ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Fic exo} Belong to you : Krisyeol

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8 ::The past and the future

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 57




    8

    -- The past and the future --

     

    อดทน..

    อดทน..

    อดทนไว้ชานยอล

                   

                    คนหน้าหวานได้แต่สูดลมหายใจเข้าออกสงบสติอารมณ์เอาไว้กับการกระทำกวนประสาทของคนหน้าสวยเพราะทุกครั้งที่ชานยอลพยายามจะเดินหนีลู่หานก็เดินตามมากล่าวคำเสียดสีใส่อยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  

                    "นายเข้ามาอยู่บ้านนี้ในฐานะอะไร?" มันคือคำถามที่ทำให้ชานยอลอยากจะกรอกตาใส่รัวๆ ลู่หานเดินตามมาถามแบบนี้เป็นรอบที่ 3 พร้อมด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามสุดๆ หน้าหวานหันมาหาอีกคนด้วยความรำคาญจากการถูกสะกิดถี่ๆ กรอกตาลงเล็กน้อยเพื่อมองหน้าสวยๆของคนกวนประสาท เอาจริงๆแอบขำเบาๆกับส่วนสูง...

                    "เตี้ย" เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบาแล้วเสมองไปทางอื่น ลู่หานขมวดคิ้วเพราะสงสัยว่าอีกคนพูดอะไร เขาไม่ได้ยินวาจาแสนแสบนั่นเลยจริงๆ

                    "ห๊ะ? ฉันถามว่านายเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร คนใช้? ทาส? เบี้ยล่าง? หรือตุ๊กตายางกันละ?" มุมปากสวยยกยิ้มร้าย คำพูดแสนดูถูกทำให้ชานยอลกำมือแน่น ดวงตากลมจ้องหน้าสวยอย่างขุ่นเคือง ไม่ว่าจะฐานะไหนที่หน้าสวยหยิบยกมาให้ต่างก็ตั้งใจจะกระแทกแดกดันทั้งสิ้น แต่ความอดทนของชานยอลยังมีเหลืออยู่ แม้จะเหลือเพียงนิดเดียวก็เถอะ...

                    "เตี้ย..." พูดได้แค่นี้.. ผมจะไม่สร้างเรื่องนะครับพี่คริส ท่องไว้ชานยอล ท่องไว้..

                    "พึมพำอะไรอยู่ได้ ตอบฉันมาสิว่านายมาอยู่ในฐานะอะไรหรือมาเกาะฟานฟานเพราะเห็นว่ารวยใช่มั้ย นายคงไม่มีปัญญาหาเลี้ยงตัวเองก็เลยเอาตัวเข้าแลก ใช่มั้ย ตุ๊กตายาง..." ร่างโปร่งเซถอยหลังเล็กน้อยจากการถูผลัก หมดแล้ว.. เส้นด้ายความอดทนของชานยอลขาดออกจากกันแล้วจริงๆ ขอโทษนะครับพี่คริส ...แต่ผมคงทนให้ใครมาดูถูกผมต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ

                    "เมีย.. ผมมาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียของพี่คริส พอใจรึยัง" หน้าหวานจ้องสบตาสวยเขม็ง แต่ลู่หานกลับหัวเราะเสียงดังออกมาเสียอย่างนั้น

                    "เมียหรอ? คิดไปเองฝ่ายเดียวละสิ อย่างนายเนี่ยนะจะมาเป็นเมียฟานฟาน ฝันรึเปล่า?" เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังก้องไปทั่วบ้านแต่มันคงดังไม่เท่าในใจของชานยอล

                    "แล้วทำไมชานยอลจะเป็นเมียฉันไม่ได้ละลู่หาน.." แล้วเสียงทุ้มต่ำดั่งเจ้าชายขี่ม้าขาวก็เข้ามาแทรกระหว่างบทสนทนา คริสยืนมองเหตุการณ์ตั้งแต่แรกก่อนจะโผล่งเข้ามาด้วยความสงสัยกับคำพูดของหน้าสวย ชานยอลไม่เหมาะจะเป็นเมียอี้ฟานหรอ?

