คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ★ EP 1
เสียงจอกแจกตอนเช้าในโรงเรียนระหว่างรอเวลาเรียน ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลานี้ในการลอกการบ้านที่ค้างจากเมื่อวาน หรือถ้ามากหน่อยก็อาจจะเป็นของเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บางคนอาจจะใช้เวลาตอนเช้าที่โรงเรียนในการฟุบหลับ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงไม่พ้นนั่งจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องต่างๆมากมาย ที่ไม่รู้ว่าขุดขึ้นมาเป็นหัวข้อเรื่องได้อย่างไร ซอฮยอนนั่งมองบรรยากาศของโรงเรียนจากนอกหน้าต่างอย่างเคย โดยมีฮโยยอนที่พึ่งมาถึง มองไปที่โต๊ะแถวกลางริมหน้าต่างที่เป็นโต๊ะประจำของซอฮยอนอย่างชินกับท่าทางที่เป็นเอกลักษณ์ของเพื่อนสนิทของเธอคนนี้
“ เจ้าหญิง ถึงโรงเรียนแต่เช้าเหมือนเคยเลยนะ “ ฮโยยอนเรียกชื่อที่หลายๆคนขนานนามให้ซอฮยอนอย่างล้อเลียน ก่อนจะวางสัมภาระที่โต๊ะประจำของเธอ
“ หยุดเรียกฉันอย่างนี้นะ บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าเรียกชื่อนี้ “ ซอฮยอนบอกพลางขยับตัวอย่างอึดอัด คนนอกถ้าเห็นคงจะคิดว่าซอฮยอนเป็นคนเย็นชาแต่ไม่ใช่สำหรับฮโยยอนแน่ๆ
“ เขินอะดิ ทำไมเวลาเขินแกชอบทำหน้าเฉยอย่างนี้ทุกที ผู้ชายเขามาเห็นก็ไม่กล้าเข้าใกล้แกพอดี ก็เพราะแกชอบทำหน้าอย่างเนี้ย “
“ ฉันก็เป็นของฉันอย่างนี้แหละ แล้วอีกอย่างฉันไม่ได้ทำหน้าเฉยใส่คนอื่นอะไรอย่างนั้นซะหน่อย ฉันก็แค่ ”
“ ทำหน้าไม่ถูก เอออก็พูดอย่างนี้ทุกที ทำหน้าไม่ถูกก็ยิ้มสิ หน้าสวยๆมีแล้วก็รู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์บ้างเถอะ ทำไมนะทำไมพระเจ้าถึงให้หน้าสวยๆกับคนที่ไม่สนใจตัวเองอย่างแกด้วยเนี่ย “ ฮโยยอนพูดพลางจิ้มไปที่หน้าผากของคนสวยตรงหน้าอย่างหมั่นไส้
“ ฉันก็ดูแลตัวเองตามที่แกว่านะ แกนี่ชอบว่าฉันอยู่เรื่อย “
“ พูดเรื่องจริงย่ะ แล้วไอ้ไม่สนใจตัวเองน่ะฉันหมายถึงนิสัยแกต่างหาก บื้อจริงๆ “
“ ขี้เกียจเถียงแกละ แล้วยูริล่ะไม่มาพร้อมแกหรอ “ ซอฮยอนพูดตัดบทก่อนจะถามถึงเพื่อนสนิทอีกคนที่ปกติจะมาโรงเรียนพร้อมกับฮโยยอนเพราะบ้านสองคนนี้อยู่ใกล้กัน
