คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 7 (50%)
Chapter
7
บาสเตียนโคลงศีรษะไปมาอย่างนึกขัน
เขาเดินไปเดินมาสองเที่ยวกว่าจะได้บรั่นดี แก้วเปล่า กับแกล้ม และขวดน้ำเปล่านำมาให้อัญนิกา
ขณะที่แม่บ้านที่ย่าส่งมาให้นั่งชันเข่าลุ้นฟุตบอลแมตช์สำคัญอยู่บนโซฟาตัวยาวทางด้านขวาอย่างสบายอารมณ์
มือซ้ายของเธอถือถุงมันฝรั่งทอด มือขวาหยิบใส่ปากหมุบหมับๆ
จ้องจอทีวีแทบไม่กะพริบตาราวกับมีความสุขอยู่คนเดียวในโลก
เขารินบรั่นดีครึ่งแก้วประคองอยู่ในมือ เอนหลังพิงโซฟาตัวใหญ่หันหน้าเข้าหาทีวี
ยกเท้าเปลือยพาดไว้มุมหนึ่งบนโต๊ะกลาง
“ดื่มน้ำบ้างนะ
พิ้งกี้ กินอัดๆ เข้าไป เดี๋ยวมันฝรั่งติดคอตาย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
หญิงสาวพูดไม่มองหน้าราวกับว่าเธอไม่อยากพลาดเวลาสำคัญบนจอทีวีสักวินาทีเดียว
บาสเตียนเริ่มหงุดหงิดที่ต้องคอยหาจังหวะชวนคุยได้เฉพาะช่วงที่ทีวีตัดเข้าโฆษณา
ถ้าเป็นช่วงฟุตบอลกำลังเล่น เธอจะไม่แม้แต่ชายตามองเขา
นี่เป็นเพราะเขาเป็นฝ่ายง้อใช่ไหม เธอถึงเล่นตัวแบบนี้
จากความหงุดหงิดเริ่มเปลี่ยนเป็นรำคาญเสียงเชียร์ที่เฮลั่นเวลาทีมบาเยิร์น มิวนิก
ซึ่งเป็นทีมขวัญใจของเธอมีลุ้นหรือทำประตูได้ เขานั่งดื่มและดูบอลเงียบๆ
จึงเหมือนเป็นส่วนเกิน
“อุ๊ย
ขอโทษค่ะ” อัญนิกาหันมายิ้มแหยๆ ตอนนั้นหมดเวลาครึ่งแรกแล้ว เธอเพิ่งรู้ตัวว่าหิวน้ำจนคอแห้ง
เอื้อมมือมาจะหยิบขวดน้ำโดยไม่ทันมอง จึงคว้าปลายเท้าเปลือยของเขาเต็มๆ
อาจจะแค่หนึ่งวินาทีแต่การสปาร์กเกิดขึ้นสมบูรณ์อย่างไม่น่าเชื่อ
สายตาเขาที่มองเธอราวกับสิ่งที่เธอสัมผัสก่อนหน้านี้ไม่ใช่ปลายเท้า แต่เป็นอะไรสักอย่างในร่างกายที่ทำให้เขาตื่นตัว
ความร้อนจากกายเขาพุ่งวาบจากปลายเท้ามาสู่มือเธอจึงต้องรีบหดกลับไป
“เธอต้องการน้ำใช่ไหม”
บาสเตียนหยิบขวดน้ำขึ้นมาเปิดฝา จากนั้นแทนที่จะเอื้อมมือส่งให้
แต่เขากลับถือติดมือเดินมานั่งบนโซฟาตัวเดียวกับเธอ
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวรับขวดน้ำยกขึ้นดื่ม พลางขยับห่างไปนิดหนึ่ง
“คุณจะนอนดูหรือคะ
ฉันจะได้ย้ายไปนั่งเก้าอี้ด้านโน้น
เธอปิดฝาขวดน้ำเอื้อมไปวางบนโต๊ะกลางพร้อมถุงมันฝรั่งทอดที่เหลือ
จะสละโซฟาตัวยาวให้บาสเตียน เผื่อเขาอยากนอนดูสบายๆ แล้วอาจจะอยากหลับไปเลย
เพราะทีมที่แข่งขันกันอยู่ไม่ใช่ทีมโปรดของเขา แต่เขาดึงแขนเธอไว้
“ฉันไม่นอนหรอก