                    "ฟานฟานมาตอนนี้ทำไมเนี่ย ไม่หนุกแล้ว หึ!" ลู่หานเบ้หน้าแสดงท่าทางฟึดฟัดกอดอกเหมือนเด็กถูกขัดใจ ตาสวยมองค้อนคนตัวสูงที่กำลังเดินเข้ามาใกล้

                    "มาขู่ชานยอลแบบนี้ทำเป็นตัวร้ายในละครน้ำเน่าไปได้ มันน่าสนุกตรงไหนเนี่ย" มือใหญ่ยกขึ้นยีผมตัวแสบด้วยความหมั่นเขี้ยว แต่ลู่หานกลับปล่อยหมัดสวนเข้าท้องแกร่งดังปัก

                    "ทำไมเก้อเอาผู้ชายมาเป็นเมีย สาวสวย หน้าคม นมใหญ่ ขาเรียวก็มีตั้งเยอะแยะ กระดิกนิ้วเรียกก็มาแล้ว แต่นี่อะไร หน้าก็โคตรหวาน นมแบนเรียบ ขาโก่งอีก ที่สำคัญเป็นผู้ชาย!" ลู่หานบรรยายลักษณะพร้อมชี้นิ้วไปยังส่วนต่างๆของร่างโปร่งก่อนจะกรอกตาใส่

                    "ถึงชานยอลจะไม่มีนมมีก้นขาเรียวเหมือนผู้หญิงทั่วไปก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ฉันไม่ได้มีเมียเพื่อเรื่องอย่างว่าอย่างเดียวหรอกนะ ที่สำคัญต่อให้ฉันกระดิกนิ้วเรียกจนนิ้วหักชานยอลก็ไม่วิ่งแจ้นมาเสนอตัวเหมือนคนอื่นๆ เขามีค่ากว่าผู้หญิงพวกนั้น" กลายเป็นว่าที่ตรงนี้มีเพียงหน้าคมกับหน้าสวยที่ยืนเถียงกันเอาเป็นเอาตายโดยมีต้นเหตุยืนงงอยู่ข้างๆ หน้าหวานแอบยิ้มกับคำพูดของคริสน้อยๆ ...คริสกำลังพูดเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของเขา

                    "เก้อ! นี่ไปหลงอะไรในตัวมันนักหนา โดนมันทำเสน่ห์ใส่รึไง!"

                    "เลิกพูดเหมือนหลุดมาจากละครน้ำเน่าสักทีเถอะหน่า แล้วคำถามว่าชานยอลมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร ฉันจะบอกให้รู้ไว้ตรงนี้เลยนะว่า เมีย หรือให้ชัดๆเลยคือ เมียของอู๋อี้ฟานโดยสมบูรณ์แบบ เข้าใจนะ" ร่างสูงพูดเสียงดังลั่นทั่วบริเวณบ้านเอาให้ลูกน้องทุกคนรู้โดยทั่วกัน

                    "เก้ออ่ะ! ไม่ได้ดั่งใจเลยไปหาจ๊อกดีกว่า เชอะ!!" แล้วคนหน้าสวยก็สะบัดตูดเดินออกจากบ้านไป คงเหลือแต่ชานยอลที่ยืนเหวอสมองประมวลผลกับประโยคเมื่อกี้อยู่ มันอึ้งๆนะ งงๆด้วย สับสนที่สุดอ่ะ เมื่อกี้พี่คริสพูดว่าไรนะ เห้ยเกิดอะไรขึ้นอ่ะแก เห่นโล่ววว หวัดเด้~

                    "ชานยอล"

                    "......"

                    "ปาร์คชานยอล"

                    "......"

                    "เมียครับ"

     

                    ชัดเจน....!   

     

     

    ---------- Belong to you ----------

     

     

     

                    Bentley สีดำหม่นเคลื่อนตัวออกจากประตูบ้านจนหายลับไปจากสายตาของชานยอล ปากเล็กพ่นลมหายใจออกมาแผ่วเบาอย่างโล่งอก ตอนนี้บ้านทั้งบ้านเงียบสนิทเหลือเพียงแค่เขากับแม่บ้านอีกไม่กี่คน ขาเรียวสาวเท้าเดินสำรวจตัวบ้านอย่างสนอกสนใจ ห้องทุกห้องถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวสลับดำคลาสสิคบ่งบอกถึงสไตล์ของเจ้าของบ้าน แม้จะมีเนื้อที่กว้างขวางแต่ทุกบริเวณกลับถูกแต่งเติมด้วยสวนสวยๆ ร่างโปร่งก้าวเท้าที่เปลือยเปล่าเหยียบลงบนหินในสวนข้างบ้านสัมผัสได้ถึงความเย็น ที่นี่มีน้ำตกและลำธารเล็กๆสำหรับสวนย่อมในบ้าน การปล่อยเท้าเปล่าๆให้เหยียบย่ำลงบนสิ่งที่เป็นธรรมชาตินั้นช่างเป็นความรู้สึกที่สบายมากจริงๆ