“ เฮ้ สาวๆ Sweet เล่มใหม่ออกแล้ว สนใจเปล่า “ ร่างเพรียวก้าวเข้ามาในห้องพลางชูสิ่งที่เรียกร้องความสนใจได้ดีจากบรรดาสาวๆวัยรุ่น จะเรียกมันว่านิตยสารหรือ จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกซะทีเดียวเพราะไอ้นิตยสารที่ว่ามีแต่รูปภาพไปซะครึ่งเล่มแล้ว เนื้อหาที่มีก็น้อยนิดแต่ก็เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาสาวๆทั้งหลายซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ก็จะเป็นการดูดวง ทริกความรักต่างๆ ก็คงจริงอย่างที่เขาว่ากันไอ้เรื่องดูดวงนี่มันคงไม่พ้นเรื่องของพวกผู้หญิง
“ มาพร้อมกันแหละ จริงๆวันนี้พวกฉันตื่นเช้ากว่านี้นะเว้ย แต่ยูริมันมัวแต่ไปยืนซื้อนิตยสารเล่มใหม่อยู่เลยมาช้า ฉันก็เลยพลอยมาช้าไปด้วย “
“ แกสองคนนี่อยู่ด้วยกันแล้วพากันช้าทั้งคู่นั่นแหละ “ ซอฮยอนพูดพลางอมยิ้ม ฮโยยอนมองเพื่อนที่ปกติไม่ค่อยแสดงออกอย่างขัดใจเพราะที่ซอฮยอนแขวะเธอนั้น มันเป็นเรื่องจริงทุกประการ
“ เออ ใครจะไปตื่นเช้าอย่างเจ้าหญิงซอฮยอนกันล่ะ ว่าแต่ไม่ไปดู Sweet เล่มใหม่หรอแก สัปดาห์นี้เป็นธีมแอบรักด้วยนะเว้ย น่าอ่านสุดๆ “ ฮโยยอนส่งเสียงเรียกแม่เพื่อนสาวที่แสนจะเรียบร้อยข้างๆ ที่ไม่มีที่ท่าว่าจะสนใจนิตยสารสุดฮอตอย่าง Sweet หรือความคิดจะไปรุมล้อมที่โต๊ะของควอนยูริเจ้าแม่อัพเดตอย่างเพื่อนๆในห้องของเธอเลย
“ เข้าไปตอนนี้ก็ใช่ว่าจะได้อ่าน ขอยูริอ่านพรุ่งนี้มันก็ไม่สายไปหรอกน่ะ “ เจ้าของเสียงนุ่มๆพูดตัดบทก่อนจะนั่งสนใจวิวนอกหน้าต่างจากห้องเรียนเหมือนเคย ทำเอาแม่เพื่อนสาวตัวดีข้างๆถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“ ก็เป็นซะอย่างนี้ ชีวิตวัยรุ่นของแกถึงได้เรียบง่ายซะ “ ฮโยยอนพูดประชดอย่างหมั่นไส้คนที่เฉยชาไปซะทุกเรื่องพลางนั่งลงที่เก้าอี้ประจำของเธอที่อยู่ข้างๆอย่างกระแทกกระทั้น เพราะหวังว่าเสียงนั่งของเธอจะดึงความสนใจของคนเฉยชาให้หันมาสนใจรอบตัวของเธอบ้าง
“ พูดไป ซอฮยอนเข้าก็ไม่ตอบโต้หรอก เหนื่อยเปล่าน่ะ “ น้ำเสียงสดใสของเจ้าแม่อัพเดตพูดอย่างระอาใจพลางวางกระเป๋านักเรียนที่โต๊ะเรียนข้างหน้าสองสาวอันเป็นที่ประจำของเธอก่อนจะทรุดนั่งลง
“ อ้าวเจ้าแม่อัพเดตควอนยูริ เดินมาตรงนี้ได้ยังไงกันเนี่ย นึกว่าโดนรุมตายหน้าห้องแล้วซะอีก “
“ พวกนั้นมันสนใจนิตยสารไม่ใช่ฉันซะหน่อย เฮ้ออ คิดถูกมั้ยเนี่ยไปถามยัยพวกนั้น Sweet ของฉันคงอยู่ไม่ถึงกลับบ้านแน่ๆเลย “
