คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 4
Chapter 4
[ Seohyun : ]
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ เชิญค่ะ “ ฉันขานรับ แล้วหันมาสนใจเงาของตนเองในกระจกอีกครั้ง วันนี้ฉันจะไปมหาลัยครั้งแรกในสถานะนักศึกษา ถึงวันนี้แค่ลงทะเบียนเรียนก็เถอะ แต่นั่นก็ทำให้ฉันอดตื่นเต้นไม่ได้ วันนี้วันแรกทังทีก็ต้องสวยหน่อยละนะ ฉันยิ้มให้กับเงาของตัวเอง แล้วก้มลงจัดผมให้เรียบร้อย
“ นี่! จะไม่สนใจพี่หน่อยหรอ มองกระจกอยู่ได้ “ พี่ยุนพูดขึ้นมาอย่างงอนๆ โดยที่ไม่ได้ต้องการคำตอบจากฉัน พี่ยุนเดินตรงมาหาฉันที่กระจก แล้วจัดผมของตัวเองหน้าตาเฉย พี่ยุนนี่ก็! ปากก็ว่าฉันแต่ก็อดมองกระจกไม่ได้เหมือนกันน่ะแหละ ฉันส่ายหัวกับนิสัยของพี่ยุน แล้วถอยออกมาให้พี่ยุนแต่งตัวได้สะดวกขึ้น ว่าแต่นี่มันห้องฉันใช่ไหม?
“ ว่าแต่วันนี้มาหาฉันแต่เช้าแบบนี้ พี่มีอะไรหรือเปล่าคะ “ ฉันถามพี่ยุนขึ้นหลังจากที่พี่ยุนมาหาฉันที่ห้องแล้ว แต่ก็ไม่เห็นถามอะไรเลย แถมยังมาแต่งตัวห้องฉันอีก
“ ก่อนแม่เธอจะไปทำงาน ท่านมาฝากกับแม่พี่ไง ว่าฝากซอด้วย เห็นว่าไม่มีรถไปมหาลัย “ พี่ยุนเลิกแต่งตัว แล้วมานั่งข้างๆฉัน สงสัยแม่คงรีบไป เลยส่งฉันไม่ได้ อืมมม งั้นก็คงต้องนั่งรถเมล์อ่ะแหละ
“ อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปรถเมล์ได้ “ ฉันบอกพี่ยุนตามความคิด
“ ไม่ได้ มันอันตราย เธอจำเมื่อวานไม่ได้หรอ เดี๋ยวพี่ไปถามพ่อพี่ก่อนว่าวันนี้พ่อพี่ว่างไหม จะได้ไปส่งเธอ “ พี่ยุนพูดพร้อมกับหุนหันเดินออกจากห้องฉันไป สงสัยเมื่อวานจะทำพี่ยุนหงุดหงิดจริงๆอะนะ
‘♫ ♪ ♫ ♪ ♪ ♪ ♪ ’
ฉันหันไปทางต้นเสียง ที่มันมาจากบนโต๊ะหัวนอนของฉัน สงสัยจะเป็นแม่ล่ะมั้ง ฉันคิดพลางเดินไปหยิบมือถือขึ้นมาดูชื่อ
“ พึ่คยู “ ฉันกำมือถือด้วยความตื่นเต้น ทำยังดี ว้ายๆๆๆๆๆ รับดีไหมอะ ฉันลนลานเดินไปเดินมาด้วยความตื่นเต้น เอ๊ยย ฉันก็ต้องรับดิ ไม่รับได้ไง ถ้าไม่รับฉันต้องบ้าแน่ๆ ฉันหยุดลนลานอย่างคิดได้ แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ เผื่อว่ามันจะช่วยอะไรฉันได้บ้าง นี่ฉันจะรับโทรศัพท์หรือจะไปออกรบเนี่ย ฉันเขกหัวตัวเองให้กับความตื่นเต้นบ้าๆของตัวเอง
“ สวัสดีค่ะ “ ฉันรับโทรศัพท์ด้วยเสียงสั่นๆ โอ้ยยย ซอแกเสียงสั่นได้โล่ เสียงสั่นเหมือนฉันรับโทรศัพท์ที่ขั้วโลกเหนือเลย ฮึ้ยยยย น่าอายที่สุด