                    ก้นกลมทิ้งตัวนั่งลงบนม้านั่ง ทอดดวงตาใสมองไปยังน้ำตกข้างหน้า สมองของเขายังคงย้ำคิดแต่เรื่องของผู้ชายคนนั้น ...คิมจงอิน

                    "ฟู่ว~" ลมหายใจถูกถอดถอนออกมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมดก่อนเปลือกตาบางจะค่อยๆปิดลงข่มความฟุ้งซ่านทั้งหมด แต่ก็เหมือนจะไร้ประโยชน์เมื่อยิ่งพยายามจะลืมกลับยิ่งจำ ภาพเรื่องราวในอดีตฉายชัดขึ้นมันท่ามกลางความมืดมิดเมื่อหลับตา

                    "อยากลืมฉันขนาดนั้นเลยหรอ" เสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เสียงที่ชานยอลไม่อยากอยากจะได้ยินในเวลานี้เลย ไม่จริงหรอก มันไม่ใช่เขาแน่ๆ เสียงที่ได้ยินมันก็แค่สิ่งที่เราคิดไปเอง

                    "....."

                    "ปาร์คชานยอล.. เรื่องของเราฉันยังจำมันได้หมดเลยนะ"

                    "....."

                    "จะไม่หันมามองหน้ากันหน่อยหรอ"

                    "....."

                    "นายยังชอบเล่นกีตาร์เหมือนเดิมรึเปล่า แล้วเวลาตื่นนอนยังสะบัดผมให้มันเป็นทรงเหมือนเมื่อก่อนมั้ย เวลาฉันไปส่งนายที่ทำงานมันตลกมากนะที่ผู้หญิงพวกนั้นเอาแต่ซุบซิบเรื่องของเรา ฉันยังจำไอติมช็อกโกแลตในสวนสนุกว..."

                    "พอ.. พอได้แล้ว! นายจะพูดถึงมันอีกทำไม ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอดีตไปก็ดีอยู่แล้ว ฮึก.. นายน่ะก็ได้แค่จำแต่ไม่เคยรู้สึก นายมันไม่มีความรู้สึก!" นิ้วเรียวถูกยกขึ้นมาปาดน้ำใสที่ปลายหางตา เขาสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่ยอมเสียน้ำตาให้กับผู้ชายคนนี้อีก ก็แค่คนใจร้ายคนหนึ่ง...

                    ทั้งๆที่เวลาก็ผ่านมาเนิ่นนานแล้วแต่ความทรงจำมันยังแจ่มชัดราวกับทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เขาอยากจะลืม ...ลืมว่าเคยรักคนใจร้าย

                    "ฮึก.." กลีบปากเล็กเม้มเข้าหากัน กลืนเสียงสะอื้นลงไปในลำคอ ชานยอลไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองอ่อนแอกับเรื่องนี้มากเพียงใด เหมือนกับคนโง่ที่ย้ำคิดในเรื่องเดิมที่ทำให้เจ็บอยู่ซ้ำๆ

                    จงอินมองร่างโปร่งแสนคุ้นเคยจากด้านหลัง หน้าหวานยังคงนั่งหันหลังให้กับเขาที่ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ จงอินรู้ว่าชานยอลกำลังร้องไห้ นัยน์ตาใสที่เปล่งประกายเหมือนดวงดาวนั้นไม่เหมาะสมกับน้ำตาเลยสักนิด เขายังจำภาพดวงตาที่แดงกล่ำพร้อมกับเสียงร้องไห้ที่ครางเครือนั้นได้ดีและสิ่งที่เขาทำได้ก็เพียงแค่กอดผู้ชายคนนี้เอาไว้ให้แน่นที่สุด แน่นพอที่น้ำตาจะหยุดไหลแล้วแก้วตาใสจะกลับมาเปล่งประกายอีกครั้ง

                    "ชานยอลอ่า.." กลุ่มผมสีดำนุ่มถูกมือใหญ่สัมผัสปลอบอย่างอ่อนโยน น้ำตาที่เหมือนจะแห้งหายไปก็กลับรื้นขึ้นมาเอ่อคลออีกครั้ง ชานยอลเบี่ยงตัวหลบความหวั่นไหวนั้นช้าๆ สัมผัสจากมือใหญ่ยังคงอบอุ่นเหมือนในวันวาน ความอบอุ่นที่ชานยอลชอบนักชอบหนาและโหยหามันมาตลอด

