ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Destiny โชคชะตาแห่งรัก AimNam

    ลำดับตอนที่ #4 : -4- เพื่อน'ตาย'

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ย. 58










    เพื่อน'ตาย'
     





                  นับจากเรื่องราวในวันนั้น นี้ก็เป็นอาทิตย์ ที่น้ำไม่ได้มาซ้อมร้องเพลง โดยให้เหตุผลกับเพื่อนว่าเธอป่วย ทำให้การซ้อมค่อนข้างติดขัดไป โดยเฉพาเอมที่ต้องร้องเพลงคู่กับน้ำ เธอเคยโทรหาน้ำ เจ้าตัวรับสายก็จริงแต่พอรู้ว่าเป็นเธอ น้ำกลับเงียบแล้วตัดสายทิ้งซะดื้อๆ ทำให้เธอไม่สามารถที่จะคุยกับน้ำได้เลย
     

                    เวย์ น้ำว่าไงบ้าง
     

                    เอมเอยถามเมื่อเธอวานให้เพื่อนสาวโทรหาน้ำแล้วพูดคุยเรื่องราวต่างๆให้ และเหมือนจะง่ายดายเมื่อปลายสายรู้ว่าเป็นเวย์ เธอกลับพูดคุยกับเวย์ ไม่เงียบใส่และปิดสายแบบที่น้ำทำกับเอม

     
                  
    น้ำบอกว่า พรุ่งนี้น้ำจะมา วันนี้ขอพักอีกหนึ่งวัน

     

                    เอมรู้ดีว่าคำว่าพักสำหรับน้ำ คือการหนีหน้าตัวเอง แต่จะทำไงได้ละ น้ำเกลียดเธอเข้าเส้นขนาด ตั้งแต่กลับมาเจอกันน้ำพูดเอมจนนับคำได้เลย มองหน้าเอมจนนับครั้งแต่ และไม่เคยส่งยิ้มอย่างจริงใจให้เลยสักครั้ง มันคงจะถูกแล้วละที่น้ำทำแบบนั้นกับเธอ….

     

                   

                  
                     “ไม่ไปซ้อมหรือไง

               เสียงพี่ชายเอยทักน้องสาว ที่นั่งกินขนมเจ้าโปรดอยู่ในสวนของบ้าน  และเหมือนเจ้าตัวจะรู้การมาของเขา เธอหันมามองแล้วกลืนขนมลงคอไปทั้งๆที่แทบจะไม่เคี้ยว

                  
                      “เจ็บขา…”

                   
                       คำพูดบ้าๆถูกเอยขึ้นไปเพื่อเป็นข้ออ้าง ทั้งๆที่ขาของเธอหายเป็นปกตินานแล้ว พี่ชายไม่อยากจะซักไซร์ถามต่อ เขานั่งลงตรงข้ามน้ำ แล้วมองหน้าน้ำสาวของตนอยู่อย่างนั่น ในตาของน้องสาวมันฟ้องเขาทุกอย่าง ว่าน้ำมีอะไรบางอย่างเก็บไว้ในใจ


                    เจอเขาแล้วใช่ไหม


                    คำถามของภูมิทำให้น้องสาวแทบจะสำลักขนมที่พึ่งใส่เข้าปากไป น้ำหันมามองพี่ชาย คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างยั้งรู้ว่าพี่ชายของตนรู้ได้ยังไง ว่าเธอเจอกับเขาแล้ว  ก่อนที่สมองจะตอบคำถามของตัวเอง เพราะพี่ชายของเธอดันเป็นอาจารย์ในมหาลัยของ ดังนั่นเขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าคนคนนั้นเรียนอยู่ที่นั่น น้ำพยักหน้ารับ


                    น้ำถ้าไม่ไหว อกพี่ยังว่างนะ


                    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่น้ำตาไหลออกมา รู้แค่ว่าแทบจะทันที ที่น้ำลุกไปกอดพี่ชายของตน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะที่เธอมักจะกอดชายของตนเมื่อเวลาร้องไห้ ถึงแม้พวกเธอจะกัด จะทะเลากัน ปากด่ากันบ้างและ แต่ความรักทางสายเลือดมันมีมากกว่า ทุกๆครั้งที่น้ำร้องไห้ก็มีพี่ชายเธอนี่แหละคอยปลอบ น้ำไม่เคยอ่อนแอต่อหน้า เธอจะมาอ่อนแอต่อหน้าพ่อแม่ และพี่ชายเธอเท่านั้น ทุกคนล้วนมองเธอเป็นคนเข้มแข็ง แต่จริงๆข้างในเธออ่อนแอมาก

