ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Stick Wit U ♡ [SJ x SNSD]

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 5 .... 100%

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 53


    Chapter 5

     

     

    [Jessica :]

     

     

     นี่เธอ! ทำไมนั่งเงียบซะล่ะ ฉันเลิกสนใจบรรยากาศภายนอกรถ แล้วหันกลับไปยังต้นเสียงกวนๆของผู้ชายที่นั่งขับรถอยู่ข้างๆ  นายดงเฮ เหอะ! เห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทของวอนหรือไง ถึงได้มีอภิสิทธิ์ที่จะคอยกันฉันจากวอนด้วย แถมลากฉันขึ้นรถหน้าตาเฉย  วอนก็อีกคนทำไมไม่รู้จักห้ามนายดงเฮนะ  เจ็บใจชะมัด! ฉันมองนายดงเฮด้วยหางตาตั้งแต่บนจนล่างด้วยความเคืองที่มีต่อเขามากๆแล้วสะบัดหน้ากลับไปมองบรรยากาศข้างนอกรถเหมือนเดิม แต่เจ็บใจที่สุดก็ตรงฉันยอมให้นายดงเฮพาขึ้นรถมาด้วยเนี่ย ฮึ้ยยยย เจสสิก้า เธอยอมมากับนายคนนี้ได้ยังไง  

     

    เธอนี่ทำฉันประสาทกินได้ตลอดเลยนะ นี่! ฉันพูดกับเธออยู่นะ หูหนวกหรือไง! “ นายดงเฮเริ่มขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจ ดี! อะไรที่ทำให้นายประสาทกินได้ฉันจะทำ แล้วอีกอย่างวิวข้างนอกน่ามองกว่าหน้านายเป็นไหนๆ ฉันเถียงนายดงเฮในใจ ให้ตายก็ไม่หันไปหรอก เชอะ!!!

     

    นี่เธอ

     

    อุ๊ย นั่นเพื่อนนายนี่ จอดรถสิ ไปทักเพื่อนนายหน่อย ฉันเคาะกระจกรถพลางชี้ไปทางควายฝูงใหญ่ที่กินหญ้าอยู่ (ไม่รู้เกาหลีเขามีควายหรือเปล่า แต่ไรเตอร์เป็นคนไทยเอาเป็นว่า มันมีควายในเกาหลีแล้วกัน 55555+) แต่นายดงเฮกลับเหยียบคันเร่งผ่านควายฝูงนั้นไปอย่างหน้าตาเฉย

     

    นี่นาย! ใจร้ายไปหน่อยหรือเปล่า เพื่อนนายมองนายด้วยความเสียใจนะ อะไรกันเห็นเพื่อนกินข้าวริมทางนี่รับไม่ได้เลยรึไง ฉันหันไปทำเสียงเศร้าเหมือนถ่ายทอดความรู้สึกของเพื่อนนายดงเฮออกมาจริงๆ แต่ยิ้มมองนายดงเฮด้วยความสะใจที่หลอกด่านายดงเฮได้ ฮ่าๆๆๆ ฉันนี่แสดงเก่งจริงๆ 

     

    เธอรู้ได้ไง เธอเป็นควายหรอถึงเข้าใจน่ะ นายดงเฮตอบกลับมาด้วยหน้าตายิ้มๆ นี่นายด่าฉันเป็นควายหรอห๊ะ นาย นาย นาย ฮึ้ยย ฉันกัดปากด้วยความกลั้นโมโหสุดๆ อยากจะกรี๊ดให้หูนายแตกไปเลย แต่ถ้ากรี๊ดคนเจ็บคอก็คือฉัน ได้ยินเสียงก็ได้ยินเหมือนนาย ไม่คุ้มๆ ฉันเจ็บมากกว่านายอีก ฉันมองนายดงเฮด้วยความขัดใจ ทำไมฉันจะต้องเถียงนายไม่ขึ้นตลอดเลยนะ ฉันกอดอกแล้วหันกลับไปนอกหน้าต่างเหมือนเดิม เพื่อดับอารมณ์ มีหวังฉันได้กินหัวนายแน่ๆ ให้ตายเถอะ

     

    อะไรงอนหรอ ฉันไม่ง้อเธอหรอกนะ มันไม่จำเป็น   นายดงเฮบอกฉันแล้วหัวเราะออกมาเหมือนผู้ชนะ ไม่ได้งอนเฟ้ย ฉันโมโหนายต่างหาก เอ๊ะหรือฉันงอน O_O

     

    นี่เธอจะให้ฉันบ้าพูดคนเดียวจริงๆหรอ นายดงเฮถามฉันด้วยน้ำเสียงอ่อนลง นี่นะไม่ง้อ ที่นายทำอยู่มันเรียกง้อเฟ้ย ไอ้ควายเผือก เหอะ! แต่สรุปนี่ฉันงอนนายควายเผือกหรอเนี่ย O_O