                    "ไคไม่อยากเห็นยอลร้องไห้" หน้าหวานสะอึกกับสรรพนามที่อีกคนยกมาใช้ ..ไคกับยอล มันเป็นชื่อที่เราใช้เรียกกันสองคนเท่านั้นแล้วน้ำเสียงอ่อนแสดงความเป็นห่วงที่เหมือนกับจะฆ่าคนฟังขนาดนี้ ชานยอลคงทำได้เพียงแค่ปล่อยให้น้ำตามันหยดลงไหลผ่านพวงแก้มใสอีกครั้ง

                 
                    ...แต่มันเป็นอีกครั้งที่ผ่านมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

     

                    "ทำไมถึงเป็นฉันคนเดียวที่เสียน้ำตาให้กับนายซ้ำๆ" ร่างโปร่งก้มหน้าลงเพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับอีกคน เขายังไม่พร้อมสำหรับการเสียน้ำตาที่มากกว่านี้ จงอินเป็นอดีตที่ไม่สามารถลืมเลือนไปได้เลยจริงๆ หัวใจเขายังคงสั่นไหวทุกครั้งที่อยู่ใกล้แม้กระทั่งในตอนนี้กับสัมผัสอุ่นๆบนไหล่ขวา แค่สัมผัสก็ทำให้ปาร์คชานยอลสั่นไหวไปแล้วทั้งใจ

                    "มันไม่ใช่แค่นายคนเดียวหรอก" จงอินบีบไหล่บางเบาๆเพื่อย้ำในสิ่งที่เขาพูด หน้าหวานยกยิ้มชั่งใจกับคำพูดที่เสมือนกับดัก ตอนนี้สมองกับหัวใจของเขามันตีกันไปมาระหว่างคำว่า 'อยากกลับไปเริ่มต้นใหม่' และ 'จะไม่กลับไปเสียใจอีกครั้ง' แล้วตัวเลือกไหนกันที่เขาควรจะเลือกระหว่าง สมอง กับ หัวใจ ...

                    "เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" ปากเล็กเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย จงอินกระตุกยิ้มกับการตัดสินใจของคนตรงหน้าที่จนถึงตอนนี้ก็ยังคงหันหลังให้กับเขา

                    "ฉันพยายามอย่างสิ้นหวังในการลืมเรื่องของเรา แต่จนถึงตอนนี้ภาพทุกอย่างยังคงวนเวียนอยู่ในความทรงจำของฉันไม่เคยหายไปเลย" จงอินโน้มตัวลงฝากจูบอุ่นๆแสนอ่อนโยนไว้บนกลุ่มผมหอมแผ่วเบา

                    " ...ไคไม่เคยลืมยอลได้เลย" เมื่อประโยคสุดท้ายจบลงน้ำตาใสที่กลั้นไว้ก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ หัวใจที่ถูกแช่แข็งมาเนิ่นนานราวกับโดนไฟรนจนหลอมละลายให้กับอุ่นไอของจงอินที่ค่อยๆหันหลังเพื่อเดินจากไป

                    กลีบปากสีสดถูกกัดด้วยความสับสน น้ำตายังคงไหลล่วงล่นอาบแก้มขาว ใจดวงน้อยสั่นไหวอย่างไร้การควบคุม เขาควรจะทำอย่างไร ชานยอลกำลังจะบ้าตายกับความรู้สึกที่ตีกันวุ่นวาย ได้แต่ท่องไว้ว่ามันคือ อุบาย คือการแสดงแสนหลอกลวง คือหลุมพราง ทุกสิ่งทุกอย่างคือกับดัก

                   
                   "ไค.."

                   
                    แต่อะไรมันจะไปหยุดหัวใจที่ถูกหลอมละลายด้วยไออุ่นแห่งรักได้ในเมื่อสุดท้ายปาร์คชานยอลก็ยังคงพ่ายแพ้ให้กับหัวใจตัวเอง ต่อให้เรื่องที่จบไปมันจะผ่านมาเนิ่นนานแค่ไหนก็ยังแพ้ให้กับผู้ชายคนนี้ แพ้ให้กับคิมจงอิน ร่างโปร่งลุกเดินเข้าไปสวมกอดรักแรกจากด้านหลังแล้วฟุบหน้าลงกับลาดไหล่แกร่งที่โหยหามาตลอด

                   

                    ...ถึงต่อให้มันเป็นกับดักที่ร้ายแรงแค่ไหน

                ปาร์คชานยอลก็ยอมได้ถ้ามันเป็นของคิมจงอิน. 

