ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักเธอเข้าแล้วทำไงได้ ❤ [SJ&SNSD]

    ลำดับตอนที่ #2 : ★ EP 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 459
      0
      21 มี.ค. 54







                                  ร่างบางของซอฮยอนที่เดินเอื่อยๆในตอนเช้าเหมือนเช่นทุกวัน เธออยากจะลองตื่นสายเหมือนกับคนอื่นบ้าง แต่คงเป็นเพราะตื่นเช้าจนเป็นนิสัยแล้วต่อให้นอนไม่หลับ นอนดึกแค่ไหน เธอก็ยังตื่นเช้าเป็นเวลาเดิมไม่เคยเปลี่ยน ยิ่งเมื่อคืนเป็นครั้งแรกที่เธอปิดตาไม่ลงสักที ทั้งๆที่เข็มนาฬิกาตอนนั้นบ่งบอกเป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้วแท้ๆ ในหัวของเธอเห็นแต่หน้าตาของผู้ชายที่เจอในห้องสมุดวนไปวนมาจนเธอนอนไม่หลับ
     อย่าได้คิดเชียวนะว่าเธอกำลังสนใจผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นน่ะ

     

         “ ไม่เอาอ่ะ ซอฮยอน เธอเป็นบ้าอะไรของเธอ ซอฮยอนสบถกับตัวเองเบาพลางคลึงที่ขมับอย่างคนใช้ความคิด 

     

         “ ซอฮยอนนนนน เฮ้ย!!! แกเป็นไรอ่ะปวดหัวหรอ ควอนยูริที่มาโรงเรียนเช้ากว่าปกติทักทายอย่างแจ่มใส ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์เมื่อเจอเพื่อนสนิทยืนก้มหน้าตาแถมยังทำท่าทางเหมือนคนคิดหนักอยู่ตรงหน้าห้องเรียน

     

         “ อย่าก้มหน้า  ไหนเงยหน้าขึ้นดิ   ฮโยยอนพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลพลางจับตามเนื้อตัวของซอฮยอน เผื่อว่าจะมีอะไรผิดปกติ

     

         “ พวกแกนี่ตื่นตูมไปได้ ฉันไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย

     

         “ ซ้อมเปียโนหนักอีกแล้วใช่มะ บอกกี่ทีแล้วว่าเพลาๆซะบ้าง บอกกี่ทีแกถึงจะเข้าใจ ห๊ะ

     

         “ ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งว่ากันดิ ฉันไม่ได้ซ้อมเปียโนจนดึก แค่เมื่อคืนนอนไม่หลับเฉยๆ ซอฮยอนบอกพลางยกมือเชิงให้ฮโยยอนหยุดบ่นอย่างกับแม่เธอเสียที ก่อนจะแก้ตัวด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ เธอไม่กล้าบอกเพื่อนเลยว่า เธอเห็นแต่หน้าผู้ชายเลยนอนไม่หลับ ถ้ายัยเพื่อนสองคนนี้รู้มีหวังล้อเธอยันแก่แน่ๆ

     

        “ อ้าว แล้วทำไมนอนไม่หลับอ่ะ มีเรื่องอะไรเปล่า ปรึกษากันได้นะเว้ย ยูริพูดพลางตบบ่าเบาๆ

     

        “ เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก เข้าห้องกันเถอะ ซอฮยอนพูดตัดบทพลางเดินเข้าห้อง เธอไม่กล้าบอกเพื่อน เพราะยังไม่รู้ความรู้สึกที่แน่ชัดของตัวเอง เฮ้อออ ความรู้สึกตัวเองแท้ๆ เธอยังไม่รู้เลย แล้วเธอจะเอาอะไรไปปรึกษาได้ล่ะ

     

        “ มีพิรุธว่ะ ยูริกระซิบกับฮโยยอนเบาพลางมองหลังไวๆของซอฮยอนที่เดินเข้าไปในห้องเรียนแล้ว

     

        “ มันไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะเว้ย แกจะช่วยฉันสืบปะ

     

        “ สืบเรื่องซอฮยอนเนี่ยนะ จะไปสืบจากไหนวะ จนเราตายฉันว่าเราก็ไม่เจอเบาะแสอะไรหรอก ถ้ามันไม่ปริปากพูดน่ะ ยูริพูดพลางถอนหายใจ ความลับของซอฮยอนเป็นสิ่งที่เธออยากรู้มากที่สุด ตามปกติของเจ้าแม่อัพเดตที่อยากรู้ทุกเรื่อง แต่อยู่กับซอฮยอนมาตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นจนตอนนี้ขึ้นมัธยมปลายปีหนึ่งแล้ว อย่าว่าแต่ความลับเลย เรื่องปรึกษายังไม่เคยได้เอ่ยจากปากของเพื่อนเธอคนนี้เลย

     

       “ มันต้องมีดิ ไหนว่าเป็นเจ้าแม่อัพเดตไง แค่นี้ทำไม่ได้หรอวะ ฮโยยอนประชดพลางเขกหัวยูริเบาๆ