     

    นี่เธอ

     

    เธอ เธอ เธอ อยู่นั่นแหละ ใครชื่อเธอไม่ทราบ ฉันมีชื่อเสียงเรียงนามที่พ่อแม่ฉันตั้งให้นะ สมแล้วที่เป็นเพื่อนกับควายฝูงนั้นจริงๆ ฉันพูดขึ้นมาด้วยความหมดอดทน เรียกแต่ เธอ เธอ เธอ ฉันมีชื่อนะ ชื่อน่ะรู้จักไหม ฉันมองหน้านายควายเผือกแล้วหันกลับไปมองวิวข้างนอกรถเหมือนเดิม ไม่อยากจะเสวนาจริงๆอารมณ์นี้ เหอะ!

     

    หันหน้าไปอีกแล้ว นั่งดีๆเถอะ เอาล่ะๆ ฉันขอโทษ เอาเป็นว่าเราเป็นควายทั้งคู่ ดีไหม เจสสิก้า นายดงเฮตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงโอนอ่อนตามใจฉัน ดี! ฉันหันกลับมานั่งแบบเดิมแล้วมองนายดงเฮ (ในเมื่อรู้เรื่องแล้วฉันก็จะกลับมาเรียกนายดงเฮเหมือนเดิม) แต่เอ๊ะใครเป็นควายกับนายกัน

     

    ไม่ดี

     

    เป็นควายแล้วผิดหรอ ควายผลิตข้าวให้เธอกินนะเจสสิก้า ถ้าควายมาได้ยินเธอพูดแบบนี้คงเสียใจแน่ๆ นายดงเฮพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆเหมือนถ่ายทอดความรู้สึกของควายออกมา ฉันหันไปมองหน้านายดงเฮด้วยความตกใจ พร้อมกับภาพหน้าของควายฝูงนั้นขึ้นมาในหัว ฉันก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิดกับความคิดของตัวเอง นั่นสิ เป็นควายก็ไม่ผิดนี่นา

     

    ไงเริ่มอยากเป็นควายบ้างรึยัง เจสสิก้า นายดงเฮถามขึ้นมาตอกย้ำความรู้สึกผิดของฉัน ชื่อนี่ก็เรียกจัง พอให้เรียกนี่ก็เรียกจังเนอะ กวนดีแท้นายคนนี้

     

    ฉันเป็นคน ขอบใจกับความคิดที่อยากจะหาเพื่อนสปีชี่ส์เดียวกับนาย เป็นควายไม่ผิด แต่ฉันคงรู้สึกแย่ที่ต้องไปเป็นอะไรที่เหมือนกับนายต่างหาก ดงเฮ ฉันเงยหน้าแล้วแว๊ดใส่นายดงเฮ แต่ก็อดล้อเลียนนายดงเฮไม่ได้ อยู่กับนายฉันจะบ้า ให้ตาย!

     

    เอาล่ะๆ ขี้เกียจจะเถียงกับเธอแล้ว บ้านเธออยู่ไหนล่ะ ฉันจะไปส่ง นายดงเฮบอกฉันแล้วยกมือข้างขวาขึ้นมาทำท่ายอมแพ้ ดี! ฉันยิ้มให้นายดงเฮด้วยความสะใจ  อยากจะแกล้งนายดงเฮอีกจัง ฉันยิ้มให้กับแผนในใจ

     

    ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน ฉันตอบนายดงเฮไป นายดงเฮตกใจกับคำตอบของฉันก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความมีเลศนัยเหมือนมีแผนในใจ ฉันต่างหากที่มีแผนไม่ใช่นาย

     

    นี่นาย ยิ้มทำไม ฉันถามนายดงเฮด้วยหน้าตาบูดสุดๆ ไม่เป็นตามแผนเลยเถอะ ให้ตาย

     

    เปล่า ฉันก็ยิ้มของฉันไปเรื่อย ไม่ทำหน้าบูดๆบึ้งๆไปวันๆแบบเธอหรอกแล้วเธออยากไปไหนล่ะ  เจสสิก้า ฉันหันไปมองนายดงเฮอย่างชั่งใจ จะไปหรือไม่ไปดีนะนี่ฉันคิดถูกหรอที่คิดจะเล่นกับปลาไหลอย่างเขา แถมเป็นปลาไหลที่กัดเจ็บแล้วก็ยังเป็นควายเผือกอีกด้วย สรุปนายเป็นตัวอะไรดีนะ ฉันหัวเราะกับความคิดของตัวเอง

     

