คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่3-ตอนที่2
ทางด้านเหยาหมิงเต๋อที่ทะยานร่างออกมาแท้จริงมันกำลังลงเขาเพื่อจะไปเมืองกว่างโจวเมืองที่ตั้งของสาขาใหญ่พรรคลิขิตสวรรค์ มันใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วยามก็เดินทางมาถึงเมืองกว่างโจว กล่าวถึงเมืองกว่างโจวคือเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของแผ่นดินจงหยวน(แผ่นดินใหญ่) เมืองกว่างโจวตั้งอยู่ที่ปากแม่นางจูเจียงทำให้กลางเมืองแม่มีแม่น้ำจูเจียงไหลผ่านกลางเมือง จึงมีการจารจรทางน้ำสะดวกยิ่งและเป็นเมืองท่าที่มีผู้คนคับคั่งนับเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียวในแผ่นดินจงหยวน ส่วนพรรคลิขิตสวรรค์นั้นตั้งอยู่ใจกลางเมืองกว่างโจว ตรงประตูทางเข้าพรรคมีไม้แกะสลักเป็นตัวอักษรว่าพรรคลิขิตสวรรค์แขวนติดไว้กับประตู
เนื่องจากเหยาหมิงเต๋อไม่อยากให้ใครพบเห็นมันจึงใช้วิชาซ่อนเร้นกายที่ช่วยกันคิดค้นขึ้นกับจินเจิ้นเทียนวิชานี้แม้แต่ไปยืนต่อหน้าก็มิอาจมองเห็นได้แม้แต่เงาก็ยังไม่ปรากฏให้เห็น วิชานี้มีนามว่าเงาไร้ลักษณ์ มันใช้วิชาเงาไร้ลักษณ์เดินเข้าเมืองกว่างโจวและเข้าไปในห้องโถงกลางของพรรคลิขิตสวรรค์ได้อย่างสบายโดยไม่มีใครรู้ตัวแม้แต่ยอดฝีมือในพรรคหรือตัวประมุขพรรคอย่างจินเฉิงเองก็มิอาจรับรู้ได้เลยว่านี้เหยาหมิงเต่อได้มายืนต่อหน้ามันที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สักลายมังกรท่องสวรรค์ โดยสองข้างซ้ายขวาของมันประกบด้วยบุรุษสองคนนั้นก็คือทูตขวาจินหลงและทูตซ้ายจินหู่ และภายในห้องโถงยังมียอดฝีมืออีกนับสิบคนที่เป็นแนวหน้าของยุทธภพ พวกมันก็คือบรรดาหัวหน้าสาขต่างๆของพรรคลิขิตสวรรค์ซึ่งกำลังประชุมกันอยู่โดยการนัดหมายของประมุข
เหยาหมิงเต๋อเห็นว่าไม่มีใครรู้ตัวมันก็อดดีใจไม่ได้ว่าวิชาของมันที่คิดค้นขึ้นสามารถปิดกั้นการมาของมันได้ถึงขนาดนี้แต่อีกใจก็อดโกรธไม่ได้เพราะมันรู้ดีว่าถ้ามียอดฝีมือเช่นมันเข้ามาในพรรคแบบมันและมาด้วยเจตนาร้าย พวกลูกพรรคทั้งหมดคงได้ตกตายเป็นแน่แท้
“เฮฮะนี้นะเหรอ พรรคใหญ่ของยุทธภพที่มียอดฝีมืออันดับต้นๆ ข้าว่าพวกเจ้ากลับไปฝึกใหม่กันดีกว่าถ้ายังไม่อยากตกตายในภายภาคหน้า” เหยาหมิงเต๋อกล่าวพร้อมกับปรากฏกายให้ทุกคนในพรรคเห็น เมื่อบรรดาหัวหน้าสาขาต่างๆได้ยินดังนั้นต่างพูดจา นินทาผู้มาเยือนอย่างแผ่วเบาไม่มีใครกล้ากล่าววาจาออกมาตรงๆเพราะเกรงกลัวในฝีมือยุทธ์ของฝ่ายตรงข้าม แต่ก็มีเสียงดังมาจากหนึ่งในหัวหน้าสาขาว่า