     

       “ ไม่รู้เว้ย  

     

        “ หวังพึ่งแกไม่เคยจะได้ ฮโยยอนพูดพลางส่ายหัว ยูริมองการกระทำของเพื่อนสนิทของตัวเองฉุนๆ คนอื่นเธอพอทำได้ แต่ไอ้คนปริศนาเยอะแถมเก็บตัวอย่างซอฮยอน เธอไม่รู้จะเริ่มสืบจากตรงไหนจริงๆ

     

         “ พวกแกไม่เข้าห้องหรอ จะคุยก็มาคุยที่โต๊ะดิ ยืนคุยให้เมื่อยทำไมอ่ะ ซอฮยอนที่โผล่หน้าจากหน้าต่างห้องเรียน ถามขึ้นพลางกวักมือเรียกให้เข้าห้อง  สองสาวจึงเดินเข้าไปในห้องเรียน ก่อนจะฝากปริศนาที่ยังคิดไม่ตกเอาไว้ก่อน

     

     

     

     

     

         “ เฮ้ย!! วันนี้ไม่มีซ้อม ไปคาราโอเกะกันมั้ย ร่างสูงของคยูฮยอนลุกขึ้นกวาดหนังสือเรียนใส่กระเป๋าง่ายๆ ก่อนจะส่ายหัวเชิงปฏิเสธ จนคนถามเบ้หน้าพูดต่อด้วยน้ำเสียงประชด มีเรียนอีกดิ เบื่อว่ะ ไอ้เด็กเรียน!!! รู้ว่าบ้านแกมันเป็นโรงเรียนกวดวิชา แต่ไม่ต้องเรียนเก่งเพื่อโปรโมทกิจการที่บ้านก็ได้นะเว้ย  หมั่นไส้!!! “

     

         “ เออน่า ก็รู้ว่าฉันขัดใจพ่อกับแม่ไม่ได้ แล้วไอ้เรื่องเรียนเก่งน่ะ มันมาพร้อมกับนี่! สมองฉันนี่! คยูฮยอนตอบยิ้มๆพลางชี้ที่หัวของตัวเอง ก่อนจะโบกมือลาเพื่อกลับบ้าน อึนฮยอกมองการกระทำของเพื่อนสนิทของเขาอย่างขัดใจ อยู่กับมันแล้วรู้สึกว่าตัวเองโง่ทุกที ทำไมต้องมีเพื่อนที่ฉลาดกว่าอย่างมันด้วยวะเนี่ย

            ร่างสูงถอนหายใจปลงๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินไปขึ้นรถบัสหน้าโรงเรียนไปเที่ยวเล่นหลังเลิกเรียนเพียงลำพัง ดีเหมือนกันเขาจะได้หลีสาวได้อย่างสนิทใจ เพราะทุกครั้งที่เดินไปไหน สาวต้องมองแต่เพื่อนตัวดีของเขา โดยไม่เคยที่จะสนใจเขาที่เดินข้างๆ หึ!! ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด แต่ก็ยังขอบคุณที่มันยังเป็นโสดเป็นเพื่อนเขา!!! ฮ่าๆๆๆๆ

     

        “ จะยืนหัวเราะก็อย่าบังที่นั่งได้มั้ย คนอะไร อยู่ๆก็หัวเราะ ประสาท!! เสียงขุ่นแกมใสของหญิงสาวดังขึ้นก่อนจะดันให้เขาหลบไป ก่อนที่เธอคนนั้นจะนั่งลง คนประสาทมองหญิงสาวที่สวมชุดนักเรียนมัธยมปลาย S ที่อยู่ละแวกเดียวกับโรงเรียนของเขาด้วยความขัดใจ จะบอกเขาก็บอกเบาๆก็ได้นี่นา นี่อะไร!! พูดเสียงดังจนคนทั้งรถบัสมองหน้าเขาแถมยังหัวเราะเยาะเขาอีกต่างหาก

     

         “ เธอ!! ลุกเลย นั่นที่ฉัน ใครบอกว่าเธอนั่งได้ห๊ะ ฮโยยอนที่กำลังจะหลับตาเพื่อพักสายตา ลืมตาแล้วส่งสายตาขุ่นมัวไปให้ผู้ชายโรงเรียนมัธยมปลาย M ที่เมื่อกี้ยืนบังที่นั่งเพราะมัวแต่หัวเราะคนเดียว ยังมีหน้ามาบอกว่าที่ของเขาอีกงั้นหรอ

     

        “ ไหนๆ มีชื่อนายติดอยู่หรอ ถ้าไม่มีฉันก็จะนั่ง!! “ หญิงสาวตอบพลางสะบัดหน้า

     

        “ ไม่มี!!! แต่ฉันไม่ให้เธอนั่งหรอก ผู้หญิงถึกๆอย่างเธอ กล้ามเนื้อขาแข็งแรงอย่างเนี้ย ยืนซะบ้างก็ได้นะจะได้ลดๆไขมันในตัวซะบ้าง 

     

