ความทรงจําที่หายไป

ลำดับตอนที่ #8 : : : 8 ---

            เสียงฟ้าร้องเสียงดังลั่น  เม็ดฝนพรั่งพรูลงมามากมายราวกับว่าฟ้าจะถล่มลงเดี๋ยวนั้น  ฟ้าถูกปกคลุมด้วยเมฆสีดำ มองไม่เห็นดวงดาวดั่งที่เคยเห็นเช่นทุกคืน บนถนน วันเวย์ ( one way ) มีเพียง รถมินิคันเดียวเท่านั้นที่ยังคงวิ่งด้วยความเร็ว 80 กม / ชม สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ที่แย่งกันขึ้นอย่างหนาแน่น

                มีเพียงแสงไฟที่อยู่หน้ารถที่ส่องสว่าง แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ทิวทัศน์โดยรอบถูกปกคลุมด้วยฝนที่หนาเม็ดขึ้นทุกที และรถมินิก็ยังคงแล่นไปด้วยความเร็ว ฟิลลิปส์ วีค ต้องการกลับให้ถึงที่พักของเขาก่อนเช้า ฟิลลิปส์ใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ในการนอนพักผ่อนที่ชายทะเล เป็นเพราะฝนที่ทำให้เขาขับรถเร็วมากไม่ได้นัก เขาได้แต่นั่งคิดว่าถ้าหากเกิดอุบัติเหตุบริเวณนี้ล่ะก็ อย่าหวังเลยว่าจะมีผู้มาค้นพบ เพราะรถวิ่งออกจากตัวเมืองมาชั่วโมงกว่าแล้ว และนี่ยังไม่มีวี่แววว่าจะเจอรถผ่านมาสักคัน ฝนยังคงตกหนักขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งทำให้ฟิลลิปส์รู้สึกว่านี่เป็นวันสิ้นโลกหรือนี่ น้ำจะท่วมโลกในวันนี้หรอกหรือ

                ต้นไม้ข้างทางยังคงหนาแน่น บางช่วงของถนนนั้นมีต้นไม้ที่โค้งงอเข้าหากันระหว่างสองข้างทาง ทำให้ดูเหมือนเป็นอุโมงค์ธรรมชาติไปอีกแบบ

                เสียงเพลงของ ซาเวจ การ์เด้น (savage garden) ในรถช่วยกลบเสียงน้ำฝนที่กระทบตัวรถได้บ้าง เบาะด้านข้างคนขับว่างเปล่า วันหยุดนี้ฟิล ต้องการพักผ่อนคนเดียว ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่ได้เรียกว่าพักผ่อน

                การทำงานดูไม่หนักหนานักทางด้านร่างกาย แต่มันหนักหนาเหลือเกินในการใช้สมองสัปดาห์ละ5วัน สมองต้องทำงานอย่างไม่หยุดหย่อนเลย 

                แปร็น แปร็น !!!

        เสียงแตรของรถทาด้านหลังทำให้เขาสะดุ้ง หลังจากวิ่งอยู่ในความเงียบมานาน ฟิลลิปส์เหลือบสายตาไปมองทางกระจกมองหลังทันที ดูเหมือนว่ามันจะเป็นรถบรรทุก มีแสงไฟส่องเข้ามาจากทางด้านหลัง มันคงจะวิ่งมาด้วยความเร็วสูง เพราะเขาเพิ่งจะเริ่มเห็นมันพร้อมกับเสียงแตรเมื่อสักครู่นี้เอง และดูเหมือนมันยังคงต้องการอะไรสักอย่าง

                รถบรรทุกขนาดเล็กส่งสัญญาณไฟสูง และดูเหมือนว่า เขาคงต้องการให้รถมินิคันเล็กเบี่ยงออกอีกเลน เพื่อเปิดทางให้กับมัน มันบ้าไปแล้วหรือวะ เขาคิด รถบรรทุกมันควรจะเบี่ยงออกอีกเลนแล้วแซงรถของเขาไปไม่ใช่หรือ แต่นี่การกระทำของมันดูจะตรงกันข้ามกับผู้ใช้รถทั่วไป

                แต่รถบรรทุกนั่นยังคงเร่งความเร็วจี้มาติดๆ ไม่มีเวลาให้คิดมากแล้ว ท่าทางเจ้าคนที่ขับคนบรรทุกนี้คงจะเมามาล่ะ ถึงได้ขับไม่มีมารยาทอย่างนี้ ฟิลมองไปข้างหน้า เขามองไปไกลมากไม่ได้นัก ในเมื่อม่านน้ำ จากฝนที่ตกหนักยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด  แต่ฟิลไม่เห็นแสงไฟจากรถที่สวนมาสักคัน ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว รถเจ้ากรรมไล่เข้ามาติดๆ มันทำให้ฟิลชะลอรถไม่ได้เลย เขาจะต้องเร่งความเร็วหนีไปอีกเรื่อยๆ แล้วค่อยๆเบี่ยงออกทางเลนรถสวน

                มันจะเกิดอุบัติเหตุ หรือไม่ ฟิลเริ่มวิตก เขาเป็นคนที่กังวลสิ่งเล็กน้อยรอบตัวอยู่เสมอ มันทําให้เขาเป็นคนที่ระวังเรื่องต่างๆเป็นอย่างมาก

