ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักเธอเข้าแล้วทำไงได้ ❤ [SJ&SNSD]

    ลำดับตอนที่ #6 : ★ EP 6

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 54


      

     

     

                   

                    ร่างบางพลิกตัวไปมาบนเตียงก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้น เพราะรู้ตัวแล้วว่าตอนนี้เธอคงนอนไม่หลับแน่ เรื่องเมื่อสองวันก่อนยังติดอยู่ในใจเธอ

     

                    ไม่น่าเชื่อว่าเราจะสมัครเรียนที่นั่นไปแล้ว เสียงอู้อี้เพราะเจ้าตัวก้มลงไปพูดกับผ้านวมอย่างเขินๆ หวังว่าผ้าห่มจะช่วยดึงเอาความร้อนบนใบหน้าได้

                   

                    สองวันก่อนนั้น คนอื่นทั่วไปอาจจะมองว่ามันไม่เห็นจะพิเศษตรงนั้น แต่ซอฮยอนกลับคิดว่ามันเป็นวันที่พิเศษยิ่งกว่าวันไหนๆ ถึงจะไม่ได้คุยกันเลย เพราะรุ่นพี่อึนฮยอกอาสาทำหน้าที่แทนลูกชายเจ้าของโรงเรียนแทน ทั้งหน้าที่รับเงิน อธิบายคอร์สต่างๆที่เธออยากรู้รายละเอียด แม้รุ่นพี่คยูฮยอนจะนั่งอยู่ข้างๆ แต่เขาก็เลือกที่จะบอกรายละเอียดนั้นผ่านเพื่อนของเขา แทนที่จะบอกกับเธอตรงๆ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นนะ ไม่เข้าใจความคิดผู้ชายจริงๆ

     

     

                    ปิ๊ง!!

     

                    ซอฮยอนหันไปมองต้นเสียงจากโน๊ตบุ๊คสีหวานที่วางอยู่บนโต๊ะ เลื่อนสายตาไปมองนาฬิกาที่อยู่ข้างๆกันบ่งบอกเวลาเที่ยงคืน

               

                คืนนี้คงนอนไม่หลับแล้วมั้งเรา

     

                    เธอลุกขึ้นจากเตียงก่อนตรงไปดูว่าใครทักมา ก็พบการเตือนจากโปรแกรม Skype ที่เพื่อนสนิทรบเร้าให้สมัคร เอาไว้ติวสอบผ่านหน้าจอ ขึ้นว่าฮโยยอนกับยูริกำลังส่งวิดีโอมาคุยกับเธอ ตอนเที่ยงคืน!!!

     

                    เฮ้ยยยยย!! ซอมันรับแล้วเว้ยไอ้ลิง ทันทีที่เธอกดรับก็พบกับหน้าของเพื่อนสนิททั้งสองคนโผล่บนหน้าจอ

     

                    เห็นมั้ย ฉันบอกแล้วว่ามันยังไม่นอนหรอก

     

                    บอกทีได้มั้ยว่าคึกอะไรถึงจะคุยกันตอนเที่ยงคืน เป็นเคล็ดอะไรหรือไง คุยกันตอนค่ำๆไม่ได้เนี่ย

     

                    ความคิดไอ้ยูลมัน ว่ามันเลยฉันไม่เกี่ยว เมื่อรู้ว่าใครเป็นตัวการ ซอฮยอนจึงจิกไปที่กล้องหนึ่งที ยูริที่เห็นว่ายั่วให้ซอฮยอนโมโหแล้วก็ทำหน้าเจื่อนๆ ก่อนจะหัวเราะแห้งๆตามสไตล์

     

                    ไง แล้วมีอะไรล่ะถึงทักมาดึกๆอย่างนี้ ไม่คิดบ้างหรอว่าฉันจะนอนแล้วน่ะ

     

                    ลางสังหรณ์ของเพื่อนสนิท มันสะกิดว่าแกคงนอนไม่หลับ ยูริตอบเสียงอ่อยๆ

     

                    แกโทรมาปลุกฉันให้มาวิดีโอคอลกับแกเพราะลางสังหรณ์ของแกเนี่ยนะ  ควอนยูริวันหลังมาเคาะประตูห้องเลยมั้ย ไหนๆก็อยู่ข้างบ้านกันอยู่แล้วนี่ ฮโยยอนจิกกัด ก่อนจะฟุบหน้ากับโต๊ะ เพราะเธอหลับไปแล้วแต่โดนยูริโทรมาตื้อจนต้องยอมตื่น