“ สมน้ำหน้า อยากจะเป็นเจ้าแม่อัพเดตก็ต้องทำใจนะ “ ฮโยยอนพูดพลางหยิบนิตยสารแบบเดียวกันจากในกระเป๋านักเรียนพลางโบกไปมาต่อหน้าเจ้าแม่อัพเดต ก่อนจะนั่งอ่านเนื้อหาข้างในอย่างสบายใจ
“ แต่ฉันก็สนใจรอบข้างนะ ไม่เหมือนใครบางคนทำอะไรเหมือนเดิมทุกวัน ไม่หาอะไรสนุกสนานเข้าตัวเองซะบ้าง “
“ นี่ ฉันไม่ใช่คนเย็นชาเวอร์เหมือนที่พวกแกพูดกันซะหน่อย ก็แค่คนมันเยอะจะรีบเดินเข้าไปทำไมก็ไม่รู้ “ คนเฉยชาที่ทนเสียงแดกดันของเพื่อนสนิททั้งสองไม่ไหวหันมาโต้ตอบก่อนจะพิงหน้าต่างแล้วค่อยหลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน “ อีกอย่างวันนี้ฉันก็ง่วงๆด้วย เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย “
“ เพลาๆซะบ้างเรื่องซ้อมเปียโน รู้ว่าชอบแต่ไม่ต้องอุทิศให้มันขนาดนั้นก็ได้ “ ยูริพูดพลางตบมือของซอฮยอนที่วางอยู่บนโต๊ะเรียนเบาๆ อย่างให้กำลังใจโดยมีฮโยยอนมองด้วยสายตาห่วงใยอยู่ข้างๆ
“ ก็ใกล้วันแข่งแล้วนี่นา “ ร่างบางที่หลับตาอยู่แก้ตัวเสียงอ่อย
“ เออรู้ แต่หาอะไรมาทำนอกจากเปียโนให้ตัวเองพักผ่อนบ้างก็ได้นะเว้ย ไม่ใช่อะไรหรอกพวกฉันน่ะเป็นห่วง “ ซอฮยอนลืมตาก่อนจะมองเพื่อนสาวสองคนที่ทำหน้าลำบากใจข้างๆ ก่อนจะระบายยิ้มเบาๆ
“ อะไร พวกฉันเป็นห่วง แต่แกกลับนั่งยิ้มเนี่ยนะ ให้ตายเถอะพวกฉันซีเรียสนะเว้ย “ ฮโยยอนพูดก่อนจะนั่งกอดอกอย่างขัดใจกับท่าทีของคนน่าเป็นห่วงที่ตอนนี้นั่งยิ้มอย่างคนสบายใจต่างจากท่าทีเมื่อกี้
“ อย่าซีเรียสแทนฉันเลย แค่พวกแกคอยให้กำลังใจฉัน ฉันก็ไม่รู้จะขอบใจพวกแกยังไงแล้ว “ ซอฮยอนตอบยิ้มๆ แต่คำพูดกลับทำเอาเพื่อนสนิททั้งสองคนหน้าขึ้นสีด้วยความเขิน ให้ตายเถอะบทจะพูดดีๆทีก็มาเต็มเลยนะยัยเพื่อนคนนี้
“ งั้นวันนี้ไปเดินเล่นกันหลังเลิกเรียน นะๆๆๆๆ เห็นแก่ฉันเหอะ “ ฮโยยอนเสนอขึ้นก่อนจะอ้อนวอนหนักขึ้นเมื่อดูทีท่าของซอฮยอนที่เหมือนจะปฏิเสธเหมือนเช่นทุกที
“ ไปเหอะ ไม่ได้เดินเที่ยวด้วยกันสามคนตั้งนานแล้วนะเว้ย “ ซอฮยอนตอบรับอย่างช่วยไม่ได้ แต่อย่างที่ฮโยยอนพูดกับเธอมันก็ถูก นานแค่ไหนแล้วนะที่เธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวเองเลย มันนานเท่าๆกับที่เธอเป็นโสดจนปัจจุบันหรือเปล่า จนผู้ชายหลายคนมองว่าเธอเฉยชาจนไม่กล้าเข้าใกล้ จริงๆเขาจะรู้มั้ยว่าที่จริงแล้วเธอแค่ไม่รู้จะแสดงออกอย่างไร หรือบางทีเธออาจจะแค่ต้องการผู้ชายสักคนที่ไม่ได้ชอบเพียงแค่หน้าตาของเธอ แต่อยากให้ผู้ชายคนนั้นเข้าใจตัวตนและจิตใจของเธอ ก็แค่นั้นเอง …
