คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ★ EP 6
ร่างบางพลิกตัวไปมาบนเตียงก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้น เพราะรู้ตัวแล้วว่าตอนนี้เธอคงนอนไม่หลับแน่ เรื่องเมื่อสองวันก่อนยังติดอยู่ในใจเธอ
“ ไม่น่าเชื่อว่าเราจะสมัครเรียนที่นั่นไปแล้ว “ เสียงอู้อี้เพราะเจ้าตัวก้มลงไปพูดกับผ้านวมอย่างเขินๆ หวังว่าผ้าห่มจะช่วยดึงเอาความร้อนบนใบหน้าได้
สองวันก่อนนั้น คนอื่นทั่วไปอาจจะมองว่ามันไม่เห็นจะพิเศษตรงนั้น แต่ซอฮยอนกลับคิดว่ามันเป็นวันที่พิเศษยิ่งกว่าวันไหนๆ ถึงจะไม่ได้คุยกันเลย เพราะรุ่นพี่อึนฮยอกอาสาทำหน้าที่แทนลูกชายเจ้าของโรงเรียนแทน ทั้งหน้าที่รับเงิน อธิบายคอร์สต่างๆที่เธออยากรู้รายละเอียด แม้รุ่นพี่คยูฮยอนจะนั่งอยู่ข้างๆ แต่เขาก็เลือกที่จะบอกรายละเอียดนั้นผ่านเพื่อนของเขา แทนที่จะบอกกับเธอตรงๆ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นนะ ไม่เข้าใจความคิดผู้ชายจริงๆ
ปิ๊ง!!
ซอฮยอนหันไปมองต้นเสียงจากโน๊ตบุ๊คสีหวานที่วางอยู่บนโต๊ะ เลื่อนสายตาไปมองนาฬิกาที่อยู่ข้างๆกันบ่งบอกเวลาเที่ยงคืน
คืนนี้คงนอนไม่หลับแล้วมั้งเรา
เธอลุกขึ้นจากเตียงก่อนตรงไปดูว่าใครทักมา ก็พบการเตือนจากโปรแกรม Skype ที่เพื่อนสนิทรบเร้าให้สมัคร เอาไว้ติวสอบผ่านหน้าจอ ขึ้นว่าฮโยยอนกับยูริกำลังส่งวิดีโอมาคุยกับเธอ ตอนเที่ยงคืน!!!
“ เฮ้ยยยยย!! ซอมันรับแล้วเว้ยไอ้ลิง “ ทันทีที่เธอกดรับก็พบกับหน้าของเพื่อนสนิททั้งสองคนโผล่บนหน้าจอ
“ เห็นมั้ย ฉันบอกแล้วว่ามันยังไม่นอนหรอก “
“ บอกทีได้มั้ยว่าคึกอะไรถึงจะคุยกันตอนเที่ยงคืน เป็นเคล็ดอะไรหรือไง คุยกันตอนค่ำๆไม่ได้เนี่ย “
“ ความคิดไอ้ยูลมัน ว่ามันเลยฉันไม่เกี่ยว “ เมื่อรู้ว่าใครเป็นตัวการ ซอฮยอนจึงจิกไปที่กล้องหนึ่งที ยูริที่เห็นว่ายั่วให้ซอฮยอนโมโหแล้วก็ทำหน้าเจื่อนๆ ก่อนจะหัวเราะแห้งๆตามสไตล์
“ ไง แล้วมีอะไรล่ะถึงทักมาดึกๆอย่างนี้ ไม่คิดบ้างหรอว่าฉันจะนอนแล้วน่ะ “
“ ลางสังหรณ์ของเพื่อนสนิท มันสะกิดว่าแกคงนอนไม่หลับ “ ยูริตอบเสียงอ่อยๆ
“ แกโทรมาปลุกฉันให้มาวิดีโอคอลกับแกเพราะลางสังหรณ์ของแกเนี่ยนะ ควอนยูริวันหลังมาเคาะประตูห้องเลยมั้ย ไหนๆก็อยู่ข้างบ้านกันอยู่แล้วนี่ “ ฮโยยอนจิกกัด ก่อนจะฟุบหน้ากับโต๊ะ เพราะเธอหลับไปแล้วแต่โดนยูริโทรมาตื้อจนต้องยอมตื่น