     

                    “พี่ภูมิ….พาน้ำไปที่ที่หนี่งได้ไหม



                    “ได้สิ

     

                    รถสปอตสีขาวจอดตรง โบส์ถแห่งหนึ่ง หญิงสาวเดินลงมาจากรถพร้อมพี่ชาย พร้อมกับดอกลิลลี่สีขาวช่อหนึ่งในมือ ขาเรียวก้าวเท้ามายังที่ฝังศพของใครบางคน  รูป และชื่อ วันเวลาเกิด และตาย ที่ถูกเขียนติดอยู่ตรงป้ายบ่งบอกว่า เธอเกิดปีเดียวกับน้ำ และตายเมื่อ 3 ปีที่แล้ว


                    ธันยนันท์ พิพัฒน์ไชยศิริ


     

                    นี่เป็นวันอีกครั้งที่เกิดมักจะมาเยี่ยมเพื่อนสนิททุกๆเดือน เธอและน้ำสนิทกันตั้งแต่ประถม จนถึงมัธยมต้น  แต่พอเข้ามัธยมปลายพวกเธอทั้งสองก็เริ่มห่าง แต่ความสนิทไม่ได้ห่างไปเลย พวกเธอมักจะโทรคุย และคุยกันเสมอถึงแม้ทั้งสองจะต่างไปมีเพื่อนใหม่กันหมด น้ำจ้องมองไปที่รูปของเพื่อนรัก น้ำตาที่พยายามเก็บมาไหลพรั่งพรู ทุกครั้งที่ นึกเรื่องราวในอดีต มันทำให้เธออยากตามเพื่อนสาวไปซะให้รู้แล้วรู้รอด



                    “ขออย่าให้ได้เจอะ ได้เจอ กับคนที่เขาทำร้ายเราอีกเลยนะ



                    ประโยคเดิมๆที่น้ำมักจะเอยทุกครั้งที่มาเยี่ยมเพื่อนสาวที่นี่  เป็นประโยคที่เธอมักจะย้ำให้เพื่อนสาวของเธอฟัง รวมถึงพูดให้กับตัวเองด้วย

     

     





                    “เมื่อวานไปไหนมาอ่อ ไม่เจอเธอเลย

          น้ำเอยถามในทันทีที่เจอเอมเพราะเมื่อวานเอมไม่มาโรงเรียน เธอไปหาที่บ้านก็ไม่พบ โทรหาก็ไม่ยอมรับสายเธอ น้ำทำได้แต่นั่งรอเอมอยู่หน้าบ้าน จนเผลอหลับไป รู้สึกตัวอีกที พี่ชายเธอก็อุ้มเธอมานอนบนเตียงซะละ


                อ่อ พอดีเราไปซื้อของกับลูกพี่ลูกน้องมานะ ซื้อเค้กมาฝากน้ำด้วยนะ



                    “จริงหรอ….อยากกินเค้กนานละ จะซัดให้เกล….”


          ยังไม่ทันจะจบประโยคดีก็มีอะไรไม่รู้ตกใจหัวเราะด้วย จนเจ้าตัวร้องออกมา เมื่อมองหาตัวการ น้ำก็ถึงกลับแปลกใจ และรู้สึกคุ้นกับของชิ้นนี้เหลือเกิน



                ไอพอด!”



          แต่ที่น่าแปลกใจคือทำไมมันถึงตกมาบนฟ้า น้ำกับเอมมองหน้ากันอย่างมึนงง ก่อนที่น้ำจะค่อยๆเงยหน้ามองขึ้นไปยังข้างบนที่มาของไอพอดเครื่องนี้ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปน้ำแทบจะทิ้งทุกอย่างในมือลงไปกับพื้นซะ



                นัตตี้!”