“ คยูฮยอน วันนี้ไปซื้อของเป็นเพื่อนหน่อย “ เสียงเล็กๆจากปากที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนข้างบ้านตั้งแต่เด็กของเขาดังขึ้นด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจ คยูฮยอนที่นั่งฟังเพลงอยู่จึงถอดหูฟังออกก่อนจะเงยหน้าไปสบสายตากับร่างบางที่ยืนอยู่
“ ก่อนจะบอกฉัน เธอต้องถามก่อนไม่ใช่หรอว่าฉันว่างหรือเปล่า “ เจสสิก้า สาวสวยประจำโรงเรียนพ่วงด้วยตำแหน่งดาวของชั้นมัธยมปลายปีสอง ยักไหล่อย่างไม่แคร์ก่อนจะดึงแขนเขาให้ลุกตามใจเธอ
“ ไม่ว่างก็ต้องว่าง เธอไม่ไปแล้วใครจะถือของให้ฉันล่ะ “ เจสสิก้าพูดพลางดึงแขนร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างไม่สะทกสะท้าน
“ ไปขอประธานนักเรียนซีวอนแฟนเธอไม่ดีกว่าหรอ “ คยูฮยอนตอบเรียบๆก่อนจะลุกขึ้นเก็บของใส่กระเป๋าพลางเดินไปที่โต๊ะของอึนฮยอกเพื่อนสนิทของเขา โดยไม่สนใจเพื่อนข้างบ้านที่ยืนมองการกระทำของเขาอย่างขัดใจ
“ นี่ คยูฮยอนจะไปไหน หันกลับมาเดี๋ยวนี้นะ “ เสียงเล็กๆพูดขึ้นจากข้างหลัง คยูฮยอนทำหูทวนลมกับเสียงที่ได้ยินก่อนจะผลักหลังอึนฮยอกที่มองการกระทำของเขาด้วยความงุนงงให้เดินออกจากห้องเรียนประจำของพวกเขา
“ ไม่เสียดายบ้างหรือไงวะบ้านก็ติดกันแถมครอบครัวยังสนิทกันอีก คยูฮยอน นายนี่มันโง่จริงๆ ปล่อยให้รุ่นพี่ซีวอนคาบไปซะได้ “
“ ไม่เสียดาย ชัดมั้ย ฉะนั้นหยุดพูดอะไรไร้สาระสักที “ คยูฮยอนบอกพลางตบหัวเพื่อนสนิทปากมากที่ดันรู้ดี ใช่เขามันโง่ โง่ปล่อยให้เจสสิก้าเป็นของประธานนักเรียนซีวอนนั่น แต่ก็ช่วยไม่ได้ สุภาพบุรุษกับสาวสวยก็เข้ากันดีนี่
“ ปากแข็ง ….. เออๆหยุดพูดแล้วๆ “ อึนฮยอกประชดก่อนตัดบทเมื่อสบสายตาไม่สบอารมณ์ของเพื่อนสนิทที่เดินอยู่ข้างๆ
“ ไปไหนดีวะ อีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาซ้อม “ คนไม่สบอารมณ์หยุดเดินเมื่อถึงหน้าโรงเรียนพลางคิดไม่ตกว่าเขาสองคนจะไปฆ่าเวลาที่ไหนระหว่างรอเวลาสนามไอซ์ฮอกกี้ของโรงเรียนปิดให้คนธรรมดาเข้า หลังจากนั้นจึงจะเป็นเวลาที่ชมรมไอซ์ฮอกกี้ได้ฝึกซ้อมเสียที