‘ ซอฮยอน เมื่อวานเธอโทรมาหาพี่ใช่ไหม ‘ เมื่อวานหรอ ... อ๊ะใช่ๆฉันโทรไปนี่นา แต่พี่คยูไม่รับ ฉันกับพี่ยุนเลยต้องนั่งรถเมล์ไปภัตตาคารสุดหรู ที่ทำงานพิเศษของพี่ยุน ก็คงเพราะเมื่อวานล่ะมั้งทำให้พี่ยุนเกลียดรถเมล์ไปตลอดชีวิต ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่คนมันแน่นมาก จนฉันกับพี่ยุนต้องทนยืนดมกลิ่นเต่าของผู้ชายร่างยักษ์ที่โหนรถเมล์อยู่ข้างๆนั่นเอง ฉันยังจำสีหน้าของพี่ยุนได้ดี ฉันหัวเราะออกมาเบาๆให้กับสีหน้าของพี่ยุนตอนนั้น ภาพติดตาจริงๆ ฮ่าฮ่าๆๆๆ
‘ เธอหัวเราะอะไรน่ะ ซอได้ยินพี่ไหม ‘ เสียงของพี่คยู ทำให้ฉันคิดได้ ตายละฉันนี่หัวเราะไปได้ พี่คยูเขาไม่คิดว่าฉันบ้าหรอเนี่ย >,,,<
“ ได้ยินค่ะๆ คือเมื่อวานพี่ยุนอยากให้พี่มารับน่ะค่ะก็เลยวานฉันโทรหาพี่ให้หน่อย “ ถ้าวันนั้นพี่รับโทรศัพท์ ฉันกับพี่ยุนคงไม่ต้องเจอประสบการณ์อันโหดร้ายบนรถเมล์แน่ๆ ทำไมพี่ไม่รับโทรศัพท์ให้เร็วกว่านี้ ฉันคิดในใจ แต่ก็ไม่พูดออกไปหรอก ใครจะกล้า = =
‘ ยุนจะไปไหนหรอ ขอโทษนะไปวันนี้แทนได้ไหม พี่ขับรถอยู่แถวบ้านเธอพอดี ‘
“ พี่ยุนจะไปสมัครทำงานพิเศษน่ะค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ เราไปมาเมื่อวานนี้แล้ว “
‘ อืม พี่ขอโทษนะที่โทรกลับช้า เผอิญเมื่อวานมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ ‘ พี่คยูตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงโมโห สงสัยเมื่อวานคงเกิดเรื่องไม่ดีแน่ๆเลย พี่คยูจะเป็นอะไรไหมนะ
“ เกิดอะไรขึ้นคะพี่ แล้วพี่เป็นอะไรรึเปล่า “ ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงร้อนรน อ๊ะ ยัยซอเสียงเป็นห่วงไปเปล่าเนี่ย เดี๋ยวพี่คยูก็สงสัยหรอก ฉันตบปากตัวเองเบาๆ ที่เผลอพูดไป ถึงในใจฉันจะมีความรู้สึกเป็นห่วงพี่เขามากก็เถอะ
‘ รถเกือบชนน่ะ แต่พี่ไม่เป็นไร ‘ พี่คยูตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงใจเย็นมากขึ้น แต่ในใจฉันนี่สิ โถ่พี่ใจเย็นได้ไงนะ ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ
“ แล้วเกิดขึ้นได้ยังไงคะ แล้วตอนนี้พี่อยู่ไหนคะ “
‘ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก เดี๋ยวพี่เล่าให้เธอฟังที่บ้านละกันนะ พี่ขับรถอยู่ใกล้ๆบ้านเธอพอดี เดี๋ยวพี่เข้าไป แล้วยุนอยู่หรือเปล่า ‘ ฉันยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่พี่คยูจะมาบ้านฉัน ถึงจะรู้ว่าพี่คยูจะมาหาพี่ยุนก็ตาม ไม่ใช่ฉัน แต่ฉันก็อดดีใจไม่ได้ อย่างน้อยพี่เขาก็คิดถึงว่าอย่างน้อยบ้านฉันก็อยู่ตรงนี้ ไอ้ซอแกเพ้ออีกละ ฉันเขกหัวตัวเองอีกครั้ง ให้เลิกคิดบ้าๆบอสักที วันนี้ทำร้ายตัวเองไปกี่รอบแล้วเนี่ยฉัน - -
