ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [รูปภาพ &สัมภาษณ์ ] Jaybeom In Style Magazine
“พวกเขาน่าอัศจรรย์มาก ผมหมายถึงแฟน ๆ ด้วยความสัตย์จริง ที่ผมกลับมาก็เพราะผมรู้สึกสำนึกในบุญคุณของคนที่ช่วยให้กำลังใจผม ถ้าผมไม่มีแฟน ๆ ผมคงจะไม่ได้กลับมาแน่ ๆ”
เขาดูเหมือนจะอึดอัด หรือถ้ามองจริง ๆ ดูเหมือนเขาจะดูเหงาเล็กน้อย อาจจะไม่ใช่ เขาอาจจะแค่ดูเงียบ ๆ ในตอนแรกในสตูดิโอที่เต็มไปด้วยคนแปลกหน้า มันคงเป็นอย่างนั้น จริง ๆ น่ะ ในตาเขาดูเหมือนจะมีน้ำตา แต่จริง ๆ เขาไม่ได้ร้องไห้หรอก เป็นเพราะพวกเราเป็นกังวลกับเขามากไปก็แค่นั้นเอง
ในช่วงระยะเวลาหนึ่งชื่อ แจบอม ดูเหมือนจะเป็นชื่อที่เกี่ยวกับอาการหรือโรคอะไรสักอย่าง คนพูดถึงเขากันอย่างมากมายหรือไม่ก็ปิดปากเงียบและไม่พูดถึงเขาเลย แม้ว่าเขาจะออกจากเกาหลีไปแล้วก็ตาม คนทั่วไปยังใช้ชื่อ ปาร์ค แจบอม เป็นหัวข้อพูดคุย และ ทุกๆ การเคลื่อนไหวของเขาก็สามารถเป็นข่าวได้ และแล้วในวันหนึ่ง เหมือนฝันไป เขาได้กลับมา ดวงตาทุกคู่ก็จับจ้องไปที่เขา แต่จากวันนั้นจนกระทั่งตอนนี้เขาเพียงแค่ทำงานในส่วนของเขา จริงๆ แล้ว เขาดูเงียบๆ อย่างเช่นตอนสัมภาษณ์แจบอมพูดเพียงไม่กี่คำ และการที่ได้พูดคุยกับเขา คนที่เติบโตในอเมริกา ฉันก็ตระหนักได้ว่ามีคำภาษาจีนพื้นๆ กี่คำที่เราใช้กันเป็นประจำ เพราะว่าตลอดเวลาที่สัมภาษณ์เขาไม่เข้าใจความหมายของคำที่ถามออกไป เขามักจะถามความหมายของคำเหล่านั้น เหมือนกับคนที่พยายามที่จะแปลความคิดในหัวของเขาให้ออกมาเป็นคำที่ถูกต้องใกล้เคียงมากที่สุด เขามักจะพูดซ้ำๆ ว่า “เพียงเพราะว่า” ในการตอบคำถามหลายๆ ครั้งดูเหมือนกับว่าเขาไม่ต้องการให้ตีความความหมายเกินความเป็นจริง ทั้งเรื่องในอดีต และ เรื่องราวในปัจจุบัน (โถ่ๆๆ ที่รักของเค้า) นี้อาจจะดูเป็นอย่างนั้นเพราะคนที่กำลังนั่งฟังเขาตอนนี้รู้สึกเห็นอกเห็นใจเขา
หลังจากการสัมภาษณ์ แจบอมดูเหมือนเด็กที่ได้รับอิสระหลังจากที่ทำการบ้านเสร็จ tattoist ที่เห็นในภาพเป็น tattoo ที่วาดเพื่อการถ่ายรูปและมันถูกวาดไปบนผิวหนังของเขาโดยฝีมือของทีมงานผู้หญิง แต่เขาก็พูดตลกๆ ว่า "มันถูกแล้ว (ที่ผญ.เป็นคนวาด) ถ้าเป็นผู้ชายมาทำอะไรแบบนี้ที่ผม ผมคงกลัวแน่ๆ” (หันขวับ พร้อมกับทำตาเขียว บึนปาก กร๊ากกก) และในขณะที่เขามองไปที่นาฬิกาข้อมือที่ถูกวาดอยู่บนข้อมือของเขา เขาก็ถามขึ้นมาว่า “คุณอยากฟังเพลงใหม่ของผมมั้ย? มันยังไม่ถูกปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการนะ” เพลงที่เขาพูดถึงคือเพลงที่เขาเขียนเนื้อร้องเอง และมีชื่อเพลงว่า'Bestie'