    เดี๋ยวหน้าบูด เดี๋ยวยิ้ม ตกลงจะไปไหนครับคุณหนู นายดงเฮหันมาถามฉันอีกรอบ ในเมื่อตอนนี้นายวอนก็ไม่ยอมอยู่ตามใจฉันอีกแล้ว รนหาเรื่องเองนะนายควายเผือก ดูซิว่านายจะทนฉันไปได้สักกี่น้ำ

     

    ฉันอยากไปซื้อของ พาไปห้างได้ไหมล่ะ ฉันถามหยั่งเชิง พวกผู้ชายไม่ชอบรอผู้หญิงซื้อของหรอก วอนน่ะชวนทีไรไม่เคยไป แถมยังฝากซื้อของอีกแน่ะ ดูซิว่านายจะลำบากใจแค่ไหน ฉันคิดพลางลอบสังเกตุท่าทางของนายดงเฮไปด้วย แต่ดูนายดงเฮจะไม่แปลกใจหรือลำบากใจอะไร เขาพยักหน้าเบาๆ แล้วเลี้ยวรถกลับมุ่งหน้าไปยังห้างที่อยู่แถวนี้พอดี ง่ายไปไหมเนี่ย  = =

     

    แล้ววันนั้นนายไปไหนมาหรอ ฉันโพล่งถามขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ นายดงเฮหันมามองฉันด้วยความงง ทั้งงงทั้งแปลกใจที่อยู่ๆฉันถามเรื่องทั่วๆไปของเขาขึ้นมา เห็นรถเงียบหรอกย่ะ ฉันกอดอกรอคำตอบด้วยความประหม่า ทำไมต้องมองขนาดนั้นด้วย ตาบ้าควายเผือกเอ๊ย

     

    วันนั้นที่เธอว่าน่ะวันไหน วันนั้นของเดือนหรอ ฉันไม่มีหรอกนะ นายดงเฮหันมาตอบฉันแล้วยิ้มให้อย่างขบขัน

     

    ทะลึ่ง หมายถึงที่นายไปอังกฤษหรอก ไปทำอะไร

     

    สนใจล่ะสิ ฉันหันขวับไปมองนายดงเฮตาโต แต่นายดงเฮกลับหัวเราะกับท่าทีของฉัน นี่นายแกล้งฉันหรอห๊ะ

     

    เปล่า ไม่อยากรู้แล้ว ไม่ต้องบอกนะ เชอะ! ฉันหันหน้าหนีแล้วกอดอกด้วยท่าทางขัดใจ ฉันกะจะพูดดีๆกับนาย ก็ดันมากวนประสาทซะได้ ไร้มารยาท ตาบ้าๆๆๆๆ แถมแก้มฉันก็ดันมาแดงอีกนายถามออกมาได้ยังไงกัน ฉันคิดพลางจับแก้มของตัวเองที่รู้สึกร้อนๆ ฉันร้อนไง ใช่! ฉันร้อน ฉันไม่ได้เขินนายดงเฮซะหน่อย

     

    ฮ่าๆ ไปแลกเปลี่ยนภาษาน่ะ เผอิญเห็นว่าน่าสนใจดี แถมได้ไปเที่ยวอีกด้วย นายดงเฮตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ ผิดกับฉันที่ยังรู้สึกแปลกๆกับร่างกายตัวเองอยู่

     

    บอกทำไม ใครอยากรู้กัน ฉันพูดพลางสะบัดหน้าหนีใส่นายดงเฮ เชอะ!  โอ๊ยปวดคอ = =

     

    คนแถวๆนี้ละมั้ง แล้วเธอมีพี่น้องกี่คนหรอ ฉันหันไปมองนายดงเฮตาโตอีกครั้ง ตาบ้านี่ เปลี่ยนเรื่องเร็วชะมัด

     

    ทำไมต้องตอบ เรื่องในครอบครัว ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา เหอะตาบ้า อยากกวนดีนัก คิดว่าฉันจะยอมรึไงห๊ะ

     

    ฉันมีน้องชาย 1 คน นายดงเฮไม่สนใจคำพูดฉัน กลับตอบคำถามนั้นเองด้วยน้ำเสียงสบายๆ จะสบายเกินไปหน่อยแล้วย่ะ

     

    แล้วไง ฉันหันไปมองนายดงเฮอย่างหาเรื่อง ก็บอกอยู่ว่าไม่อยากรู้จะบอก จะถามทำไม

     

    เธอล่ะ ฉันหันไปตาโตกับคำถามของนายดงเฮอีกครั้ง นายไม่ได้ฟังฉันพูดเลยใช่มั้ยเนี่ยยยยย

     

    น้องสาว 1 คน ฉันตอบเบาๆอย่างเลี่ยงไม่ได้

     

    ก็เท่านั้น ลีลาอยู่ได้ แค่ตอบเท่าเนี๊ย

     

    ใครลีลา นี่นายว่าฉันหรอห๊ะ ฉันหันไปแว๊ดใส่ หมดกันคำพูดของนายจะดีๆกันแล้วแท้ๆ ฉันหันไปถลึงตาใส่นายดงเฮ แต่เขาก็ดูจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลย แถมยังมีหน้ามายักคิ้วใส่ฉันอีก ให้ตายเถอะผู้ชายคนนี้! ฉันขอถอนคำพูด ฉันจะไม่พูดดีๆกับนายอีกต่อไปแล้ว ตาควายเผือก!!!!!