“ อยู่ค่ะ ตอนนี้พี่ยุนอยู่บ้านฉันค่ะ แล้วพี่ใกล้ถึงหรือยังคะ “
‘ ใกล้แล้วล่ะ เอ้อซอ อย่าบอกยุนนะว่าพี่เกือบรถชนน่ะ เดี๋ยวเจ๊แกโวยวาย ‘ พี่คยูบอกฉันด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ฉันก็อดยิ้มนิดๆไปกับเสียงหัวเราะของพี่คยูไม่ได้ ก็เวลาพี่ยุนโมโหไม่ได้ดูน่ากลัวเลย แต่น่ารักดี ออกแนวฮาด้วยซ้ำ
“ ได้ค่ะ พี่ขับรถเถอะค่ะ ฉันก็ชวนพี่คุยไปได้พี่ขับรถอยู่แท้ๆ ขับรถดีๆนะคะ “ ฉันรีบตัดบทเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพี่คยูกำลังขับรถอยู่ ถึงจะยังอยากคุยกับพี่เขาอยู่ก็ตาม เพราะรู้ว่าช่วงเวลาดีๆแบบนี้มันคงจะไม่เกิดขึ้นอีกกับฉันก็ได้ แต่ถ้าพี่เขาเกิดอุบัติเหตุมันก็คงไม่ดีแน่ๆเหมือนกัน แล้วฉันจะเห็นแก่ความสุขของฉันแบบนี้ได้ยังไงกันล่ะ ฉันยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง ฉันก็คิดดีเป็นกับเขาเหมือนกันนะเนี่ย อิอิอิ
‘ ไม่เป็นไรพี่ใช้หูฟังอยู่ แต่พี่ก็ใกล้ถึงแล้วล่ะ งั้นพี่วางก่อนนะ บาย ‘ พี่คยูตัดสายทิ้งไปแล้ว ฉันวางหูแล้วมองโทรศัพท์ในมือด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก อย่างนี้เองหรอ แค่ได้คุยโทรศัพท์กับพี่เขาแค่นี้ ฉันก็รู้สึกดีได้ถึงขนาดนี้เลยหรอ
“ อะไรกันน้องฉัน ยิ้มหวานให้กับโทรศัพท์ก็ได้ด้วย “ ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจ แล้วหันไปทางต้นเสียงนั่นก็คือพี่ยุนนั่นเอง ฉันรีบลดมือที่ถือโทรศัพท์ลงกลัวว่าพี่ยุนจะสงสัย ตายละยัยซอ เพ้อไม่ดูเวล่ำเวลาจริงๆเลย ฉันยิ้มแหยๆให้พี่ยุนไปหนึ่งที ก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะ
“ ยิ้มอะไรกันละคะ เอ้อพี่ยุน เมื่อกี้พี่คยูโทรมาบอกว่าจะแวะมาค่ะ“ ฉันยิ้มกลบเกลื่อนพร้อมกับเปลี่ยนเรื่องคุย พี่ยุนดูเหมือนจะไม่ได้คิดอะไร ฉันลืมไปพี่ยุนชอบพูดแกล้งเล่นๆไปงั้น แต่ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่ก็ทำเอาฉันใจหายใจคว่ำเลยแหละ เหงื่อตกเลยเนี่ย ฉันคิดพลางเช็ดเหงื่อที่ขึ้นตามใบหน้า
“ อ้าวหรอ ทีเมื่อวานโทรไปไม่รับนะนายกี้ “ พี่ยุนกำมัดแล้วทุบที่มือตัวเองเบาๆ สงสัยถ้าพี่คยูมาคงจะโดนเละแน่ๆ
ปิ๊น ปิ๊น