ตอนที่เพลงเริ่มต้นขึ้น แจบอมก็เริ่มสนุกสนานไปกับทำนอง และ เริ่มต้นที่จะเคลื่อนไหวร่างกายของเขา และแน่นอนเขาเริ่ม เคลื่อนไหว เต้น วิ่ง และ ตีลังกา ราวกับว่าเขาฝืนแรงดึงดูดของโลก ด้วยจิตใจที่กระตือรือร้นที่ไม่น่าเบื่อ ความตื่นเต้นและความบ้าคลั่งที่เป็นอิสระ เพราะว่านี้คือแจบอม หลังจากนั้นพวกเราก็พบกันอีกครั้งที่หลังเวทีที่งานคอนเสิร์ตที่ Naksan Summer Week & T“ผมดูเป็นยังงัยบ้าง? คุณได้ยินท่อนแรปชัดมั้ย? แต่นั้นคือวันที่ 7 สิงหาคม 3 วันให้หลังจากการพบกันครั้งแรกที่สตูดิโอ และเมื่อฉันยื่นเครื่องบันทึกเทปไปตรงตำแหน่งที่เขานั่งอยู่ แจบอมคนเดิมในคืนวันที่ 4 สิงหาคมก็กลับมาอีกครั้ง และ เขาก็ขยับเก้าอี้ของเขา เขาได้เริ่มคุยอย่างไม่ลังเลด้วยใบหน้าที่ผ่อนคลาย เขาบอกว่า
ตอนที่เพลงเริ่มต้นขึ้น แจบอมก็เริ่มสนุกสนานไปกับทำนอง และ เริ่มต้นที่จะเคลื่อนไหวร่างกายของเขา และแน่นอนเขาเริ่ม เคลื่อนไหว เต้น วิ่ง และ ตีลังกา ราวกับว่าเขาฝืนแรงดึงดูดของโลก ด้วยจิตใจที่กระตือรือร้นที่ไม่น่าเบื่อ ความตื่นเต้นและความบ้าคลั่งที่เป็นอิสระ เพราะว่านี้คือแจบอม หลังจากนั้นพวกเราก็พบกันอีกครั้งที่หลังเวทีที่งานคอนเสิร์ตที่ Naksan Summer Week & T“ผมดูเป็นยังงัยบ้าง? คุณได้ยินท่อนแรปชัดมั้ย? แต่นั้นคือวันที่ 7 สิงหาคม 3 วันให้หลังจากการพบกันครั้งแรกที่สตูดิโอ และเมื่อฉันยื่นเครื่องบันทึกเทปไปตรงตำแหน่งที่เขานั่งอยู่ แจบอมคนเดิมในคืนวันที่ 4 สิงหาคมก็กลับมาอีกครั้ง และ เขาก็ขยับเก้าอี้ของเขา เขาได้เริ่มคุยอย่างไม่ลังเลด้วยใบหน้าที่ผ่อนคลาย เขาบอกว่า
มันเป็นระยะเวลา 9 เดือนเลยน่ะ คุณทำอะไรบ้างในช่วงเวลานั้น?
ในอเมริกาเหรอครับ? (ใช่ ในอเมริกา) อืมมมมม อย่างแรกตอนที่ผมกลับไปอเมริกา ผมกลับไปทักทายสวัสดีญาติ ๆ ของผมที่ไม่ได้พบกันนานเพราะผมมาอยู่ที่เกาหลี และก็กินอาหารเย็นกัน ผมอยากจะทำงานอีกครั้งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ และ ผมก็ซ้อมเต้นกับเพื่อนๆ สมาชิกในวง
เป็นทีมเต้นที่ร่วมปรากฏในหนังเรื่อง Hype Nation ใช่มั้ย?
อ่า ใช่ครับ ผมฝึกซ้อมร่วมกับพวกเขา ซ้อม acrobatics ทุกๆ วันพฤหัสบดี แบบนั้นแหล่ะครับ
ตอนนี้คุณคงถ่ายหนังมาได้กลางๆ เรื่องแล้วใช่มั้ย?
ใช่ครับ จริงๆ ผมมีถ่ายหนังวันพรุ่งนี้ด้วยครับ
เนื่องจากผู้กำกับเป็นคนอเมริกัน มันดูเหมือนกับหัวข้อข่าวที่บอกว่าว่าคุณกำลังก้าวเท้าไปในฮอลลีวู๊ด เริ่มมีออกมา (เขาทำหน้าเหมือนอยากจะหัวเราะ)
อ่า.. ผมไม่ทราบครับ สำหรับผมมันคงจะดีถ้าหนังประสบความสำเร็จ
ที่คุณแสดงสีหน้าอย่างนั้นมันดูเหมือนว่าคุณกำลังอายรึเปล่า?
