คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : สถานการณ์ของทุกฝ่าย
ตอนที่ 3 – สถานการณ์ของทุกฝ่าย
เทพแห่งเอลีอัส เทพแห่งช่างฝีมือ เฮย์บอสบรรยาย
“เจ้าเป็นเทพแห่งช่างฝีมือไม่ใช่เหรอเฮย์บอส!!”
เสียงโกรธเกรี้ยวดังก้องไปทั่วห้อง
นี่คือบ้านของข้าสถานที่ที่เต็มไปด้วยความมืดมนและมัวหมองซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับเทพเยี่ยงข้าที่ไม่ได้มีหน้าตาที่หล่อเหลาเหมือนเทพคนอื่นในเอลีอัส
ทำให้เทพคนอื่นมักจะไม่มาสถานที่มืดมนเช่นนี้ แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นข้อยกเว้น
ทันทีที่ข้าก้าวย่างออกจากบ้านก็ได้พบกับแขกที่หาได้ยาก ไม่เชื่อว่าเทพธิดาผู้งดงามที่สุดในเอลีลัสจะมายังสถานที่อันมัวหมองเช่นนี้
“มีธุระอันใดงั้นรึเทพธิดาแห่งปัญญาและชัยชนะเรน่า การที่ท่ามายังที่แห่งนี้โดยไม่มีผู้ส่งสารมาบอกข้ามันช่างผิดปกติ”
นี่ก็ผ่านมานานแล้วตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ข้าได้พบนาง ปกติแล้วเมื่อมีเรื่องที่สำคัญเธอมักจะให้ผู้ส่งสารส่งข้อความมาบอกข้าก่อนที่จะมาทุกครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดที่ข้าได้รับจดหมายจากเธอก็คือคำขอให้ข้าสร้างอุปกรณ์สำหรับการอัญเชิญผู้กล้า
ซึ่งเธอขอให้ข้าทำผ่านจดหมาย แต่ครั้งนี้เธอกลับมาหาข้าด้วยตัวเอง
“อย่ามาแกล้งไขสือ!!”
เรน่าเงยหน้าขึ้นพูดคุยกับข้าเพราะความต่างของส่วนสูง ใบหน้าของเธอแดงก่ำเพราะความโกรธ
“เฮย์บอสเจ้าสินะที่บอกถึงวิธีอัญเชิญให้กับราชาปีศาจโมเดสน่ะ!!?”
“ใช่แล้ว ข้าเป็นคนบอกเอง”
ไม่มีเหตุผลอันใดที่ข้าจะต้องปกปิดโมเดสผู้เป็นสหายเพียงคนเดียวของข้า ในเมื่อเขาได้ร้องขอความช่วยเหลือมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่สกายอย่างข้าจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
ข้าตอบเรน่าตาความจริง นั่นยิ่งทำให้เธออารมณ์เสียงมากยิ่งกว่าเดิม
“แต่โมเดสมันเป็นกบฏต่อเทพเจ้า! เจ้านั่นมันเป็นศัตรูของเอลีอีสนะ!!”