แค่อยากมานั่งด้วย สี่สิบห้านาที ที่ผ่านมาเธอแทบไม่คุยกับฉันเลย”
ลมหายใจของเธอติดขัดขึ้นในบัดดล
อัญนิกาหายใจแผ่วๆ มองมือเขาบนแขนเธอแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาสีฟ้ากระจ่างที่เธออยากอ่านออกว่าตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่
“คุณคิดจะทำอะไรคะบาสเตียน”
เขายิ้ม
ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายปล่อยมือจากแขนเรียวเมื่อเธอเริ่มผ่อนคลาย “เปล่า
แค่อยากอยู่ใกล้ๆ ฉันกำลังง้อเธออยู่นะ เรื่องเกรซน่ะ”
“เกรซ
คุณยอมเรียกชื่อมันแล้ว” อัญนิกายิ้มกว้างตาโตสุกใส
คิดไปไกลว่าบาสเตียนคงอนุญาตให้มันอยู่ถาวรแล้ว
“ใช่
ฉันเรียกชื่อมัน แต่อย่าเหมารวมว่าฉันจะให้มันอยู่ตลอดไปนะ”
เขารีบพูดดักคอ
“เฮอะ”
เธอย่นจมูกใส่เขาแล้วลุกพรวดขึ้นโดยที่เขาไม่ทันระวัง
“แต่ถ้าเธอช่วยนวดจนฉันหายเมื่อย
ฉันอาจจะหากรงมาให้มัน และให้อยู่ต่อไปได้สักพัก”
“คุณพูดจริงหรือคะ”
หญิงสาวถามเริ่มมีความหวัง
“ฉันไม่เคยโกหก”
“ได้ค่ะ
ว่าแต่นวดส่วนไหนของร่างกาย คุณต้องบอกมาให้ชัดเจน ฉันไม่อยากหลงกลคุณอีกแล้ว”
“นวดน่อง”
“โอเค
เพื่อเกรซ ฉันจะนวดน่องให้ คุณนอนลงเลยค่ะ” อัญนิกายอมรับเงื่อนไข
“บอลเธอจะมาแล้วนะ
รอให้บอลจบก่อนก็ได้” เขาบอกยิ้มๆ อย่างใจดี
“ไม่เป็นไรค่ะ
ฉันนวดไปดูไปก็ได้”
หญิงสาวนั่งคุกเข่าบนพื้นพรมข้างโซฟา
บาสเตียนดึงหมอนอิงสองใบมาหนุนศีรษะนอนคว่ำหน้าอย่างที่เธอจัดท่าให้เขานอน ก้นเขาโด่งสวย
สะโพกสอบ ต้นขาแข็งตึงแน่นอยู่ในกางเกงขายาวผ้าฝ้ายเป็นภาพที่น่ามอง หญิงสาวยิ้มให้กับความคิดซุกซนของตนเอง
“ออกแรงอีกนิดสิ
นวดแรงๆ ฉันไม่เจ็บหรอก” บาสเตียนพึมพำกำกับการนวดอยากให้เป็นอย่างที่เขาต้องการ เมื่อเธอเริ่มวางมือเบาเหมือนนุ่นลงบนน่องของเขาแล้วขยำเบาๆ
“ฉันก็ออกแรงเต็มที่แล้วนะคะ”
หญิงสาวเพิ่มแรงกดบนฝ่ามืออีกบาสเตียนแทบไม่รู้สึก แต่สำหรับเธอนั่นคือการออกแรงเต็มที่แล้ว
น่องของเขากับมือเล็กๆ ของเธอเมื่อนำมาเปรียบเทียบกันไม่ต่างจากช้างกับคน
“เธอนวดเป็นหรือเปล่า”
เขาผงกศีรษะพ้นหมอนหน้าหันมาถาม
“ก็ไอ้ที่กำๆ
ขยำๆ อยู่ไม่เรียกว่านวดหรือคะ มือฉันแดงหมดแล้วนะ”
เธอกางสิบนิ้วให้เขาดูอย่างนึกโมโหคนเรื่องมาก
ที่ทำให้เธอเสียสมาธิในการดูฟุตบอล
“ถ้าแรงมีแค่นี้สมควรต้องไปนวดอันอื่น
ที่มีขนาดเล็กกว่าให้ความรู้สึกดีกว่า”
“อันอื่น
อะไรคะ?”