การที่พูดว่า ก้าวเท้าไปในฮอลลีวู๊ด มันดูเป็นภาระสำหรับผม คนทั่วไปพูดกันว่า “แจบอมมี่กำลังจะแสดงหนัง” นั่นก็ทำให้ผมอายพออยู่แล้ว การที่พูดว่า ก้าวเท้าไปในฮอลลีวู๊ด ทำให้ผมอายสุดๆ ไปเลย (กรี๊ดด น่ารัก >.,<)
มันดูเหมือนเซอร์ไพรส์เลยนะ อยู่ๆ ก็เล่นหนัง
ตอนแรกผมไม่ได้จะเล่นหรอกครับ แต่พวกเขาบอกว่าผมจะได้เล่นกับเพื่อนๆ ในกลุ่มเต้นของผม ผมก็เริ่มเปลี่ยนใจครับ
คุณหมายถึง AOM?
ใช่ครับ พวกเขาเป็นเพื่อนเก่าของผม พวกเรารวมกลุ่มกันเต้นตั้งแต่ตอนปี ตอนแรกการเป็นนักร้องไม่ใช่ความฝันของผม ผมต้องการแค่เต้นบีบอยเท่านั้น ดังนั้นผมมักจะคิดเสมอว่า มันจะดีแค่ไหนนะถ้าผมได้ทำอะไรก็ตามที่ผมชอบกับเพื่อนๆ ของผม แต่ตอนที่ผมเปิดตัวเป็นนักร้อง ผมมาเกาหลีคนเดียว ดังนั้นตอนนี้ผมจึงต้องการที่จะทำงานร่วมกับพวกเขา
ในทวิตของคุณมักจะกล่าวถึงการเต้น การฝึกซ้อม ดนตรี มันดูเหมือนในหัวของคุณเต็มไปด้วยความคิดเหล่านั้น?
เพราะว่ามันสนุกน่ะครับ (หัวเราะ) การเต้น การแต่งเนื้อแรป การร้องเพลง ผมทำมันทั้งหมดเพราะผมรู้สึกสนุก ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆ ให้ผมทำ ผมก็คงไม่ทำสิ่งเหล่านี้ ผมไม่ได้ฝึกซ้อมทุกวันนะครับ แต่ผมเล่นเกมส์กับเพื่อนทุกวัน (พี่โบว์ : ตรงอีกแล้วแฟนน้องแจม/ แจม : พี่โบว์ก็ตรงที่บอกว่าแฟนเค้า คิๆ)
เกมส์อะไรเหรอ?
เพราะว่ามันสนุกน่ะครับ (หัวเราะ) การเต้น การแต่งเนื้อแรป การร้องเพลง ผมทำมันทั้งหมดเพราะผมรู้สึกสนุก ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆ ให้ผมทำ ผมก็คงไม่ทำสิ่งเหล่านี้ ผมไม่ได้ฝึกซ้อมทุกวันนะครับ แต่ผมเล่นเกมส์กับเพื่อนทุกวัน (พี่โบว์ : ตรงอีกแล้วแฟนน้องแจม/ แจม : พี่โบว์ก็ตรงที่บอกว่าแฟนเค้า คิๆ)
เกมส์อะไรเหรอ?
หลังจากกลับมาที่เกาหลี ผมเล่นเกมส์ Starcraft ที่ห้องคอม เนื่องจากผมไม่สามารถออกไปไหนกับเพื่อนๆ ได้พวกเราเลยไปที่ห้องคอมหลังจากเสร็จงานครับ (หัวเราะ)
ฉันไม่รู้ว่าที่ไหน แต่พนังงานที่ห้องคอมเหมือนถูกล๊อตโต้เลยนะ เขา/เธอได้ขอลายเซ็นคุณรึเปล่า?
อ่า เย้ (หัวเราะ) มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปกับผมด้วยครับ (ยังจะอวด คิๆ)
คุณรู้รึเปล่าว่าทุกครั้งที่มีวิดีโอของคุณแจบอมทางยูทูป หรือ เมื่อคุณทวิต มันจะเป็นหัวข้อข่าวในเกาหลีทันที?
ผมไม่ทราบเรื่องเหล่านั้นครับ
คุณรู้สึกยังงัยบ้าง?