        “ เฮ้ย!! นายนี่ นอกจากจะบ้าแล้วยังชอบหาเรื่องคนอื่นเรี่ยราดหรือไง   อึนฮยอกมองการกระทำด้วยความฉุน ก่อนจะมองรอบๆรถบัสที่สายตาทุกคู่กำลังให้ความสนใจเขาทั้งคู่อยู่

     

       “ เธอ!!! จะมากไปแล้วนะ!! “ เขาขึ้นเสียงอย่างไม่ยอมแพ้

     

       “ ทำไม ยอมรับความจริงไม่ได้อ่ะดิ  ฮโยยอนย้อนถามพลางยิ้มท้าทาย ทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มปะทุขึ้นน้อยๆ

     

       “ ยัยผู้หญิงปากจัด!!!!! “ อึนฮยอกพูดขึ้นอย่างเหลืออด ร่างสมส่วมที่เขาหาว่าอ้วนนั้นตวัดสายตาให้อย่างไม่พอใจ เธอไม่ใช่หรอที่ต้องพูดคำนั้น ผู้ชายปากร้าย ปากเสีย!!

     

       “ น้องชายมานั่งดีกว่า พี่กำลังจะลงพอดี   ผู้ชายวัยทำงานที่นั่งข้างๆฮโยยอนพูดขึ้นยิ้มๆ ก่อนจะขอทางเดินออกไปทางหน้าประตูเพื่อรอรถบัสจอดป้าย โดยที่คนในรถบัสที่เห็นว่าใกล้จะถึงป้ายแล้วก็ค่อยๆทยอยออกมายืนรอ ไม่วายมองหนุ่มสาวที่ยืนทะเลาะกันกระหนุงหนิงไม่ต่างจากคู่รัก อมยิ้มก่อนจะค่อยๆทยอยลงรถ

     

       “ วัยหนุ่มสาวทะเลาะกันกระหนุงกระหนิงน่ารักดีนะ

     

       “ อีหนูเอ๊ยย เป็นแฟนกันพูดกันดีๆ อย่าทะเลาะกันเลย

     

                    เสียงเซ็งแซ่ของผู้ใหญ่วัยทองที่ยืนเพื่อรอจะลงรถบัสแซวคู่รักปลอมๆ ก่อนจะดันให้ชายหนุ่มนั่งลงที่ว่างข้างๆฮโยยอน สองคู่รักมองหน้ากันอย่างเก้อเขิน ก้มหน้างุด โดยฝ่ายอึนฮยอกแอบเหลือบมองคนนั่งข้างๆ พลางเบ้หน้าคาดโทษ เพราะเธอแท้ๆ เขาถึงต้องมาอับอายบนรถบัสนี่

     

       “ นายมองหน้าฉัน มีปัญหาหรือไง หญิงสาวหันหน้ามาพลางส่งสายตาดุๆให้

     

       “ ใครมองเธอ ฉันมองวิวที่อยู่นอกหน้าต่างหรอก เสียใจด้วยนะที่หน้าตาเธอมันไม่ได้ทำให้ฉันพิศวาสพอให้แอบมอง!!! “ ฮโยยอนฟังคำพูดของชายหนุ่มข้างๆ พลางเข่นเคี้ยวในใจ

     

       “ นายนี่มันปากร้ายยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก อีแอบ ก็บอกมาเถอะนายน่ะ หญิงสาวขึ้นเสียงด้วยความโมโหหวังให้คนในรถบัสที่ยังเหลือไม่มากได้ยิน เอาให้คนอื่นบนรถเขาได้ยินกันไปเลย ว่าผู้ชายคนนี้ เขาเป็นอีแอบ!!!!!

     

       “ พูดอะไรของเธอน่ะ อึนฮยอกร้องบอกด้วยความตกใจก่อนจะมองรอบๆว่ามีใครได้ยินหรือเปล่า

     

        “ นายมันเป็นอีแอบไง อีแอบ!!!!!!!!!

     

        “ เฮ้ย!! ไม่ใช่นะ เธอจะบ้าหรือไง   อึนฮยอกพูดพลางเอามือปิดปากที่ใส่ร้ายเขาปาวๆไม่หยุดหย่อน ยิ่งห้ามก็ยิ่งยุ เขาเป็นใครถึงมาสั่งเธอได้ เธอจะทำอะไรมันก็เรื่องของเธอนี่นา ร่างของฮโยยอนดิ้นขลุกขลักก่อนจะกัดที่มือใหญ่หวังให้เขาเอาออกเสียที

     

        “ โอ๊ย!! เป็นคนดีๆไม่ชอบ ถึงต้องกัดคนอื่นเหมือนหมาอย่างนี้รึไง

     

       “ นายว่าฉันเป็นหมาหรอ ฉันเป็นคนโว้ย!! ฮโยยอนขึ้นเสียงก่อนจะกระหน่ำตีใส่แขนเขาไม่หยุด คนปากดีรีบปัดป้องพลางทำหน้าแหยเก

     

       “ เจ็บนะ!! เขี้ยวแหลมไม่พอ ยังแรงเยอะเหมือน….” เขาเว้นว่างให้ฮโยยอนคิดตามพลางหัวเราะ ร่างบางเม้มปากด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย โกรธ! หมั่นไส้! อับอาย!  อ้อ อยากฆ่าคนตรงหน้าแล้วแล่ปากเอาไปให้ปลาฉลามกินซะจริงๆ!!!

