คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : -6- สำนึกผิด
สำนึกผิด
หญิงสาวในชุดมัธยมปลายยืมจ้องมองประตูห้องห้องหนึ่ง ที่ใครต่อใครก็เรียกมันว่าห้องดับจิต แต่บัดนี้ภายในห้องมีใครอีกคนอยู่ในนั้น คนที่เธอได้ทำความผิดกับเธออันใหญ่หลวงไว้ ในมือของเธอกำดอกลิลี่ไว้แน่น สองขาค่อยๆก้าวเข้าไปอย่ากล้าๆกลัวๆ มือบางผลักประตูที่กั้นหน้าออก ภาพตรงหน้าปรากฏร่างของใครบางคนถูกคลุมด้วยผ้าขาว ข้อเท้ามีป้าชื่อแขวนอยู่ สองขาก้าวเข้าไปจึงก้าวเข้าไปจนประชิดติดกับเตียง มือบางค่อยๆเอื้อมเปิดผ้าข้าวบางนั้นออก ผ้าบางที่ถูกคลุมถูกเปิดออก เผยใบหน้าของใครบางคน ที่เคยยิ้มอย่างร่าเริง ใบหน้าน่ารัก แต่บัดนี้มันกับซีดเสียวและไม่มีลมหายใจอีกต่อไป ภาพตรงหน้ามันโหดร้ายเกินกว่าหญิงสาวจะรับได้ ดอกไม้ที่ถือมาตกลงกับพื้น ร่างกานสั่นเทา น้ำตาเอ่อไหลออกมา หญิงสาว เอื้อมมือไปจับใบหน้าของหญิงสาวด้วยอาการสั่น ไม่สามารถควบคุมได้
“ชั้น…ชั้นขอโทษ ”
“ชั้นกำลังจะหยุด แล้วชั้นก็สั่งมันแค่ให้ขู่เธอเป็นครั้งสุดท้าย แต่ชั้นไม่คิดจริงๆว่ามันจะขมขืนเธอ จนเธอท้อง”
“ชะ ชั้น…..ขอโทษ จริงๆนะนัตตี้ ชั้นขอโทษ”
คำขอโทษถูกเอยออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยที่เธอหวังว่าหญิงสาวจะรับรู้การสำนึกผิดของเธอ และยอมให้อภัยเธอ เอมทรุดตัวลงไปนั่งพิงกับเตียง แล้วร้องไห้ออกมา ทุกอย่างที่อกกลั้นถูกสั่งให้ระบายออกมาผ่านทางหยดน้ำตา
ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ทุกคนมักมองเธอด้วยสายตาเกลียดชัง คงน่าจะเรื่องของนัตตี้ เธอจึงกลายเป็นคนไม่มีเพื่อน ร่วมถึงน้ำก็ไม่คุยกับเธอสักคำ เธอรู้ตัวดีว่าสิ่งที่เธอทำมันเลวร้าย แต่เธอก็สำนึกผิดกับมัน แล้วก็กำลังได้รับผลกรรมอยู่
“พี่โก้….เราเลิกกันเถอะ”
เสียงหญิงสาวเอยบอกกับชายหนุ่ม เธอตั้งใจจะยุติทุกอย่างแล้วกับตัวกับใจ เลิกทำในสิ่งที่ไม่ดี ร่วมถึงการคบโก้เพื่อให้ที่บ้านสบายใจ เนื่องจากโก้นั่นเป็นผู้ชายที่พ่อกับแม่ของเธอหวังจะให้แต่งงานกัน เธอจึงต้องแสร้งทำเป็นคุยกับพี่โก้ เพื่อความสบายใจของพ่อแม่
“ทำไมละเอม…ทำไม”
“เอมไม่ได้รักพี่คะ….”