คุณรู้สึกยังงัยบ้าง?
ผมคิดว่ามันมากไปน่ะครับ จริงๆ แล้ว มันเป็นอะไรที่ผมต้องขอบคุณนะครับ เพราะนั่นหมายความว่าพวกเขายังให้ความสนใจผมอยู่ ผมยังประหลาดใจเลยครับที่พวกเขาเอาเรื่องที่ผมคิดว่าไม่สำคัญเท่าไรมาเป็นหัวข้อข่าวได้ ถ้าผมเป็นคนที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก (หัวเราะ) จริงๆ นะครับ ผมพยายามที่จะไม่สนใจข่าวที่เกี่ยวกับผม
คุณต้องเป็นคนที่ใจกว้างมากๆ
มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ (หัวเราะ) มันก็แค่ผมมีความพยายามในสิ่งที่ผมทำ และแฟนๆ ก็อยากรู้ว่าผมเป็นยังงัยบ้าง ดังนั้นผมจึงบอกพวกเขาว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ ก็แค่นั้นครับ
จริงๆ แล้ว แจบอมชี่ คือไอคอลที่มีแฟนคลับที่มีลักษณะเฉพาะ
อ่า มันดูเป็นอย่างนั้นเหรอครับ?
ใช่ เพราะไม่ใช่แค่หนังสือดาราทั่วๆ ไป แต่ นิตยสารข่าวต่างๆ ก็มีหัวข้อข่าวเรื่องแฟนคลับของ ปาร์ค แจบอม เป็นหัวข้อข่าว
ใช่ เพราะไม่ใช่แค่หนังสือดาราทั่วๆ ไป แต่ นิตยสารข่าวต่างๆ ก็มีหัวข้อข่าวเรื่องแฟนคลับของ ปาร์ค แจบอม เป็นหัวข้อข่าว
อ่า .. ผมเข้าใจแล้ว (พร้อมกับทำหน้าประหลาดใจ)
ฉันได้ยินผ่านๆ มาว่า ลักษณะของแฟนคลับของคุณเป็นแบบ “สัญชาตญาณของการเป็นแม่” (ชีคนที่ถาม ช่างถามได้เสียดแทงมาก กร๊ากกกก)
ฉันได้ยินผ่านๆ มาว่า ลักษณะของแฟนคลับของคุณเป็นแบบ “สัญชาตญาณของการเป็นแม่” (ชีคนที่ถาม ช่างถามได้เสียดแทงมาก กร๊ากกกก)
อะไรคือ “สัญชาตญาณของการเป็นแม่”
หัวใจของคนเป็นแม่ที่คิดถึงลูก
อ่า แบบนั้น (เข้าใจอะไรบ้างเตี้ย กร๊ากกก) พวกเขามหัศจรรย์มาก ผมหมายถึงแฟนๆ เพราะผมรู้สึกสำนึกในบุญคุณของคนที่ช่วยให้กำลังใจผม ดังนั้นผมจึงกลับมา และผมกำลังจะออกอัลบั้มใหม่ และ งานอื่นๆ ถ้าไม่ใช่สำหรับแฟนๆ ผมก็คงจะไม่กลับมา
คุณติดต่อแฟนๆ เป็นการส่วนตัวรึเปล่า?
ไม่ครับ ผมพยายามจะไม่ทำเท่าที่ผมจะทำได้ มันดูเป็นการไม่ยุติธรรมถ้าผมคุยกับแฟนๆ บางคน แต่ไม่ได้คุยกับแฟนๆ คนอื่นๆ จริงๆ แล้วพ่อแม่ของผมต่างหากที่คุยกับพวกแฟนๆ โดยเฉพาะแม่ของผม แม่ทำมันทั้งหมดเพราะแม่รู้สึกขอบคุณ เพราะแฟนๆ ของผมเป็นกังวลเกี่ยวกับผม แม่เลยพยายามทำให้แฟนๆ รู้สึกผ่อนคลาย (กราบแทบอกค่ะคุณแม่ คิๆ ต้องเข้าทางคุณแม่แล้วซินะ กรั๊กๆ)
มาต่อกัน พาร์ทที่ 2 ค่ะ
คุณมักจะกล่าวขอบคุณแฟนๆ เสมอ
หลังจากที่แฟนๆ เห็นวิดีโอที่ผมอัพโหลดลงในยูทูปจากอเมริกา แฟนๆ บอกว่าอยากเห็นผมบนเวทีอีกครั้ง นั้นคือเหตุผลที่ผมทำงานแฟนมีทติ้ง เพราะผมอยากแสดงให้แฟนๆ ได้เห็นการแสดงที่เจิดๆ อะไรอย่างนั้นครับ
งานแฟนมีทติ้งที่ต่างประเทศได้จัดทำตารางไว้แล้ว? มีกี่ประเทศที่คุณจะทำการแสดง?