     

     

     

     

     

     

     

    [Donghae :]

     

    นี่นายว่าชุดนี้ดีไหม ผมมองเจสสิก้าที่กำลังทาบชุดเดรสสีชมพูอ่อนกับตัวเองแล้วหันมาหาผมพลางถามความคิดเห็น ไอ้ตอนแรกๆก็สนุกหรอกนะกับการเล่นไปตามแผนของ ยัยคุณหนูจอมแสบเนี่ย แต่ซื้อของทั้งวันแล้วไม่เหนื่อยบ้างหรือไงนะ

     

    ทำไมไม่ตอบล่ะ นายเบื่อซื้อของกับฉันแล้วหรอ เจสสิก้าทำหน้าเศร้าแล้วลดมือที่ทาบชุดลง ให้ตายเถอะ ผมล่ะเบื่อกับท่าทางแบบนี้จริงๆ ผู้ชายบ้าที่ไหนจะปฏิเสธลง ถึงจะมีคนบ้าแบบนั้นแต่คนๆนั้นคงไม่ใช่ผมแน่ๆ

    นี่ผมหลงรักเธออย่างที่ไอ้วอนมันว่าจริงๆใช่ไหมเนี่ย ผู้หญิงที่เจอหน้าทีไรต้องทะเลาะกันทุกครั้ง ไม่เคยพูดดีๆกันเลยสักครั้ง แต่ทำไมผมรู้สึกว่าคำพูดที่พูดออกมามันทำให้เรารู้จักกันมากขึ้นก็ไม่รู้ ให้ตายเถอะ ผู้ชายที่มั่นใจตัวเองอย่างผม กำลังโดนปั่นหัวโดนยัยตัวแสบได้ยังไง

     

    เปล่า ฉันว่าอันนี้ก็ดี แต่ฉันชอบชุดเมื่อกี้มากกว่า ผมตอบไปตามความคิด เดรสสีน้ำเงินวาวๆธรรมดาๆตัวนั้น  เมื่ออยู่บนตัวเธอกลับดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ เจสสิก้าพยักหน้าเห็นด้วย แล้วคืนเดรสสีชมพูคืนพนักงานไป แล้วหันไปบอกพนักงานให้คิดเงิน คนที่จ่ายก็ไม่ใช่ใคร ก็ผมนี่แหละ เจสสิก้าบอกว่าลืมเอากระเป๋าตังค์มา โถ่เห็นผมเป็นควายหรือไง (ถึงเธอจะคิดอย่างนั้นก็เถอะ) ดูก็รู้ว่ามันอยู่ในแผนของเธอ เรื่องแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไหนดูสิว่าแผนของเธอจะไปได้สักกี่น้ำ

     

    แฟนของคุณลูกค้าน่ารักจังเลยนะคะ มีมาช่วยเลือกซื้อของกันด้วย พนักงานพูดขึ้นขณะที่กำลังหยิบชุดห่อใส่ถุง เจสสิก้าตาโตแล้วแก้มแดงขึ้นมาเฉยๆ  ผมหัวเราะกับท่าทีของเธอ ดูง่ายชะมัด ผิดแผนเธอล่ะสิ อ่ะโด่เอ๊ย!

     

    ครับ ขอบคุณมากนะครับ ผมดึงเจสสิก้าเข้ามากอดเอว แล้วรับถุงจากพนักงานมาถือไว้ เจสสิก้าหันมามองผมด้วยความตกใจ แต่ก็ยิ้มเออออไปกับผม ฮ่าๆๆๆๆ ไหนๆก็เหนื่อยกับแผนเธอมาทั้งวันแล้ว ขอเอาคืนหน่อยก็แล้วกัน ผมยิ้มให้พนักงานอีกครั้งแล้วกอดเอวพาเจสสิก้าเดินออกนอกร้านไป

     

