ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Forever Love จะรักนายตลอดไป

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1 [ 10% ]

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 52




    นี่คือของขวัญจากพวกเรา  รับมันไว้ให้ดีล่ะ  The  Angles”

     

            อ๊ากกกกกกกกกก!!!!!!!!!”

     

     

                เฮือกก!!

     

            อะไรกัน  ฝันงั้นเหรอ  ฝันแบบนี้อีกแล้ว  เมื่อไหร่มันจะหายไปซะที 

     

    ฮีชอล

     

    ขณะที่ร่างบางกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่นั้น  ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกมา  เผยให้เห็นร่างบางสองร่าง  คนหนึ่งหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตา  สวมเสื้อยืดสีฟ้าอ่อนกับกางเกงขายาวสีขาว  ดูแล้วช่วยทำให้เค้าดูขาวขึ้นหลังจากที่ขาวอยู่แล้ว  ในมือถือผ้ากันเปื้อนอยู่  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเค้ากำลังจะทำอะไร  ส่วนอีกคนมาพร้อมกับความสวย (?)  สวมเสื้อเชิ้ตสีชมพูกับกางเกงยีนสีดำพอดีตัว  ผมที่ปรกหน้าอยู่ถูกติดด้วยกิ๊บสีชมพูลายกระต่ายที่เห็นแล้วดูน่ารัก 

     

    แจจุง  ลีทึก  บอกกี่รอบแล้วว่าก่อนเข้าห้องคนอื่นหัดเคาะประตูซะบ้าง

     

    เช่นเคย  พูดไปก็เหมือนเดิม มีหรือที่สองคนนี้จะฟัง  แถมยังถือวิสาสะขึ้นมานั่งบนเตียงอีกต่างหาก

     

    เป็นอะไรรึเปล่า ฮีชอล  ลีทึกเปิดปากถาม  เมื่อเห็นร่างบางหน้าตาซีดเซียว

     

    ไม่มีอะไรหรอก  แค่ฝันร้ายเท่านั้นเอง  ฮีชอลตอบเสียงแผ่ว  ในใจพยายามจะไม่นึกถึงฝันร้ายนั้น  แต่มันก็ไม่ง่ายเลย  เพราะภายในฝันนั้นยังติดตาอยู่  เห็นที่เค้าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ลืมมัน

     

    ไม่เป็นไรแน่นะ  ลีทึกถามซ้ำอีกครั้ง  เพราะเค้ารู้ดีว่าฝันนั้นมันโหดร้ายแค่ไหน

     

    อืม...แล้วมาปลุกฉันแต่เช้ามีอะไรรึเปล่า

     

    อ๋อ  แจจุงน่ะซิ  ลีทึกพูดไปยิ้มไป  ทำให้อีชอลหันไปมองแจจุงที่นั่งเงียบอยู่นาน

     

    แจจุง?”  แจจุงไม่ตอบอะไร  เอาแต่วุ่นอยู่กับการใส่ผ้ากันเปื้อน

     

    เมื่อวานแจจุงไปได้ตำราอาหารไทยมาน่ะ  กะว่าเช้านี้จะลองทำดู

     

    แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน  ฮีชอลถามกลับ  ไม่ใช่ว่าจะให้เค้าไปช่วยทำหรอกนะ  เช้านี้ยิ่งไม่มีอารมณ์อยู่  อีกอย่างเค้าไม่ชอบทำอาหารสักเท่าไหร่

     

    แจจุงอยากให้นายไปเป็นลูกมือน่ะ  นั้นไง  ว่าแล้วเชียว

     

    ไม่เอา  ขี้เกียจ  ไม่พูดเปล่า  แต่คนพูดเอนตัวลงนอนเรียบร้อย  พร้อมกับห้มผ้าอย่างดี

     

    นะ  น้า  แจจุงอุตส่าห์ขอร้องทั้งที  ลีทึกพยายามดึงผ้าห่มที่คลุมตัวฮีชอลออก  แต่ฮีชอลก็ไม่ยอมแพ้  ดึงผ้าห่มกลับมาเหมือนกัน

     

    ฉันไม่เห็นแจจุงมันพูดอะไรเลย  มีแต่นายคนเดียวนั่นแหละที่พูดเอง

     

    นั่นมันก็จริง... 