หลังจากที่แฟนๆ เห็นวิดีโอที่ผมอัพโหลดลงในยูทูปจากอเมริกา แฟนๆ บอกว่าอยากเห็นผมบนเวทีอีกครั้ง นั้นคือเหตุผลที่ผมทำงานแฟนมีทติ้ง เพราะผมอยากแสดงให้แฟนๆ ได้เห็นการแสดงที่เจิดๆ อะไรอย่างนั้นครับ
งานแฟนมีทติ้งที่ต่างประเทศได้จัดทำตารางไว้แล้ว? มีกี่ประเทศที่คุณจะทำการแสดง?
ก็มากอยู่ครับ แปด หรือ เก้าประเทศ สำหรับตอนนี้มีแค่ประเทศในแถบเอเชีย แต่ผมอาจจะจัดที่ LA ด้วยครับ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจครับ
ถ้าให้คุณเปรียบเทียบความรู้สึกครั้งแรกที่มาที่เกาหลีเพื่อเป็นนักร้องกับตอนนี้ที่คุณกลับมาเกาหลีอีกครั้งมีความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?
มันแตกต่างกันน่ะครับ ครั้งแรกผมมาที่นี่ผมคิดถึงพ่อแม่ แต่ตอนนี้ผมคิดถึงแฟนๆ ที่ผมกลับมาก็เพื่อแสดงความขอบคุณแก่แฟนๆ ครับ (บ้า บอกคิดถึงเค้าออกสื่ออีกแระ คิๆ เขิลลลล)
ถ้าให้คุณเปรียบเทียบความรู้สึกครั้งแรกที่มาที่เกาหลีเพื่อเป็นนักร้องกับตอนนี้ที่คุณกลับมาเกาหลีอีกครั้งมีความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?
มันแตกต่างกันน่ะครับ ครั้งแรกผมมาที่นี่ผมคิดถึงพ่อแม่ แต่ตอนนี้ผมคิดถึงแฟนๆ ที่ผมกลับมาก็เพื่อแสดงความขอบคุณแก่แฟนๆ ครับ (บ้า บอกคิดถึงเค้าออกสื่ออีกแระ คิๆ เขิลลลล)
คุณยังคงติดต่อกับสมาชิกของบ่ายสองรึเปล่าหลังจากที่กลับมา?
อืมมม ไม่ครับ
แต่คุณจะต้องพบพวกเขาตามห้องส่งหรือห้องพักศิลปิน?
แต่คุณจะต้องพบพวกเขาตามห้องส่งหรือห้องพักศิลปิน?
ถ้าผมพบพวกเขา ผมก็จะกล่าวทักทายพวกเขาอย่างเต็มอกเต็มใจ ถ้าพวกเราได้กลับมาสนิทกันอีกครั้งผมคงจะดีใจมากๆ มันคงจะดีถ้าบ่ายสองประสบความสำเร็จเหมือนกัน (ผช.ดีที่สุด เริ่ดดดดด)
แล้วอะไรคือสิ่งที่คุณทุ่มเทให้มากที่สุดตอนนี้? เอาแค่งานในประเทศตอนนี้ ?
คุณหมายความว่าตอนที่ผมกลับมาใช่มั้ยครับ?
ใช่ เพลงใหม่ของคุณกำลังจะปล่อยออกมา ภาพยนตร์ แล้วงานคอนเสิร์ตที่ Naksan Summer Week & T stage...
ใช่ เพลงใหม่ของคุณกำลังจะปล่อยออกมา ภาพยนตร์ แล้วงานคอนเสิร์ตที่ Naksan Summer Week & T stage...
ใช่ ครับ คุณพูดถูก ตอนนี้ผมต้องทำงานหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Summer Week & T มันเป็นเวทีใหญ่เวทีแรกที่ผมกลับขึ้นมายืนอีกครั้งในรอบ 9 เดือน ในฐานะนักร้อง และที่ผมต้องทุ่มเทให้กับมันมากๆ เพราะผมมีเวลาเตรียมตัวแสดงไม่นากนัก (หัวเราะ)
การแสดงครั้งแรกในรอบ 9 เดือน คุณคงเครียดมากเลยใช่มั้ย?