     

                    ความคิดที่ดี แกไปเปิดประตูรั้วดิ เดี๋ยวไปหา

     

                    ประชดโว้ยยย !! ““ ฮโยยอนยกศอกใส่กล้องอย่างหมั่นไส้

     

                “ ตกลงกันก่อนแล้วค่อยมาเรียกฉันก็ยังทันนะ ซอฮยอนนั่งมองสองคนเถียงกันไปมาผ่านกล้อง เห็นว่านั่งเงียบมานานแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา สนใจฉันหน่อยสิ อย่าคุยกันสองคน

     

                    โถ่อย่างอนไปเจ้าหญิง แล้วทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ

     

                    ลางสังหรณ์ว่าต้องมีคนมาทักตอนเที่ยงคืนล่ะมั้ง ซอฮยอนย้อนนิ่งๆ

     

                    เดี๋ยวนี้มีย้อนแล้วเรอะ พัฒนาขึ้นนะแก ฮโยยอนพูดอึ้งๆ แต่ก็ว่าละนะถึงแกจะเย็นชาแค่ไหนก็เหอะ จริงๆแล้วแกก็มีอารมณ์ธรรมดาทั่วไปเหมือนพวกเราใช่มั้ย

     

                    เพิ่งรู้รึไง แต่เผอิญฉันควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี ไม่เหมือนพวกแกไง

     

                    ซอฮยอนเจ้าขา ปากร้ายขึ้นนะคะ ปกติก็เถียงแกไม่ได้อยู่แล้ว แกกะจะไม่ยอมให้พวกฉันเลยใช่มัย หึ!

     

                    ซอฮยอนหัวเราะเบาๆ จะว่าไปเวลาได้ลองทำอะไรไปตามใจตัวเองมันก็สบายดีเหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงเลือกที่จะเก็บความรู้สึกเงียบๆก็ไม่รู้

     

                    หัวเราะอะไรยะ  Lยูริถามหน้าบึ้ง

     

                    หัวเราะพวกแก... รวมทั้งตัวฉันเองด้วยล่ะมั้ง J สองสาวเพื่อนสนิทมองคนพูดกำกวมงงๆ

     

                    ช่วยพูดภาษาชาวบ้านที แกอย่าให้พวกฉันต้องแปลเกาหลีเป็นเกาหลีเลย ทุกวันนี้ก็โง่อังกฤษจะแย่แล้ว อย่าให้พวกฉันโง่ภาษาบ้านเกิดตัวเองอีกภาษาเถอะ

     

                    อย่าเหมารวมยัยฮโย ใครโง่อังกฤษเหมือนกับเธอ ไม่ใช่ฉันนะ

     

                    นี่! มันใช่เวลามาจิกกันเองมั้ยห๊ะ ไหนลางสังหรณ์ของแก คนมันง่วงเหมือนกันนะเว้ย ยูริเมื่อเห็นเพื่อนร่วมปฏิบัติการเริ่มง่วงนอนจนชักจะพาลก็หยุดจิก ไอ้บอกว่าลางสังหรณ์มันก็แค่ตงิดใจหน่อยๆ แต่ไม่รู้ว่าต้องทำไงนี่นา

     

                    เห็นด้วย สรุปมีไรหรอ ถึงนัดคุยกันตอนนี้น่ะ

     

                    ก็ไม่มีไรหรอก.. ก็อยากให้วันนี้เรามาคุยเปิดอกกันอ่ะ แบบใจใจเลย แกว่าเป็นไง

     

                    เปิดอกตอนเที่ยงคืน แกไปเอามาจากไหนเนี่ย  ฮโยยอนแย้งเบาๆ ในใจเริ่มเซ็งว่าไม่น่าตื่นมารับโทรศัพท์ยัยนี่เลย

     

                “ เปิดอกที่ว่าเนี่ย แกหมายความว่ามีอะไรจะถามฉันใช่มั้ย

     

                “ ฉลาดสมเป็นแกจริงๆ ปิดอะไรไม่เคยปิดซอจูฮยอนได้ ยูริยอมรับกลายๆ ว่าแต่ถ้าฉันถามแล้วแกจะยอมตอบป่ะละ กล้ารึเปล่า

     

                    จะถามอะไรล่ะ

     

                    ตอนนี้แกชอบใครอยู่ปะวะ แบบมีใครที่แกสนใจอยู่บ้างปะ

     