เสียงบีบแตรรถจากหน้าบ้านของฉันเรียกความสนใจจากฉันและพี่ยุนได้ในทันที พี่ยุนที่อยู่ใกล้ระเบียงที่สุดจึงเดินออกไปที่ระเบียง คงจะเป็นพี่คยูล่ะมั้ง
“ กี้มาแล้วซอ นายนี่ตายยากจริงๆ พูดถึงนิดหน่อยไม่ได้เลยนะ “ ฉันได้ยินอย่างนั้นจึงเดินตามพี่ยุนออกไปที่ระเบียง รถพี่คยูจริงๆด้วยแฮะ มาเร็วเหมือนกันนะเนี่ย
“ เดี๋ยวพี่ลงไปเปิดประตูให้ตากี้ก่อนละกัน “ พี่ยุนหันมาบอกฉัน ฉันพยักหน้ารับ พี่คยูขับรถมาอาจจะหิวก็ได้ ในครัวมีของว่างอะไรบ้างน้า อ๊ะ คุ๊กกี้ที่ฉันทำไว้เมื่อวันก่อนยังอยู่นี่นา น่าจะกินได้นะพี่ยุนชิมแล้ว พี่ยุนก็บอกว่ากินได้ ไม่เหมือนครั้งก่อน แข็งจนปาหัวหมาแตกได้เลยละมั้งน่ะ
“ ซอ คิดอะไรอยู่ไม่ลงไปกับพี่หรอ “ พี่ยุนเรียกฉันให้หลุดจากความคิด อ้าวพี่ยุนยังไม่ไปหรอเนี่ย ฉันจึงหันมองลงไปทางประตูบ้าน รถพี่คยูก็ยังจอดรออยู่ ป่านนี้ไม่รอแย่หรอเนี่ย
“ พี่ยุนลงไปเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปหยิบของว่างให้ก่อน เจอกันที่ห้องนั่งเล่นนะคะ “ พี่ยุนพยักหน้า แล้วเดินลงบันไดไป ฉันจึงลงตามไปเพื่อมุ่งหน้าไปทางครัว ไหนดูซิ คุกกี้จะกินกับอะไรดีนะ ฉันคิดพลางเปิดตู้เย็น มองหาเครื่องดื่ม น้ำหวานละกันเข้ากันดี ฉันตัดสินใจแล้วหยิบเหยือกน้ำหวาน ออกมาตั้ง พร้อมกับหันไปหยิบอุปกรณ์สำหรับ ทานของว่างให้กับพวกเราสามคน เอาล่ะ เสร็จเรียบร้อย ฉันยิ้มให้กับของว่างที่อยู่ตรงหน้า อย่างน้อยหน้าตาน่ากินก็มีชัยไปกว่าครึ่งละนะ ฉันยิ้มให้กับผลงานตัวเองอีกครั้งจึงยกของว่างไปที่ห้องนั่งเล่น ป่านนี้พี่คยูกับพี่ยุนคงนั่งรอแล้วล่ะ
“ ของว่างมาแล้วค่ะ “ ฉันยิ้มแล้วจัดของว่างไว้ตรงหน้าทุกคน แล้วนั่งลงข้างๆพี่ยุน พี่คยูดูเหมือนจะโดนพี่ยุนซักฟอกเรื่องเมื่อวานแหงมๆ ฉันเห็นท่าทางพี่สองคนแล้ว...งั้นไปมหาลัยเลยดีกว่า ฉันคิดพลางมองนาฬิกา ใกล้เวลาแล้วจริงๆด้วย ฉันจึงหยิบถาดเอาไปเก็บแล้วลุกขึ้นเพื่อขึ้นห้อง กระเป๋าอยู่ข้างบนนี่หว่า
“ ซอ ไปไหนล่ะ ไม่กินของว่างด้วยกันหรอ ฝีมือเธอทั้งนั้นเลย “ พี่ยุนถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ ที่เห็นฉันเพิ่งมาแล้วก็กำลังจะลุกออกไปซะอย่างนั้น ฉันหันไปทางพี่คยูที่กำลังกินคุ๊กกี้แก้มตุ่ย พี่คยูยิ้มให้ฉันแล้วตบเบาะข้างๆ เหมือนว่านั่งกินก่อนสิ ทำให้ฉันอดยิ้มตามไม่ได้
“ เดี๋ยวต้องไปมหาลัยแล้วล่ะค่ะ พี่ๆตามสบายเลย ถ้าจะเอาอีกยังมีอยู่ในครัวนะ “ ฉันพูดพลางมองไปที่พี่คยู ก็ดูพี่คยูเหมือนจะต้องเติมแน่ๆ เคี้ยวไม่หยุดเลยนะนั่น