          หญิงสาวในชุดมัธยมปลายยืนอยู่ชั้นดาดของตึกเรียน7ชั้น เธอยืนสุดริมของดาดฟ้า นักเรียนทุกคนต่างแห่กรูเข้ามาเมื่อเห็นว่าหญิงสาวข้างบนกำลังจะกระโดดลงมา น้ำทิ้งทุกอย่าในอมือยกเว้นไอพอตของเพื่อนสาว น้ำออกแรงวิ่งขึ้นตกไปสุดตัว


                นัตตี้แกอย่าทำแบบนั่นนะ


          เมื่อรู้การมาของใครบางคน หญิงสาวกลับหันหลังมามอง และเมื่อรู้ว่าเป็นน้ำ รอยยิ้มผุดขึ้น พร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรู น้ำพยายามจะเดินเข้าไปใกล้เพื่อนสาว แต่เหมือนว่าเพื่อนสาวจะก้าวถอยกลังทุกครั้งที่เธอก้าวเข้าไป


                แกอย่าทำแบบนั้นเลยนะ แกเป็นอะไรมาบอกเราดิ อย่าทำแบบนั้น


                  ‘เราอยู่ต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ เขาทำร้ายเรา เราไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว


                  “ใคร ใครทำร้ายแก…..”

     

                  ‘อย่ารู้เลยน้ำ ถ้าเธอรู้ เธออาจจะเจ็บปวดแล้วทำแบบชั้นไปอีกคนก็ได้


                นัตตี้ เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย มีอะไรก็บอกชั้นสิ แกอย่าทิ้งชั้นไปเลยนะ ใครไม่รักแกก็ชั่งมันชั้นรักแกนะเว้ย…”

                   

                    ‘น้ำ….สัญญาอะไรกับเราอย่างหนึ่งได้ไหม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าใครทำร้ายแกยังไง อย่าเสียใจ อย่าทำแบบชั้นนะ….ทำตามความฝันของเราต่อด้วย


                    ‘ชั้นรักแกนะน้ำ…’

     

                กรี๊ด

     

                ตึบ


        ร่างเล็กตกลงมาจากชั้น 7 ของตึก เลือดไหลอาบไปทั่วร่างของหญิงสาว ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนน้ำยังตั้งสติไม่ทัน น้ำกำไอพอตในมือแน่น แล้ววิ่งลงไปตรงที่ร่างเล็กตกลงไป ขาเรียวค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้ๆร่างเล็ก เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ฝันไป เมื่อภาพตรงหน้ามันชัดเจนเกินจะบอกว่าเธอฝัน น้ำใช้มือเรียวเขย่าร่างของเพื่อนสาว


                นัตตี้! นัตตี้!....”


        เสียงสั่นเครือเอยรียกเพื่อนสาว แล้วแปรเปลี่ยนเป็นเสียงร้องไห้ ออกมา ร่างบางโอบกอดศพของเพื่อนสาว หวังว่าเธอจะฟื้นขึ้นมา ชุดนักเรียนสีขาวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของเพื่อนรักเธอเอง เธอโอบกอดร่างของเพื่อนสาวครั้งสุดท้ายก่อนจะถูกอาจารย์พาตัวไปยังห้องเพื่อพักจิตใจ ในหัวสมองของหญิงสาวเต็มไปด้วยคำพูดสุดท้ายของเพื่อน น้ำได้แต่เฝ้ามองรถมูลนิธิที่กำลังทำการเก็บศพของเพื่อนสาวผ่านกระจกในห้องอยู่อย่างนั้น

                อาจารย์คะของของนัตตี้หนูขอไปเก็บเองได้ไหมคะ

                   

                    หญิงสาวเดินออกมาจากห้องในสภาพที่กระโปรงและเสื้อเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ทั้งมือ หรือแม่แต่หน้า ก็มีเลือดติดอยู่ ตลอดข้างทางสายตานักเรียนมากมายต่างมองมาที่เธอ ต่างก็เต็มไปด้วยความสงสาร หญิงสาวเดินขึ้นมายังห้องม.4/2 ที่บัดนี้ยังคงไม่รู้เรื่องราว เพราะกำลังอยู่ระหว่างคาบเรียน น้ำหยุดอยู่ประตูบานแรกของห้อง เมื่อเธอมาพร้อมกับกลิ่นคาวเลือด ทุกคนล้วนต้องหันมามองเธอทั้งหมด รวมถึงนักเรียนม.4 ทั้งชั้น


                เธอไปทำอะไรมา ทำเลือด…”


         อาจารย์ผู้สอนในห้องเอยถาม พร้อมกับเดินเข้ามาสำรวจร่างกายของเด็ก น้ำยิ้มให้อาจารย์ทั้งๆที่น้ำตายังไหลเอ่อล้น


              ไม่ใช่เลือดหนูหลอกนะ เลือดของธันยนันท์ พิพัฒน์ไชยศิริ…..เธอตายแล้วคะ


                  หนูขออนุญาติเก็บของของเธอนะคะ


                น้ำพูดจบ เธอเดินตรงไปที่โต๊ะของเพื่อนสาว แล้วหยิบของทั้งหมดที่อยู่ใต้โต๊ะขึ้นมา โดยที่น้ำตาไหลเอ่อตลอดเวลา เพื่อนบางคนเห็นน้ำหยุดนิ่งไปจึงเดินมาช่วยเอเก็บข้าวของ และเธอก็ได้รับรู้ว่าก่อนหน้าที่นัตตี้จะตัดสินใจแบบนั่น เธอมีปัญญาเรื่องผู้ชาย รวมถึงชื่อของ เอมก็ถูกหยิบขึ้นมา…..