“เอมขอโทษสำหรับที่ผ่านมา เรายุติทุกอย่างเถอะคะ ทุกอย่างที่ผ่านมามันเลวร้ายเกินกว่าเราจะได้รับการให้อภัย เอมตัดสินใจแล้วคะ ว่าเอมจะเป็นคนใหม่ จะทำตัวใหม่ ให้คนที่เอมรักได้เห็นว่าเอม สำนึกผิด และรักเขาจริงๆ เรา…อย่าเจอกันอีกเลยนะคะ”
ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะเอยพูดอะไรสักคำ หญิงสาวกระเดินออกไป ทิ้งไว้เพียงชายหนุ่มที่มองตามแผ่นหลังของหญิงสาวอยู่อย่างนั้น
แม้ว่าเธอจะสำนึกผิดสักเท่าไหร่ เธอน้ำกับไม่เคยเห็นความสำนึกผิดของเธอเลย ไม่ว่าเธอจะทำยังไง น้ำก็ยังคงเห็นเธอเป็นเพียงผู้หญิงเลวๆคนหนึ่งอยู่ดี
‘มานั่งทำอะไรตรงนี้ หื้ม…’
“คิดอะไรเรื่อยเปื่อยนะคะพ่อ”
‘เรื่องหนูน้ำใช่ไหมละ’
หญิงสาวพยักหน้ารับ เธอกับพ่อของเธอไม่เคยมีความลับต่อกัน เธอมักจะเล่าทุกๆเรื่องให้พ่อของเธอฟัง ไม่แม้แต่ความเลวร้ายต่างๆที่เธอเคยทำเธอก็เล่าให้พ่อของเธอฟังจนหมด ก็มีพ่อของเธอคนเดียวนี่แหละที่เข้าใจว่าเธอสึกผิดจริงๆ
‘ในเมื่อเขาไม่เชื่อเรา เราก็ต้องตื้อจนกว่าเขาจะเชื่อเราสิ แสดงให้เขาเห็นว่า เราสำนึกผิดกับเรื่องในอดีตจริงๆ’
“แล้วน้ำจะเชื่อเอมจริงๆหรอคะ”
‘สักวันเขาต้องเห็นความจริงใจของลูก เห็นว่าลูกสำนึกผิดจริงๆ เชื่อพ่อสิ’
เอมพยักหน้ารับคำบอกกล่าวของพ่อ มันก็จริงอย่างที่พ่อของเธอบอก ลองดูสักตั้งก็ไม่เสียหาย ในเมื่อน้ำไม่เห็นว่าเธอสำนึกผิด เธอก็ยิ่งต้องแสดงให้เห็นว่าทุกอย่างเธอจริงใจ และสำนึกผิดจริงๆ
ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาในห้องของตน พร้อมกับอาการโลกหมุน ที่มักจะเป็นบ่อยๆเวลาเคลียดหรือร้องไห้หนัก น้ำใช้มือจับไปที่ขมับของเอง แล้วลงมือนวดมันเบาๆด้วยอาการปวดหัวไมเกรนที่เธอเป็นมาตั้งแต่เด็กมันมักจะรุนแรงขึ้นทุกที ทุกที สองมือพยุงตัวเองลุกขึ้นเพื่อหวังจะไปหาอาหารเช้าทานจะได้กินยาแก้ปวดบรรเทาอาการที่เป็นอยู่
“แม่คะ พี่ภูมิ! มีอะไรให้น้ำทาน……”
คำพูดถูกกลืนลงคอในทันที เมื่อภาพตรงหน้าของหญิงสาว คือใครคนหนึ่งกำลังจัดอาหารอยู่บนโต๊ะอาหาร คนคนนั้นไม่ใช่แม่ พ่อ หรือพี่ชายของตนแต่อย่างใด
“มาทำไม”
“แม่เธอบอกว่าเธอไม่สบาย ชั้นเลยซื้อข้าวต้มมากฝาก ”
หญิงสาวเอยพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำมองรอยยิ้มอย่างรังเกลียดและไม่เข้าใจว่าทำไมยิ่งไล่ เอมกับยิ่งมาให้เธอเจอหน้าทุกวัน
“ชั้นไม่กิน!”