                    ...  ความเงียบคือคำตอบ ซอฮยอนถอนหายใจเบาๆ ใจนึงก็อยากจะเก็บไว้เป็นความลับกับตัวเองเงียบๆ แต่อีกใจหนึ่งก็นึกถึงเพื่อนสนิทสองคน เธอมีเพื่อนที่เธอรัก และรักเธอจริงๆอยู่แค่นี้ ทำไมเธอถึงจะต้องเลือกปิดบังกับเพื่อนแท้ของตัวเองด้วยนะ

     

                ด้านสองสาวที่เห็นคนโดนคาดคั้นยังคงนั่งเงียบ เหมือนกำลังคิดไม่ตกจึงมองกันไปมาอย่างปลงๆ บางทีพวกเธอสองคนอาจจรุกเร็วไปก็ได้มั้ง

     

                    ไม่ต้องเครียดน่ะแก ไม่อยากรู้แล้วก็ได้ เอางี้เราเปลี่ยนเรื่องคุยมั้ย เอาเป็น

     

                “ จริงๆแล้วก็มีเหมือนกัน.. คือฉันก็ไม่รู้จะบอกยังไง ฉันไม่เคยรู้สึกอย่างนี้ แค่มองธรรมดา อยู่ๆใจก็เต้นแรงขึ้นมาเฉยๆ อะไรที่เคยควบคุมตัวเองได้ ฉันก็กลับควบคุมมันไม่ได้ มีความสุขกับเรื่องเล็กๆน้อย เรื่องที่น่าจำก็ดันจำได้ แถมมันยังทำให้ฉันนอนไม่ค่อยหลับด้วย อย่างนี้เขาเรียกว่าแอบชอบใครรึเปล่าล่ะแก เป็นครั้งแรกที่เธอพูดจนหมดเปลือกกับเพื่อนสนิททั้งสอง พูดไปแล้วมันก็โล่งหัวเหมือนกันนี่นา

     

                    แล้วแกรู้สึกอย่างนี้กับใครล่ะ

     

                    ฉัน ฉัน เอ่อ รู้สึกแบบนี้กับ.. เอ่อฉัน

     

                ยูริมองซอฮยอนผ่านกล้องขำๆ เวลามันอ้ำอึ้งอย่างนี้ก็น่ารักดีแฮะ   นี่ซอ แกอย่าคิดว่าการแอบชอบใครมันน่าอายเลย ชอบก็คือชอบ การชอบใครมันดีนะเว้ย การที่เราได้ทำอะไรให้ใครสักคนมันเป็นเรื่องน่าอายหรือไง ฉันคิดว่าแกน่าจะแสดงออกมาบ้างนะ แสดงออกมาในตัวแบบแกเอง

     

                “ อืม.. ฉันว่าฉันชอบรุ่นพี่คนนึง

     

                    ใครๆๆๆ รุ่นพี่หรอ ชื่อโจคยูฮยอนรึเปล่า ฮโยยอนถามตรงๆ ยูริแอบกุมขมับกับคำพูดขวานผ่าซากของฮโยยอน โอ้ยยย ชอบทำให้ไก่ตื่นอยู่เรื่อยเลยยยยยย L

     

                    ก็คนนั้นล่ะ ซอฮยอนตอบอ้อมแอ้ม ส่วนสองสาวที่ได้ยินคำตอบแอบจุดพลุฉลองในใจ ที่เหลือก็แค่พิชิตใจรุ่นพี่เท่านั้นเอง

     

                    ดีมาก

     

                    ดีมาก?? มันหมายความว่าไง ซอฮยอนเริ่มรู้สึกถึงเค้าลางอะไรบางอย่าง เธอบอกความลับออกไปแล้ว เธอยังต้องเจออะไรอีก

     

                    ก็หมายความว่าเราจะช่วยไง

     

                “ ใช่!! เราจะช่วยให้แกพิชิตใจรุ่นพี่คยูฮยอนให้จงได้

     

                เธอรู้แล้วว่าต้องเจอกับอะไรอีก...... ก็ความวุ่นวายยังไงล่ะ !