     

       “ ฉันเหนื่อยจะทะเลาะกับนายแล้ว ขอทาง!!! ฉันจะลงแล้ว!! ฮโยยอนบอกด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น ป้ายที่เธอจะลงอีกตั้งนานกว่าจะถึง แต่เธอไม่ทนอีกแล้ว เธอยอมลงเพื่อไปรอรถคันใหม่ คันที่จะไม่มีผู้ชายปากเสียอย่างเขานั่งข้างๆ!

            ชายหนุ่มมองตามร่างสมส่วนพอดีที่เดินไปรอรถจอด พลางเก็บของเพื่อเตรียมตัวจะลงเช่นเดียวกับเธอ ติดใจ!! อยากแกล้งเธอให้มากกว่านี้ เขาไม่เข้าใจว่าเขาเป็นคนชอบแกล้งผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงจะขี้เล่นตามประสาผู้ชายก็เถอะ แต่ขอยกเว้นผู้หญิงคนนี้คนเดียว เขาไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขาอยากจะใช้เวลาในการทะเลาะกับเธอให้มากกว่านี้ เอาเป็นว่าแผนที่จะไปวันนี้ล้มเลิก เพราะเขาจะใช้เวลาที่ว่างจากซ้อมวันนี้กับยัยผู้หญิงปากร้ายคนนี้อย่างคุ้มค่า!!

     

     

     

     

     

       ปึ่ก

       “ หนังสือรุ่นของโรงเรียนมัธยมปลาย M อะไรของแก ฮโยยอน ซอฮยอนเงยหน้าขึ้นถามฮโยยอนด้วยความสงสัย เจ้าตัวส่ายหัวดิกก่อนจะไล่เปิดหน้าหนังสือแต่ละหน้าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

     

       “ เฮ้ย!! แล้วทำไมตาแกคล้ำอย่างนั้นอ่ะ เมื่อคืนฉันเห็นนะว่าแกกลับบ้านดึก แอบไปเถลไถลที่ไหนมา ยูริเค้นถาม เพราะเมื่อวานเธอต้องไปกินข้าวเย็นข้างนอกกับที่บ้าน แม่เพื่อนตัวดีจึงต้องกลับบ้านคนเดียว นึกว่าแยกกับเธอแล้วฮโยยอนจะกลับบ้านเลย ที่ไหนได้กว่าจะกลับก็ปาไปตั้งสามทุ่ม มือถือก็ปิดติดต่อไม่ได้ แถมตอนเช้ายัยเพื่อนข้างบ้านก็ดันตื่นสาย นี่ก็เพิ่งเจอหน้า เลยต้องเค้นเอาความจริงเสียหน่อย

     

       “ เหอะ!!!! ความผิดอีตานั่นคนเดียว!!  คนโดนสอบสวนขึ้นเสียงด้วยความโมโห ก่อนจะตาโตเลิกลั่ก เมื่อนึกขึ้นได้ว่าหลุดปากสรรพนามผู้ชายออกไป

     

       “ เมื่อกี้แกพูดว่าอีตานั่น อีตานั่นนี่ใคร   ร่างบางของคนที่ปกติมักจะนั่งฟังยูริสอบสวนเงียบๆถามขึ้นเสียงเขียว

     

       “ ไม่รู้ชื่อ ไม่รู้จัก  หญิงสาวสวนกลับเสียงขุ่น ทำเป็นไม่สนใจสายตาดุๆที่มองมา ก็เธอไม่รู้จริงๆนี่นา

     

       “ ผู้ชาย ผู้หญิง

     

       “ ซอฮยอน แกจะถามไปทำไมวะ ฮโยยอนพูดแกมรำคาญพลางก้มหน้าก้มตาเปิดหนังสือรุ่นในมือ หวังจะหลบสายตาคู่สวยของซอฮยอนที่จ้องจับผิดอยู่

     

       “ ที่กลับบ้านดึกๆเมื่อวาน แกอยู่กับผู้ชายหรอวะ!! “ ร่างบางอีกคนถามขึ้นหลังจากที่มั่นใจจากท่าทางมีพิรุธของฮโยยอน

    คนโดนจับผิดเงยหน้าไปมองคนปากโป้งดุๆ เมื่อวานจับผิดซอฮยอน วันนี้จับผิดเธอ ให้ตายเถอะเจ้าแม่อัพเดต ไม่รู้สักเรื่องจะตายมั้ยเนี่ย

     

       “ ฉันบอกตอนไหนว่าเป็นผู้ชาย ฮโยยอนบ่ายเบี่ยง ถอนหายใจด้วยความอึดอัด อึดอัดทั้งคำถามของยูริ ทั้งสายตาที่มองทะลุทะลวงของซอฮยอน เพื่อนเธอเป็นนักเรียนหรือนักสืบเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย!!