     


                    “ขอโทษนะ ที่ชั้นไม่เชื่อคำพูดที่แกเตือนชั้นเป็นครั้งสุดท้าย


                       ขอโทษที่ชั้นไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีให้แกเลย ชาติหน้าเราเกิดมาเป็นเพื่อนกันอีกนะ


                    “และอย่าได้เจอคนที่เขาทำร้ายเราอีก…”


                    “ชั้นรักแกนะ นัตตี้ แล้วชั้นจะมาเยี่ยมแกทุกวัน


                    ดอกลิลลี่สีขาวถูกวางลง  พร้อมกับสายลมที่พัดผ่านตัวของหญิงสาว ทำให้เธอแน่ใจว่าเพื่อนสาวของเธอได้รับรู้ทุกอย่างที่เธอเอยบอกไป ชายหนุ่มที่มองน้องสาวอยู่นาน ก็ใช้มือของตนตบที่ไหล่ของน้องสาวเบาๆเป็นเชิงให้กำลังใจน้องสาว และทำท่าจะเดินออกไป แต่ทั้งคู่ก็ต้องหยุด เมื่อมีใครอีกคนเดินเข้ามา



                    ชั้นมาเยี่ยมนัตตี้นะ

         เอมเอยบอก โดยที่ในมือมีดอกไหม้ลิลลี่ที่นัตตี้ชอบ เอมส่งยิ้มให้น้ำ แต่กับได้ยิ้มที่แบบไม่เต็มใจกลับมา

               
                     
    พี่ไปรอน้ำที่รถนะคะ น้ำขออยู่กับนัตตี้อีกแปปหนึ่ง


                    ภูมิพยักหน้ารับแล้วเดินออกไป เหลือเพียงเอมและน้ำ ที่ยืนมองกัน ก่อนที่เอมจะเดินตรงไป แล้ววางดอกไม้ลงข้างๆดอกไม้ของน้ำ


                    ชั้นขอโทษ


                    เสียงเอยคำขอโทษเอยขึ้นอย่างแผ่วเบา นั่นทำให้น้ำที่ก้มหน้าอยู่รีบหันมามองอย่างไม่พอใจ แล้วยิ้มแห้งๆออกมา  ก่อนจะเดินไปหยิบดอกไม้ที่หญิงสาวพึ่งวางลงลงขึ้นมา


                    “ขอโทษ….หรอ”   


                    “แค่นี้ยังทำร้ายนัตตี้ยังไม่พอใช่ไหม


                    ‘ชั้นขอโทษ….’


                    น้ำมองคนตรงหน้าที่เอาแต่เอยคำขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือที่ถือดอกไม้อย่างลวกๆออกแรงบีบมันมากขึ้น ด้วยความโมโหที่ถาถมเข้ามา แต่ก่อนที่อารมณ์จะประทุ ก็มีสายลมที่ไหนไม่รู้พัดผ่านร่างของน้ำ นั่นหญิงสาวใจเย็นอย่างเห็นได้ชัด


                    “เอาดอกไม้ของเธอไป….แล้วอย่ามากที่นี่อีก อย่ามาทำร้ายนัตตี้อีกเลย ให้เธอได้หลับอย่างสบายเถอะ!”


                    ดอกไม้ถูกยัดใส่มือของหญิงสาว ก่อนที่น้ำมองหน้าคนตรงหน้า แล้วหันหลังเดินออกไป ทิ้งไว้เพียงเอมที่ตอนนี้ทรุดลงไปนั่งร้องไห้กับพื้นเป็นที่เรียบร้อย


                    พี่ภูมิช่วยอะไรน้ำอย่างหนึ่งได้ไหม


                    หลังจากที่บรรยากาศในรถเงียบไปนาน น้ำเอยบอกพี่ชายของตน หันหน้ามามองอย่างอ้อนวอน มีหรือพี่ชายที่รักของมากอย่างภูมิจะไม่ช่วยเหลือน้ำ  เขาจึงพยักหน้ารับ