“เจ้าเป็นใครกันที่กล้าบุกรุกพรรคลิขิตสวรรค์สงสัยคงอยากตายมากสินะ แถมยังพูดจาสามหาวอีก วันนี้ในปีหน้าจะเป็นวันครบรอบวันตายของเจ้าเป็นแน่แท้” ชายคนนั้นพูดกล่าววาจาจบก็ทะยายร่างพร้อมกับซัดฝ่ามือใส่เหยาหมิงเต๋อ แต่เหยาหมิงเต๋อหาได้หลบแต่อย่างใดกับยืนเฉยรอฝ่ามือซัดมาถึง ฝ่ามือของหัวหน้าสาขาคนนั้นพอซัดใกล้ถึงตัวเหยาหมิงเต๋อกลับมีเงาร่างลึกลับเข้ามาขวางและซัดฝ่ามืออกปะทะกับฝ่ามือของหัวหน้าสาขาจนเกิดเสียงดัง ปัง สิ้นเสียงหัวหน้าสาขาคนนั้นก็กระเด็นกลับหลังไปอย่างทุลักทุเลดีที่หัวหน้าสาขาคนอื่นๆช่วยรับร่างเอาไว้ไม่นั้นมีหวังชนกับฝาผนังตกตายเป็นแน่แท้ เงาร่างลึกลับก็คือจินเฉิงนั้นเอง เพราะมันรู้ดีว่าถ้าปล่อยให้หัวหน้าสาขาฝัดฝ่ามือใส่เหยาหมิงเต๋อฝ่ายที่บาดเจ็บหาใช่เหยาหมิงเต๋อไม่แต่กลับเป็นตัวผู้ซัดฝ่ามือเองต่างหาก มันเห็นดังนั้นจึงรีบทะยานร่างออกด้วยวิชาตัวเบาที่สองยอดยุทธ์สอนให้เองนั้นมารับฝ่ามือแทน
“ขออภัยนายท่านพวกมันมีตาหามีแววไม่ จึงได้คิดทำร้ายนายท่าน ว่าแต่นายท่านมีธุระสำคัญอันใดถึงกับลงจากเขามาหาข้าด้วยตนเองเช่นนี้” จินเฉิงกล่างพลางยกมือขึ้นมาประกบและก้มหัวคารวะเหยาหมิงเต๋อ บรรดาหัวหน้าสาขาได้ยินจินเฉิงกล่าวดังนั้นก็ถึงกับตกใจ รนรานทำตัวไม่ถูกเพราะพวกมันได้ยินข่าวลือมาเนิ่นนานเกี่ยวกับนายท่านและนายท่านใหญ่ที่เป็นเจ้าของพรรคและเป็นผู้สอนวรยุทธ์ให้แก่ประมุขของพวกมัน พวกมันต่างขบคิดไปมาว่าขนาดตัวประมุขเองก็มีวรยุทธ์เป็นหนึ่งในเก้ายอดยุทธ์แห่งยุคแล้วผู้ที่สอนวรยุทธ์ให้ประมุขพวกมันละจะมีฝีไม้ลายมือขนาดใหน
“พวกเจ้าไม่รู้ที่ต่ำที่สูงรึ ยังไม่รีบคารวะนายท่านอีก” จินหลงตวาดขึ้นเมื่อเห็นว่าบรรดาหัวหน้าสาขามัวแต่ตะลึงงงงันถกเถียงครุ่นคิดกันไม่ยอมแสดงความเคารพต่อเหยาหมิงเต๋อ บรรดาหัวสาขาเมื่อได้สติกลับคือก็รีบคารวะเหยาหมิงเต๋อเป็นการใหญ่
“เอาละไม่ต้องมากความข้าแค่จะมามอบหมายงานให้พวกเจ้าและเชิญพวกเจ้าไปกินเหล้ามงคลของลูกเรา”เหยาหมิงเต๋อกล่าวเมื่อเห็นท่าทางของบรรดาลูกพรรค
“นายท่านมีงานอันใดให้ข้าทำกัน โปรดสั่งมาได้เลยข้าจะทำสุดความสามารถ ส่วนเชิญพวกข้าไปกินเหล้ามงคลที่ว่าหมายถึง...”
