คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่3-ตอนที่1
บทที่3
10ปีต่อมา
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนผ่านล่วงเลยไปตามกาลเวลา ณ ลานกว้างรูปวงกลมหน้าหมู่ตึกลิขิตสวรรค์ จินเสี้ยวเทียนที่ตอนนี้เติบโตตามวันเวลาจากหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักบัดนี้กลายเป็นบุรุษรูปร่างสง่างาม สูงใหญ่ สูง6ฟุต1นิ้ว (ประมาณ185-186เซนติเมตร)หน้าตาคมสัน ผมยาวสีดำสนิท ตัดกับดวงตาสีแดงฉานแววตาดุดันและแข็งกร้าวดูแล้วเหมือนกับผ่านชีวิตที่ยากลำบากหรือผ่านสงครามอันโชกโชนมาแต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยนอยู่เป็นนิจซึ่งตอนนี้ท่อนบนของมันเปลือยเปล่าทำให้เห็นถึงมัดกล้ามต่างๆตามตัว มันที่กำลังทำท่าร่างเหมือนกับนั่งอยู่บนเกาอี้ มือสองข้างเหยียดตรงถือซึ่งด้วยไหขนาดใหญ่ที่ข้างในแทนที่จะใส่น้ำให้เต็มไหเหมือนกับที่มันเคยฝึกตอนเด็กแต่บัดนี้ในไหกับเป็นก้อนหินใส่อัดไว้เต็มไหแทน ข้างตัวมันยืนด้วยหญิงงามล่มเมืองนางหนึ่งที่กอปรด้วยรูปร่างสูงและมีสัดส่วนกลมกลืนสมรูป หน้าตาสวยสง่า จมูกที่โด่งเป็นสันแต่พองามรองรับด้วยเรียวปากอันอวบอิ่ม ดวงตาเรียวงามกลมโตสีน้ำตาล ผิวพรรณขาวอมชมพู ลักษณะท่าทางที่มีความดึงดูดต่อเพศตรงข้ามยิ่งนัก
“ไป๋หลินข้ารู้ว่าเจ้ารักข้ามากแต่ไม่ต้องแสดงความห่วงใยมายืนเป็นเพื่อนข้าหรอก” จินเสี้ยวเทียนกล่าวต่อนางที่ยืนเคียงข้าง โดยที่ดวงตาแม้แต่เหลือบแลก็มิเหลือบแลนาง ซึ่งฝ่ายหญิงสาวได้ยินจินเสี้ยวเทียนพูดจาดังนั้นก็มีสีหน้าแดงระเรื่อ
“ห่วงยงห่วงใยอันใดกันที่ข้ามายืนอยู่นี้ก็เพื่อเฝ้าเจ้าไม่ใช่มายืนเป็นเพื่อนเจ้า ถ้าข้าไม่เฝ้าเจ้าเดียวเจ้าก็จะแอบหลบหนีการฝึกไปเที่ยวหญิงอีก... เจ้าตั้งใจฝึกไปเถอะอย่ามากล่าววาจาเหลวไหลแทะโลมเรา” ไป๋หลินกล่าววาจาต่อว่าออกไปแต่น้ำเสียงของนางนั้นช่างอ่อนโยนสดใสไพเราะเสนาะหู ไม่เหมือนกับคนที่กำลังไม่พอใจเลยแม้ซักนิด
“ฮ่าๆ ที่แท้เจ้าก็หึงห่วงข้านี้เอง เจ้าไม่ต้องกลัวไปหรอกไป๋หลินว่าข้าจะไปติดพันหญิงอื่น ในแผ่นดินจงหยวนนี้ใครจะสู้ความงามของเจ้าได้อีกหรือ ด้วยความงามของเจ้าถ้าข้าไม่ลุ่มหลงเจ้าแล้วจะให้ข้าไปลุ่มหลงหญิงใดกัน” จินเสี้ยวเทียนกล่าวพลางหันหน้ามามองใบหน้าไป๋หลินที่บัดนี้มีสีหน้าท่าทางเอียงอายอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านนี้สมกับเป็นลูกของท่านลุงจริงๆ พูดจากรุ่มกริ่มเหลวไหลไปเรื่อย”เหยาไป๋หลินกล่าวพลางก้มหน้าเพื่อหลบสายตาของจินเสี้ยวเทียนที่กำลังหันมาจ้องหน้านางด้วยสีหน้าที่กรุ่มกริ่ม
“ฮ่าๆ ที่ข้าพูดจาเหลวไหลกับเจ้าเพราะข้ารักเจ้ามากต่างหาก หาใช่มีความคิดเป็นอื่นไม่ หรือว่าเจ้าจะไม่คิดตบแต่งให้กับบุรุษที่ชอบพูดจาเหลวไหลอย่างข้า” เหยาไป๋หลินได้ยินดังนั้นจึ้งรีบเงยหน้าขึ้นพร้อมกล่าวโพล่งขึ้นว่า
“เสี้ยวเทียนท่าน...”เหยาไป๋หลินพูดจาไม่ทันจบนางก็เหลือบไปมองเห็นชายชราสองคนที่กำลังเดินตรงมาที่พวกมันกำลังคุยกันอยู่ ซึ่งชายชราสองคนนั้นก็คือจินเสี้ยวเทียนกับเหยาหมิงเต๋อท่านลุงกับท่านพ่อของมันเอง มันเห็นดังนั้น จึงหยุดคำพูดที่กล่าวกับจินเสี้ยวเทียนออกไปลง เปลี่ยนเป็นกล่าวกับสองผู้เฒ่าแทนว่า
