แล้วเธอล่ะปาร์คชานยอล.. เธอเป็นอะไรกับอู๋อี้ฝาน?" ร่างโปร่งกำลังกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก น้ำเสียงและดวงตาที่จ้องเข้ามาทำให้รู้ว่านั่นไม่ใช่คำถาม ไม่ใช่เลยสักนิด

                    ความเงียบปกคลุมไปทั่วห้องเมื่อชานยอลไม่สามารถตอบคำถามได้และเป็นคำถามที่เขาไม่เคยตอบได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาอยู่ที่นี่ในสถานะอะไร? คำพูดที่คริสเคยบอกกับคนในบ้านตอนนี้มันคงเป็นแค่เรื่องตลกเรื่องนึงก็เท่านั้น

                   

                    "อี้ฝานกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ฉันเลือกให้ ซึ่งนั่นหมายความว่าเขามีคู่หมั้นคู่หมายที่กำลังจะกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ฉันอยากให้เธอรู้ไว้" ราวกับโลกทั้งโลกของชานยอลหยุดหมุน เขากำลังพยายามที่จะกลั้นน้ำตาที่ใกล้จะไหล แม้ภาพตรงหน้าจะเบลอแต่เขาก็รู้ว่ามือทั้งสองข้างกุมและบีบเข้าหากันอย่างอ่อนแรง

                    "ถ้าเธอจะเป็นน้องชายฉันก็อยากให้รู้ว่าฉันมีลูกชายแค่สามคน และสุดท้าย.. ฉันไม่อนุญาตให้เพื่อนหรือคนอื่นมาพักที่นี่ ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดนะ" นอกจากโลกหยุดหมุนแล้วชานยอลกำลังรู้สึกว่าตัวเองหน้าชา ทุกๆคำพูดของนายใหญ่กำลังหักหน้าเขาอย่างไม่ใยดี เหมือนเข็มนับพันพุ่งตรงเข้าแทงหัวใจเขาจนมันแทบจะหยุดเต้นอยู่ร่อมร่อ เหมือนเขากำลังจะขาดใจตายอยู่ตรงนี้..

                    "เข้าใจครับ" เสียงทุ้มตอบรับรู้กับทุกสิ่งที่ได้ยิน แม้ในใจจะไม่ยอมรับฟังเลยก็ตาม

                    "ขอบใจ" แล้วความมาดมั่นสง่างามนั่นก็จากไปทิ้งไว้เพียงความเสียใจที่ใกล้จะหยุดหายใจอยู่เต็มที...

     

                    ในที่สุดปาร์คชานยอลก็หาคำตอบให้กับคำถามที่เขาไม่เคยตอบได้

                    'ชานยอลเป็นอะไรกับคริส?'

                    เราไม่ได้เป็นคนรัก

                    ไม่ได้เป็นเพื่อน

                    ไม่ได้เป็นน้อง

                    ไม่ได้เป็นคนรู้จัก

                    และเราก็คงไม่ได้เป็นอะไรกันเลย...     

         

     

     

     

    ------------------ Belong to you ----------------

     

     

     

                    ลมเย็นที่ปะทะเข้าใบหน้าย้ำเตือนว่าเรื่องเลวร้ายตอนนี้คือเรื่องจริง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนที่คริสพาร่างอ่อนล้าของตัวเองมายืนอยู่ข้างแม่น้ำฮัน ปล่อยความคิดให้ฟุ้งกระจายถ้าทำได้ก็คงอยากฝากความทุกข์ทิ้งไปกับสายลม ตาคมหลับลงช้าๆแล้วภาพเหตุการณ์เมื่อคืนก็ฉายขึ้นมาซ้ำๆ เขาไม่รู้ว่าทำไมทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้ ดอกลิลลี่ขาวที่ตกลงพื้นก็คงช้ำเหมือนกับใจของเขา คริสเหนื่อยกับการแบกทุกอย่างไว้เหลือเกิน