เหยาหมิงเต๋อไม่รอให้จินเฉิงกล่าวจบก็ชิงกล่าวว่า “งานแต่งระหว่างลูกสาวเรากับลูกชายของจินเจิ้นเทียน ส่วนงานที่ข้าจะมอบหมายให้เจ้าทำคือหาสิ่งของที่ต้องใช้ในงานไปจัดงานแต่งให้ลูกสาวเรา” เมื่อบรรดาหัวหน้าสาขาได้ยินคำว่าลูกชายของจินเจิ้นเทียน ทุกคนก็ต่างตกใจและต่างครุ่นคิดกัน ตอนที่จอมมารท่องโลกาต่อสู้กับจอมยุทธ์หน้าหยกแดนใต้น่าจะตกตายไปทั้งสองแล้ว และตอนนั้น ทั้งสองก็ต่างยังไม่มีลูกมีเต้า ถ้าเป็นเช่นนี้แสดงว่าจอมมารท่องโลกายังไม่ตกตาย แล้วคนที่ยืนต่อหน้าพวกมันละเป็นใคร พวกมันต่างคนต่างครุ่นคิดว่าคนที่ยืนต่อหน้าเป็นใครพลันมีเสียงดังขึ้นจากปากหัวหน้าสาขาคนที่ถูกจินเฉิงซัดไส่ว่า
“ทาทาท่านคือจอมยุทธ์เหยา จอมเซียนแดนพิภพใช่หรือไม่”
“ฮ่าๆนับว่าเจ้าฉลาดอยู่มั่งที่สามารถเดาออกว่าข้าเป็นใคร” สิ้นเสียงของเหยาหมิงเต๋อ ยิ่งทำให้บรรดาหัวหน้าสาขาตะลึงเข้าไปอีกที่แท้ สองยอดยุทธ์แห่งยุคที่ทุกคนต่างเข้าใจว่าตกตายไปเมื่อ30ปีก่อนยังมีชีวิตอยู่แถมยังเป็นนายท่านของพวกมันและตอนนี้ลูกของพวกเขาทั้งสองยังจะมาแต่งงานกันอีกด้วย ทำให้พวกมันไม่รู้จะดีใจหรือแสดงออกยังไงดีที่อยู่ๆก็ได้เป็นถึงลูกพรรคของสองยอดยุทธ์
“เอาละที่ข้าลงจากป่าไผ่หลงทางมาที่สำนักก็มีเรื่องจะบอกกล่าวแค่นี้ ส่วนงานแต่งจะจัดขึ้นในอีก7วันพวกเจ้าต้องเตรียมการให้พร้อมอย่าให้มีอันใดขากตกบกพร่องส่วนแขกเรือก็ให้บรรดาหัวหน้าสาขาขึ้นไปได้เท่านั้นนอกนั้นไม่มีสิทธ์เข้าไป และอีกอย่างฐานะของข้าพวกเจ้าอย่าได้เปิดเผยให้ใครรู้นอกจากบรรดาหัวหน้าสาขาที่มาประชุมในวันนี้ถ้าข้ารู้ว่าใครเอ่ยวาจาออกไปมันผู้นั้นจะต้องตกตายทั้งครอบครัว” เหยาหมิงเต๋อกล่าววาจาจบก็จากไปในบันดล ไม่มีใครมองเห็นแม่แต่เงาก่อนจากไป แต่พวกมันก็หาแปลกใจแล้วไม่เพราะได้ล่วงรู้แล้วว่ามันคือหนึ่งในสองยอดยุทธ์ที่มีฝีมือเก่งกาจ พวกมันต่างหากที่กลับเปลี่ยนไปจากตอนแรกที่ต่างด่าทอเป็นลอบชื่นชมในใจ
ความคิดเห็น