“คารวะท่านลุงท่านพ่อ พวกท่านทั้งสองมาก็ดีแล้วข้าจะได้ไปฝึกยุทธ์ของข้ากับเหมยเอ๋อต่อ…ข้าขอตัว” นางพูดจาจบก็หันหลังให้สองผู้เฒ่าและเดินจากไปอย่างรวดเร็วไม่รอให้ผู้เฒ่าพุดจาตอบโต้แม้ซักคำ จินเจิ้นเทียนเห็นท่าทีของไป๋หลินดังนั้นจึงอดถามจินเสี้ยวเทียนไม่ได้ว่า “เสี้ยวเทียนลูกพ่อเจ้าไปทำอันใดให้ลูกไป๋หลินไม่สบายใจกันถึงได้รีบจากไปขนาดนั้น”
“ข้าจะไปทำอันใดให้นางไม่พอใจได้ในเมื่อข้าต้องถือไหที่พวกท่านใส่ก้อนหินที่หนักข้างละ60ชั่งเอาไว้ให้ข้าถือวันละสองชั่วยามกัน ข้าแค่กล่าววาจากับนางเรื่องการแต่งงานของเราท่านนั้นเอง” จินเสี้ยวเทียนกล่าวตอบผู้เป็นบิดาของตนไป
“ฮ่าๆ สมกับเป็นลูกเรา น้องเราเจ้าดูลูกไป๋หลินสิ สงสัยนางจะอายเป็นแน่แท้ถึงได้รีบหลบหน้าพวกเราไป” จินเจิ้นเทียวกล่าวกับเหย๋าหมิงเต๋อด้วยรอยยิ้มอันเป็นนัยรู้ดีว่า ว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้คิดอันใดอยู่ที่ได้เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
“อืมสงสัยนางจะรู้ว่าพวกเราสองคนจะพูดจาเรื่องงานแต่งงานของพวกเขา นางจึงปลีกตัวหลบหน้าออกไปก่อน ฮ่าๆ...อืมพูดถึงงานแต่งงาน พวกเขาก็อายุ17ปีกันแล้วถึงเวลาแล้วที่สมควรจะแต่งงานกันเป็นฝั่งเป็นฝา” เหยาหมิงเต่อกล่าว
“ข้าก็แล้วแต่ท่านพ่อกับท่านอา ตัวข้าพร้อมเสมอและข้าขอสัญญาข้าจะดูแลทะนุถนอมรักใคร่และปกป้องไป๋หลินไปจนวันตาย” จินเสี้ยวเทียนกล่าวด้วยแววตามุ่งมั่นไม่มีแววว่าจะพูดจาเล่นๆหรือพูดขอเพียงแค่ให้ผ่านๆไป
“อืมงั้นดีข้าก็รอเวลาจะได้ลูกสาวเพิ่มอีกคนมานานแล้ว ดีนั้น อีก7วันเราจะจัดงานให้พวกเจ้า” “น้องเราเจ้าก็ช่วยเป็นเรี่ยวเป็นแรงจัดงานพร้อมไปแจ้งข่าวต่อจินเฉิงด้วย”
“พี่ท่านไม่ต้องเป็นห่วงไป ข้าจะจัดการเรื่องนี้เองข้าเองก็รอวันเวลาที่เห็นไป๋หลินออกเหย้าออกเรือน มีชีวิตคู่ที่มีความสุขเสียที ยิ่งได้เสี้ยวเทียนเป็นลูกเขยแล้วข้ายิ่งอย่างให้งานแต่งงานเป็นพรุ่งนี้ด้วยซ้ำไปฮ่าๆ” เหยาหมิงเต๋อกล่าวตอบจินเจิ้นเทียนพร้อมกลับทะยานร่างใช้ออกด้วยวิชาตัวเบาอันเลิศล้ำพิสดาร หายวับไปกลับตา
“อืมนี้ก็ครบสองชั่วยามแล้วเจ้าไปพักผ่อนเถอะเสี้ยวเทียนเดียวพ่อจะไปบอกข่าวดีนี้ให้พวกแม่ๆเจ้ารู้ เออเจ้าก็อย่าลืมไปบอกข่าวดีนี้ให้ไป่หลินกับเหม่ยเอ๋อรู้ละ”จินเสี้ยวเทียนกล่าวบอกต่อจินเสี้ยวเทียนพร้อมหันหลังเดินจากไป จินเสี้ยนเทียนเมื่อได้รับอนุญาตให้พักผ่อนก็ไปอาบน้ำชำระตัวและรีบไปบอกข่าวดีนี้ให้กับไป๋หลินและเหม่ยเอ๋อน้องสาวของมันให้รู้ในทันที
............................................................................................................................................................................
ขออภัยด้วยนะครับที่ลงช้า พอดีผมติดเรียนพิเศษไม่มีเวลาว่างเลยครับ ผมเลยขอลงเป็นตอนสั้นๆนะครับ เพราะเวลาว่างมันน้อยจริงๆเลยเขียนไปได้ไม่ไกล แต่ถึงจะสั้นผมจะลงถี่ๆให้ละกันครับ
ความคิดเห็น