“ ความคิดที่ดี แกไปเปิดประตูรั้วดิ เดี๋ยวไปหา “
“ ประชดโว้ยยย !! ““ ฮโยยอนยกศอกใส่กล้องอย่างหมั่นไส้
“ ตกลงกันก่อนแล้วค่อยมาเรียกฉันก็ยังทันนะ “ ซอฮยอนนั่งมองสองคนเถียงกันไปมาผ่านกล้อง เห็นว่านั่งเงียบมานานแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา “ สนใจฉันหน่อยสิ อย่าคุยกันสองคน “
“ โถ่อย่างอนไปเจ้าหญิง แล้วทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ “
“ ลางสังหรณ์ว่าต้องมีคนมาทักตอนเที่ยงคืนล่ะมั้ง “ ซอฮยอนย้อนนิ่งๆ
“ เดี๋ยวนี้มีย้อนแล้วเรอะ พัฒนาขึ้นนะแก “ ฮโยยอนพูดอึ้งๆ “ แต่ก็ว่าละนะถึงแกจะเย็นชาแค่ไหนก็เหอะ จริงๆแล้วแกก็มีอารมณ์ธรรมดาทั่วไปเหมือนพวกเราใช่มั้ย “
“ เพิ่งรู้รึไง แต่เผอิญฉันควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี ไม่เหมือนพวกแกไง “
“ ซอฮยอนเจ้าขา ปากร้ายขึ้นนะคะ ปกติก็เถียงแกไม่ได้อยู่แล้ว แกกะจะไม่ยอมให้พวกฉันเลยใช่มัย หึ! “
ซอฮยอนหัวเราะเบาๆ จะว่าไปเวลาได้ลองทำอะไรไปตามใจตัวเองมันก็สบายดีเหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงเลือกที่จะเก็บความรู้สึกเงียบๆก็ไม่รู้
“ หัวเราะอะไรยะ L “ ยูริถามหน้าบึ้ง
“ หัวเราะพวกแก... รวมทั้งตัวฉันเองด้วยล่ะมั้ง J “ สองสาวเพื่อนสนิทมองคนพูดกำกวมงงๆ
“ ช่วยพูดภาษาชาวบ้านที แกอย่าให้พวกฉันต้องแปลเกาหลีเป็นเกาหลีเลย ทุกวันนี้ก็โง่อังกฤษจะแย่แล้ว อย่าให้พวกฉันโง่ภาษาบ้านเกิดตัวเองอีกภาษาเถอะ “
“ อย่าเหมารวมยัยฮโย ใครโง่อังกฤษเหมือนกับเธอ ไม่ใช่ฉันนะ “
“ นี่! มันใช่เวลามาจิกกันเองมั้ยห๊ะ ไหนลางสังหรณ์ของแก คนมันง่วงเหมือนกันนะเว้ย “ ยูริเมื่อเห็นเพื่อนร่วมปฏิบัติการเริ่มง่วงนอนจนชักจะพาลก็หยุดจิก ไอ้บอกว่าลางสังหรณ์มันก็แค่ตงิดใจหน่อยๆ แต่ไม่รู้ว่าต้องทำไงนี่นา
“ เห็นด้วย สรุปมีไรหรอ ถึงนัดคุยกันตอนนี้น่ะ “
“ ก็ไม่มีไรหรอก.. ก็อยากให้วันนี้เรามาคุยเปิดอกกันอ่ะ แบบใจใจเลย แกว่าเป็นไง “
“ เปิดอกตอนเที่ยงคืน แกไปเอามาจากไหนเนี่ย “ ฮโยยอนแย้งเบาๆ ในใจเริ่มเซ็งว่าไม่น่าตื่นมารับโทรศัพท์ยัยนี่เลย
“ เปิดอกที่ว่าเนี่ย แกหมายความว่ามีอะไรจะถามฉันใช่มั้ย “