     

     

     

    ---------- Belong to you ----------

     

     

                    ประตู Bentley สีดำถูกปิดลงด้วยมือใหญ่ผิวสีคล้ำก่อนเจ้าตัวจะเดินอ้อมไปนั่งเบาะข้างคนขับในสถานะคนดูแลอู๋อี้ฟาน จงอินชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจบอกคนเป็นนายในสิ่งที่ตัวเองเห็นมา

                    "เจ้านายครับ เมื่อกี้ผมเห็นคุณลู่หานกำลังด้อมๆมองๆชานยอลอยู่... จะให้ผมทำอะไรมั้ยครับ?" ดวงตาดำเข้มเหลือบมองคริสเพื่อรอรับคำสั่ง คนเป็นนายจุดยิ้มที่มุมปากขบขันกับความร้ายกาจของคนหน้าสวย หน้าคมรู้ดีว่ามันต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแน่ๆจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ลู่หานน่ะร้ายเล่นๆซะที่ไหน ครั้งนี้คริสจึงสั่งให้จงอินคอยสังเกตพฤติกรรมที่น่าสงสัยเอาไว้เพื่อจะได้แก้ไขได้ทันและมันกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีนี้

                    "เดี๋ยวฉันลงไปจัดการเดี๋ยวนี้แหละ เรื่องนัดนายช่วยถ่วงเวลาให้สักหน่อยนะ ฉันไปไม่นาน" พูดจบคริสก็เดินย่องลงจากรถอย่างเงียบเชียบก่อน Bentley จะเคลื่อนตัวออกไปเพื่อแกล้งหลอกให้ลู่หานตายใจ ขายาวย่างก้าวอย่างชำนาญตรงไปยังประตูข้างตัวบ้านก่อนจะเข้าไปแอบมองเหตุการณ์ทั้งหมด

                     "นายเข้ามาอยู่บ้านนี้ในฐานะอะไร?" เสียงเล็กถูกเปล่งออกมาเป็นรอบที่สาม ทุกอย่างอยู่ในสายตาคม คริสเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าชานยอลจะทำยังไง แต่มุมนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะเขาเห็นแค่ด้านหลังของร่างโปร่งเท่านั้น แอบเห็นลู่หานขมวดคิ้วยุ่งเหยิงไปหมด ชานยอลทำอะไรกันนะ....?

                    "พึมพำอะไรอยู่ได้ ตอบฉันมาสิว่านายมาอยู่ในฐานะอะไรหรือมาเกาะฟานฟานเพราะเห็นว่ารวยใช่มั้ย นายคงไม่มีปัญญาหาเลี้ยงตัวเองก็เลยเอาตัวเข้าแลก ใช่มั้ย ตุ๊กตายาง..." แรง บอกได้เลยว่าแรง คริสขำในลำคอเบาๆกับบทละครน้ำเน่าที่ลู่หานเปล่งออกมา สงสัยจะดูละครมากไปนะคนดี

                    "เมีย.. ผมมาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียของพี่คริส พอใจรึยัง" ตาคมเบิกกว้าง หูผึ่งกับสิ่งที่ได้ยิน เขาไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย? ชานยอลก็ร้ายใช่เล่นนะ หึ...

                    "เมียหรอ? คิดไปเองฝ่ายเดียวละสิ อย่างนายเนี่ยนะจะมาเป็นเมียฟานฟาน ฝันรึเปล่า?" อ่า... นางร้าย นี่มันนางร้ายในละครชัดๆ อี้ฟานส่ายหัวไปมาก่อนจะคิดได้ว่าเขาควรออกไปจบปัญหาตรงหน้านี้เสียที

                    "แล้วทำไมชานยอลจะเป็นเมียฉันไม่ได้ละลู่หาน.." ก้าวเท้าออกไปพร้อมคำถามเซอร์ไพรส์ทั้งสองเหมือนกับเจ้าชายขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยเจ้าหญิงชานยอลจากแม่มดใจร้าย ...บางทีอี้ฟานก็คงจะดูการ์ตูนดิสนีย์มากไปเหมือนกัน -..-

     

                    หลังจากคนหน้าสวยได้สะบัดตูดกลมๆออกไปหาสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเมียของเขาแล้ว อี้ฟานจึงขอตัวไปทำงานเช่นกัน แต่ด้วยความที่เป็นห่วง..