“ เดี๋ยวเธอจะไปยังไง พี่ลืมบอกเลยว่าวันนี้พ่อพี่ไม่อยู่ ไปส่งเธอก็ไม่ได้ด้วย “ พี่ยุนพูดพลางทำหน้าครุ่นคิด
“ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปรถเมล์ได้ แค่นี้เอง “ ฉันพูดตัดบทไม่ให้พี่ยุนคิดมาก โถ่ ฉันคงไม่โชคร้ายเจอคนเต่าเหม็นทุกวันหรอกน่า ฉันคิดปลอบใจตัวเอง
“ ซอ ให้พี่ไปส่งไหม วันนี้พี่ว่าง “ พี่คยูที่เงียบจากการเคี้ยวคุกกี้อย่างสนุกปากนั้น ก็เสนอตัวขึ้นมาเฉยๆ ฉันคิดอย่างลำบากใจ พี่คยูเพิ่งมาเอง ลำบากพี่เขาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉันไปทางพี่ยุนเพื่อจะถามความคิดเห็น พี่ยุนก็พยักหน้าด้วยความเห็นด้วยสุดๆ
“ ถ้าพี่คยูสะดวก ก็รบกวนด้วยนะคะ “ ฉันก้มหัวให้พี่คยูด้วยความเกรงใจ พี่คยูก็ดูจะตกใจที่อยู่ๆฉันก้มหัวให้ รีบก้มหัวตาม จนพี่ยุนหัวเราะออกมาซะยกใหญ่กับท่าทางของฉันกับพี่คยู
“ ไม่เป็นไร พี่เต็มใจ เธอไปหยิบของเถอะแล้วตามพี่ไปที่รถนะ “ พี่คยูบอกฉันแล้วหันไปบอกลาพี่ยุน ก่อนจะเดินออกไป ฉันจึงรีบขึ้นไปหยิบของข้างบนก่อนจะรีบตามพี่คยูไปที่รถโดยที่ไม่ลืมบอกลาพี่ยุนเหมือนกัน
ปัง
ฉันปิดประตูรถพลางคาดเข็มขัด แล้วหันไปมองพี่คยู นั่น! พี่คยูยังไม่คาดเข็มขัดเลย
“ พี่คะ คาดเข็มขัดด้วยค่ะ “ พี่คยูหันมามองฉันแล้วทำตามที่ฉันบอกอย่างว่าง่าย แล้วขับรถเพื่อมุ่งหน้าไปมหาลัยของฉัน ฉันอยากหยุดวลาตรงนี้ไว้นานๆจัง พี่คะ พี่เคยคิดแบบฉันบ้างไหมคะ
[ Kyuhyun : ]
ผมเอื้อมตัวไปหยิบซีดีเพลงตรงช่องเก็บของด้านหน้า เพื่อเปลี่ยนแผ่นเพลงขณะรอซอลงทะเบียนเรียน ทำนองเพลงที่คุ้นเคยและชื่นชอบของผมลอยขึ้นมาเบาๆ ตอนแรกซอบอกไม่ให้ผมรอ แต่ไหนๆผมเห็นว่าวันนี้ก็ว่างอยู่แล้ว รอส่งน้องสาวกลับบ้านก็ไม่เห็นเป็นไร ยิ่งมาคนเดียวยิ่งอันตรายใหญ่ ขืนยุนรู้ว่าผมปล่อยซอกลับบ้านคนเดียวมีหวัง โดนเละแน่ๆ
จ๊อกกก จ๊อกกก
ผมกุมท้องด้วยความตกใจกลัวใครจะได้ยิน แต่ก็ต้องโล่งอกไป ก็ในเมื่อผมอยู่บนรถใครที่ไหนจะมาได้ยินเสียงท้องผมร้องล่ะ ผมคิดพลางลูบที่ท้องเบาๆแล้วหันไปทางประตู ซอกำลังวิ่งมาทางรถผมพอดีพร้อมกับส่งยิ้มให้ผม น้องสาวคนนี้นับวันจะดูสวยขึ้นทุกวันนะ เฮ้ยย ไอ้กี้แกคิดอะไรแบบนี้ได้ยังไงกันนะ ผมหันหน้ากลับเพราะอายความคิดของตัวเอง นี่ผมชักจะเพ้อเจ้อขึ้นทุกวันแล้วนะ
ปัง
ผมหันไปทางต้นเสียง ซอปิดประตูรถแล้วกำลังคาดเข็มขัดน่ะเอง ทำให้ผมต้องรีบคาทดตาม ถ้าไม่คาดเดี๋ยวเธอจะดุผมเปล่าๆ ตอนออกจากบ้านก็ทีหนึ่งแล้ว ผมอมยิ้มกับนิสัยของซอ เธอนี่ไม่เหมือนใครจริงๆ