     

    ฮีชอลพูดถูก  แจจุงไม่ได้พูดอะไรเลย  เพราะปกติเจ้าตัวเป็นคนแสดงความรู้สึกไม่เก่งและไม่ค่อยพูด  แต่เค้ารู้ว่าแจจุงอยากให้ฮีชอลช่วย  เพราะว่าตอนที่เค้ากำลังออกจากห้อง  เพื่อไปปลุกเพื่อนๆ คนอื่น  เค้าเห็นแจจุงยืนอยู่หน้าห้องนอนของฮีชอลอยู่นาน  ทำเหมือนกับว่าจะเข้าไปดีรึเปล่า  พอไปถามเจ้าตัวก็ยื่นผ้ากันเปื้อนมาให้โดยพูดแค่ว่า  เมื่อวานไปชื้อตำราอาหารมา  แค่นี้เค้าก็เข้าใจแล้ว  เพราะแจจุงเป็นคนที่ชอบทำอาหารมาก  เวลาไปได้ตำราอาหารใหม่ๆ มา  จะชอบช่วยใครคนใดคนหนึ่งไปเป็นลูกมือ  แต่ฮีชอลเป็นคนที่แจจุงชวนบ่อยที่สุด  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร

     

    แต่นายก็รู้ว่าแจจุงมันชอบนายแค่ไหน

     

    รู้  ไปได้แล้ว  คนจะนอน  พูดจบฮีชอลก็ล้มตัวนอน  ทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราว

    เฮ้ยย!!  ฮีชอล / ซิล

     

    “!!!!”

     

    เมื่อกี้นายเรียกฉัน / แจจุง ว่าไรนะ  สรรพนามแทนตัวฮีชอลที่แจจุงเรียกทำให้ทั้งสองตกใจเป็นอย่างมาก  ฮีชอลถึงกับลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงเลย  เพราะแจจุงไม่เคยเรียกตัวเองอย่างนั้นมาก่อน

     

    ซิล  ช่วยหน่อยนะ  แจจุงไม่พูดอย่างเดียว  แต่เข้าไปกอดแขนพร้อมกับเอาหน้าไปคลอเคลียกับซอกคอของฮีชอลอีกด้วย  ทำเอาฮีชอลถึงกับอึ้งไปเลย  ส่วนลีทึกนั้นสติไม่อยู่แล้ว

     

    นะ  นะ  น้าาาาา  พอเจอลูกอ้อนเข้าให้  ฮีชอลทำอะไรไม่ถูกเลย ให้ตายสิ! อย่าเอาหน้าหวานๆ ของหน้าเข้ามาใกล้ฉันจะได้มั๊ย  แล้วยังเสียงหวานๆนั่นอีก  ผู้ชายอะไรน่ารักขนาดนี้นะ

     

    อะ  อือ  สุดท้ายก็ยอมจนได้

     

    ขอบใจนะ  ฉันจะลงไปรอข้างล่าง  จุ๊บบ  พูดจบเจ้าตัวก็เดินออกจากห้องไป  โดยลืมไปว่าตัวเองนั้นทำให้คนที่อยู่ในห้องอึ้งไปอีกครั้ง

     

    ทึกกี้

     

    อะ  อะไร

     

    เมื่อกี้  นายเห็นรึเปล่า

     

    เห็นเต็มสองตาเลย

     

    แจจุงหอมแก้มฉัน  ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย

     

    ฉันควรจะถามนายมากกว่า  แจจุงไปกินอะไรผิดสำแดงมารึเปล่า

     

    วันนี้ฝนตกแน่

     

    ตกไม่ตกไม่รู้  ฉันว่านายรีบอาบน้ำแต่งตัวดีกว่า  เดี๋ยวแจจุงรอนาน  ฉันจะไปปลุกพวกนั้นก่อน  ป่านนี้คงนอนขึ้นอืดไปแล้วมั้งเนี่ย  เฮ้อออ  วันนี้มันวันอะไรวะ  พูดจบไม่วายบ่นทิ้งท้ายให้คนในห้องได้ยิน



    เดี๋ยวมาต่อค่ะ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×