     

     

     

     

     

                    หลังจากหมดคาบเรียนของวันนี้ ซอฮยอนก็รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ตัวว่าพาตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าโรงเรียนกวดวิชาที่ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ในใจก็แอบรู้สึกเสียดายที่ไม่ยอมให้ฮโยยอนกับยูริมาเป็นเพื่อน ถ้ารู้ว่ามันจะตื่นเต้นขนาดนี้ ยอมให้สองคนนั้นมาด้วยก็ดี

     

                    ชักจะเป็นมากแล้วนะเรา เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปในส่วนหน้า ที่เอาไว้รับรองผู้ปกครองเวลามารับนักเรียน ยกนาฬิกาก็พบว่าอีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลา

     

                    ไอซ์ฮอกกี้? สายตาไปเจอกับนิตยสารกีฬารายสัปดาห์ เมื่อนึกได้ว่าคยูฮยอนเป็นนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ของโรงเรียน มือบางก็หยิบขึ้นมาอ่านด้วยความสนใจ  จะว่าไปเรายังไม่รู้เรื่องอะไรกับรุ่นพี่สักอย่างนี่นา

     

                “ จูฮยอน!! “ เสียงเรียกดังขึ้นจนเธอตกใจ พร้อมๆกับมือที่เอานิตยสารเก็บใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว

     

                    เอ่อ รุ่นพี่ สวัสดีค่ะ เธอลุกขึ้นค้อมตัวอย่างสุภาพให้กับอึนฮยอกโดยที่ไม่ลืมทำแบบเดียวกันให้กับคยูฮยอนที่อยู่ข้างๆเหมือนกัน สวัสดีค่ะ

     

                    มาเร็วจังเลยนะครับ พี่คิดไว้อยู่แล้วเชียว ว่าแต่เมื่อกี้อ่านอะไรอยู่หรอ  อึนฮยอกถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง ในใจก็ดีใจที่ไปขอร้องให้คยูฮยอนพามาโรงเรียนกวดวิชาด้วยทั้งๆที่วันนี้มีซ้อมไอซ์ฮอกกี้หลังเลิกเรียน

     

                “ คะ? ....ก็นิตยสารธรรมดาน่ะค่ะ อ่านตอนช่วงรอเข้าห้องเรียน ซอฮยอนพยายามตอบประโยคยาวๆพร้อมกับส่งรอยยิ้มเบาๆ ตามแบบที่เพื่อนสนิทสอนมา

                   

                      เริ่มแรก แกต้องหยุดทำตัวเย็นชา ถามคำตอบคำอย่างนี้ไม่เอา

     

                ‘ ใช่!!  แกต้องเริ่มชินกับการพูดคุยกับผู้ชาย เวลาพูดก็ยิ้มบ้าง ไม่ต้องยิ้มอะไรมากมายหรอก ยิ้มบางๆแบบที่แกชอบทำอย่างนั้นก็ดี เพราะพี่คยูฮยอนน่ะเขาไม่ใช่คนขี้หลี แล้วก็ไม่ใช่ผู้ชายเย็นชาไม่คุยกับผู้หญิงนะ แต่ใครที่ชอบรุ่นพี่เขาโดนปฏิเสธทุกราย!! ก็ไม่รู้เขานะว่าคิดอะไรอยู่ ฉะนั้นการพูดคุยจะเป็นสิ่งแรกที่ทำให้แกรู้จักพี่เขา เข้าใจมั้ย ไปเรียนวันนี้ก็ให้มันได้เรื่องด้วยนะยะ มีโอกาสทั้งทีต้องรีบคว้าไว้นะซอฮยอน!!  ‘

     

               

     

                “ แล้ววันนี้เพื่อนที่ขาป้อมๆไม่มาด้วยหรอครับ ซอฮยอนทบทวนคำถามในหัว ก่อนจะรู้ว่าที่อึนฮยอกถามถึงนั่นคือเพื่อนสนิทของเธอเอง

     

                    รุ่นพี่หมายถึงฮโยยอนน่ะหรอคะ วันนี้เขาไม่มาหรอกค่ะ  ถ้ารุ่นพี่อยากเจอล่ะก็ฉันจะไปบอกฮโยยอนให้นะคะ  เธอตอบก่อนเหลือบมองคยูฮยอนที่ยืนอยู่ข้างๆ เฮ้อออ ทำไมเขาเงียบอย่างนี้นะ

     

                    ใครจะไปอยากเจอกับยัยนั่นกัน ถ้าเป็นจูฮยอนล่ะก็ว่าไปอย่าง เนอะไอ้กี้ อึนฮยอกหันไปถามความเห็นคยูฮยอนที่ยืนอยู่ข้างๆ

     