เรื่องนั้นข้าไม่รู้ด้วยซะหน่อย เพราะข้าพึ่งจะรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าโมเดสได้ถูกขับไล่ออกจาเอลีอัสไปแล้วเป็นเพราะข้าไม่ค่อยออกจากบ้านด้วยทำให้ข้ารับข่าวสารได้ข้ากว่าคนอื่นๆ
เหตุผลที่ถูกขับไล่เหมือนจะเป็นเพราะโมเดสได้ไปทำเรื่องไม่ดีไม่งามกับนางฟ้าและเทพธิดาที่อยู่ใต้อาณัติขอเรน่าเข้า
เหอะ! เหมือนว่าข้าจะเชื่อ โมเดสที่ข้ารู้จักไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ ถึงรูปลักษณ์ของหมอนั่นจะดูอัปลักษณ์เมื่อเทียบกับเทพคนอื่นในเอลีอัส แต่จิตใจของหมอนั่นน่ะสูงส่งกว่าเทพหลายคนที่นี่ซะอีก
แต่เหตุผลที่เรน่าต้องทำสงครามกับโมเดสนั้นก็เป็นเพราะเจ้านั้นได้สร้างร่างโครนของเธอขึ้นมา ดังนั้นช่วยไม่ได้ที่เธอจะโกรธเพราะตัวเธอ(โคลนนิ่ง)คงโดนปูยี้ปูยำไปแล้ว และเพราะร่างโคลนนั้นได้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ส่วนหนึ่งของร่างกายร่างต้นแบบที่ต้องการโคลนทำให้บ้างครั้งร่างต้นจะเห็นสิ่งที่ร่างโคลนกำลังทำหรือถูกกระทำ
เห็นได้ชัดเลยว่าเรื่องนี้โมเดสเป็นฝ่ายผิด แต่ข้าก็เข้าใจเหตุผลที่เจ้านั้นทำเพราะเจ้านั่นก็เหมือนกับข้าเป็นคนที่มีหน้าตาอัปลักษณ์ เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องการมีสาวงามมาไว้ข้างกาย
แต่ความผิดของข้าก็ไม่น้อยไปกว่าเขาหรอกเพราะข้าได้ช่วยเขาทำอุปกรณ์สำหรับอัญเชิญไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นแม้โมเดสจะกลายเป็นศัตรูของเอลีอัสไปแล้วแต่ก็ใช่ว่าข้าจะต้องเป็นศัตรูไปด้วย
แถมเจ้านั่นยังแข็งแกร่งกว่าเทพทุกคนที่อยู่ในเอลีอัสคงมีเพียงแค่เทพโอดินคนเดียวที่สามารถทำอะไรเขาได้ ในเมื่อตอนนี้ราชาแห่งเทพไม่มีการเคลื่อนไหวเทพคนอื่นก็ทำอะไรเขาไม่ได้ และเพราะโมเดสไม่ได้อยู่ที่เอลีอัสแล้วถึงเป็นเทพโอดินก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้
และที่สำคัญโมเดสก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเข้ามาโจมตีเอลีอัสแต่เป็นฝ่ายเรน่าที่โจมตีโมเดสทำให้เทพคนอื่นไม่สามารถช่วยเธอได้ เรน่าจึงได้ตัดสินใจอัญเชิญผู้กล้ามาเพื่อเพิ่มกำลังรบของเธอ
“เรื่องงี่เง่าพรรค์นั้น”
“แล้วเจ้าจะทำยังไงล่ะเรน่า จะสังหารข้าเฮย์บอสผู้นี้งั้นรึ?”
เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะสังหารข้าหลังจากทุกอย่างที่ข้าได้ทำไปทั้งหมด และเธอยังแข็งแกร่งหว่าข้าการสังหารข้าสำหรับเธอแล้วคงง่ายเสียยิ่งกว่าการหักคอของเด็กทารกเสียอีก
“ข้าไม่สังหารเจ้าหรอก... เพราะเจ้าเป็นช่างฝีมือที่จำเป็นของเอลีอัส”
เรน่าพูดด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบ แต่ทันใดนั้นจิตสังหารอันมากล้นก็ถูกปล่อยออกมาจากตัวของเธอ
“แต่ขืนเจ้ายังช่วยเหลือโมเดสอีกข้าจะไม่ให้โอกาสเจ้าอีกเป็นครั้งที่สอง... นี่ถือเป็นการเตือนครั้งแรกเฮย์บอสเทพแห่งช่างฝีมือ”
พูดจบเรน่าก็กำลังจะเดินกลับแต่ข้าก็ได้รั้งเธอเอาไว้เสียก่อน
“จะว่าไปเรน่าข้าขอถามเจ้าอะไรสักข้อได้หรือไม่?”
“อะไรล่ะเฮย์บอส?”
“หลังจากที่พวกผู้กล้าที่แข็งแกร่งขนากนั้นแพ้ให้กับโมเดส ข้าสงสัยว่าเจ้าจะทำอะไรต่อไปกับเหล่าผู้กล้า?”
แม้ข้าจะไม่เคยพบเจอกับผู้กล้าแต่ข้าเคยได้ยินมาว่าพวกเขามีพลังเทพเท่าเทพ ดังนั้นการที่ปล่อยให้พวกเขาทำอะไรตามอำเภอใจคงอันตราย
“สิ่งที่มาจากที่อื่นก็ต้องกลับไปที่เดิมที่จากมาเป็นเรื่องปกติใช่มั้ยล่ะ?”