อัญนิกาทำตาโต
“แขน
หรือเธอคิดว่าอย่างอื่นล่ะ” บาสเตียนหัวเราะหึๆ
“นี่แน่ะ”
เธอฟาดบั้นท้ายหนั่นแน่นของเขาไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้
บาสเตียนหัวเราะจนตัวงอขณะที่พลิกตัวลงมานั่งคุกเข่ากับพื้น
“ขึ้นไปนอนสิ ฉันจะสาธิตการนวดที่ถูกต้องให้ดู”
“คุณนี่เรื่องมากจริงๆ
เลยนะ” อัญนิกาต้องยอมจำนนเสียอย่างไม่ได้เพราะอยากจะดูฟุตบอล คว้าหมอนไปวางปลายโซฟาอีกด้านหนึ่งแล้วนอนคว่ำลงไปนอนดูฟุตบอลอย่างไม่ว่อกแว่ก
นาทีนี้เขาอยากจะทำอะไรเธอไม่อยากขัด
ทว่าพอเขาเริ่มนวด
สมาธิของเธอกลับมาจดจ่ออยู่จุดที่ความร้อนจากอุ้งมือที่แผ่ซึมทะลุเนื้อผ้าไปถึงผิวกาย
พุ่งตรงไปยังหัวใจของเธอ ฝ่ามือของเขาควบคุมระบบการทำงานของร่างกายเธอ
หญิงสาวหายใจเข้าออกจังหวะเดียวกับฝ่ามือเขาที่บีบและคลายออก เธอเผลอครางชิดหมอน
เมื่อฝ่ามือเขาเลื่อนขึ้นไปนวดคลึง บีบขยำก้นงอนสวยก่อนเธอจะทันรู้ตัว
แล้วพอพลิกตัวกลับเพื่อจะห้าม เขากลับอุ้มเธอขึ้นเปลี่ยนทิศทางหันปลายเท้าไปทางจอทีวี
เมื่อวางเธอนอนหงายลงไปพร้อมทั้งย้ายหมอนตามมา เขาก็ขึ้นมานอนแทรกอยู่ด้านใน สอดแขนข้างหนึ่งไว้ใต้ศีรษะของเธอเพื่อมองดูทีวีได้สบายๆ
รั้งหลังเธอเข้าไปสู่อ้อมแขนที่โอบรัดร่างเธอไว้หลวมๆ
“บาสเตียน
คุณทำแบบนี้ทำไมคะ” หญิงสาวพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้เขา
“อย่าดิ้นสิ
เดี๋ยวตกลงไปไม่รู้นะ”
“คุณขึ้นมานอนเบียด
นอนกอดฉันทำไมคะ ลงไปนะ”
“ชู่ว...”