                รถบรรทุกเร่งเครื่องหนีอย่างรวดเร็ว ฟิลค่อยๆชะลอรถรักษาระดับความเร็วเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ แล้วเบี่ยงกลับเข้าเลนเดิม

                ฟิลไม่แน่ใจว่าขับรถอยู่ในป่าดงดิบหรืออย่างไร ท้องฟ้าที่มืดสนิท ฝนที่ตกอย่างหนัก รอบข้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่สลับกันอย่างไม่เป็นระเบียบ ถ้าหากใครเดินหลงเข้าไปแล้วคงจะออกมาไม่ได้เป็นแน่ เขารู้สึกว่าฉากด้านข้างแทบจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย ในเมื่อเขาขับมาตั้งไกล เหมือนว่ากำลังวิ่งวนอยู่ที่เดิม  ทีตอนขามา เขาไม่ยักจะสงสัย  เสียงน้ำที่กระทบสิ่งต่างๆดังไปทั่ว

        ภาพทางด้านซ้ายตอนนี้เปลี่ยนจากป่าหนาทึบเป็นหน้าผาสูง เหมือนกำแพงปกปิดสิ่งต่างๆที่อยู่ด้านหลังมัน

                ทั้งๆที่ไม่ค่อยมีรถผ่านมาแต่เสียงก็มีเสียงดังจากสิ่งต่างๆ บ้างก็เป็นเสียงโคลนถล่ม แต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร บ้างก็เสียงฟ้าร้อง

                สิ่งที่ทำให้ฟิลหวั่นใจที่สุดเห็นจะเป็นเสียงโคลนถล่ม แม้ว่ามันจะยังไม่มากเท่าไหร่ แต่เขาไม่อาจรู้ว่ามันจะถล่มลงมาเยอะเมื่อใด ตอนนี้ด้านขวามือของเขาเป็นป่ารกทึบ ทางด้านซ้ายเป็นหน้าผาสูง ดูเหมือนดินจะยังเกาะตัวได้ไม่แน่นเท่าที่ควร มันเริ่มไหลลงมาทีละนิดเมื่อมีน้ำเข้าไปผสม  บางช่วงฟิลถึงกับต้องหักรถหลบโคลนที่ไหลมาจากหน้าผา การที่เผลอไปเหยียบจากโคลนพวกนี้อาจจะทำให้ล้อรถของเขาลื่น  

                สายลมพัดแรงทำให้ต้นไม้ด้านข้างเอนตัวอย่างน่ากลัว บางทีเจ้าพวกนี้คงเป็นมากกว่าพายุฝน

        รถมินิสะดุดกองโคลนอย่างไม่ระมัดระวัง ล้อหน้าด้านซ้ายเสยขึ้นไปบนกองโคลนแล้วไหลลงมาตามทางเพียงเสี้ยววินาทีเขาก็รู้สึกว่าล้อหลังสะดุดตามมาติด ไม่ใช่เพียงกองโคลนธรรมดา ในกองนั้นเหมือนว่าจะมีก้องหินก้อนใหญ่ มันหนักพอที่จะทำให้รถเสยแล้วตกลงมาอย่างรวดเร็ว รถเริ่มส่าย ยางล้อด้านซ้ายที่เปรอะโลนลื่นไปตามถนน  ตอนนี้ฟิลเริ่มบังคับรถไม่อยู่ เขาพยายามเหยียบเบรก แต่รถไม่ได้หยุดได้ดั่งที่ใจหวัง มันกลับลื่นไถลไปตามท้องถนน ทางข้างหน้าเป็นทางโค้งถ้าเขายังบังคับรถไม่ได้มันจะต้องเกิดเหตุร้ายอย่างที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นแน่ๆ

                ฝนห่าใหญ่ที่ตกยังไม่ได้หยุดพัดผ่อนเลยแม้แต่น้อย ลมพายุก็ยังคงกรรโชกอย่างบ้าระห่ำ

        ฟิลลิปส์พยายามเร่งเครื่องแทนการเหยียบเบรกแล้ว เขาหวังว่ามันจะทำให้เขาบังคับรถได้ดีขึ้น ตอนนี้เขาเริ่มควบคุมได้แล้ว อาการส่ายลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทางโค้งข้างหน้ามันอยู่ใกล้เกินไป รถค่อยๆเลี้ยวทีละนิดไปตามทาง รถไถลไปตามทาง แล้วพุ่งเข้าสู่ป่าทึบที่อยู่ข้างหน้าโดยที่เขายังตั้งตัวไม่ติด

                ฟิลตัวเหวี่ยงอยู่ในรถ ศีรษะเขากระแทกอย่างแรงกับกระจกด้านข้าง ตอนนี้เขาหลับตาไม่กล้าเผชิญกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เขารู้สึกว่าศีรษะเขากระแทกไปมาทั้งพวงมาลัยและกระจกด้านข้าง รถฝ่าเข้าไปในป่า เฉี่ยวต้นไม้ใหญ่บ้าง แต่มันก็ยังไม่ได้หยุดเลย ความเร็วลดลง เขาหวังว่าสิ่งต่างๆจะจบลงอย่างรวดเร็ว

        โครม !!

                ไม่นานเกินรอทุกสิ่งทุกอย่างก็สิ้นสุด อย่างที่เขาหวัง

                เขาตื่นขึ้นมาอีกทีในโรงพยาบาล พร้อมกับคำที่หมอบอกว่า เขาอาจจะสูญเสียความทรงจำบางส่วน