บีทีเอส
ผู้เข้าชมรวม
599
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ได้รับการออกแบบให้หลบเลี่ยงสาธารณูปโภคทั้งใต้ดิน และบนดิน โดยที่ยังคงรักษาผิวการจราจรบนถนนไว้มากที่สุด ตัวสถานีได้รับการออก แบบให้มีโครงสร้างแบบเสาเดียว มีความยาวประมาณ 150 เมตร มี 2 ลักษณะ คือ
นอกจากนี้รถไฟฟ้า บีทีเอส ยังได้แบ่งโครงสร้างของสถานีออกเป็น 3 ชั้น ด้วยกันคือ
|
1. | ลิฟต์โดยสารสำหรับผู้พิการ หรือผู้ที่มีปัญหาในการขึ้น-ลงบันไดของสถานี หากท่านมีความประสงค์จะใช้ลิฟต์ กรุณากดปุ่มสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ประจำสถานี โดยท่านสามารถใช้บริการลิฟต์โดยสารได้ที่สถานีหมอชิต สถานีสยาม สถานีอโศก สถานีอ่อนนุชและสถานีช่องนนทรี |
2. |
ทางเดินเชื่อม จากสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส เข้าสู่อาคาร หรือห้างสรรพสินค้า ข้างเคียง ให้บริการแล้วที่ |
1. | รถไฟฟ้า บีทีเอส มีแผนจะนำบัตรโดยสารแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งเป็นบัตรที่สามารถใช้ร่วมกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ หรือบริการต่างๆ ของภาครัฐ และเอกชนต่อไป |
2. | ทางเดินเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าสู่อาคารข้างเคียง ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการเพิ่มเติม สถานีเอกมัย - ณุศาสิริ คอนโด (กำลังก่อสร้าง) สถานีศาลาแดง - อาคารสีลม 64 (กำลังก่อสร้าง) |
ขบวนรถไฟฟ้า 1 ขบวน ประกอบด้วยตู้โดยสาร จำนวน 3 ตู้ หรือ 3 ตู้ พ่วงต่อกัน 2 ขบวน สามารถวิ่งกลับทิศทางได้ โดยรถที่ใช้มีอยู่ 2 ประเภทหลักคือ รถชนิดที่มีห้องคนขับ และมีระบบขับเคลื่อน กับรถที่ไม่มีห้องคนขับ หรือรถพ่วง ซึ่งมีทั้งชนิดที่มี และไม่มีระบบขับเคลื่อน ตัวถังของรถไฟฟ้า บีทีเอส ผลิตจากเหล็กปลอดสนิม ติดตั้งระบบปรับอากาศ พร้อมหน้าต่างชนิดกันแสง รถแต่ละขบวนมีความกว้างประมาณ 3.20 เมตร ยาวประมาณ 21.8 เมตร จุผู้โดยสารได้กว่า 1,000 คน ในปัจจุบันมีขบวนรถอยู่ในระบบทั้งหมด 35 ขบวน และได้จัดให้มีการตรวจสอบ และบำรุงรักษาตามกำหนดทั้งตัวรถ อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงรางรถไฟฟ้า อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด ในขณะให้บริการแก่ผู้โดยสาร และเพื่อให้การซ่อมบำรุงมีประสิทธิภาพ รถไฟฟ้า บีทีเอส ได้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยในการบริหารงานซ่อมบำรุง โดยระบบดังกล่าวใช้สำหรับการแจ้งข้อบกพร่องของระบบรถไฟฟ้า ออกใบสั่งซ่อมตามกำหนดระยะเวลา หรือเมื่อมีเหตุขัดข้อง เก็บข้อมูลการซ่อมบำรุง เก็บรายการอะไหล่สำรอง และคอยตรวจสอบระดับของอะไหล่สำรอง |
รางของรถไฟฟ้ามีความยาวทั้งสิ้น 55 กิโลเมตร (ณ ปัจจุบัน) รองรับการให้บริการรถไฟฟ้า 480 เที่ยว คิดเป็นระยะทาง 1,100 กิโลเมตรต่อวัน โดยตัวรางรถไฟฟ้า มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัย และความต่อเนื่องของการให้บริการ การตรวจสอบต้องทำ อย่างสม่ำเสมอโดยจะมีการตรวจสอบรางทุกคืนหลังการให้บริการ ในกรณีเกิดความบกพร่องขึ้นที่รางรถไฟฟ้า หน่วยงานซ่อมบำรุงจะต้องดำเนินการซ่อมให้เสร็จสิ้นภายใน 3 ชั่วโมง (01.00-04.00 น.) หลังจากชั่วโมงการให้บริการปกติเพื่อให้ทันเวลาเปิดให้ บริการปกติ (06.00 น.) ในวันรุ่งขึ้น |
รถไฟฟ้า บีทีเอส มีรถไฟฟ้าอยู่ในระบบทั้งสิ้น 35 ขบวน ในการซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าเหล่านี้จะถูกเรียกเข้าตรวจสอบ และซ่อมบำรุงตามระยะเวลาที่กำหนด และจะทำการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ ทุกๆ 6 ปี นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เลือกใช้เทคโนโลยี และระบบรถไฟฟ้าที่ทันสมัยมาใช้ในระบบ และได้มีการพิสูจน์ และทดสอบแล้วว่าไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
1. |
ระบบรางปราศจากรอยต่อ โดยใช้วิธีเชื่อมแล้วปรับแต่งรางให้เรียบทำให้ไม่เกิดเสียงเมื่อรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน |
2. | ระบบรองรับราง ใช้วัสดุซับเสียง และแรงสั่นสะเทือน |
3. | ระบบล้อ ใช้ล้อชนิดที่มีอุปกรณ์ช่วยลดเสียงอันเกิดจากการเสียดสีระหว่างล้อกับรางได้ |
4. | ช่วงทางโค้ง มีการออกแบบให้รางถ่างออกเล็กน้อยเพื่อลดการเสียดสีระหว่างรางกับล้อเหล็ก และที่ล้อมีระบบหล่อลื่นช่วยไม่ให้เกิดเสียงดัง |
5. | ระบบเบรค ใช้เบรคไฟฟ้าในการหยุดรถ ใช้หลักการ เปลี่ยนสภาพมอเตอร์เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะช่วยหยุดรถไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ โดยไฟฟ้าจะถูกป้อนกลับเข้าสู่ระบบ และเมื่อรถไฟฟ้ามีความเร็วต่ำกว่า 8 กม./ชม. จึงจะใช้เบรคกล เพื่อให้รถหยุดสนิทตามตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งเบรคกลนี้จะเป็นเบรคชนิดจาน ที่มีประสิทธิภาพสูงและเงียบ รวมทั้งมีระบบป้องกันล้อลื่นไถล และยังได้จัดให้มีกำแพงกันเสียง (Noise Barrier) เพื่อลดเสียงด้านข้าง และเพิ่มความสวยงามตลอดเส้นทางที่รถวิ่งอีกด้วย |
ผลงานอื่นๆ ของ papadot ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ papadot
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น