เขายกนิ้วแตะริมฝีปาก “แค่กอด ฉันอยากกอดเธอแล้วนอนดูฟุตบอลด้วยกัน แต่ถ้าเธอยังไม่หยุดดิ้นมันจะไม่หยุดอยู่แค่นี้นะ
เตือนไว้ก่อน อย่าทำให้น้องชายฉันตื่น เดี๋ยวเธอจะเดือดร้อน”
“แล้วคุณคิดว่าตอนนี้น้องชายคุณมันหลับอยู่หรือยังไง”
อัญนิกาเม้มริมฝีปากสยบอาการบางอย่างในร่างกายตน เมื่อน้องชายที่เขาบอกเบียดเสียดอยู่ที่บั้นท้ายของเธอ
คนบ้า มันหลับที่ไหนกันล่ะ มันตื่นเหยียดขยายมากขึ้นๆ ออกอย่างนั้น
“ก็ถ้าเธออยู่เฉยๆ
ไม่ดิ้น เดี๋ยวมันก็หลับ” เขาพูดหน้าตาเฉย
“ฉันอึดอัด”
“เดี๋ยวก็หาย
ต่อจากนั้นจะมีแต่ความอบอุ่น”
“ฉันไม่ต้องการความอบอุ่น
ฉันอยากดูฟุตบอล”
“ก็ดูไปสิ
ฉันนอนกอดเฉยๆ ไม่ได้ปิดตาเธอสักหน่อย”
“ฮึ่ย...
ฉันจะทำยังไงกับคุณดีเนี่ย” หญิงสาวพูดเสียงขึ้นจมูกอย่างขัดใจ ฟุตบอลกำลังสนุกแต่เธอต้องนอนตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมแขนของคนที่นอนซ้อนอยู่ด้านหลัง
ขาดอรรถรสในการเชียร์อย่างแรง บ้าชะมัด เขาเห็นเธอเป็นหมอนข้างหรือไงนะ
นึกจะดึงมากอดก่ายเมื่อไรก็ได้
แย่หน่อยที่เธอเป็นหมอนข้างมีชีวิตและเธอก็ไม่ได้ไร้ความรู้สึกสักหน่อย
อีตาบ้าเอ๊ย
ผ่านไปพักหนึ่งลมหายใจอุ่นของเขาที่พ่นรดต้นคอเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
และขาข้างหนึ่งของเขาที่ก่ายทับขาเธอไว้ รวมทั้งแขนที่พาดอยู่เหนือเอวของเธอเริ่มผ่อนคลายไม่กอดรัด
น้องชายของเขาสงบนิ่งลดการดุนดัน เขาหลับไปแล้ว ทิ้งเรือนกายอบอุ่นและกลิ่นกายที่ทำให้เธอร้อนด้วยความปรารถนา
อัญนิกาต้องอาศัยพลังทั้งหมดที่จะไม่พลิกตัวกลับไปซุกหน้าลงบนผิวเนื้อหอมด้วยกลิ่นรัญจวนเร้าใจของเขา
การกระทำของเขาในลักษณะนี้ทำให้เธอเคลิ้มฝัน รู้สึกว่าตนเป็นที่ต้องการ
รู้สึกอบอุ่นปลอดภัย และรู้สึกปรารถนาเขาอย่างยิ่งยวด
น่าแปลกใจเธอไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
เมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าเธอกับเขาแทบเหมือนคนแปลกหน้า บาสเตียนเป็นคนแข็งแกร่ง
ชอบออกคำสั่ง แต่บางครั้งเขาก็ยอมอ่อนข้อให้เธอ ทำให้เธอยิ้มและร้องไห้ได้ในเวลาเดียวกัน
ทำให้หัวใจเธอพลิกตลบวุ่นวาย
เธอมองมือของบาสเตียนที่พาดอยู่เหนือเอวคอดกิ่ว
มือเขาสวย นิ้วยาวและเรียวงาม
แม้ในยามที่เจ้าของมือหลับใหลผ่อนคลายก็ไม่อาจปฏิเสธความทรงพลังของมันได้
มันแสนเจ้าเล่ห์และซุกซนนักเมื่ออยู่บนร่างกายเธอ
อัญนิกาต้องเลิกสนใจเขา
เพ่งสมาธิอยู่ที่จอทีวีในช่วงทดเวลาการแข่งขันห้านาทีสุดท้าย ขณะนี้บาเยิร์น
มิวนิกนำคู่แข่งอยู่สามประตูต่อหนึ่ง
และแล้วเกิทเซ่ขวัญใจของเธอกำลังจะยิงประตูเพิ่ม หญิงสาวลุ้นตัวเกร็ง กลั้นลมหายใจ
พึ่บ!