     

       “ ผู้ชายคนนั้นอยู่โรงเรียนมัธยมปลาย M ใช่มั้ย หลังจากตกอยู่ในความเงียบสักพัก น้ำเสียงหวานๆก็ถามขึ้น สายตาห่วงใย ที่ถามก็เพราะห่วง ตอบพวกเราได้มั้ย ฮโยยอน

     

       “ เออๆ รู้แล้ว ฮโยยอนตอบ เธอไม่ได้คิดจะปิดอะไรเพื่อนสนิททั้งสองอยู่แล้ว แต่เธอแค่เหนื่อยกับการตอบคำถามก็เท่านั้น เมื่อวานก็เหนื่อยกับการต่อล้อต่อเถียงกับนายนั่นเต็มที

                    ร่างสมส่วน ตัวเล็กที่สุดในกลุ่มเริ่มอธิบายตั้งแต่ตอนที่ขึ้นรถ เจอเขาคนนั้น ทะเลาะกันจนคนในรถบัสมองว่าเป็นคู่รักคู่กัด ใส่สีตีไข่เพิ่มว่าเขาเป็นคนที่ปากร้ายมาก โดยไม่ได้อธิบายว่าที่เขาสวนกลับเธอนั้นก็เพราะเธอว่าเขาอย่างเจ็บแสบก่อน ทะเลาะไปๆมาๆจนเธอทั้งเหนื่อยทั้งอาย จึงตัดสินใจยอมลงรถเพื่อรอคันใหม่แม้จะยังไม่ถึงจุดหมายที่เธอจะลงก็ตามที แต่เขาคนนั้นก็ยังไม่วายลงรถตามมา แถมชวนเธอทะเลาะจนคลาดรถกลับบ้าน กว่ารถจะมาก็อีกสักพัก พอขึ้นมาได้ก็ทะเลาะกับเขาจนเลยป้ายที่จะลงอีกจนเธอต้องเดินย้อนกลับมา ดีที่เขาไม่ตามมาแล้ว แต่กว่าจะเดินถึงบ้านก็ปาไปสามทุ่ม โดนแม่สวดยับ หิวก็หิว การบ้านก็ไม่เสร็จ ฮโยยอนเล่าไปใส่อารมณ์ไปจนสองสาวที่นั่งฟังอยู่ ไม่รู้จะตลกหรือเห็นใจเพื่อนเธอคนนี้ดี ก็ได้แต่แอบยิ้มให้กันพลางนั่งฟังฮโยยอนเล่าเรื่องราว ซึ่งหลังๆจะเป็นการระบายความแค้นส่วนตัวมากกว่า

     

       “ ไม่ได้ว่าหรอกนะถ้าแกจะมีแฟนอ่ะ ก็แกทำท่ามีพิรุธขนาดนั้น แถมอยู่กันดึกๆด้วย แต่ก็เอาเถอะไม่มีอะไรก็ดีแล้วล่ะ   ยูริพูดขึ้นพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก ซอฮยอนที่นั่งอยู่ข้างๆก็มีสีหน้าดีขึ้นหลังจากที่ฟังเรื่องราวจบ

     

       “ แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ผู้ชายคนนั้นแค่แกล้งแกเล่น ถ้าเกิดเขาเป็นคนไม่ดีทำมากกว่านั้นล่ะ น้ำเสียงหวานๆพูดเชิงตักเตือน

     

       “ ซอฮยอน  แกคิดมากน่า ที่จริงเขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรขนาดนั้นหรอก

     

       “ แก้ตัวแทนผู้ชายคนนั้นด้วย!! แกมีซัมติงอะไรกับเขามากกว่าที่เล่าปะเนี่ย เจ้าของผิวสีแทนถามขึ้นอย่างจับผิด ฮโยยอนปฎิเสธพลางโบกไม่โบกมือเป็นพัลวัน เธอไม่ได้คิดจะแก้ตัวแทนเขาเลย ก็แค่รู้สึกว่าเขาก็ไม่ใช่คนร้ายอะไรมากก็เท่านั้นเอง

     

       “ ว่าแต่คนไหนล่ะ เจอหรือยังที่หาอยู่น่ะ คนเงียบพูดเปลี่ยนเรื่อง เพราะปวดหูกับการฟังเพื่อนรักสองคนเถียงกันเกือบจะทุกวัน 

     

       “ ก็หาๆอยู่อ่ะ ไม่รู้ว่าเขาปีหนึ่งเหมือนเราหรือเปล่า นี่จะหมดปีหนึ่งยังไม่มีเลยเนี่ย ฮโยยอนบ่นอุบ พลางไล่เปิดไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาสะดุดกับตารีเล็ก กับรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความร่าเริงอย่างคนอารมณ์ดี นี่มันเขานี่นา!! คนนี้แหละไม่ผิดคน!!