“ ฉลาดสมเป็นแกจริงๆ ปิดอะไรไม่เคยปิดซอจูฮยอนได้ “ ยูริยอมรับกลายๆ “ ว่าแต่ถ้าฉันถามแล้วแกจะยอมตอบป่ะละ กล้ารึเปล่า “
“ จะถามอะไรล่ะ “
“ ตอนนี้แกชอบใครอยู่ปะวะ แบบมีใครที่แกสนใจอยู่บ้างปะ “
“ ... “ ความเงียบคือคำตอบ ซอฮยอนถอนหายใจเบาๆ ใจนึงก็อยากจะเก็บไว้เป็นความลับกับตัวเองเงียบๆ แต่อีกใจหนึ่งก็นึกถึงเพื่อนสนิทสองคน เธอมีเพื่อนที่เธอรัก และรักเธอจริงๆอยู่แค่นี้ ทำไมเธอถึงจะต้องเลือกปิดบังกับเพื่อนแท้ของตัวเองด้วยนะ
ด้านสองสาวที่เห็นคนโดนคาดคั้นยังคงนั่งเงียบ เหมือนกำลังคิดไม่ตกจึงมองกันไปมาอย่างปลงๆ บางทีพวกเธอสองคนอาจจรุกเร็วไปก็ได้มั้ง
“ ไม่ต้องเครียดน่ะแก ไม่อยากรู้แล้วก็ได้ เอางี้เราเปลี่ยนเรื่องคุยมั้ย เอาเป็น ”
“ จริงๆแล้วก็มีเหมือนกัน.. คือฉันก็ไม่รู้จะบอกยังไง ฉันไม่เคยรู้สึกอย่างนี้ แค่มองธรรมดา อยู่ๆใจก็เต้นแรงขึ้นมาเฉยๆ อะไรที่เคยควบคุมตัวเองได้ ฉันก็กลับควบคุมมันไม่ได้ มีความสุขกับเรื่องเล็กๆน้อย เรื่องที่น่าจำก็ดันจำได้ แถมมันยังทำให้ฉันนอนไม่ค่อยหลับด้วย อย่างนี้เขาเรียกว่าแอบชอบใครรึเปล่าล่ะแก “ เป็นครั้งแรกที่เธอพูดจนหมดเปลือกกับเพื่อนสนิททั้งสอง พูดไปแล้วมันก็โล่งหัวเหมือนกันนี่นา
“ แล้วแกรู้สึกอย่างนี้กับใครล่ะ “
“ ฉัน ฉัน เอ่อ รู้สึกแบบนี้กับ.. เอ่อฉัน “
ยูริมองซอฮยอนผ่านกล้องขำๆ เวลามันอ้ำอึ้งอย่างนี้ก็น่ารักดีแฮะ “ นี่ซอ แกอย่าคิดว่าการแอบชอบใครมันน่าอายเลย ชอบก็คือชอบ การชอบใครมันดีนะเว้ย การที่เราได้ทำอะไรให้ใครสักคนมันเป็นเรื่องน่าอายหรือไง ฉันคิดว่าแกน่าจะแสดงออกมาบ้างนะ แสดงออกมาในตัวแบบแกเอง “
“ อืม.. ฉันว่าฉันชอบรุ่นพี่คนนึง “
“ ใครๆๆๆ รุ่นพี่หรอ ชื่อโจคยูฮยอนรึเปล่า “ ฮโยยอนถามตรงๆ ยูริแอบกุมขมับกับคำพูดขวานผ่าซากของฮโยยอน โอ้ยยย ชอบทำให้ไก่ตื่นอยู่เรื่อยเลยยยยยย L
“ ก็คนนั้นล่ะ “ ซอฮยอนตอบอ้อมแอ้ม ส่วนสองสาวที่ได้ยินคำตอบแอบจุดพลุฉลองในใจ ที่เหลือก็แค่พิชิตใจรุ่นพี่เท่านั้นเอง
“ ดีมาก “
“ ดีมาก?? มันหมายความว่าไง “ ซอฮยอนเริ่มรู้สึกถึงเค้าลางอะไรบางอย่าง เธอบอกความลับออกไปแล้ว เธอยังต้องเจออะไรอีก
“ ก็หมายความว่าเราจะช่วยไง “
“ ใช่!! เราจะช่วยให้แกพิชิตใจรุ่นพี่คยูฮยอนให้จงได้ “
เธอรู้แล้วว่าต้องเจอกับอะไรอีก...... ก็ความวุ่นวายยังไงล่ะ !