จ๊อกกก จ๊อกกก
ผมกุมท้องด้วยความตกใจแล้วมองไปที่ซอ เธออมยิ้มเล็กน้อยแต่ใจจริงเธอคงจะขำมากเลยล่ะ แต่คงกลั้นไว้ไม่ให้ผมเสียหน้า ผมยิ้มแหยๆให้เธอ ไอ้กี้เอ๊ยย เสียฟอร์มหมดไ อ้ท้องบ้า จะร้องทำไมไม่บอกกันก่อนนะ ผมโทษท้องของผมในใจแล้วทุบเบาๆไปหนึ่งที ทุบแรงไม่ได้หรอก เพราะคนเจ็บก็คือผมเอง = =
“ ซอ พี่หิวอ่ะ เราไปหาอะไรกินก่อนกลับไหม “ ในเมื่อผมเห็นว่ายังไงเธอก็ได้ยินเสียงผมร้องขนาดนั้นแล้ว ผมจึงชวนเธอกินข้าว พอผมถามเสร็จซอดูจะตกใจมากทีเดียว แต่ก็รีบทำเป็นไม่มีอะไรแล้วพยักหน้ารับคำเบาๆ
“ นี่กินที่ไหนดีล่ะ ไปกินที่ห้างไหม ใกล้มหาลัยเธอพอดีเลย “ ผมเสนอความคิดเพราะจำได้ ว่าห้างนี้มีร้านเจ้าอร่อยร้านหนึ่งที่ผมชอบมากๆ
“ ก็ดีค่ะ มีอยู่ร้านหนึ่งฉันเคยไปกินกับเพื่อน ร้านนี้น่ะอร่อยมากๆเลยนะคะ “ ซอตอบผมแล้วยิ้มให้ตามเอกลักษณ์ของเธอ เมื่อผมได้ยินว่ามีร้านใหม่ที่อร่อยผมก็สนใจมากๆ อย่างนี้ได้ร้านอร่อยใหม่ๆกินอีกแล้ว
“ ร้านไหนหรอ ที่จริงพี่ก็มีร้านที่พี่ชอบอยู่ร้านหนึ่งเหมือนกัน “ ผมถามพลางขับรถเข้าไปจอดรถในห้างที่ว่า ก็ห้างนี้ใกล้มหาลัยซอมากๆเลยน่ะสิ
“ ร้านคิชเช่นค่ะ ฉันเคยมากินบ่อยมาก ร้านโปรดฉันเลย แล้วร้านที่พี่ว่าอร่อยนี่ร้านไหนหรอคะ อ๊ะที่จอดตรงนั้นว่างค่ะ “ ซอตอบผมพลางชี้ไปที่ว่าง ผมจึงขับเข้าไปจอดตามที่ว่างที่ซอบอก ร้านโปรดของเธอก็ร้านโปรดผมเหมือนกันนั่นแหละ แต่ร้านนี้เขาอร่อยจริงๆนะ
“ ร้านเดียวกันเลย ร้านโปรดพี่เหมือนกัน เอาล่ะเรียบร้อย เราไปกินข้าวกันเถอะพี่หิวจะแย่แล้ว “ ผมพูดพลางทำท่าลูบท้องเพื่อความสมจริง ซออมยิ้มแล้วลงจากรถ ผมกับซอจึงมุ่งหน้าไปร้านโปรดของเราสองคน
“ กี่ที่ค่ะ “
“ 2 ที่ครับ “ ผมตอบพนักงานต้อนรับเธอรับคำก่อนเดินนำผมกับซอเข้าไปในร้านไปยังโต๊ะที่อยู่ริมหน้าต่าง วิวดีนะเนี่ย ดูซอจะชอบที่นั่งตรงนี้เหมือนกัน เธอยิ้มให้ผมแล้วหยิบเมนูขึ้นมาดู ว่าแล้วก็หยิบเมนูขึ้นมาดูบ้างดีกว่า ผมมองรายการอาหารที่ดูเหมือนจะจำได้ขึ้นใจหมดแล้ว ก็ผมมากินที่นี่บ่อยจะตาย เรากินอาหารกันอย่างสนุกสนาน นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกเป็นกันเองกับซอขนาดนี้ จริงๆน้องสาวคนนี้ไม่ได้เรียบร้อยมาก เธอก็มีส่วนที่เหมือนจะติดมาจากยุนนิดหน่อย แต่เธอก็เป็นเธอ ไม่เหมือนใคร
“ ขอบคุณมากนะคะที่วันนี้เลี้ยงข้าวฉัน “ ซอหยุดเดินแล้วหันมายิ้มให้ผม หลังจากที่เรากินข้าวเสร็จแล้ว