                    "จงอิน นายอยู่ที่นี่คอยดูแลชานยอล" ลูกน้องมือขวาคนสนิทที่ได้รับความไว้วางใจพยักหน้ารับคำสั่งพร้อมซ่อนรอยยิ้มร้ายไว้เบื้องหลัง

     

                    หึ..   ปาร์คชานยอล

                   

     

     

    ---------- Belong to you ----------

     

     

                    "คิดดีแล้วหรอที่ทำแบบนี้?" เพื่อนตัวขาวคนสนิทเดินมานั่งลงบนโต๊ะทำงานพร้อมเอ่ยถามด้วยความสงสัยกับการตัดสินใจของหน้าคม

                    "แล้วแบบไหนมันถึงจะดี" คริสย้อนถามก่อนจะยกเท้าขึ้นวางบนโต๊ะทำงาน

                    "ฉันก็แค่ไม่อยากเห็นเพื่อนมานั่งร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่า" ซูโฮขำเบาๆยียวนกวนประสาทเพื่อนตัวสูงก่อนจะโดนปาด้วยก้อนกระดาษแข็งๆ

                    "ฉันไม่เคยเป็นแบบนั้นสักหน่อย" ร่างสูงเถียงเสียงแข็ง ถูกล้อเหมือนว่าตัวเองอ่อนแอเหมือนเด็กผู้หญิงแบบนั้นก็เสียเซลฟ์แย่ ซูโฮไหวไหล่ไม่แยแสแล้วเดินอ้อมโต๊ะมากระซิบข้างใบหูใหญ่

                    "แต่คนนี้ก็ไม่แน่เพราะเขาไม่เหมือนคนอื่น นายเองก็รู้ดีแก่ใจใช่มั้ยอู๋อี้ฟาน" มือใหญ่ผลักท้องคนเป่าหูออกไปให้พ้นตัวเพราะสิ่งที่ซูโฮพูดมันใช่ไปหมดทุกอย่างเลย เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร มันทั้งดูบ้า ทั้งทรมาน แต่ก็มีความสุขหากกลบเกลื่อนทุกอย่างลงไปจนมิดภายใต้ใบหน้าเปื้อนยิ้มที่สร้างขึ้นมา

                    "หุบปากไปเลย" หน้าคมมองค้อนเพื่อนตัวแสบก่อนจะลุกขึ้นทำเสียงตึงตังแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป คนตัวขาวมองไล่หลังคนตัวสูงอย่างเหนื่อยหน่าย เขาไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของอี้ฟานหรอก ก็ได้มองอยู่ห่างๆและหวังว่าเรื่องนี้มันจะไม่หวนกลับมาทำร้ายเจ้าตัวเสียเองเพราะดูเหมือนว่ากับคนนี้ไอ้หน้าคมมันจะเสียศูนย์น่าดู


    ................................................................................................................................

     #ฟิคของคุณ

    เป็นงายยย~  5555555555

    ปิดเทอมกันแล้วอ่าดิ ไรท์เหลือสอบอีกไม่กี่วัน เย้! ไม่นับปั่นงานส่งนะ -..-

    หลังจากนี้ก็ปิดเทอม ข่าวดีคือ !! จะพยายามมาอัพให้อ่านกันบ่อยขึ้น

    แต่ปิดเทอมเค้าก็ไม่ได้ว่างนะเออ อยากให้เข้าใจ ฮี่ๆ

    ตอนนี้ก็มีหลายเรื่องให้งงๆกันไป ใครเดาได้ก็คอมเมนต์มาให้เราเสียวสันหลังเล่นๆได้นะ 555555

    ฟิคเราไม่มีปมอะไรเลย จะดราม่าหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจุบัน พล็อตไหลไปเรื่อย อิ้

    ยังไงก็ขอบคุณสำหรับแฟนคลับที่เพิ่มขึ้นนะ ยินดีที่ได้รู้จักรีดเดอร์ใหม่ๆ

    ถ้าเราแต่งเข้าใจไม่เข้าใจ ดีไม่ดียังไงก็ติได้ เรารับฟังและจะเอาไปปรับปรุงนะ

    ไปดีกว่า เจอกันตอนหน้า กราบสวัสดี

    :)

     

     

    B ♔ W





     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×