“ ไปห้องสมุดกัน “ อึนฮยอกเสนอขึ้น ทำเอาคนที่ยืนอยู่ข้างๆหันไปมองด้วยความแปลกใจ
“ วิญญาณเด็กเรียนเข้าสิงหรอวะ ช่วยต่อยให้มันออกมั้ย “ ร่างสูงไม่พูดเปล่าทำท่าจะต่อยคืนสติจริงๆ จนคนที่ถูกคิดว่าผีเข้ารีบยกมือขึ้นห้ามปรามด้วยความตกใจ
“ เปล่าเว้ย ทีนายชวนฉันยังไม่สงสัยเลย ทีฉันชวนบ้างทำไมต้องหาว่าผีเข้าด้วยวะ “ อึนฮยอกพูดพลางทำท่าสะบัดสะบิ้งเกินจริงจนคยูฮยอนที่มองอยู่ข้างๆ หมั่นไส้
“ เออๆ ไปยังอะ มัวยืนบื้ออยู่ได้ “
“ อะไรวะ แค่นี้ทำเป็นเข้ม “ อึนฮยอกบ่นพึมพำแต่ก็เดินตามเพื่อนสนิทไปยังห้องสมุดของเขต
“ ซอฮยอน วันนี้หลังเลิกเรียนไปไหนหรือเปล่า “ เสียงเรียกของฮโยยอนดังขึ้นข้างๆเรียกความสนใจของร่างบางที่กำลังเก็บหนังสือเรียนใส่กระเป๋าด้วยความแปลกใจ ฮโยยอนก็น่าจะรู้ว่าปกติหลังเลิกเรียนเธอก็จะกลับบ้านเลยไม่ก็เรียนพิเศษ มีแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั่นแหละที่เธอไปเดินเล่นกับฮโยยอนและยูริเพราะทนเสียงรบเร้าไม่ไหว
“ วันนี้ไม่มีเรียนพิเศษอ่ะ ก็คงกลับบ้าน “
“ ไปห้องสมุดกันปะ คือรายงานที่ต้องส่งพรุ่งนี้ฉันยังทำไม่เสร็จเลย “ ฮโยยอนพูดก่อนจะก้มหน้าด้วยความอาย เพราะรายงานนั้นครูสั่งตั้งแต่สองสัปดาห์ที่แล้ว
“ โหยย ดินพอกหางหมูว่ะ ดูดิกลมๆติดก้นแกเยอะมากเลยอ่ะ “ ยูริพูดประชดด้วยท่าทางอารมณ์ดี
“ ไอ้ยูล ถ้าแกไม่พูดอะไร ก็ไม่มีใครว่านะเว้ย “ คนโดนประชดตอบด้วยความฉุนแต่ก็ไม่วายลูบเบาๆที่ก้นตามคนว่าอย่างช่วยไม่ได้
“ สงบศึกก่อนนะทั้งสองคน เอาเป็นว่าไปกันเลยดีกว่า จะได้ไม่กลับบ้านเย็นมาก “ คนสงบศึกพูดตัดบทก่อนจะเดินนำไป โดยปล่อยให้เพื่อนสนิททั้งสองคนเดินไปทะเลาะกันไปตลอดทางการไปห้องสมุดของเขต
ห้องสมุด
“ แล้วรายงานแกทำไปถึงไหนแล้วอ่ะ “ ซอฮยอนถามขึ้นเมื่อพวกเธอทั้งสามคนได้ก้าวเข้ามาในห้องสมุดแล้วพลางสอดส่ายหาโต๊ะนั่ง
“ ก็ทำไปได้นิดนึงแล้วล่ะ “ ฮโยยอนตอบเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตาคนถามอย่างมีพิรุธ
“ แกยังไม่ได้เริ่มเลยใช่มั้ยเนี่ย “ คนถามถามเสียงเขียวจนคนก้มหน้าอยู่สะดุ้งเพราะโดนรู้ทัน ยูริที่รู้เรื่องแต่แรกแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดีกับท่าทางของเพื่อนสนิทของตัวเอง