     

                    "ฝานกลับไปผ่อนพักเถอะ สภาพตอนนี้ดูไม่ได้เลยอ่ะ ยังกับศพ" ลู่หานที่ถูกเขาบังคับให้พามาที่นี่เริ่มประท้วง แต่ก็เป็นคนเดียวที่ยืนอยู่ข้างเขาเสมอและรู้ทุกเรื่อง แม้แต่ความเครียดที่เขาแบกพร้อมกับการกลับมา

                    "ก็คงจะเป็นอย่างงั้น ฉันรู้สึกเหมือนคนตายที่ยังหายใจอยู่" ปากหยักยกยิ้มตอกย้ำกับความคิดตัวเอง

                    "จะตายได้ไง เก้อห้ามทิ้งผมนะ" คนหน้าสวยเข้าสวมกอดร่างสูงเพื่อปลอบโยน ซบหน้าลงกับอกหนาฟังเสียงหัวใจที่เต้นเบาบางลงไปทุกนาที ทำไมความรักถึงทำร้ายกันได้ขนาดนี้..

                    "ไม่ทิ้งหรอกหน่า" คริสลูบผมคนในอกและกอดตอบเพื่อรับกำลังใจที่อีกฝ่ายมีให้ นึกตลกในความสัมพันธ์ยุ่งๆของพวกเขาทั้งสองคน คริสเคยเจ็บช้ำเพราะลู่หานจนไม่อยากเจอหน้าสวยๆนี่อีก แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าคนตัวเล็กเป็นน้องชายที่น่ารักคนหนึ่งเท่านั้น ความรู้สึกรักไม่มีเหลืออยู่แล้ว คงเพราะเขาให้ใครอีกคนไป เพราะคริสรักใครได้ทีละคน..

     

                    ทั้งสองเดินเล่นกันไปเรื่อยเปื่อยจนตอนนี้ร่างสูงผ่อนคลายไปมากกว่าเดิมแล้ว มือเล็กคอยกุมมือที่ไร้เรี่ยวแรงให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง คริสโชคดีที่มีลู่หานอยู่ข้างๆ คนตัวเล็กเห็นมาหมดทุกด้านของเขาแล้วจริงๆแม้กระทั่งในยามที่อ่อนแอที่สุด ฟ้าคงส่งลู่หานมาให้เป็นเพื่อนที่ปรึกษามากกว่าคนรัก คริสรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจริงๆ

     

                    "ฝานฝานพร้อมกลับบ้านรึยัง?" ตาใสสบตาคม มองเห็นความเข็มแข็งที่กำลังก่อตัวขึ้น

                    "คนอย่างอู๋อี้ฝานไม่เคยกลัวอะไร" นี่สิคริสอู๋ที่เขาเคยรู้จัก ต่อให้ปัญหามันใหญ่โตแค่ไหนก็แก้ไขจนผ่านมันมาได้เพราะฉะนั้นครั้งนี้ก็ต้องผ่านมันไปได้เช่นกัน

     

                    รถหรูเคลื่อนตัวออกจากสวนสาธารณะโดยที่ไม่รู้เลยว่า 'บ้าน' กำลังเปลี่ยนไป...

     

     

     

     

    ------------------ Belong to you ----------------

     

     

     

                    น้ำสีใสยังคงหลั่งไหลไม่หยุดหลังจากเหตุการณ์นั้น ทั้งที่พยายามเช็ดมันจนแก้มขาวๆขึ้นสีแดงเป็นริ้ว ชานยอลนอนอยู่บนเตียงคิงไซส์หลังเดิม สะอื้นไห้ราวกกับจะขาดใจปิดตายให้ห้องมีเพียงเขาคนเดียว ได้ยินเสียงหัวใจที่ยังคงเต้นอยู่แต่ไม่รู้ว่ามันเต้นเร็วแค่ไหนเพราะไม่ได้สนใจจะฟังมัน สมองเขามีแต่ภาพความทรงจำฉายชัดจนทำให้น้ำตาไหลไม่หยุด เรื่องร้ายและดีปะปนกันไปหมด เขาจำได้ว่าเคยอยู่ในสภาพนี้ตอนที่คริสหายไป แต่ครั้งนี้มันเจ็บปวดกว่านั้น เจ็บจนคิดว่ามันคงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้