     

       “ ไหนๆ เจอแล้วหรอ …… อีฮยอกแจ ชื่อเล่น อึนฮยอก อยู่ปีสอง ห้องเอ ยูริชะโงกหน้าเข้ามาดู ก่อนจะอ่านชื่อที่อยู่ใต้ภาพ หน้าตาดูกวนโอ๊ยจริงๆ แต่หน้าตาแบบนี้    ฉันว่าเขาหน้าตาคุ้นๆนะ เหมือนจะเคยเห็นที่ไหน

     

       “ จริงอะ ฮโยยอนก้มไปมองรูปอีกครั้งพลางทบทวนว่าเธอเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า  ซอฮยอนที่อยู่วงนอกเมื่อเห็นว่าหนังสือว่างจากการมะรุมมะตุ้มจากเพื่อนสนิททั้งสอง จึงก้มมองคนที่ชื่ออีฮยอกแจบ้าง ก่อนจะไล่ลงมามองรูปคนที่อยู่ถัดไป นั่นมันผู้ชายคนนั้นนี่นา!!  

     

       “ ห้องสมุด น้ำเสียงหวานพึมพำขึ้นมาเบาๆ

     

        “ ใช่!!! ห้องสมุดที่เราไปเมื่อวันก่อน โต๊ะผู้ชายไม้ฮอกกี้ไง ซอฮยอนแกจำคนแม่นจริงๆเลย ยูริร้องขึ้นมาเมื่อนึกถึงผู้ชายสองคนที่สะดุดตา เมื่อครั้งไปห้องสมุด ไม้ฮอกกี้อันใหญ่ แถมอยู่มัธยมปลาย M เข้าล็อคกับคนที่ฮโยยอนเจอพอดี แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้กับท่าทีของซอฮยอนที่จะสนใจหนังสือรุ่นเป็นพิเศษ เจ้าหญิงสนใจผู้ชาย!

     

        “ จริงด้วย ฉันจำได้ละ หน้าอย่างนั้นไม่หน้าจะอยู่ชมรมฮอกกี้น้ำแข็งชื่อดังเลยแท้ๆ ฮโยยอนพูดพลางเบ้ปาก เหอะ!! หน้าอย่างเขาเหมือนเด็กวัยรุ่นที่ลอยชายไปวันๆซะมากกว่า ร่างเล็กสุดจิ้มไปที่รูปของคู่กรณีอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเหลือบเห็นร่างสูงที่มาใหม่กำลังเดินเข้ามาในห้องเรียน

     

        “ นี่พวกเธอสามคนยังไม่กลับบ้านอีกหรอ เสียงเข้มดังขึ้นพลางเดินเข้ามาใกล้ๆวงสนทนา

     

        “ มินโฮ วันนี้นายไม่มีซ้อมฟุตบอลที่ชมรมหรือไง ชเวมินโฮเจ้าของร่างสูงผิวสีแทนที่มีดีกรีเป็นถึงเอสทีมฟุตบอลของโรงเรียนทั้งๆที่อยู่ปีหนึ่งแท้ๆ แถมพ่วงตำแหน่งแฟนหนุ่มสุดหล่อของเจ้าแม่อัพเดตอีกด้วย

     

        “ มี แต่เห็นว่าเธอไม่ไปที่ห้องชมรมก็เลยมาดูว่าติดอะไรอยู่หรือเปล่า  ว่าแต่ทำอะไรกันอยู่ล่ะ

     

        “ ดูหนังสือรุ่นอยู่ นายไปซ้อมเหอะ เดี๋ยวฉันเดินตามไป ยูริบ่นพลางโบกมือไล่ แต่ร่างสูงก็ยืนเฉยก่อนจะเบนหน้าขอความเห็นที่มากกว่านี้จากซอฮยอนเพื่อนสนิทสมัยประถมของเขา ซอฮยอนที่เป็นคนกลางเวลาสองคนนี้เริ่มมีอาการไม่เข้าใจกันได้แต่แอบลอบถอนหายใจเบาๆ ชเวมินโฮ เป็นคนขี้ระแวงชนิดหาที่ไหนมาเทียบไม่ได้อีกแล้ว ระแวงทุกอย่าง โดยเฉพาะระแวงแฟนตัวเอง

     

        “ ไม่ใช่กิ๊กของแฟนนายแน่นอน คนกลางพูดไกล่เกลี่ย ก่อนจะยกมือให้คำมั่น

     

        “ จริงๆ ผู้ชายของยัยฮโยมัน ไม่ใช่ของฉัน อย่าระแวงไปหน่อยเลยน่ะ

     

        “ ฮโยยอน เธอมีแฟนอยู่โรงเรียน M หรอ หน้าตาเป็นไงอยากเห็นจริงๆ  มินโฮถามขึ้นติดตลก แต่ฮโยยอนกลับไม่รู้สึกตลกด้วยเลย มันจะหาว่าหน้าอย่างเธอไม่มีปัญญาหาแฟนได้งั้นดิ

     