หลังจากหมดคาบเรียนของวันนี้ ซอฮยอนก็รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ตัวว่าพาตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าโรงเรียนกวดวิชาที่ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ในใจก็แอบรู้สึกเสียดายที่ไม่ยอมให้ฮโยยอนกับยูริมาเป็นเพื่อน ถ้ารู้ว่ามันจะตื่นเต้นขนาดนี้ ยอมให้สองคนนั้นมาด้วยก็ดี
“ ชักจะเป็นมากแล้วนะเรา “ เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปในส่วนหน้า ที่เอาไว้รับรองผู้ปกครองเวลามารับนักเรียน ยกนาฬิกาก็พบว่าอีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลา
“ ไอซ์ฮอกกี้? “ สายตาไปเจอกับนิตยสารกีฬารายสัปดาห์ เมื่อนึกได้ว่าคยูฮยอนเป็นนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ของโรงเรียน มือบางก็หยิบขึ้นมาอ่านด้วยความสนใจ “ จะว่าไปเรายังไม่รู้เรื่องอะไรกับรุ่นพี่สักอย่างนี่นา “
“ จูฮยอน!! “ เสียงเรียกดังขึ้นจนเธอตกใจ พร้อมๆกับมือที่เอานิตยสารเก็บใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว
“ เอ่อ รุ่นพี่ สวัสดีค่ะ “ เธอลุกขึ้นค้อมตัวอย่างสุภาพให้กับอึนฮยอกโดยที่ไม่ลืมทำแบบเดียวกันให้กับคยูฮยอนที่อยู่ข้างๆเหมือนกัน “ สวัสดีค่ะ “
“ มาเร็วจังเลยนะครับ พี่คิดไว้อยู่แล้วเชียว ว่าแต่เมื่อกี้อ่านอะไรอยู่หรอ “ อึนฮยอกถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง ในใจก็ดีใจที่ไปขอร้องให้คยูฮยอนพามาโรงเรียนกวดวิชาด้วยทั้งๆที่วันนี้มีซ้อมไอซ์ฮอกกี้หลังเลิกเรียน
“ คะ? ....ก็นิตยสารธรรมดาน่ะค่ะ อ่านตอนช่วงรอเข้าห้องเรียน “ ซอฮยอนพยายามตอบประโยคยาวๆพร้อมกับส่งรอยยิ้มเบาๆ ตามแบบที่เพื่อนสนิทสอนมา
‘ เริ่มแรก แกต้องหยุดทำตัวเย็นชา ถามคำตอบคำอย่างนี้ไม่เอา ‘
‘ ใช่!! แกต้องเริ่มชินกับการพูดคุยกับผู้ชาย เวลาพูดก็ยิ้มบ้าง ไม่ต้องยิ้มอะไรมากมายหรอก ยิ้มบางๆแบบที่แกชอบทำอย่างนั้นก็ดี เพราะพี่คยูฮยอนน่ะเขาไม่ใช่คนขี้หลี แล้วก็ไม่ใช่ผู้ชายเย็นชาไม่คุยกับผู้หญิงนะ แต่ใครที่ชอบรุ่นพี่เขาโดนปฏิเสธทุกราย!! ก็ไม่รู้เขานะว่าคิดอะไรอยู่ ฉะนั้นการพูดคุยจะเป็นสิ่งแรกที่ทำให้แกรู้จักพี่เขา เข้าใจมั้ย ไปเรียนวันนี้ก็ให้มันได้เรื่องด้วยนะยะ มีโอกาสทั้งทีต้องรีบคว้าไว้นะซอฮยอน!! ‘
“ แล้ววันนี้เพื่อนที่ขาป้อมๆไม่มาด้วยหรอครับ “ ซอฮยอนทบทวนคำถามในหัว ก่อนจะรู้ว่าที่อึนฮยอกถามถึงนั่นคือเพื่อนสนิทของเธอเอง
“ รุ่นพี่หมายถึงฮโยยอนน่ะหรอคะ วันนี้เขาไม่มาหรอกค่ะ ถ้ารุ่นพี่อยากเจอล่ะก็ฉันจะไปบอกฮโยยอนให้นะคะ “ เธอตอบก่อนเหลือบมองคยูฮยอนที่ยืนอยู่ข้างๆ เฮ้อออ ทำไมเขาเงียบอย่างนี้นะ