ข้าเอียงหัวด้วยความสับสน เพราะศาสตร์การอัญเชิญข้ามโลกนั้นเป็นเรื่องง่ายที่จะเรียกมา แต่การที่จะส่งสิ่งที่เรียกมากกลับไปยังที่เดิมนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
เพราะหากโชคร้ายพวกเขาอาจจะติดอยู่ในช่องว่างระหว่างสองโลกก็เป็นได้เพราะโอกาสที่การอัญเชิญย้อนกลับจะประสบความสำเร็จนั้นมีน้อยเสียยิ่งกว่าหนึ่งในพันล้าน
ซึ่งในความคิดของข้าเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะกลับไปยังโลกเดิมที่จากมาได้
“เดิมที่พวกเขาก็มาจากโลกอื่น เมื่อทุกสิ่งได้จบลงแล้วข้าก็แค่ส่งพวกเขากลับไปก็แค่นั้น”
ซึ่งข้าสามารถเข้าใจในสิ่งที่เรน่าต้องการจะสื่อได้อย่างรวดเร็ว เธอได้วางแผนทุกอย่างเอาไว้หมดแล้วตราบได้ที่พวกเขาไม่ได้อยู่ในโลกนี้ก็ไม่เป็นปัญหา ซึ่งนั้นก็หมายถึงการที่พวกเขาติดอยู่ระหว่างช่องว่างสองโลก
ช่างเป็นเทพที่ไม่เหมาะสมกับฉายาเสียจริง ถึงผู้กล้าของฝั่งโมเดสก็ถูกอัญเชิญมากเพื่อเป็นเครื่องมือเหมือนกัน แต่โมเดสก็ไม่ได้ที่จะโหดร้ายถึงขนาดนั้น
“หากเจ้าไม่มีคำถามแล้วข้าขอตัว”
ข้ามองเรน่าที่กำลังเดินออกไปจากบ้านก่อนที่ข้าจะเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้และหยิบจดหมายขึ้นมาอ่าน ซึ่งจดหมายฉบับนี้คนที่ส่งมาก็คือโมเดส
ซึ่งเนื้อหาที่เขียนไว้ก็ไม่มีอะไรมากเป็นแค่คำขอบคุณที่ข้าช่วยสร้างอุปกรณ์อัญเชิญให้เขา ซึ่งเขาก็มักจะเขียนจดหมายแบบนี้ส่งให้กับทุกคนที่ช่วยเหลือเขา
“ช่างเป็นเพื่อนที่ชื่อตรงเสียจริง”
ข้าเผลอยิ้มออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ถึงจะอยู่ห่างไกลกันแต่พวกเราก็ยังคงเป็นสหายเช่นเดิม
ภายในจดหมายที่ส่งมาได้เขียนถึงผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมาด้วย ข้าเองถ้ามีโอกาสก็อยากที่จะไปขอบคุณผู้กล้าคนนั้นเช่นกัน เพราะหากผู้กล้าคนนั้นไม่ยอมช่วยโมเดสล่ะก็ข้าคงได้เสียสหายเพียงคนเดียวไป ต้องขอบคุณจริงๆ
เพราะเหล่าเทพแห่งเอลีอัสนั้นได้เป็นพยานถึงพลังของเหล่าผู้กล้าแล้วจึงได้ตัดสินใจปิดผนึกศาสตร์การอัญเชิญไว้อย่างถาวร
ดังนั้นเรน่าคงจะใช้การอัญเชิญไม่ได้อีกเป็นครั้งที่สอง นอกจากนี้การอัญเชิญก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะการอัญเชิญแต่ละครั้งจะต้องใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาหลายตัวแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับดินแดนเทพอย่างเอลีอัส ต่างจากนากอลที่การรวบรวมตัวเร่งปฏิกิริยาแทบจะเป็นไปไม่ได้
อัศวินดำไดร์ฮาร์ด
ผู้กล้าของโมเดสที่สามารถที่จะเอาชนะผู้กล้าทั้ง5ของเรน่าได้
การที่จะเอาชนะโมเดสจึงเป็นเรื่องยากเพราะมีชายที่ชื่อว่าไดร์ฮาร์ด ทำให้ตอนนี้เรน่าไม่สามารถปฏิบัติต่อเหล่าผู้กล้าเป็นเหมือนเครื่องมือได้อีกต่อไป เพราะพลังของพวกเขาเป็นสิ่งที่จำเป็น