        “ นายพูดเหมือนดูถูกฉันเลยนะ ชเวมินโฮ  ฮโยยอนตอบเสียงเข้มพลางสะบัดหน้าอย่างไม่พอใจ

     

        “ อยากเห็นหน้าจริงๆ ไม่ได้คิดจะว่าเธอซะหน่อย  ฮโยยอนพยักหน้าก่อนจะชี้ไปที่รูปของนายอีฮยอกแจบนหนังสือรุ่น

     

        “ รุ่นพี่อึนฮยอก!!  ไม่บอกกันเลยนะ เดี๋ยวต้องไปถามรุ่นพี่เพื่อความแน่ใจซะแล้ว    มินโฮพูดยิ้มๆ แต่สามสาวที่นั่งฟังอยู่หันหน้ามองกันด้วยงุนงง ไม่แปลกหรอกที่เขาจะรู้จักเด็กที่อยู่โรงเรียนอื่น เพราะอาจจะเคยอยู่โรงเรียนมัธยมต้นด้วยกันมาก่อน แต่ซอฮยอนที่เคยอยู่โรงเรียนเดียวกับมินโฮมาก่อน ไม่ยักกะเคยเห็นผู้ชายคนนี้เลย

     

        “ นายรู้จักเขาหรอ 

     

        “ เขาเป็นเพื่อนสนิทของพี่คยูฮยอน ที่อยู่ข้างบ้านฉันน่ะ คนนี้ไง    มินโฮพูดพลางชี้รูปที่อยู่ถัดต่อมาจากรุ่นพี่อึนฮยอก สามสาวพร้อมใจกันก้มลงมองด้วยความสนใจ

     

        “ เฮ้ย!!  คนหล่อๆคนนั้นไง ชื่อโจคยูฮยอนหรอเนี่ย   ฮโยยอนพูดด้วยสายตาเป็นประกาย เพราะเธอชอบคนหล่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยูริที่เป็นสาวกชอบผู้ชายหล่อเหมือนเพื่อนข้างบ้านเหมือนกันรีบก้มลงไปมองด้วยสายตากระตือรือร้นจนคนเป็นแฟนอดหมั่นไส้ไม่ได้ นี่เขายืนอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะ

     

        “ น้อยๆหน่อย ควอนยูริ มินโฮเอ่ยปรามๆ คนโดนดุเลยได้แต่เก็บท่าทางพลางเบ้หน้างอนๆ

     

        “ เห็นว่าอยู่ชมรมฮอกกี้น้ำแข็งใช่มั้ย ซอฮยอนที่นั่งฟังอยู่นานอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาเบาๆ เธออยากจะรู้ว่าเขาเป็นยังไงก็เท่านั้นเอง

     

        “ ใช่ รุ่นพี่ทั้งสองคนเป็นสมาชิกชมรมฮอกกี้น้ำแข็งของโรงเรียน M แต่พี่คยูฮยอนเขาจริงจังกับกีฬานี้มาตั้งแต่ประถมแล้วล่ะ ตอนมัธยมต้นนะเป็นตัวทำแต้มให้กับทีมโรงเรียนเก่าเลย พอขึ้นมัธยมปลายก็เลยได้โควตาที่โรงเรียน M ไง สามสาวที่นั่งฟังอยู่พยักหน้าพลางอดที่จะชื่นชมความสามารถของรุ่นพี่ข้างบ้านมินโฮไม่ได้ ไอ้แค่ทรงตัวบนน้ำแข็งธรรมดายังว่ายากเลย ไอ้การเล่นกีฬาบนน้ำแข็งนี่สิ ทั้งความเร็วทั้งสกัด คงต้องใช้ความชำนาญมากพอเลยล่ะ

     

        “ เก่งดีเนอะ คงป๊อปน่าดูเลยสิ ฮโยยอนพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง อย่างนี้สาวติดตรึม!!

     

        “ ก็ฮอตเลยล่ะ แต่ไม่เห็นตกลงเป็นแฟนกับใครซะที ไม่เหมือนรุ่นพี่อึนฮยอกหรอก รายนั้นน่ะสาวเยอะ

     

        “ นายจะบอกเรื่องนายอีฮยอกแจทำไม ฉันกำลังถามถึงรุ่นพี่โจคยูฮยอนอยู่นะ ฮโยยอนที่ให้ความเคารพแตกต่างกัน ทั้งๆที่ทั้งสองก็อายุมากกว่า แต่อย่างนายอีฮยอกแจ เธอไม่อยากจะนับเป็นรุ่นพี่หรอก ไม่น่าให้ความเคารพเอาเสียเลย กับคนปากหมาๆอย่างนั้น!!