ผมไอติดต่อกันเป็นเดือนแล้วครับ ผมก็ไอไปด้วยตอนร้องเพลง แต่ผมไม่ได้เป็นหวัดนะครับ ไม่ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรเหมือนกัน
โอ้ คุณไปหาหมอรึเปล่า?
ครับ ถึงแม้ว่าผมจะไปหาหมอ และกินยา แต่มันก็ยังไม่หยุด ดังนั้นวันนี้อาการไอคือสิ่งที่ผมกังวลมากที่สุด ผมกลัวว่าผมจะไอตอนที่กำลังร้องเพลงน่ะครับ
แฟนๆ ที่มีจิตใจของความเป็นแม่ต้องกังวลแน่ๆ ถ้ารู้เรื่องนี้? (-_-“ หล่อนคนนี้รู้อีกแล้ว เง้ออออ)
จริงๆ แล้วแฟนๆ กังวลเกี่ยวกับผมมากอยู่แล้วครับ พวกเขาส่งน้ำผึ้งมาให้ผมทุกวัน นอกจากนั้นยังมี ชายูจา และบอกผมให้หายป่วยไวๆ (หัวเราะ)
นอกเหนือจากการเป็นนักร้องที่ชื่อแจบอม ในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ '20s Man Jaebum' คุณใช้เวลาทำอะไรเหรอ?
จริงๆ แล้ว ผมทำอะไรไม่มากหรอกครับ ผมเล่นเกมส์ PS3 กับเพื่อนๆ ผมไม่เคยเล่นเกมส์คนเดียว มันไม่สนุกเลยครับ (คนรุ่นใหม่? คำถามออกจะซีเครียด แต่แกตอบเล่นเกมส์เนี๊ยะนะ ฮ่าๆ)
บางทีคุณอาจจะชอบอยู่กับเพื่อนมากกว่าเล่นเกมส์นะ ใช่อย่างนั้นรึเปล่า?
อะไรก็ตามที่ผมทำ ผมจะทำกับเพื่อนๆ ก่อนครับ มากกว่าที่จะทำมันเพราะสนุก อย่างไรก็ตามตอนนี้เพื่อนๆ ของผมกลับไปอเมริกากันแล้ว ดังนั้นผมก็อยู่คนเดียว เลยมีเวลาเหลือมากครับ ผมจึงติดตามดูทวิตเพื่อที่จะดูว่าเพื่อนๆ ผมทำอะไรกันบ้าง ถ้าผมอยู่คนเดียวผมมักจะไปออกกำลังกายครับ (หัวเราะ) (เจย์ติดเพื่อนซินะ อยากติดแฟนมั่งมั๊ยเจย์ คิๆ)
คุณคงรู้สึกเบื่อและเหงาด้วย
ครับ ดังนั้นผมจึงฝึกเต้นครับ
โอ้ ซ้อมอีกแล้วเหรอ?
อ่า ครับ มันแตกต่างจากการฝึกซ้อมครับ
มันไม่มีเส้นขอบระหว่างการทำงานและเล่นใช่มั้ย?
มันไม่มีเส้นขอบระหว่างการทำงานและเล่นใช่มั้ย?
(ทำหน้าดีใจ) ใช่ถูกต้องครับ เพราะว่ามันสนุก และผมก็พยายามที่จะเต้นให้ดีที่สุดเสมอ ดูนี่สิ ที่รอยสัก (เจย์โชว์รอยสักที่หน้าอกซ้ายให้นักข่าวดู... อิชชี่มว๊ากกก มาไทยมาเปิดให้เค้าดูด้วยนะ) มันแปลว่า “ทำให้ดีที่สุด” (จริงๆ น่าจะ Always come proper: ประพฤติตัวอย่างเหมาะสมรึเปล่า)
ตัวเลขที่แถวล่างหมายถึงอะไรเหรอ?
55 คือปี 1955 เป็นปีเกิดของคุณพ่อครับ , 60 ที่อยู่ถัดไปเป็นปีเกิดของคุณแม่ ถัดไปคือปีเกิดของผม (87) และน้องชาย (89) ครับ (พี่โบว์ : ปีเกิดน้องแจมอยู่ไหน?/แจม : ฝังลึกอยู่ในหัวใจของเจย์เลยพี่โบว์ ฮิ้วววววว )
มันเป็นรอยสักที่คนที่รักครอบครัวเท่านั้นถึงจะทำแบบนี้
มันเป็นรอยสักที่คนที่รักครอบครัวเท่านั้นถึงจะทำแบบนี้
ใช่ครับ เพราะว่าผมมั่นใจว่าพวกเราจะรักกันไปชั่วนิรันดร์ อ่า และนี้คือ ชื่อกลุ่มเต้นของพวกเรา (ว่าแล้วก็โชว์รอยสักที่เขียนว่า AOM ที่หลังใบหูด้านขวา)
คุณชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ?