“ เออน่าซอ แกไปจองโต๊ะแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะไปช่วยยัยดินพอกหางหมูเลือกหนังสือทำรายงาน “ ยูริพูดพลางกลั้วหัวเราะ ซอฮยอนพยักหน้ารับพลางมองเพื่อนสองคนเดินเข้าไปทางชั้นหนังสือ ก่อนจะหันกลับมาสอดส่ายหาโต๊ะตามที่ได้รับมอบหมายบ้าง วันนี้คนใช้บริการไม่เยอะมากแต่ส่วนใหญ่ชอบนั่งแยกๆกัน เลยทำให้เปลืองเนื้อที่ไปบ้าง เธอคิดในใจอย่างเซ็งๆ ก้าวเดินไปตามทางเดินที่ทำไว้ของห้องสมุดก่อนจะเลือกโต๊ะที่อยู่ติดกำแพงไม่ไกลจากที่เธอเดินมา จากตรงนี้สองคนนั้นถ้าเลือกหนังสือเสร็จคงจะมองเห็นเธอไม่ยาก ซอฮยอนถอนหายใจด้วยความเหนื่อยกับการเรียนหนักๆทั้งวัน ตัดสินใจก้มหน้าลงฟุบหลับฆ่าเวลา
“ ขอโทษนะ เก้าอี้ข้างๆเธอว่างหรือเปล่า “ ซอฮยอนที่ยังไม่ทันได้หลับตาถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“ ไม่ว่างค่ะ “ ซอฮยอนตอบเสียงห้วน ก้มหน้าฟุบหลับต่อไม่สนใจผู้ชายเข้ามาหลีที่ยืนทำหน้าแหยกับท่าทีเย็นชาของเจ้าหญิงโรงเรียนมัธยมปลาย S ก่อนจะเดินกลับไปยังโต๊ะด้วยท่าทีหงอยจนเพื่อนในกลุ่มหัวเราะเพราะชายคนนั้นหน้าแตกไม่มีชิ้นดี
ซอฮยอนที่ก้มหน้าอยู่ได้ยินเสียงหัวเราะของกลุ่มผู้ชายไม่ไกลจากโต๊ะของเธอ ก็รู้สึกอึดอัด ก่อนจะลุกขึ้นไปช่วยสองคนนั้นเลือกหนังสือเพื่อหลบเลี่ยงสายตาจากกลุ่มผู้ชายที่จดจ้องเธอตาไม่กระพริบ
ตุบ
“ ขอโทษครับ “ เสียงทุ้มพูดขึ้นเบาๆก่อนจะเดินต่อไปไม่สนใจคนที่โดนสัมภาระอันใหญ่ยักษ์ของเขาชนเข้าให้ที่แขน ซอฮยอนลูบที่แขนป้อยๆถึงมันจะไม่เจ็บมาก แต่ผู้ชายคนนั้นก็น่าจะหยุดหันมาพูดดีๆก็ได้นี่นา เธอมองตามหลังผู้ชายคนนั้นที่ข้างๆเขาแบกไม้อันใหญ่ที่เธอคิดว่าคงจะเป็นไม้ฮอกกี้ด้วยความฉุน
“ ซอ แกมายืนตรงนี้ทำไมอ่ะ จองโต๊ะยังเนี่ย “ เสียงของยูริดังขึ้นข้างหลังเรียกความสนใจของเธอที่ส่งสายตาขุ่นมัวไปยังผู้ชายแบกไม้ฮอกกี้อยู่ให้ค่อยๆหันไปมองเพื่อนสนิททั้งสองที่ตอนนี้ในอ้อมแขนของสองคนเต็มไปด้วยหนังสือ
“ จองแล้วๆ มาเดี๋ยวฉันช่วย “ ซอฮยอนตอบก่อนถือวิสาสะหยิบหนังสือจากทั้งสองคน คนละสองเล่มแล้วเดินนำทางไปที่โต๊ะ
“ เฮ้ยพวกแกดูนั่นดิ สองคนนั้นเขามีไม้ฮอกกี้ด้วยแหละ “ ฮโยยอนพูดขึ้นก่อนจะชี้ไปทางโต๊ะข้างหน้าที่ตอนนี้จับจองด้วยร่างสูงในชุดนักเรียนที่ข้างๆมีไม้ฮอกกี้พาดอยู่บนเก้าอี้