“ ไม่เป็นไร จิ๊บจ๊อย ไว้วันหลังพี่เลี้ยงเธออีกก็ได้ “ ผมพูดพลางตบที่กระเป๋ากางเกง ผมยังมีเงินเลี้ยงข้าวได้อีกหลายมื้อ ซอดูจะตกใจแต่ก็ยิ้มรับตามเอกลักษณ์ของเธอ ผมก็อดยิ้มตามไม่ได้ เธอนี่ยิ้มได้ตลอดเวลาจริงๆ ใครที่ทำให้เธอร้องไห้ได้นี่คงเป็นคนที่เลวมากจริงๆ ผมคิดแล้วทำหน้าแค้นบุคคลในอนาคต อย่าให้เจอนะ ฮึ่มๆๆ
“ อ๊ะ พี่คะ ฉันขอแวะซื้อเค้กแปปหนึ่งนะคะ “ ซอหันมาบอกผมพร้อมกับทำท่าให้ผมรออยู่ตรงนี้ แล้ววิ่งเข้าไปในร้านเค้กสีหวานแหวว ให้ทายเถอะซื้อฝากยุนชัวร์ ผมคิดเล่นๆแล้วเดินไปรอซอที่หน้าร้าน เธอนี่ยิ้มได้แม้กระทั่งเลือกเค้กเนี่ยนะ ผมส่ายหัวให้กับท่าทางของเธอ ภายนอกโตขึ้นเท่าไหร่ แต่ข้างในเธอก็ยังเหมือนเดิม
“ มาแล้วค่ะ แล้วก็นี่ค่ะ ถือว่าเป็นสิ่งตอบแทนสำหรับวันนี้นะคะ “ เธอยิ้มพร้อมส่งกล่องเค้กสีหวานยื่นให้ผม ผมอดไม่ได้ที่จะรับมาถึงจะไม่ต้องการสิ่งตอบแทนก็เถอะ แต่ตาใสๆที่จ้องผมด้วยความตั้งใจแบบนี้จะปฏิเสธได้อย่างไร
“ ขอบใจมากนะ เรากลับบ้านกันดีกว่านี่ก็เริ่มเย็นแล้วด้วย “ ผมชวนเธอแล้วแตะที่ไหล่เบาๆให้เธอเดินนำไปก่อน พลางสำรวจเธอจากด้านหลัง นี่เธอโตขึ้นมากนะเนี่ย ผมเพิ่งจะมามองเธออย่างจริงจังก็วันนี้เอง ทำให้รู้ว่าเธอเปลี่ยนไปมากจริงๆ แต่ก็แค่ภายนอกเท่านั้นแหละ เฮ้ยไอ้กี้ วันนี้แกเป็นไรเนี่ยปกติไม่ค่อยแอบมองสาวแบบละเอียดแบบนี้นะ ผมหยุดคิดพอดีกับที่ผมมาถึงรถพอดี สงสัยวันนี้กลับบ้านไปต้องกินยาหน่อยแล้ว ผมคิดพลางขับรถออกจากห้างเพื่อมุ่งหน้าไปส่งซอที่บ้าน
“ เอ่อ พี่คะแล้วเมื่อวานที่พี่บอกว่าเกือบรถชน นี่เกิดอะไรขึ้นหรอคะ “ ซอถามขึ้นมา ผมหันไปหาเธอแล้วเลิกคิ้วเล็กน้อย พูดแล้วก็อารมณ์ขึ้นชะมัด คนอะไรขับรถห่วยชะมัดยาก
“ ก็ไม่มีอะไรหรอก วันนั้นพี่มีธุระกำลังขับรถออกจากซอยหน้าบ้าน แต่รถบ้าดันขับห่วยไม่มองทางละมั้ง เลยเกือบชนกับรถพี่ที่กำลังออกจากซอยพอดี “ ผมพูดด้วยน้ำเสียงโมโห มันอดไม่ได้จริงๆ ทำไมรู้สึกไม่ถูกชะตากับรถคันนั้นบอกไม่ถูก
“ พี่ปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะค่ะ อย่าเครียดเลยค่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว “ ซอพูดปลอบผมแล้วยิ้มให้ ผมจีงยิ้มให้เธอ ความโมโหก็ดูจะลดลงจนแทบจะหายไปหมด
“ ปลอบคนเก่งนะเรา “ ผมยิ้มให้เธอแล้วอดไม่ได้ที่จะเอามือไปขยี้ผมเธอด้วยความหมั่นเขี้ยว ยัยเด็กบ้าเอ๊ย