                     โนคอมเม้นต์ ซอฮยอนแอบก้มหน้าบู้ปากงอนๆ อย่างที่ยูริบอกไม่ผิด เธอก็เป็นคนพูดไม่เก่งอยู่ด้วย ยิ่งมาเจอคนหาเรื่องคุยยากอย่างคยูฮยอน แล้วอย่างนี้เธอจะทำตามที่สองคนนั้นบอกได้ไหมเนี่ย

     

                    งั้นพี่ตอบเองว่าวันนี้ที่มาเพราะอยากเจอจูฮยอนม๊ากมาก  ซอฮยอนยิ้มแห้งๆ พยักหน้าเชิงรับรู้

     

                    หรอคะ... อ้อรุ่นพี่เรียกฉันว่าซอฮยอนดีกว่านะคะ จูฮยอนมีแต่พ่อกับแม่ฉันที่เรียก  ยังไงฉันขอตัวก่อนนะคะ เธอพูดตัดบท ก่อนแอบงอนคนปิดปากเงียบในใจ เธอไม่เคยพยายามชวนใครคุยขนาดนี้มาก่อน ทำไมเขาไม่คิดจะพูดอะไรบ้างนะ กะอีแค่ชวนเขาคุยเธอยังทำไม่ได้เลย  L

     

                    จะรีบไปไหนล่ะครับ วันนี้พี่มาเพราะอยากเจอจู เอ้ย ซอฮยอนนะ!! “ อึนฮยอกตะโกนไล่หลังบางๆที่รีบเดินเข้าห้องเรียนไปอย่างรวดเร็ว วิธีปฏิเสธผู้ชายเย็นชาอย่างที่ร่ำลือจริงๆ

     

                    อย่างนั้นไม่เรียกเย็นชาหรอกนะ ฉันว่าเขารังเกียจนายมากกว่า คยูฮยอนแย้งอย่างหมั่นไส้ เขากลับคิดต่างออกไป ออกจะพูดเยอะกว่าตอนที่เจอครั้งนั้น มีสบตามียิ้ม แถมยังมียอกย้อนอีกแหน่ะ

     

                “ รังเกียจแล้วเขาจะคุยกับฉันทำไม จะว่าไปก็ไม่เย็นชาเท่าไหร่หรอก เพราะไอ้เยซองมันเคยไปชวนคุย แต่ซอฮยอนนอกจะไม่คุยด้วยแล้วยังเดินหนีอีกด้วย หุหุ น่ารักดี

     

                    ใคร? ไอ้เยซองน่ะหรอ คยูฮยอนถามกวนๆ

     

                    ไอ้บ้า! ก็ต้องน้องซอฮยอนน่ะสิ ฉันไม่ใช่พวกเก้งนะเว้ย อึนฮยอกตอบกลับก่อนผลักไหล่คนกวนหนึ่งที ไม่รู้ไปเป็นเพื่อนสนิทกับยัยนั่นได้ไง ทั้งปากร้าย มือหนักอีกต่างหาก 

     

                    หืม? พูดถึงบ่อยจังเลยนะคนนี้น่ะ ปากก็ว่าเขาปากร้าย ขาป้อม นู่นนี่ แต่ตัวเองก็พูดถึงเขาบ่อยยิ่งกว่าซอฮยอนสุดน่ารักของนายเสียอีก  แอบชอบเพื่อนเขาก็บอกมาเหอะ

     

                    จะบ้าหรือไง ใครจะชอบยัยขาป้อมห๊า อย่ามาพูดมั่วๆ เอาเวลามาจับผิดคนอื่นไป บอกรักเพื่อนข้างบ้านนายก่อนดีกว่ามั้ง  

     

                “ ทำไมฉันต้องบอก กับเจสสิก้าฉันไม่ได้มีอะไร

     

                    อะโด่!!! ก็เพราะปากแข็งอย่างเงี้ย ประธานซีวอนสุดหล่อเลยแย่งไป คิดว่าเท่ห์นักหรือไงพ่อคนปากแข็งงงง

     

                    หุปปาก! วันนี้ก็พามาเจอเจ้าหญิงตามสัญญาแล้วไง กลับไปซ้อมฮอกกี้ได้แล้ว ฝากบอกหัวหน้าด้วยว่าพรุ่งนี้ฉันจะเข้าไป เขาพูดตัดบท รีบไปได้แล้ว ยังจะมามองหน้าอีก!

     

                    เออๆ ไปก็ได้ ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมถึงมีคนมาชอบคนอย่างนาย ตาบอดจริงๆ เหอะ!! “








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×