จริงๆ แล้วผมไม่มีสเปคที่ตายตัวนะครับ ผู้หญิงที่ผมคิดว่า “โอ้ พวกเขาน่ารักจังเลย” มีสไตล์ที่แตกต่างกันหลายแบบครับ (ทำไมไม่บอกไปว่าชื่อแจมหล่ะจ๊ะเจย์จ๋า)
อีกคำถาม แล้วจุดไหนของผู้หญิงที่ทำให้คุณรู้สึกสนใจ?
อืม ผู้หญิงที่ยิ้มน่ารัก และ สวยในเวลาเดียวกัน (เค้าอีกแระ เฮ้ออออ ลำบากใจ คิๆ)
นั่นมันยากมากเลยนะ คุณจะหาคนที่ยิ้มแบบนั้นได้ยังงัย?
ผมก็ไม่รู้หมือนกัน (หัวเราะ) ผมไม่รู้จริงๆ นะ และผมชอบผู้หญิงที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ผู้หญิงที่ยังดูน่ารักแม้ตอนที่ไม่แต่งหน้า และมันจะดีมากทีเดียวถ้าเธอเต้นได้ดีด้วย (หัวเราะ) (พี่โบว์ : เจย์..นูนาก็สวยแบบธรรมชาติลงโทษนะ เต้นหมอลำซิ่งก็ได้ตรงตามสเปคเจย์เลย อิอิอิ/ แจม : เต้นแอโรบิคพอไหวมั๊ยเจย์ คิๆ )
โอ้ มีผู้หญิงอย่างนั้นอยู่จริงๆ เหรอ?
มีครับ มีแน่นอนครับ (พี่โบว์ : สาวไทยเองแหล่ะค่ะคุณนักข่าว/ แจม : ก็บอกว่าเค้าไง คึๆ)
มันไม่ใช่ว่าคุณเจอผู้หญิงแบบนั้นแล้วเมื่อเร็วๆ นี้นะ (ป้าดดด ถามเสียดแทงอีกแล้ว) แน่นอนทีเดียวตอนนี้ฉันมีคนที่ฉันคิดเอาไว้ปรากฏมาในหัวแล้ว?
(เจย์หยุดคิด) เพราะว่าผมไม่สามารถคิดถึงใครเลยในหัวของผม ดังนั้นดูเหมือนว่าผมยังไม่เจอใครครับ (โล่งอก เฮ้ออออออออ)
คุณคิดว่าคุณเป็นคนที่มีเสน่ห์มั้ย?
ไม่ครับ ผมไม่คิดว่าผมจะมีเสน่ห์มากมายอะไร
ทำไมหล่ะ?
ทำไมหล่ะ?
อันดับแรก รองเท้าแตะ (ว่าแล้วก็ยกขาขึ้นโชว์รองเท้าแตะที่ใส่อยู่) และ ถุงเท้าสีเทานี้ ผมชอบแบบนี้ แล้วอย่างนี้ผมจะมีเสน่ห์ยังงัยหล่ะครับ (หัวเราะ) ผมไม่คิดว่าผมมีเสน่ห์ ผมไม่คิดว่าจะมีใครมาตะโกนว่า “ว้าว เขาช่างมีเสน่ห์จริงๆ” ตอนที่ผมไปกินข้าวตามร้านอาหารหรอกครับ (หัวเราะ) (เดี๋ยวแกจะได้ยินตอนมาไทย อิอิอิ)
ตอนที่คุณยิ้มน่ะ ตาของคุณดูคมมากเลย?
นี้เหรอครับ? มันเป็น eyeliner น่ะครับ (หัวเราะ) (ผช.ของฉันซื่ออีกแล้ว คิๆ)
'Count On Me' เป็นเพลงที่มีสไตล์ที่แตกต่างไปจากช่วงที่คุณอยู่กับบ่ายสองนะ
'Count On Me' เป็นเพลงที่มีสไตล์ที่แตกต่างไปจากช่วงที่คุณอยู่กับบ่ายสองนะ
ใช่ครับมันต่างกัน ผมเขียนเพลงนี้ด้วยตัวเอง มันจึงเป็นรูปแบบของดนตรีและการเต้นที่ผมชอบ เมื่อก่อนผมร้องเพลงที่คนอื่นแต่งให้น่ะครับ (ผช.ตรงเกินไปอีกแล้ว 55+)
มันน่าจะมีความแตกต่างระหว่างร้องเพลงที่คนอื่นแต่งกับร้องเพลงที่คุณเขียนขึ้นมาเอง?