“ ใครจะไปอยากเจอกับยัยนั่นกัน ถ้าเป็นจูฮยอนล่ะก็ว่าไปอย่าง เนอะไอ้กี้ “ อึนฮยอกหันไปถามความเห็นคยูฮยอนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ โนคอมเม้นต์ “ ซอฮยอนแอบก้มหน้าบู้ปากงอนๆ อย่างที่ยูริบอกไม่ผิด เธอก็เป็นคนพูดไม่เก่งอยู่ด้วย ยิ่งมาเจอคนหาเรื่องคุยยากอย่างคยูฮยอน แล้วอย่างนี้เธอจะทำตามที่สองคนนั้นบอกได้ไหมเนี่ย
“ งั้นพี่ตอบเองว่าวันนี้ที่มาเพราะอยากเจอจูฮยอนม๊ากมาก “ ซอฮยอนยิ้มแห้งๆ พยักหน้าเชิงรับรู้
“ หรอคะ... อ้อรุ่นพี่เรียกฉันว่าซอฮยอนดีกว่านะคะ จูฮยอนมีแต่พ่อกับแม่ฉันที่เรียก ยังไงฉันขอตัวก่อนนะคะ “ เธอพูดตัดบท ก่อนแอบงอนคนปิดปากเงียบในใจ เธอไม่เคยพยายามชวนใครคุยขนาดนี้มาก่อน ทำไมเขาไม่คิดจะพูดอะไรบ้างนะ กะอีแค่ชวนเขาคุยเธอยังทำไม่ได้เลย L
“ จะรีบไปไหนล่ะครับ วันนี้พี่มาเพราะอยากเจอจู เอ้ย ซอฮยอนนะ!! “ อึนฮยอกตะโกนไล่หลังบางๆที่รีบเดินเข้าห้องเรียนไปอย่างรวดเร็ว “ วิธีปฏิเสธผู้ชายเย็นชาอย่างที่ร่ำลือจริงๆ “
“ อย่างนั้นไม่เรียกเย็นชาหรอกนะ ฉันว่าเขารังเกียจนายมากกว่า “ คยูฮยอนแย้งอย่างหมั่นไส้ เขากลับคิดต่างออกไป ออกจะพูดเยอะกว่าตอนที่เจอครั้งนั้น มีสบตามียิ้ม แถมยังมียอกย้อนอีกแหน่ะ
“ รังเกียจแล้วเขาจะคุยกับฉันทำไม จะว่าไปก็ไม่เย็นชาเท่าไหร่หรอก เพราะไอ้เยซองมันเคยไปชวนคุย แต่ซอฮยอนนอกจะไม่คุยด้วยแล้วยังเดินหนีอีกด้วย หุหุ น่ารักดี “
“ ใคร? ไอ้เยซองน่ะหรอ “ คยูฮยอนถามกวนๆ
“ ไอ้บ้า! ก็ต้องน้องซอฮยอนน่ะสิ ฉันไม่ใช่พวกเก้งนะเว้ย “ อึนฮยอกตอบกลับก่อนผลักไหล่คนกวนหนึ่งที “ ไม่รู้ไปเป็นเพื่อนสนิทกับยัยนั่นได้ไง ทั้งปากร้าย มือหนักอีกต่างหาก “
“ หืม? พูดถึงบ่อยจังเลยนะคนนี้น่ะ ปากก็ว่าเขาปากร้าย ขาป้อม นู่นนี่ แต่ตัวเองก็พูดถึงเขาบ่อยยิ่งกว่าซอฮยอนสุดน่ารักของนายเสียอีก แอบชอบเพื่อนเขาก็บอกมาเหอะ “
“ จะบ้าหรือไง ใครจะชอบยัยขาป้อมห๊า อย่ามาพูดมั่วๆ เอาเวลามาจับผิดคนอื่นไป บอกรักเพื่อนข้างบ้านนายก่อนดีกว่ามั้ง “
“ ทำไมฉันต้องบอก กับเจสสิก้าฉันไม่ได้มีอะไร “
“ อะโด่!!! ก็เพราะปากแข็งอย่างเงี้ย ประธานซีวอนสุดหล่อเลยแย่งไป คิดว่าเท่ห์นักหรือไงพ่อคนปากแข็งงงง “
“ หุปปาก! วันนี้ก็พามาเจอเจ้าหญิงตามสัญญาแล้วไง กลับไปซ้อมฮอกกี้ได้แล้ว ฝากบอกหัวหน้าด้วยว่าพรุ่งนี้ฉันจะเข้าไป “ เขาพูดตัดบท “ รีบไปได้แล้ว ยังจะมามองหน้าอีก! “
“ เออๆ ไปก็ได้ ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมถึงมีคนมาชอบคนอย่างนาย ตาบอดจริงๆ เหอะ!! “
ความคิดเห็น