    นี่นายดงเฮ จะมากไปแล้วนะ ใครเป็นแฟนนายไม่ทราบ แล้วมากอดเอวฉันได้ยังไง เอามืออกไปเดี๋ยวนี้นะ เจสสิก้าแว๊ดใส่ผม แล้วพยายามดึงมือผมออกจากเอวเธอ น่ารักชะมัดเวลาเธอโมโหเนี่ย เรื่องอะไรจะปล่อย ปล่อยก็ควายล่ะ ถึงผมจะเป็นควายอย่างที่เธอว่า แต่เรื่องนี้ผมไม่ควายนะครับจะบอกให้

     

    แต่ที่วันนี้ที่เราเดินซื้อของด้วยกัน ก็เหมือนแฟนกันออกนะ แล้วอีกอย่างเธอก็ชวนฉันมาเอง จำไม่ได้หรอ ผมตอบด้วยน้ำเสียงยียวน เจสสิก้าได้แต่กระทืบเท้าด้วยความขัดใจ แล้วเดินหนีไปซะอย่างนั้น นี่ผมคงไม่ต้องง้อเธอหรอกใช่มั้ยเนี่ย  ผมถอนหายใจแล้วเดินตามเจสสิก้าไป นี่ขนาดยังเป็นแค่คนที่ไม่ญาติดีด้วยยังขนาดนี้ ถ้าผมได้เป็นแฟนเธอจริงๆ ผมจะรับมือเธอไหวไหมเนี่ย

     

    นี่ อย่าเดินเร็วสิ คนเยอะนะเดี๋ยวก็หกล้มหรอก ผมเดินตามพลางตะโกนเรียก เดินตรงไหนไม่เดิน ดันเดินไปตรงลานจุดนัดพบอีก คนเยอะจะตาย ถ้าเจ็บตัวจะหัวเราะให้ = =

     

    โอ๊ยยยย นั่นไงไม่ขาดคำ ผมหยุดคิดแล้ววิ่งไปหาเจสสิก้าที่กำลังนั่งจับเท้าของตัวเองอยู่ ยัยคุณหนูจอมสร้างเรื่องเอ๊ย

     

    เป็นอะไรมากมั้ย ขอดูหน่อยซิ ผมก้มลงพลางดูตามแขนตามตัว เมื่อไม่มีอะไรจึงขยับจะไปดูตรงเท้าของเจสสิก้าแทน แต่เจสสิก้ากลับสะบัดมือผมออกแล้ว กุมเท้าต่อด้วยความเจ็บแต่ก็ยังไม่ลดทิฐิอยู่

     

    ดื้อ เจ็บตัวแล้วยังจะดื้ออีก ผมกระชากมือของเจสสิก้าออกแล้วดูที่เท้าของเธอ

     

    แดงนิดหน่อย ยังไม่ค่อยบวมมาก เธอเดินไหวรึเปล่าเจสสิก้า ผมขยับดูเท้าแล้วเงยหน้าถามเจสสิก้าด้วยความเป็นห่วง เดินไม่ระวังเลย ให้ตายอย่างนี้ไม่ให้ผมสนใจเธอได้ยังไงกัน

     

    ไหวสิ เจสสิก้าพูดพลางพยุงตัวขึ้นแต่ก็ล้มลงมานั่งแปะที่พื้นเหมือนเดิม

     

    อวดเก่ง ไม่ไหวก็ไม่ไหวสิ ผมวางถุงเสื้อผ้า แล้วคุกเข่าหันหลังให้เจสสิก้า เอาล่ะในเมื่อตัดสินใจว่าจะรักผู้หญิงคนนี้ ผมคงต้องเริ่มทำอะไรเป็นจริงเป็นจังซักที

     

    นายคุกเข่าทำไม ฉันไม่ขึ้นหลังนายหรอกนะ น่าอาย เจสสิก้าพูดพลางจะพยายามลุกขึ้นเดิน

     

    เร็วๆ หยิบถุงแล้วขึ้นหลังฉันซะ จะกลับไหมบ้านน่ะ ผมถามด้วยน้ำเสียงโมโหปลอมๆ พูดดีๆนี่ไม่เคยจะฟัง ต้องขึ้นเสียงใส่ถึงจะยอมเข้าใจ ก็อย่างนี้ไงล่ะถึงอดไม่ได้ที่จะต้องทะเลาะกันทุกที

     

    พูดดีๆก็ได้ เชอะ! เจสสิก้าทำหน้ายื่นใส่ก่อนจะหยิบถุงแล้วขึ้นหลังผมด้วยความจำใจ ให้ตายเถอะ เถียงคำไม่ตกฝากจริงๆ นี่ผมต้องยอมยัยคุณหนูนี่ไปตลอดใช่ไหมเนี่ย

     

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------- ต่อนะคะ ^^

     

    กินอะไรเข้าไปบ้างเนี่ยแต่ละวัน ทำไมตัวเบาแบบนี้ ถึงสมัยนี้คนจะชอบหุ่นเล็กๆ แต่ผอมขนาดนี้จะมีแรงได้ไงดูแลตัวเองบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้