“ข้าชักอยากรู้แล้วสิว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะเกิดอะไรขึ้น”
ภรรยาของราชาปีศาจโมเดส โมน่าบรรยาย
“หายากนะขอรับที่ท่านโมน่าจะมาเยือนที่นี่”
ทันทีที่ฉันเดินเข้ามาในห้องแห่งหนึ่งในปราสาทของโมเดสผู้เป็นสามี ชายแก่ผู้เป็นเจ้าของห้องก็ได้เอ่ยทักทายฉัน
เขาก้มหัวเคารพฉัน แม้ว่าภายนอกเขาจะดูคล้ายมนุษย์แต่บนหัวของเขานั้นมีเขาเหมือนกับรันฟิว
ชื่อของเขาก็คือรูคัสครั่งหนึ่งเขาเคยเป็นเทพที่ถูกเรียกว่าเทพแห่งความรอบรู้แห่งเอลีอัสเช่นเดียวกับโมเดสสุดที่รักของฉัน ซึ่งเขาได้ตามสามีของฉันที่ได้ถูกเนรเทศออกมาจากเอลีอัสมาด้วยและขอเป็นลูกน้องของสามีของฉัน
“ท่านมากาข้าด้วยตัวเองช่วยเป็นสิ่งที่พบเห็นยากยิ่ง การที่ท่านมากาข้าในครั้งนี้มีธรุอันใดนั้นเหรอครับ?”
“เกี่ยวกับท่านคุโร- ไม่สิ เจ้าคิดยังไงกับท่านลอร์ดไดร์ฮาร์ดงั้นหรอ?”
“ลอร์ดไดร์ฮาร์ดงั้นหรอครับ?”
รูคัสเอียงหัวด้วยความสงสัย เพราะเขาไม่รู้ว่าฉันต้องการที่จะสื่ออันใด
“ถ้าถามข้า ข้าคิดว่าเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมากถึงขนาดเอาชนะผู้กล้าได้ เขาถือว่าเป็นบุคคลสำคัญของพวกเราครับ”
“แค่นั้นเองรึ”
“???”
“รูคัสเจ้าเป็นคนเก่าคนแก่น่าจะเข้าใจสิ่งที่ข้าต้องการสื่อ ผู้กล้าเป็นคนที่มาจากต่างโลกและลอร์ดไดร์ฮาร์ดเองก็เช่นกัน”
“!!”
รูคัสแสดงสีหน้าประหลาดใจก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนเป็นจริงจัง
“อย่าบอกนะว่า...ท่าคิดว่าท่านลอร์ดไดร์ฮาร์ด...”
“ใช่ มีความเป็นไปได้ว่าท่านไดร์ฮาร์ดเองก็เป็นผู้กล้าคนหนึ่ง และพวกเราต้องกำจัดภัยคุกคามที่เป็นอันตรายต่อท่านโมเดส”
เพราะว่าลอร์ดไดร์ฮาร์ดเป็นคนจากต่างโลกและยังไม่มีความภักดีต่อสามีของฉัน เพราะงั้นเป็นไปได้ว่าเขานั้นอาจจะแปลพักไปอยู่ฝั่งผู้กล้าของเทพธิดาเรน่า
“แต่ท่านโมน่าขอรับ เพราะการโจมตีของพวกผู้กล้าทำให้กองทัพของพวกเราอยู่ในสภาพที่เสียหายอย่างหนัก การที่จะจัดการกับลอร์ดไดร์ฮาร์ดในขณะนี้มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยนะขอรับ และการที่ทำแบบนั้นในสถานะการณ์ที่กองกำลังของพวกเราย่ำแย่เช่นนี้ก็เป็นการกระทำที่อุกอาจเกินไป”
ที่รูคัสพูดก็เป็นความจริง การที่จะสร้างกองกำลังขึ้นมาใหญ่นั้นเป็นเรื่องยากยกเว้นกองกำลังของก็อบลินที่มีความสามารถในการขยายเผ่าพันธุ์ที่รวดเร็ว แต่การที่จะสร้างกองกำลังเผ่าอื่นนั้นจะต้องใช้เวลา
โดยเฉพาะเผ่าโทรลที่เข้าต่อสู้กับผู้กล้านั้นได้รับความเสียหายอย่างนัก แต่ที่แย่ที่สุดคือราชาของเผ่าโทรลนั้นยอมจำนนต่อผู้กล้าและได้กลายเป็นกบฏต่อนากอลเพราะได้นำทางผู้กล้ามาสู้ปราสาทแห่งนี้