และเป็นไปตามคาดที่น้ำเลือกที่จะเดินกลับขึ้นห้องแล้วคลุกตัวอยู่กับในห้อง จนเอมต้องวานให้แม่บ้านเป็นคนเอาข้าวเอาน้ำไปให้กิน และเธอก็ต้องยอมกินง่ายเพราะแม่บ้านบอกว่าเป็นฝีมือของตน แต่เอมก็ไม่ย้อท้อ เธอยังทำแบบนั้นทุกวัน และมันมักจะเป็นเชกเช่นเดิมไม่น้ำขลุกตัวอยู่ในห้อง น้ำก็ออกไปข้างนอกโดยไม่สนใจเธอ
“ไม่คิดจะให้อภัยเขาหรอ”
เสียงชายหนุ่มเอยถามผู้เป็นน้องที่ รีบออกจากบ้านตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอหน้าใครคนนั้น และเขาก็พลอยที่จะโดนน้องตัวแสบปลุก ลากออกมาด้วย ทั้งที่เขาไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย
“ สำหรับเรื่องนัตตี้ ถ้าเขาจริงใจ และสำนึกผิดจริงๆ น้ำยอมให้อภัยคะ”
‘แล้วถ้าเรื่องเรากับเขา’
“เรื่องนั่น เขาไม่ควรได้รับการอภัย….”
เหมือนว่าเรื่องราวของนัตตี้จะค่อยๆเงียบลง แต่มันก็เป็นที่จดจำของใครๆหลายคน ถึงการคิดสั้นของเธอ แต่เรื่องราวของเอมกับรุ่นพี่ที่ชื่อโก้กลับยังคงถูกพูดอย่างหนาหู และแน่นอน น้ำ เลือกที่จะไม่สนใจกับมัน
“จั่นไปกินข้าวกันเถอะ ฉันหิว…”
น้ำเอยบอกจักจั่น ที่เธอเริ่มสนิทกันก็คราวที่รู้ความจริงทั้งหมดนั่นละ น้ำมีจั่นที่คอยดูแลจิตใจ ให้กลับมาเป็นผู้เป็นคนได้
‘เฮ้ยแก ชั้นต้องไปพบครูก่อนว่ะ แกไปกินคนก่อนได้ป่ะ เดี๋ยวชั้นตามไป’
“เออๆ อย่านานนะ ชั้นเหงา”
เนื่องจากเพื่อนสาวที่ต้องเร่งรีบไปพบครู จึงทำให้น้ำจำใจต้องมาโรงอาหารเพียงผู้เดียว และนั่นทำกับให้น้ำอยากจะเดินกลับห้องซะดื้อๆ เพราะผู้คนเต็มโรงอาหารไปหมด ถ้าไม่ติดว่าเธอกลัวเป็นโรคกระเพราะละก็ไม่มีทางที่เธอจะซื้ออาหารเด็ดขาด น้ำเดินไปสั่งอาหารตามสั่ง ก่อนเดินถือแก้วน้ำ และข้าวที่พึ่งมาเพื่อจะหาที่นั่ง คนยิ่งเยอะ โต๊ะก็แทบจะไม่มี แต่โชคดีที่รุ่นพี่ม.6 ลุกขึ้นออกซะก่อน ทำให้โต๊ะใหญ่ว่าง น้ำจึงนั่งลง แต่ด้วยนิสัยที่เธอไม่ชอบกินข้าวคนเดียว ทำให้น้ำได้แต่เขี่ยข้าวในจานไปมา ด้วยอาการเซง
“นั่งด้วยนะ”
เสียงของใครบางคนที่ค่อนข้างจะคุ้นหุเอยขึ้น น้ำเงยหน้ามองคนที่นั่งลงตรงข้ามเธอ นั่นกับทำให้น้ำอยากจะลุกออกไปจากตรงนี้ทันที
“เธอทำเป็นไม่สนใจเราก็ได้นะ แต่ถ้าเธอไม่กินข้าว เธอเป็นลมขึ้นมา พ่อแม่เธอคงเป็นห่วง”