     

    หุ่นฉันกำลังดีออก ขืนหนักกว่านี้ก็อ้วนตายสิ ... แล้วนายหน้าแดงทำไมไหนว่าฉันตัวเบาไง เจสสิก้าพูดที่ข้างหูผมเบาๆ จั๊กจี้ชะมัด ถามได้ก็เขินน่ะสิ มีผู้หญิงมาขี่หลังแถมมาพูดข้างหูอย่างนี้อีก ผมคงพาเจสสิก้าถึงรถโดยปลอดภัยนะ

     

    เปล่าแดดร้อนน่ะ เธอไม่หนักหรอกกำลังดี แต่อย่าผอมไปมากกว่านี้ล่ะ

     

    ถ้าฉันผอมแล้วจะทำไม นายยุ่งอะไรด้วย เจสสิก้าขึ้นเสียงใส่ผม ให้ตายเถอะ คนเค้าเป็นห่วงหรอก อะไรจะขัดใจไม่ได้ตลอดเลยรึไงนะ ยัยคุณหนูเอ๊ยยย

     

    ก็ไม่ทำไมหรอก แบบนี้ดีแล้วฉันชอบ ผมพูดเบาๆกับตัวเอง พูดเองเขินเองผมนี่ชักจะประสาทขึ้นทุกวันนะเนี่ย

     

    นายว่าอะไรนะ ฉันไม่ได้ยิน เจสสิก้าถามพลางเขย่าตัวผม โอ๊ยยย อย่างนี้ก็ยิ่งแขนล้าเข้าไปใหญ่ ถึงจะตัวเบาแต่นานๆก็ไม่ไหวนะครับ

     

    หยุดเขย่าฉันซะที ถึงรถแล้ว เปิดประตูซิ เดี๋ยวจะพาไปโรงพยาบาล

     

    ฉันไม่อยากไป พาฉันกลับบ้าน ฉันอยากกลับบ้าน บ้านๆๆๆๆๆๆ เจสสิก้าพูดเหมือนเด็กโดนขัดใจพลางทุบหลังผม โอ๊ยเจ็บนะ มือหนักชะมัดเลย

     

    โอเค กลับบ้านก็กลับเปิดประตูรถได้แล้ว หนักจะแย่ ผมบ่นอุบ เจสสิก้าเปิดประตูรถพลางทิ้งตัวลงบนเบาะแต่ก็ยังไม่วายมาค้อนใส่ผม จริงๆเล้ยย ผู้หญิงร้อยทั้งร้อย โดนว่าตัวหนักหน่อย เป็นค้อนทุกคน เหอะ!!! ผู้หญิง = =

    ผมทำเป็นไม่สนใจสายตากัดจิกจากเจสสิก้าพลางเดินไปเปิดประตูรถเพื่อพาเธอกลับบ้าน ดูๆไปวันนี้ผมก็คุ้มนะ ได้กอดได้อุ้ม ฮ่าๆๆๆ ครั้งต่อไปต้องมากกว่านี้ให้ได้ แต่จะได้เจอกันอีกไหมเนี่ย

     

    นายหัวเราะอะไร คิดว่าฉันอ้วนใช่มั้ย ไหนว่าตัวเบาไง นายโกหกฉัน นี่แน่ะๆๆๆๆๆๆ ต้องโดน เจสสิก้าหันมาขึ้นเสียงคาดโทษใส่ผม ก้อนจะกระหน่ำทุบแขนผมไม่ยั้ง

     

    โอ้ยๆๆๆๆ หยุดๆๆ ถ้าเธอไม่หยุดนะ แขนฉันเจ็บเธอกลับบ้านไม่ได้นะ ผมพูดขู่ เจสสิก้าหยุดทันทีก่อนเบิ่งตาใส่ผม

     

    ฉันกลับแท็กซี่ก็ได้ เจสสิก้าพูดแล้วเปิดประตูรถจะลุกออกไป งอนอีกแล้ว เกิดมาไม่เคยง้อผู้หญิงเลยนะ ให้ตายวันนี้ต้องง้อไปกี่รอบแล้วก็ไม่รู้

     

    เฮ้ เจสสิก้า เป๋ซะขนาดนี้ จะลงไปหารถได้ยังไง นั่งเถอะๆ เดี๋ยวฉันไปส่ง ผมฉุดแขนเจสสิก้าไว้

     

    หึ เจสสิก้ากลับมานั่งที่เดิมแล้วปิดประตู แต่ก็ดูข่มอารมณ์น่าดู ผู้หญิงงอนนี่น่ากลัวจริงๆ เฮ้อออ ผมถอนหายใจพลางเลี้ยวรถออกจากห้าง ดูท่าความรักครั้งนี้จะไม่ง่ายซะแล้วดงเฮเอ๋ย

     

    ......