โอ้ มันแตกต่างกันครับ อย่างเพลง 'Bestie' ผมเขียนเนื้อร้องเอง ดังนั้นผมจึงคาดหวังกับเพลงที่จะปล่อยออกมามากกว่า ผมตื่นเต้นจริงๆ นะครับ และอยากรู้ว่าคนอื่นๆ คิดอย่างไรตอนที่ได้ยินเพลงนี้
ถ้าให้คุณเลือก 1 อย่างที่คุณจะไม่มีทางละทิ้งเลยในตลอดชีวิตของคุณ?
ครอบครัวของผมครับ (ตอบได้น่ารัก นั่นหมายถึงเจย์จะไม่ทิ้งเค้าด้วยใช่มั๊ย อร๊ายยยย >.,<)
คุณตอบมันภายใน 0.1 วินาที
คุณตอบมันภายใน 0.1 วินาที
จริงเหรอ? จริงๆ แล้ว ผมไม่สนใจในรถยนต์ หรือสิ่งอื่นๆ ผมยังงัยก็ได้กับรถยนตร์ตราบเท่าที่มันยังคงแล่นไปได้ด้วยดี (หัวเราะ) (พี่โบว์ : รั่ว??? / แจม : เจย์หมายถึง แม้รถที่มันใช้จะเก่า แต่ถ้ามันยังวิ่งได้ เจย์ก็พอใจแล้วหน่ะค่ะ ผช.ไม่เรื่องมาก อธิบายให้แบบคนที่รู้ใจเจย์ คิๆ)
แล้วการมีชื่อเสียงหล่ะ?
ชื่อเสียงเหรอ ...แต่มันไม่ยั่งยืนตลอดไปนะ
แต่มันอาจจะแตกต่างก็ได้นะ ในสิ่งที่คุณคิดเมื่อเปรียบเทียบกับความนิยมที่คุณได้รับ
แต่มันอาจจะแตกต่างก็ได้นะ ในสิ่งที่คุณคิดเมื่อเปรียบเทียบกับความนิยมที่คุณได้รับ
แน่นอนทีเดียว ต้องขอบคุณมากๆ ที่ให้ความนิยมในตัวผม แต่อย่างไรก็ตาม ความนิยมเหล่านั้นอาจจะเปลี่ยนแปลงหรือหมดไปได้ แต่ครอบครัวเป็นอมตะครับ (ปรบมือ ซาวๆๆๆ)
คุณมีความสุขรึเปล่าตอนนี้?
ครับผมมีความสุข ผมมีความสุขที่ได้กลับมา ผมมีความสุขที่ผมได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นตอนที่กลับมา มีความสุขที่ผู้คนยังให้ความสนใจในตัวผม ผมมีความสุขที่ได้กลับมาร้องแรป ร้องเพลง และเต้นบนเวทีอีกครั้ง ตอนนี้ผมมีความสุขครับ (ผช. มีความสุข เค้าก็มีความสุข คิๆ มีความสุขร่วมกันกับเจย์ คิๆ)
เอาหล่ะ มาถึงคำถามสุดท้าย ถ้ามีใครมาถามว่า “ใครคือ ปาร์ แจบอม”? คุณจะตอบว่าอะไร?
ผมไม่รู้จริงๆ ครับ ควรจะเป็นคนแบบไหนนะ? อือ มันเป็นคำถามที่ยากจริงๆ ผมไม่ใช่คนที่คิดอะไรหนักๆ แบบนี้ด้วย (หัวเราะ) (อ้าว ดวก ฮ่าๆ คำถามสุดท้ายแล้วแต่ที่รักยังสติลมึนอยู่ ฮ่าๆ)
จริงเหรอ, ฉันเดาว่าสิ่งที่พวกเราได้พูดคุยกันเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา คงบอกได้ว่าปาร์ค แจบอม เป็นคนอย่างไร?(ผช.เป็นคน กวน มึน ฮา ค่ะ คิๆ)
http://www.jaypark-thailand.com/[OFFICIAL] JAY PARK aka Park Jaybum 박재범 http://www.soompi.com/
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น