เมื่อคำพูดของเอมมันถูกทุกอย่าง หากเธอเป็นลมขึ้นมาอีกพ่อแม่ของเธอก็ต้องร้องไห้ และรับหน้าที่ดูแลเธอ แค่นี้ก็ลำบากพ่อแม่ของเธอมากพอ แต่เมื่อทุกอย่างมันขัดไม่ได้น้ำเลือกที่จะนั่งลง แล้วจัดการกับอาหารตรงหน้าโดยที่ทำเหมือนว่าคนตรงหน้าเป็นอากาศธาตุไป น้ำตัดสินใจลุก แล้วเดินออกไปทันทีเมื่ออาหารหมด หลังจากนั้นน้ำพยายามจะหลีกหนีการพบเจอเอมตลอดเวลา แต่เหมือนยิ่งหนีไปที่ใด น้ำก็มักจะเจอกับเอมในทุกที่ๆ ไม่เว้นแม้แต่ในห้องน้ำ
หญิงสาวนั่งมองการกระทำของเอมอย่างพินิจ ก่อนที่น้ำจะตัดสินใจเดินตรงเข้าไปหาหญิงสาว มือบางจับกุมเข้าที่ข้อมือของเอม จนเอมสะดุ้งแล้วหันมามองอย่าสงสัย
“ถ้าเธอสำนึกผิดจริง โทรบอกแฟนของเธอ ให้ตามฉันไปที่บ้านนัตตี้”
เอมคิ้วขมวดเข้าหากันเมื่อน้ำเอยถึงแฟนเธอ ก่อนที่จะผุดยิ้มออกมาอย่างดีใจ มือบางปล่อยการจับกุมแล้วเดินออกไป โดยไม่ลืมทิ้งท้าย
“ตามมาสิ รออะไรอยู่”
ทั้งคู่พากันมาที่บ้านของนัตตี้ และแน่นอนมีใครคนหนึ่งยืนรออยุ่ก่อนแล้ว นั่นคือพี่โก้ ตัวก่อเรื่องอีกคน ในมือของชายหนุ่มมีพวงมาลัยสำหรับการขอขม่า และเหมือนใบหน้าของชายหนุ่ทก็มีท่าทีเหมือนกับผ่านการร้องไห้มาแล้วเช่นกัน น้ำพาคนทั้งสองเข้ามายังตัวบ้าน แล้วก็แนะนำให้กับแม่ของนัตตี้ฟัง แม่ของนัตตี้ แทบจะร้องไห้ออกมาทันที เมื่อเอยถึงเหตุการณ์ แต่ด้วยที่แม่ของนัตตี้ เป็นคนมีเหตุผลพอ เลยยอมรับฟังอะไรแบบง่ายๆ
“นะ….หนูขอโทษคะ หนูขอโทษ แม่จะทำอะไรหนูก็ได้หนูยอม…..แต่หนูอยากจะมาขอขมาแม่จริงๆ”
“ผมก็ผิดครับ คุณป้าจะไม่ยกโทษให้พวกเราก็ได้ แต่นี่คือสิ่งที่พวกเราทำได้ ”
หญิงสาวและชายหนุ่มก้มลงกราบทั้งน้ำตา ผู้หญิงใหญ่วัยกลางคนได้แต่ร้องไห้ออกมาก่อนจะยื่นมือของตนลูบหัวคนทั้งสอง
“สำนึกผิดก็ดีแล้ว แม่ก็คิดว่า นัตตี้ก็คงอภัยให้พวกเธอสองคนเหมือนกัน…..”
น้ำได้แต่ภาพนั้นด้วยใจที่แทบจะสลาย ไม่รู้เมื่อไหร่ที่น้ำตาไหลหลินออกมา รู้ตัวอีกทีตัวเองก็พาร่างเดินออกมาจากบ้าน เพื่อนหลีกการเห็นภาพที่จะทำให้เธอร้องไห้แบบนั่นอีก ไม่นานทั้งคู่ก็เดินออกมา ชายหนุ่มกล่าวลาน้ำ ก่อนจะรีบกลับเนื่องจากไม่อยากทิ้งธุรกิจร้านเครื่องประดับไว้นาน นั่นจึงทำให้เหลือเพียงเอมและน้ำเท่านั้น ตลอดทางกลับทั้งสองต่างเงียบงำ จนได้ยินเสียงลมหายใจของคนข้างๆอย่างชัดเจน ไม่นานรถก็จอดเทียบกับรั่วบ้านของหญิงสาว
“ขอบคุณนะที่มาส่ง”
“น้ำ…..”
“……เรื่องของเรา มันจะกลับมาเหมือนเดิมได้ไหม”
เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง หญิงสาวที่กำลังเปิดประตูรถเพื่อที่จะขึ้นไป กลับหยุดการกระทำแล้ว หันมามองหญิงสาวที่เอยพูดด้วยสีหน้ามีความหวัง น้ำแสะยิ้มออกมาอทบจะทันทีที่หันมองใบหน้าของเอม
“เรื่องของเรา!?”