“ พี่คะ ผมยุ่งหมดแล้ว “ เธอปัดมือผมออก แล้วหันมาจัดผมให้อยู่ทรงเหมือนเดิม
“ ดูเธอหน้าแดงนะ ไม่สบายหรือเปล่า “ ผมถามขึ้นเพราะสังเกตเห็นหน้าซอแดงมาก น่ะยิ่งถามยิ่งลามไปถึงหูแล้วน่ะ
“ ฉันสบายดีค่ะ ฉันขอปรับแอร์นะคะ รู้สึกว่าจะร้อนๆ “ ซอพูดแล้วเอื้อมมือไปปรับอุณหภูมิให้หนาวขึ้นกว่าเดิม เธอสบายดีก็โอเค เมื่อได้คำตอบผมเลยไม่ถามต่อ
“ ถึงแล้วล่ะ เดี๋ยวพี่ช่วยเอาของเข้าไปเก็บนะ “ ผมพูดพลางเอี้ยวตัวไปข้างหลังเพื่อช่วยซอหยิบของ เป็นจังหวะที่เธอเงยหน้าขึ้นมาพอดี
“ อ๊ะ เอ่อไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่ต้องลงไปหรอกค่ะ รีบกลับดีกว่านี่ก็มืดแล้ว “ เธอขยับออกแล้วหยิบของทั้งหมดเปิดประตูรถลงไป
“ อื้มเอาอย่างงั้นก็ได้ “ ผมรับคำแล้วยิ้มให้เธอ แต่ก็อดที่จะขยี้ผมเธอด้วยความเขี้ยวไม่ได้ อยากผมตรงนักนะ นี่แน่ะๆ ผมยิ้มแล้วขยี้ผมซอ จนผมเธอฟูเหมือนทรงเอฟโร่ ผมหัวเราะให้กับผลงานตัวเอง
“ พี่คะ เล่นอะไรก็ไม่รู้ กลับบ้านดีๆนะคะ เอ่อ ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ ฉันสนุกมาก แล้วก็ฝันดีนะคะ “ เธอยิ้มให้ผมแล้วโบกมือบ๊ายบาย
“ พี่ก็สนุกเหมือนกัน ฝันดีนะ เข้าไปได้แล้ว พี่จะดูว่าเธอเข้าบ้านหรือเปล่า รีบเข้าไปสิ มัวยืนรออะไรอยู่ล่ะ “ ผมไล่ให้เธอเข้าบ้าน เมื่อเห็นซอยังไม่ยอมจนท้ายประโยคผมต้องใช้น้ำเสียงขู่ซอถึงจะยอมเดินเข้าบ้านไป เมื่อเห็นเธอเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว ผมจึงหันหน้ากลับเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน แต่ก็อดนึกถึงวันนี้ไม่ได้ ทำไมถึงรู้สึกอยากหยุดเวลาไว้นานๆ นี่ผมเป็นบ้าอะไรเนี่ย ผมเขกหัวให้กับความเบลอของผม ก่อนจะตั้งใจตั้งสติให้กับการขับรถกลับบ้าน วันหลังผมต้องพกยาหน่อยแล้ว ให้ตายเถอะวันนี้จะขับรถถึงบ้านไหมเนี่ย หยุดคิดอะไรเรื่อยเปื่อยได้แล้ว ไอ้กี้ !!!
เย้ แต่งคยูซอจบแล้วค่ะ ไม่รู้จะถูกใจกันหรือเปล่านะคะ
แต่งยากอ้ะ ให้มันหวานแบบยังไม่ล้ำเส้นเนี่ย
ว่าแต่รถที่คยูพูดถึงเนี่ย รถใครน้า >,,<
แล้วอยากรู้มั้ยคะ ว่าเมื่อตอนที่แล้วด๊องพาเจสไปไหน ถ้าอยากรู้ก็ตอนหน้านะคะ
ขอบคุณมากๆนะคะ ที่ยังอ่านแล้วก็เม้นให้ ไรเตอร์จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นอีกนะคะ
ปล. ถึงตอนนี้คยูซอจะน้อย แต่พอหลังจากฉากไคลแมกแล้วรับรองว่าคยูซอเยอะ
แน่นอนค่ะ คอยติดตามนะคะ ว่าเมื่อไหร่จะถึงตอนนั้น
ขอบคุณมากๆๆๆๆ ชุ้บุคนอ่านทุกคนเล้ยยยยย
ความคิดเห็น