“ ชุดนั้นมันโรงเรียนมัธยมปลาย M ไง โรงเรียนนี้ดังเรื่องไอซ์ฮอกกี้มากเลยนะ “ ยูริบอกด้วยความมั่นใจ
“ จริงดิ ไม่น่าเชื่อว่าแกจะรู้เรื่องแบบนี้ด้วย นึกว่าจะอัพเดตแต่พวกข่าวบันเทิงซะอีก “ ฮโยยอนพูดประชดแต่เธอรู้ดีว่าเจ้าแม่อัพเดตคนนี้เขาอัพเดตทุกเรื่องจริงๆ เอาเป็นว่ามันเป็นคนที่สอดรู้สอดเห็นขั้นเทพ วงไหนจับกลุ่มคุยกัน เรื่องอะไรไม่มีทางพลาดหูของควอนยูริไปได้
“ ดูถูกเจ้าแม่อัพเดตมากเลยนะ อย่างควอนยูริเนี่ย ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่รู้ “
“ นี่ว่างมากเลยใช่มั้ย นั่งมองเรื่อยเปื่อยอย่างนี้รายงานจะเสร็จมั้ยห๊ะ คิมฮโยยอน “ ซอฮยอนที่เพิ่งละจากการคั่นหน้าเนื้อหาที่ฮโยยอนควรจะต้องใช้ในรายงานเสร็จพูดเสียงดุ ก่อนจะผลักหนังสือที่คั่นเสร็จแล้วให้เจ้าตัวเพื่อไปซีรอก
“ อย่างนี้ไม่ได้มองเรื่อยเปื่อย มันมองผู้ชายเว้ยซอ “ ยูริพูดพร้อมแตะไหล่ของซอฮยอนอย่างเข้าข้างเต็มที่
“ โอเคๆ “ ซอฮยอนรับคำเบาๆ ก่อนจะยกหนังสือที่ไม่ใช้แล้วส่งให้คนพูดมาก ยูริมองเพื่อนตัวดีที่สั่งให้เธอไปเก็บหนังสืองอนๆ นอกจากจะไม่สนใจที่เธอพูดแล้วยังมาสั่งเธอให้ลุกไปเก็บหนังสืออีก ซอฮยอนมองตามหลังยูริที่เดินกระแทกเท้าไปยังชั้นหนังสือยิ้มๆ พลางเหลือบมองโต๊ะที่เป็นจุดสนใจเมื่อกี้ ร่างของชายสองคนในชุดนักเรียนคนหนึ่งกำลังนั่งเลือกหนังสืออย่างขะมักเขม้น โดยคนนั่งข้างๆนั่งเล่นเกมส์โทรศัพท์โดยไม่สนใจรอบข้าง ว่าแต่คนที่เล่นเกมส์อยู่มันคนที่ชนเธอเมื่อกี้นี่นา ไม่ผิดแน่เพราะคนที่ชนเธอเขาก็เอาไม้ฮอกกี้ตัวดีแบบเดียวกับที่พาดอยู่บนเก้าอี้ข้างๆชนแขนเธอ ด้านคนที่โดนมองด้วยสายตาดุๆอยู่ก็รู้สึกแปลกๆบวกกับเมื่อยคอหลังจากที่ก้มเล่นเกมส์นาน จึงเก็บโทรศัพท์แล้วเงยหน้าเพื่อหวังจะให้คอที่ปวดเมื่อยอยู่มันทุเลาลงบ้าง ทำให้สบสายตากลมโตที่จ้องเขาอยู่พอดี คยูฮยอนมองดวงตากลมโตที่ดูใสซื่อด้วยความสนใจ เมื่อมันมารวมอยู่บนใบหน้าเธอคนนี้กลับทำให้หน้าของอีกฝ่ายนั้นจัดว่าสวย ถึงแม้จะไม่ได้แต่งหน้าอ่อนๆเหมือนเจสสิก้า แต่น่าแปลกทำไมเขาถึงละสายตาจากเธอคนนี้ไม่ได้นะ ฝ่ายคนที่มองเขาแต่แรกกลับกลายเป็นโดนจ้องตาไม่กระพริบจนต้องหลบสายตาเองนั้นหน้าขึ้นสีอย่างไม่มีสาเหตุ
“ อะไรของเขา จ้องกันอยู่ได้ ไม่มีมารยาทเอาซะเลย “ ซอฮยอนบ่นพึมพำด้วยความเขิน ปกติผู้ชายส่วนใหญ่เมื่อมองหน้าเธอก็จะหลบสายตาอันเย็นชาของเธอทุกทีนี่นา ตาคนนี้นี่แปลกจริงๆ