     

        “ ไหนว่าเป็นแฟนพี่เขาไง โอเคๆ ไม่พูดแล้วจ๊ะ มินโฮย้อนถามเชิงหยอกล้อ ก่อนจะยกมือยอมแพ้ เมื่อเจอแรงหนักๆลงตรงต้นแขน เอาไว้เดี๋ยวเขาค่อยไปถามรายละเอียดจากยูริทีหลังก็ได้

     

        “ งั้นวันนี้ก็แยกย้ายกลับบ้านเถอะ นี่ก็ห้าโมงแล้วนายไม่มีซ้อมหรือไง ชเวมินโฮ ยูริพูดห้ามทัพที่กำลังปะทุขึ้นย่อมๆระหว่างหนุ่มร่างใหญ่ กับแม่สาวมือหนัก ก่อนจะหันไปทำเสียงดุกับคนรักของตน คนที่เจ็บทั้งแขน ซ้ำยังโดนทำเสียงดุใส่เลยได้แต่ก้มหน้างุดๆ ก่อนจะสะบัดหน้าเดินออกจากห้องเรียนไป โดยมีสายตาหมั่นไส้ของฮโยยอนกับท่าทางเจียมตัวของมินโฮ

     

        “ เบื่อคนมีแฟนโว้ย จะรีบไปเฝ้าไปทำอะไรก็เชิญ ไม่อยากเป็นก้างขวางคอบ่อยๆ ฮโยยอนพูดแกมหมั่นไส้  จนคนมีแฟนเลยได้แต่ส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจ ก่อนจะโบกมือขอตัวไปทำอย่างที่เพื่อนสนิทเธอว่า แต่ก็ชะงักเท้าเอาไว้ หันไปมองซอฮยอนที่นั่งนิ่งเหมือนคนกำลังใช้ความคิด ปกติเพื่อนเธอคนนี้ก็ชอบนั่งแบบนี้อยู่แล้วไม่แปลกอะไร แต่มันแปลกตรงที่แก้มระเรื่อมีสีจัดขึ้นโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าหน้าแดง ไม่รู้ว่าเพื่อนทั้งสองจะสังเกตเห็นท่าทางที่แปลกไป

     

        “ ฮโยยอน แกมานี่ดิ เธอเรียกเพื่อนพลางชี้ไปที่คนนั่งเหม่อแก้มแดงอย่างขอความเห็น

     

        “ ฉันว่ามันแปลกๆตั้งแต่พูดถึงผู้ชายสองคนนั้นแล้วนะ  แถมยังจำสองคนนั้นแม่นยิ่งกว่าเธออีก เผลอๆซอฮยอนมันกำลังสนใจใครอยู่ก็ได้

     

        “ รุ่นพี่อีฮยอกแจหรอ ไม่น่าใช่นะเว้ย …”

     

        “ โจ-คยู-ฮยอน!!! สองเสียงพูดขึ้นพร้อมกันก่อนจะปิดปากให้กันและกัน เพราะกลัวคนนั่งเหม่อจะได้ยิน และรู้ว่าพวกเธอกำลังจะทำอะไรสักอย่าง

     

        “ ฉันว่าเรื่องนี้เรื่องยาว เอาเป็นว่าวันนี้แกถึงบ้านก็เรียกฉันแล้วกัน

     

        “ เรากำลังจะทำให้เจ้าหญิงมีความรักใช่มั้ยแก ยูริพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ถึงพวกเธอจะคอยเป็นห่วงเรื่องผู้ชายให้กันและกันอยู่เสมอ และส่วนใหญ่ทุกคนต้องได้รับการสแกนจากคนในกลุ่มเสมอ แต่เรื่องที่พวกเธอสองคนอยากจะทำมากที่สุด ก็คืออยากเห็นซอฮยอนเพื่อนรักได้พบเจอความรักเสียดีๆเหมือนคนอื่น ได้มีความรักแบบปั๊ปปี้เลิฟให้คุ้มกับเด็กมัธยมปลายเสียที แล้วโจคยูฮยอนคนนี้นี่แหละ ที่มีแววมากกว่าคนอื่น

     

        “ ขอเรียกว่าปฎิบัติการหารักให้เจ้าหญิง

     

        “ เฮ้ยเจ๋งว่ะแก แต่แอบเสี่ยวนะ ฮโยยอนส่งสายตาขุ่นเมื่อเพื่อนรักหาว่าชื่อที่เธอคิดมันเสี่ยว ซึ่งเธอก็คิดว่ามันเสี่ยวจับใจเลยล่ะ

     

        “ เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งทึกทักอะไรเลย เราต้องค่อยๆดูไปเรื่อยๆ ตกลงตามนี้นะ สองสาวชูนิ้วโป้งให้กันและกันก่อนที่ยูริจะแยกย้ายไปหาคนรักตามที่คิดไว้แต่แรก ฝ่ายฮโยยอนก็กำลังหนักใจกับการหาวิธีที่จะเผยไต๋ของเจ้าหญิงที่เก็บความรู้สึกเก่งมาก แต่เอาเถอะการบ้านที่ส่งพรุ่งนี้เธอค่อยลอกตอนเช้าก็ได้ วันนี้เธอกับยูริมีเรื่องที่ต้องปรึกษากัน หวังว่าสิ่งที่พวกเธอทำมันจะออกมาคุ้มกับเวลาทำการบ้านที่เสียไปนะ!!

     

        





    -------------------------------------------------------------------------------






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×