“…….มันเคยมีเรื่องของเราด้วยงั้นหรอ”
“เรื่องร้องเพลง ชั้นทำเรื่องออกจากหน้าที่ร้องเพลงแล้ว ถ้าเธออยากจะทำต่อก็เรื่องของเธอ”
“และเรื่องนัตตี้เธอก็ไดรับการอภัยแล้ว….
“….ชั้นหวังว่าจะไม่เห็นหน้าเธออีกนะ…ไม่สิ ถ้าไม่จำเป็น เราอย่าเจอกันอีกเลย!”
“เห้ยน้ำ นี่แกถ่ายหนักใช่ไหม แม่นานว่ะ”
“เออ ถ่ายท้องว่ะ แกกลับก่อนก็ได้นะเว้ย เดี๋ยวชั้นกลับเอง บ้านอยู่แค่นี้”
“เออ….”
เสียงของเพื่อนที่เคยรออยู่เงียบไป ไม่นานน้ำก็เสร็จธุระที่ต้องสงแฟกซ์ เธอก็จัดการเสื้อและกระโปรงนักเรียนให้เข้าทีเข้าทางอย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่เธอก็ต้องหยุดนิ่ง เมื่อกลิ่นเหล้าที่ไม่ควรจะได้กลิ่นนี่ในโรงเรียนลอยมาเตะจมูกของเธอ น้ำเป็นคนกลิ่นเหล้านั่นทำให้เรื่องแบบนี้จมูกเธอไวนัก เมื่อตามหาที่มาของกลิ่น เธอก็พบว่ามันมาจากห้องน้ำห้องข้างๆ ที่เธอพึ่งออกมา ซึ่งมันถูกเปิดแง้มไว้นิดหนึ่ง จนเห็นใครบางคนนั่งพิงฝาห้องน้ำ ในมือถือขวดเหล้า น้ำตัดสินใจเปิดประตูเข้าใจ ภาพตรงหน้าทำให้เธอแทบจะก้าวถอยในทันที
“น้ามมเองหรอ”
หญิงสาวที่นั่งอยู่เมื่อเห็นว่าเป็นน้ำ เธอก็ลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกับขวดเหล้าในมือ แต่ด้วยอากรมึนเมาที่เธอได้รับจาสิ่งที่อยู่ในมือ ทำให้หญิงสาว เกือบจะล้มลงไป แต่ดีที่เธอยังเกาะประตูไว้ทัน
“นี่เธอกินเหล้าหรอ…”
‘หึ….น้ามมม หายไปไหนมา รู้ไหมว่าชั้นคิดถึงเธอขนาดไหน’
หญิงสาวที่มีอาการมึนเมาเดินเข้ามาใกล้น้ำ น้ำได้ถอยหนี จนหลังของเธอชิดติดกำแพง เมื่อเห็นว่าหมดทางหนี น้ำได้แต่มองหญิงสาวที่มีอาการเมาอยู่อย่างนั้น
“เธอจะทำอะไร….เธอเมามากแล้วนะ กลับบ้าเถอะ”
น้ำใช้แรงรั้งให้หญิงสาวตามเธอมา แต่เหมือนเอมจะมีแรงมากกว่า ทำให้น้ำกลับไปพิงกำแพงเช่นเดิม แต่คราวนี้เอมกับเข้ามาใกล้เอมากขึ้นเรื่อย
“จะทำอะ….”
คำพูดหายไปมือริมฝีปากที่มีกลิ่นเหล้าติดอยู่ถูกทาบลงกับริมฝีปากนุ่มของน้ำ น้ำได้แต่พยายามดิ้นให้หลุดจากคนตรงหน้า แต่เหมือนยิ่งดิ้น คนตรงหน้ากับทิ้งขวดเหล้าแล้วใช้มือจับมือทั้งสองข้างของน้ำไว้เพื่อไม่ให้ดิ้น ไม่รู้ตอนไหนที่น้ำตามันไหลออกมา รู้ตัวอีกทีคนตรงหน้าพยายามลุกล้ำเธอมากขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะถล้ำลึก ก็มีใครบางคนเข้ามาซะก่อน
“พวกเธอทำอะไรกันน่ะ”
ทวงฟิค
twitter; @jeanfeawjf
ความคิดเห็น