“ เฮ้ยซอ นั่งบ่นพึมพำไรของแกเนี่ย “ ฮโยยอนที่เพิ่งเดินกลับมาจากซีรอกงานถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
“ เปล่าๆ แล้วแกเสร็จยังเนี่ย ฉันอยากกลับบ้านแล้ว “
“ เสร็จแล้ว ว่าแต่ไอ้ยูลมันหายไปไหนของมัน “
“ เก็บของก่อนเถอะ เดี๋ยวเดินสวนไปก็เจอยูริเองแหละ “ ซอฮยอนพูดพลางเก็บอุปกรณ์ใส่ในกระเป๋าก่อนจะรีบสาวเท้าให้พ้นจากโต๊ะนั้น ไม่ไหวอ่ะนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอนะ เธอไม่กล้ามองหน้าเขาแถมตอนนี้หัวใจเธอมันเต้นเร็วเหลือเกิน แค่เขามองเธอแค่นั้นเธอถึงกับตื่นเต้นเลยหรอเนี่ย
“ ซอฮยอน แกจะรีบไปไหนอ่ะ รอฉันเอากระเป๋าก่อนดิ “ ยูริที่เพิ่งกลับจากการเก็บหนังสือให้เข้าที่เห็นซอฮยอนเดินสวนไป ก็หันไปสบตากับฮโยยอนด้วยความงุนงง
“ มันเป็นอะไรของมันเนี่ย ฉันไปเก็บหนังสือช้าจนมันรอไม่ไหวเลยหรอ “ ยูริถามคนที่เหลืออยู่อย่างงงๆ ฮโยยอนส่ายหัวเพราะเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน ทั้งสองรีบหยิบกระเป๋าก่อนจะเร่งฝีเท้าให้ทันซอฮยอนที่เดินนำไปนานแล้ว
“ เฮ้ย นั่งยิ้มอะไรอยู่ได้คนเดียววะ “ อึนฮยอกถามขึ้นหลังจากที่เขาเดินกลับมาจากยืมหนังสือก็เห็นไอ้เพื่อนตัวดีนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คนเดียวที่โต๊ะ คยูฮยอนละสายตาจากท่าทางของคนที่ลุกลี้ลุกลนรีบเดินออกจากห้องสมุดก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนสนิทด้วยหน้าเรียบเฉย
“ มีเรื่องไหน ที่นายจะไม่จุ้นบ้างมั้ย อึนฮยอก “
“ แอบมองสาวหรอวะ คนไหนๆ เรียกให้ดูบ้างดิ “ คนจุ้นไม่สนใจที่คนว่าพูดสักนิดก่อนจะมองไปทางที่คยูฮยอนมองไปเมื่อกี้
“ แล้วยืมเสร็จยังเนี่ย น้องแกก็นะจะยืมหนังสือของตัวเองมาเองไม่ได้หรือไงวะ “
“ เฮ้ย แอบมองสาวอย่างนี้ แปลว่านายเลิกชอบเจสสิก้าแล้วหรอวะเนี่ย “
“อยากลองไม้ฮอกกี้กระแทกปากหน่อยมั้ย เผื่อปากนายจะได้เงียบได้ “ คยูฮยอนพูดอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเก็บของแล้วเดินไปไม่สนใจคนปากมาก
“ เออๆ วันนี้มันวันอะไรวะ เดินตามตูดคนขี้โมโหทั้งวันเลย “
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
to be continute..
ความคิดเห็น