แต่เพราะเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นทำให้พวกผู้กล้าจะต้องเดินทางมากันเอง คงเป็นเพราะราชาโทรลจะกลัวลอร์ดไดร์ฮาร์ดสังหารจึงได้หลบหนีไปเสียก่อน
ทำให้ในตอนนี้กองกำลังของเราที่เคยแข็งแกร่งเพราะมีกองกำลังโทรล แต่เมื่อขาดราชาจากที่เคยเป็นกองกำลังที่สามัคคีก็ได้กลายเป็นกองกำลังที่ยุ่งเหยิงและได้ศักยภาพ
“อีกอย่างนะขอรับ ข้าคิดว่าถึงจะสามารถฟื้นฟูกองกำลังได้สำเร็จ ข้าก็ยังมองไม่เห็นหนทางที่พวกเราจะสามารถเอาชนะท่านลอร์ดไดร์ฮาร์ดได้เลยขอรับ”
รูคัสได้อธิบายเพิ่มว่า ลอร์ดไดร์ฮาร์ดที่สามารถเอาชนะผู้กล้าทั้ง5ที่สามารถเอาชนะกองกำลังปีศาจทั้งหมดของพวกเราได้ เพราะงั้นถึงพวกเราสามารถฟื้นฟูกองกำลังได้สำเร็จก็ไม่สามารถเอาชนะลอร์ดไดร์ฮาร์ดได้อยู่ดี
หลังจากนั้นฉันและรูคัสก็ได้พูดคุยกันอยู่พักใหญ่เกี่ยวกับแผนการรับมือหลอดไดร์ฮาร์ดที่อาจจะทรยศในอนาคต ก่อนที่พวกเราจะแยกย้ายกัน
“อ๊า~ท่านโมเดสที่รักของฉัน โมน่าผู้นี้จะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องท่านเองค่ะ แม้ว่าวิธีนั้นจะเป็นการทำลายโลกก็ตาม”
สหายผู้กล้า จิยูกิบรรยาย
“ท่าพี่ยังฟื้นอีกอย่างเหรอคะ? นี่คุณซาฮาโกะมัวทำอะไรอยู่กัน!!”
มิโด เคียวกะพูดออกมาเสียงดังเพราะตอนนี้เธอเป็นห่วงอาการของพี่ชายของเธอเป็นอย่างมาก
เคียวกะคือหนึ่งในสองชองน้องสาวของเรย์จิ แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเธอจะคล้ายกับเรย์จิเพราะเป็นพี่น้องกันแต่ก็ไม่ดูดีเท่าเรย์จิ
หลังจากที่พวกเราได้พ่ายแพ้ให้กับอัศวินดำอย่างไร้ทางสู้และกลับมาที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ลีนาเลีย
“คุณเคียวกะถึงคุณจะตะโกนเสียงดังเรย์จิคุงก็ไม่ฟื้นขึ้นมาหรอกค่ะรู้มั้ย และตอนนี้ซาฮาโกะกำลังสลบอยู่ทำให้ไม่สามารถรักษาเรย์จิได้”
ใช่ตอนนี้เรย์จิ ซาฮาโกะ ชิโรเนะ และนาโอมิทุกคนที่ถูกทำให้สลบด้วยฝีมือของอัศวินดำยังไม่มีใครรู้สึกตัวเลยแม้แต่คนเดียว แต่ไม่มีใครที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงยกเว้นเรย์จิและยังได้รับการรักษาด้วยเวทมนตร์แล้วเหลือแค่ให้พวกเธอฟื้นขึ้นมาเท่านั้น
แต่ปัญหาอยู่ที่เรย์จินี่สิเพราะบาดแผลที่ไหล่ของเขาไม่สามารถรักษาได้แถมยังมีเลือดที่ไหลออกมาจากปากแผลเรื่อยๆ แม้ว่าพวกเราจะให้โพชันในการรักษาแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล
คงมีแต่ต้องรอให้ซาโฮโกะฟื้นเท่านั้น เพราะเธอคงจะสามารถรักษาเรย์จิได้
“งั้นคุณไม่เป็นห่วงท่านพี่บ้างเลยเหรอคุณจิยูกิ!? คิดดูสิ บาดแผลชองท่านพี่มันร้ายแรงมากเลยนะค่ะ ถ้าเขาเป็นอะไรไปคุณจะรับผิดชอบได้อย่างงั้นหรอค่ะ?!!!”