     

    “ ……”

     

    “…..”

     

    นายรู้หรอ บ้านฉันอยู่ไหน เจสสิก้าถามขึ้นมาเงียบๆ ผมหันไปด้วยความงุนงง แต่ก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ อย่างน้อยเธอก็อยากคุยกับผมละกัน

     

    รู้ๆ ไม่ต้องห่วง ไม่พาไปขายหรอก ผมตอบเจสสิก้าด้วยน้ำเสียงแจ่มใส

     

    พูดดีๆไม่เป็นรึไง นายนี่ปากเสียจริงๆ เจสสิก้าเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ตายล่ะ ติดปากพูดแบบนี้ทุกที ทำไงได้ผมก็เป็นแบบนี้นี่นา ไม่ได้ตั้งใจซะหน่อยดูตัวเองสิยังชอบพูดน้ำเสียงไม่ดีใส่ผมบ่อยๆเลย ผมก็เริ่มน้อยใจเหมือนกันนะ เฮ้ออ คงทำความเข้าใจกันยากแน่ๆ ก็เริ่มด้วยคะแนนติดลบซะขนาดนี้

     

    ขอโทษนะ เจสสิก้า ผมพูดดีๆ เจสสิก้าหันมามองผมตาโต อะไรมันดูแปลกขนาดนั้นเลยหรือไง คนเค้ากำลังจะปรับตัวนะเออ -*-

     

    อืม ไม่เป็นไร ฉันก็พูดไม่ดีใส่นายบ่อยๆ เจสสิก้าก้มหน้าพูดกับผมเบาๆ เขินชัวร์ งี้ชัวร์เลย ฮ่าๆๆ น่ารักจริงๆ เหมือนสยบแม่เสือได้เลยแฮะ

     

    .....   พูดไม่ออก ถามไรดี ผมขับรถพลางมองไปทางเจสสิก้าบ่อยๆ บรรยากาศแบบนี้อึดอัดชะมัด สู้ทะเลาะกันยังดูเป็นกันเองกว่านี้อีก ห๊ะ ทะเลาะแล้วดูเป็นกันเอง แกคิดได้ไงเนี่ย ผมขมวดคิ้วให้กับความคิดตัวเอง -*-

     

    ไม่ต้องเรียกเจสสิก้าแล้ว ผมหันไปมองเจสสิก้าด้วยความตกใจ ผมว่าเมื่อกี้เราเข้าใจกันดีแล้วนี่นา

     

    ทำไม ผมถามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ อะไรกันไม่อยากให้ผมเรียกชื่อขนาดนั้นเลย ตอนเช้ายังให้เรียกอยู่เลยให้ตาย

     

    แล้วทำไมต้องทำเสียงแบบนี้ด้วยล่ะ เจสสิก้าถามผมกลับด้วยน้ำเสียงไม่ต่างจากผม

     

    ก็แล้วทำไมต้องให้ฉันเลิกเรียกชื่อเธอด้วยล่ะ ฉันคิดว่าเราเริ่มจะเป็นเพื่อนกันได้แล้วซะอีก หรือฉันคิดไปเอง ผมถามเจสสิก้าเสียงดัง ผมคิดว่าเราจะเป็นเพื่อนกันได้แล้วซะอีก นี่ผมคิดไปเองคนเดียวใช่มั้ย  ผมหงุดหงิดและเสียใจ

     

    เอ่อ ฟังให้จบก่อนสิตาบ้า ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นซะหน่อย

     

    ไม่ได้หมายความแบบนี้แล้วหมายความว่ายังไง ผมถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบหันหน้าไปหาเจสสิก้า พลางหยุดรถที่หน้าบ้านของเธอพอดี

     

    จริงอยู่ที่เราเริ่มต้นกันไม่ค่อยดี แต่ เอ่อ คือ ฉันว่านายก็นิสัยดี เราคงเป็นเพื่อนกันได้ เจสสิก้าตอบพลางหลบตาผมไปด้วย

     

    แล้วไง

     

    นี่นายอย่าเพิ่งขัดสิ ก็เพราะอย่างนี้ไง ถึงจะเป็นเพื่อนกันแต่เราสองคน ก็อดที่จะทะเลาะกันแบบนี้ไม่ได้สักที ผมพยักหน้าด้วยความเห็นด้วย

     