     

                    เพราะตอนนี้คงไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

     

                    เขาก็คงเหมือนกับสัตว์เลี้ยง เหมือนสุนัขที่รับมาเลี้ยงใหม่ๆก็มักจะได้ความสนใจจากเจ้าของ ได้ความรัก ได้ความใส่ใจ ได้ความสุขแบบที่สุนัขจรจัดตัวหนึ่งไม่เคยได้ แต่ยิ่งนานวันความตื่นเต้นก็ค่อยๆลดลงไป จากที่เคยให้ความสนใจกลับกลายเป็นเบื่อ สุนัขตัวเดิมที่เห็นทุกๆวันมันน่าเบื่อ..

                    แล้ววันหนึ่งเจ้าของก็กลับมาพร้อมกับสุนัขตัวใหม่พันธุ์ดีและราคาแพง แล้วสุนัขข้างทางจรจัดจะเอาอะไรไปสู้ โชคร้ายซ้ำเล่าเมื่อผู้ปกครองของเจ้าของไม่ต้องการสุนัขจรจัดอีกต่อไป มันก็คงจะต้องกลับไปเป็นสุนัขจรจัดเหมือนเดิม..

     

                    เป็นหมาหัวเน่าที่วันนี้ไม่เหลือใคร

     

     

                    เสียงสะอื้นดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อคิดถึงความจริงว่าตอนนี้เขาไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่เหลือใครและไม่เหลืออะไร ชีวิตปาร์คชานยอลนี่มันบัดซบสิ้นดี ได้เปลี่ยนสถานภาพเป็นหมาบ้านมีเจ้าของดีๆแล้วก็ต้องกลับไปเป็นหมาจรจัดคลุกคลีฝุ่นเหมือนเดิม น่าสมเพชจริงๆ

     

    ก๊อกๆ

     

                    ร่างโปร่งสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ มือขาวยกขึ้นปาดน้ำตาอีกครั้งก่อนจะหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนอีกฝั่งของประตู..

     

                    "ชานยอลครับ"

     

     

                   

                    เจ้าของชีวิตหมาจรจัดอย่างเขา..

     

     

     

    ...........................................................................................................

     

    เป็นไง ใครจองบัตรไม่ทันบ้างงงงงง 55555 (ในเลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่)

    เสียใจด้วยนะคะคุณไม่ได้ไปต่อ แต่ไม่เป็นไรค่ะเราจะเป็นเพื่อนติ่งหน้าคอมไปด้วยกัน เฮ้!

    มากลับเข้าเรื่องของเรากันดีกว่า -..-

    อู๋หลง คือชื่อที่เราคิดไม่ออกแล้วจริงๆ มันเกือบจะเป็นชื่อชาอ่ะนะ 5555

    พ่อพี่คริสร้ายกาจมากกกกก ทำร้ายจิตใจน้องชานยอลที่แสนบอบบางจนชอกช้ำ

    จะบอกว่าเขียนจากประสบการณ์ตรง โดนไล่ออกจากบ้าน ติดแท็กเลย #ร้องไห้หนักมาก

    ตอนหน้าตีกันน้ำแตกแน่ 555555555555555555555555555555555555555555

    เมื่อกี้พิมพ์คำไหนผิดไปรึป่าวนะ... งืม

    เจอกันตอนหน้าดีกว่า อิ้อิ้

    ขอบคุณทุกคนมากๆนะ จุ๊บๆ

    #ฟิคของคุณ

    T H E M E
    ◈ B L & W H ◈
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×