จอทีวีดับสนิท
“เฮ้
บาสเตียน คุณจะบ้าหรือไงเนี่ย” อัญนิกาตาลุกวาว พลิกขึ้นไปบนตัวเขา
สอดมือลงไปเพื่อควานหารีโมตที่เขาซุกไว้ใต้ลำตัว บาสเตียนคำรามเบาๆ ขณะที่ร่างอ้อนแอ้นของผู้หญิง
เบียดชิดกล้ามเนื้อทุกมัดของเขาเพียงเพื่อจะหารีโมตทีวีเท่านั้น
เขาพยายามผลักเธอออก
แต่อัญนิกาเพ่งความสนใจไปที่การควานมือลงไปใต้ลำตัวเขาเท่านั้น มันทำให้เขาหัวเราะ
“ฉันรู้แล้วว่าเธอชอบบอล
แต่ไม่รู้ว่าจะคลั่งขนาดนี้”
“ไม่ต้องพูดมาก
เอารีโมตคืนมาเดี๋ยวนี้นะ” เธอสอดมือลึกเข้าไปถึงก้นเขา
แต่ยังหาไม่เจอทำให้ยิ่งหงุดหงิด
“อยู่ในกระเป๋ากางเกง
ถ้าเธอกล้าลวง”
“ฉันกล้าแน่นอน”
เธอพูดขึงขัง และก่อนเธอจะล้วงจริง เขาขยับตัวอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียวก็พลิกตัวเธอลงนอนหงาย
แล้วเขาก็ขึ้นทาบทับตรึงมือทั้งสองของเธอไว้เหนือศีรษะ
เรือนผมดำขลับลุ่ยมาปรกใบหน้า ทรวงอกผลิพุ่งเสื้อที่สวมใส่
น่องเรียวพันเกี่ยวอยู่กับขาของเขาอย่างไม่ยอมแพ้ ต้นขาอวบแยกน้อยๆ
บาสเตียนกำลังตกที่นั่งลำบากแล้ว
“เธอนี่ทำอะไรได้ทุกอย่างเลยใช่ไหม
เพียงเพราะอยากจะดูเจ้าเกิทเซ่”
“ฉันอยากดูบอลแล้วมันผิดตรงไหนที่เกิทเซ่เล่นเก่ง
และฉันก็ชื่นชมเขา เอารีโมตคืนมานะ” อัญนิกาแยกเขี้ยวใส่เขาพลางดิ้นขยุกขยิก
“อย่าดิ้นสิ”
บาสเตียนกลั้นสบถ บีบข้อมือเธอไว้ ความร้อนตรงหว่างขาของเขาพุ่งตรงสู่สมองเหมือนไอน้ำพวยพุ่งจากกาต้มน้ำกำลังเดือด
เขาอยากเปลือยกายเธอกับเขาบนโซฟา อยากคลุกเคล้าเกลือกร่างเข้ากับเธอในตอนนี้เลย
แต่ดูเธอสิ ทำเหมือนกำลังเล่นอยู่กับพี่ชายหรือเพื่อนชายกวนโมโห บ้าชะมัดเธอ
ทำให้เขาเกิดความต้องการเธอยังไม่รู้ตัวอีก
“เอารีโมตคืนมา
ถ้าบอลจบก่อนฉันฆ่าคุณแน่” หญิงสาวพูดเค้นเสียง
“โอเคๆ
ฉันยอมแพ้ เธอจะลงไปจากตัวฉันได้หรือยัง”
อัญนิกาเพิ่งรู้สึกว่าผู้ชายที่เธอทิ้งตัวทาบทับลงไปกำลังเกร็งแน่นไปทั้งตัว
เธออ้าปากจะพูดคำเผ็ดร้อนเรื่องการพันธนาการครั้งนี้ แต่ต้องชะงัก
เธอสบตาเขาแล้วสูดลมหายใจเข้าอย่างช้าๆ
คุณพระช่วย
เธอเพิ่งตระหนักว่าเธอนอนอยู่กลางหว่างขาที่แยกออกของเขา
สะโพกกลมกลึงของเธอบดเบียดสะโพกสอบของเขา
หน้าอกเธอยกสูงขึ้นเพราะเธอดันหัวไหล่หนาของเขาไว้
ดวงตาสีฟ้าของบาสเตียนร้อนระอุด้วยไฟพิศวาสขณะที่สบตาเธอ
นี่ไม่ใช่การล้อเล่นของเพื่อนหรือเจ้านาย
แต่เป็นความต้องการของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิง
“ฉะ...
ฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้” เสียงอัญนิกาแหบพร่าและลังเล
พลังทางเพศหมุนวนอยู่ในหัวของเธอเหมือนพายุที่พัดเร็วขึ้นและแรงขึ้น
ยอดอกชูชันเบียดชิดเนื้อผ้าด้วยความรู้สึกเรียกร้อง อยากให้มันเข้าไปอยู่ในปากเร่าร้อนของเขาเหมือนภาพยนตร์บางเรื่องที่เคยดูมา
บ้าจริง เธอเกิดเพี้ยนอะไรขึ้นมา ลงไปสิ
ลงไปจากกายแข็งแกร่งรุ่มร้อนแสนอันตรายของเขาเดี๋ยวนี้อัญนิกา
ก่อนที่ร่างเธอจะหลอมละลายกลายเป็นวุ้น
บรรยากาศตึงเครียดระหว่างทั้งสองคน
อัญนิกาขยับพลิกตัวลงจากร่างกายแกร่ง ทว่าภายในเสี้ยววินาทีบาสเตียนกลับพลิกตัวขึ้นมานอนคว่ำทาบทับร่างบอบบางไว้อย่างรวดเร็ว
เขากวาดตามองทั่วใบหน้างาม เนินอกขาวผ่องที่พอเห็นได้จากสาบเสื้อคลุมที่แบะกว้างออกแล้วก้มหน้าลงมา
ลมหายใจของเขาลูบไล้เรียวปากนุ่มขณะเขาพูดชิดริมฝีปากเธอ
“เธอไม่ควรทำให้ฉันตื่นเลย
พิ้งกี้”
เรื่องของฟุตบอลถูกแตะกระเด็นกระดอน
เวลานี้สมองของอัญนิกาพร่าเลือน
อยู่ระหว่างสีดำกับสีขาวก่อนจะมันจะเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน
เมื่อลิ้นของเขาสอดแทรกเข้ามาในปากเธออย่างรวดเร็ว และเรียกร้องความสุขที่แล่นเป็นระลอกคลื่นไปทั่วร่าง
เธอเปิดปากรับเขามากขึ้นขณะที่เสียงครางเบาๆ ดังออกมาจากลำคอ
ลิ้นของเธอตอบสนองทุกจังหวะการรุกรานของเขา ดื่มด่ำกับรสชาติความหิวโหยและ
บรั่นดีในปากของเขา เธอหยัดสะโพกขึ้นหาร่างแข็งแกร่งพลางถูไถทรวงอกกับแผงอกกว้าง
อัญนิกาควบคุมตัวเองไม่อยู่ ความรู้สึกแอบชอบที่ซ่อนเร้นมานานหลายปีถูกแทนที่ด้วยรสชาติ
ความรู้สึกและกลิ่นอายของบาสเตียน
อย่าพลาด
|
ความคิดเห็น