    แล้วมันเกี่ยวอะไรกับชื่อเธอ ถึงเราจะทะเลาะกันบ่อยๆ ฉันแค่รู้สึกสนุกที่ได้ทะเลาะกับเธอ แต่ฉันเป็นเพื่อนกับเธอได้ จริงๆนะ ผมพูดพลางมองตาเธอ แล้วย้ำประโยคสุดท้ายด้วยความมั่นใจ เจสสิก้าหลบตาแล้วพยักหน้าเบาๆ ตอนนี้แค่เพื่อน แต่ต่อไปผมจะทำให้มากกว่าเพื่อน เหอะๆๆๆๆ

     

    ที่ฉันพูดอย่างนั้น ก็เอ่อ คือแบบว่า ฉัน

     

    มีอะไรก็พูดมาสิ ผมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ นอกจากจะลุ้นว่าเธอจะพูดอะไรแล้ว ท่าทางของเจสสิก้าตอนนี้ยังน่ารักสุดๆไปเลย

     

    ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันแค่คิดว่าเจสสิก้ามันยาวไป ไหนๆฉันคิดว่าจะเริ่ม เอ่อ เป็นเพื่อนกับนายแล้ว เรียกฉันเจสเฉยๆก็ได้ เจสสิก้าก้มหน้าบอกผมเบาๆ เจสหรอ ผมยิ้มกว้างด้วยความรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก นี่ผมได้ใกล้เธอมากขึ้นแล้วใช่มั้ย

     

    เธอเรียกฉัน ด๊องเฉยๆก็ได้ ขอโทษนะที่พูดไม่ดีใส่เธอ ผมพูดพลางยิ้มให้เธอด้วยความสุขใจอย่างบอกไม่ถูก เจสยิ้มกลับให้ผมเบาๆ แต่ดูก็รู้ว่าเป็นครั้งแรกที่เธอยิ้มให้ผมจริงๆ ยิ้มด้วยความรู้สึกที่อยากยิ้มให้จริงๆ ที่เค้าว่ากันว่าเกิดมาครั้งหนึ่งเราจะเจอคนที่ทำให้เรายิ้มได้ มันก็คงจะจริงอย่างที่เค้าว่า เจสทำให้ผมอยากยิ้มจริงๆ อยากยิ้มทั้งวันแค่มีเจสอยู่ข้างๆ ถ้าไม่ติดว่าคนอื่นจะหาว่าผมบ้าก็เถอะนะ

     

    ด๊อง เท้าฉันหายเจ็บแล้ว ขอบใจนะที่มาส่งที่บ้าน เจสหันกลับมาพูดกับผมพลางเปิดประตูรถออก

     

    ไม่เป็นไร ฝันดีนะ

     

    ฝันดีเหมือนกัน เจสสิก้าพูดพลางเดินเข้าไปในตัวบ้าน นี่ผมจะปล่อยไว้แค่นี้หรอ กล้าๆหน่อยสิด๊องเอ๊ยย

     

    เจส ผมรวบรวมความกล้าตะโกนเรียกเธอ เจสหันหน้ากลับมาด้วยความตกใจ พะ พะ พูดไม่ออกอ้ะ  ><

     

    คือ วันหลังเราออกไปกินข้าว หรือซื้อของอะไรแบบนี้อีกได้ไหม ผมตะโกนถามเจสออกไป เจสทำหน้าตกใจก่อนจะระบายยิ้มอ่อนๆให้ผม

     

    ถ้านายเลี้ยงละก็ ตกลง เจสตะโกนตอบผมก่อนโบกมือให้ผมแล้วเดินเข้าบ้านไป ทะเลาะไป ดีกันไป ผมว่าก็สนุกเหมือนกัน ผมยิ้มให้กับตัวเองเบาๆ

     

    [End Donghae :]

    ..............

     

    ................................

     

    ฮัลโหล ซอหรอ นี่ฉันเองนะ จำได้รึเปล่า

     

     

    ครบแล้วค่ะ เสียงปริศนาตอนสุดท้ายนี่เป็นใครกันน๊า 5555+

    พรุ่งนี้ไรเตอร์ต้องไปหัวหิน อีกแล้ว = = ขยันไปเที่ยวจริงๆ

    ตอนนี้ด๊องเจส เค้าหวานกันจริงๆเลยเน้อะ ถึงจะกัดกันไปบ้าง ก็เค้าเป็นคู่รักคู่กัดนี่นา

    แต่ตอนนี้เค้าก็เริ่มเปิดใจกันบ้างแล้วนะคะ คนที่ขอวอนยุนมา จัดให้แน่นอนค่ะ

    ตอนแรกไรเตอร์คิดว่าจะแต่งคยูซอหลัก แต่คยูซอน้อยสุดซะนี่

    แต่คราวนี้จะอัพให้เร็วกว่านี้แน่นอนค่ะ อิอิอิ ขอบคุณนะคะที่อ่านแล้วก็เม้นให้

     

    ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  อย่าลืมติดตามกันไปเรื่อยๆนะคะ ;D

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×