                    หาของสิ่งนี้ให้น้ำหน่อย


                    รูปแหวนสีเหลือง ที่สวมอยู่ในมือของใครคนหนึ่ง ซึ่งภูมิก็รู้ไหมเลยว่ามือนั้นถือมือของน้องสาวตน แต่ถูมิก็ต้องขมวดคิ้วทันที


                    หนูไม่ได้มีมันอยู่หรอกหรอ


                    “น้ำทำมันหายคะ หาให้น้ำหน่อยนะคะ น้ำไม่อยากติดค้างใคร

     


                     “เอม…”

         
                    
    หื้ม….”


                    “มันจริงหรือเปล่า….ที่เอมเป็นคนให้พี่โก้ รุ่นพี่ม.6 ไปหลอกนัตตี้ เพื่อแก้แค้นที่นัตตี้เคยแย่งแฟนเอม


                    เอมสำลักน้ำออกมาเมื่อได้ยินคำถามของเพื่อนสาวตรงหน้า เอมมองหน้าคนตรงหน้าที่ขมวดคิ้วเขาหากัน ก่อนที่เธอจะใช้มือหยิกแก้มของน้ำอย่างหยอกเล่น


                   เชื่อข่าวลือนั้นด้วยเหรอ


                    น้ำพยักหน้ารับ เธอก็ไม่อยากจะเชื่อหรอก แต่ข่าวลือ หรือคำพูดของเพื่อนร่วมห้องมันก็มีซะมากมายจนทำให้เธอเองยังสงสัย


                   จะบ้าหรอ พี่โก้ไหน ชั้นยังไม่รู้จักเลย…”


                    “ชั้นก็โล่งใจ สัญญานะว่ามีอะไรเอมต้องบอกชั้นคนแรก


                    “อื้มม เอมสัญญา

     



                    ไม่รู้ว่าตัวเองตามหาเจ้าสิ่งที่อยู่ในรูปนี้นานแค่ไหน รู้แค่ว่า เธอแทบจะรื้อทั้งบ้านเพื่อหาเจ้านี้ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอสักที สมองเจ้ากรรมก็ดันลืมไปสนิท อาจเป็นเพราะเธอไม่อยากจะจำทำให้สมองสั่งการให้ลืมทุกอย่าง แม้แต่แหวนนี่  เมื่อเห็นว่าหมดปัญหาจะหา น้ำจึงหยิบไอแพตเครื่องสวยมาเซิร์ทหาแหวนแบบเดียวกันกับในรูป แต่ก็เป็นความซวยที่แวนนั่นเป็นแหวนรุ่นลิมิเตท ที่ผลิตออกมาแค่100วง และที่สำคัญมันขายหมดไปแล้ว  


                    “ไปดูที่ห้างก็ได้…”


                    ไวกว่าความคิด ร่างบ่างหยิบกระเป๋าแล้วรีบไปเรียกแท็กซี่ก่อนจะมาลงที่ห้างแห่งหนึ่ง ร่างบางเดินตรงไปยังแผนกของเครื่องประดับ สายตาสาดส่องมองหาแหวนที่ตนต้องการ แต่ยิ่งเดินหาก็ จนมาถึงร้านสุดท้าย หญิงสาวมองร้านเครื่องประดับสำหรับไว้รุ่น ก่อนจะเดินเข้า สายตายังคงมอหาแหวนแบบในรูป แต่ก็ไม่มี


                    หาเครื่องประดับแบบไหนอยู่ครับ

           หญิงสาวยื่นรูปแหวนให้กับเจ้าของเสียงที่เธอคิดว่าคงเป็นเจ้าร้าน โดยไม่ได้เงยหน้ามองหน้าเจ้าของเสียงเลยสักนิด


                    น้ำ….”

                   

                  ไม่คิดเลยว่าโลกจะเหวี่ยงคนที่ทำร้ายเธอและเพื่อนรักมาให้พบกับเธออีกครั้ง เพราะเมื่อน้ำเงยหน้าขึ้น เธอก็พบชายคนหนึ่งที่เธอไม่เคยลืม เขาคือคนคนเดียวทำให้นัตตี้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย  และยังเป็นคนที่ร่วมมือกับคนที่เธอรัก ทำร้ายเธอเอง


                    พี่โก้……..”












     

    เม้นเยอะไรท์อัพบ่อยนะคะ

    ทวงฟิค twitter;@jeanfeawjf




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×