พูดตามตรงฉันเริ่มขี้เกียจมาต่อปากต่อคำกับเธอแล้ว ทั้งที่เป็นน้องสาวของเรย์จิแต่กลับไปมีอะไรที่เหมือนกันเลย ต่อสู้ไม่เก่ง ควบคุมพลังเวทย์ไม่ได้จนไปทำร้ายคนอื่นจนได้รับบาดเจ็บ เอาไปร่วมเดินทางด้วยก็มีแต่จะเป็นตัวถ่วง
ต่างจากคายะที่เป็นคนรับใช้ของเธอที่มีความสามารถด้านเคนโป้และคาราเต้จนครั้งหนึ่งเธอสามารถเอาชนะเรย์จิได้ในการปะลอง แต่ที่คายะไม่ได้ไปเดินทางกับพวกเราก็เป็นเพราะเธอเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของเคียวกะจึงไม่สามารถปล่อยให้เคียวกะอยู่คนเดียวได้
“เรย์จิคุง!!”
เสียงของซาโฮโกะดังออกมาจากข้างในห้องรักษา ดูเหมือนว่าเธอจะฟื้นแล้ว
ฉันและเคียวกะจึงได้รีบเข้าไปข้างในและพบว่าซาโฮโกะกำลังกอดเรย์จิเอาไว้พร้อมกับร้องไห้ออกมา ดูจากสีหน้าของเธอที่ดูเหนื่อยล้าดูเหมือนว่าหลังจากที่ฟื้นเธอจะใช้เวทย์รักษาจนพลังเวทย์ของเธอแทบจะหมดตัว
ในตอนนี้พวกเราทั้งแปดคนกำลังนั่งอยู่รอบเตียงของเรย์จิ คนอื่นๆที่สลบไปก็ฟื้นกันหมดแล้วเหลือแค่เรย์จิเท่านั้นที่ยังไม่ฟื้นตัวดีเพราะบากแผลที่เขาได้รับนั้นหนักกว่าคนอื่นๆที่ถูกทำให้แค่สลบ และกำลังหารือกันว่าจะทำยังไงต่อจากนี้
“ฉันว่าเราควรล้มเลิกการปราบราชาปีศาจไปดีกว่า”
“ทำไมล่ะจิยูกิ”
“ยังจะถามอีกว่าทำไมนี่นายไม่ดูสภาพของตัวเองกับพวกเราเลยหรือไง! นายเกือบจะตายไปแล้วนะ”
ฉันพูดออกมาด้วยความโกรธ เพราะถ้าไม่ใช่เพราะไดร์ฮาร์ดยอมปล่อยให้พวกเรากลับมาล่ะก็พวกเราคงได้ตายกันไปแล้ว แถมบาดแผลบนร่ายกายของเรย์จิที่ได้รับมาจากไดร์ฮาร์ดนั้นแม้จะถูกรักษาแล้วแต่ก็ยังทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้
ทั้งที่การรักษาของซาโฮโกะนั้นไม่เคยทิ้งร่องลอยอะไรไว้เลยแท้ๆ ซึ่งซาโฮโกะจะบอกว่าที่ไม่สามารถรักษาได้ทั้งหมดจะเป็นเพราะคำสาปซึ่งฉันก็ไม่ค่อยที่จะรู้เรื่องพวกนี้มากนัก
แต่ที่ฉันรู้ก็คือไดร์ฮาร์ดสามารถฆ่าพวกเราได้ทุกเมื่อแต่เขากลับไม่ทำ ซึ่งการที่เขาปล่อยให้พวกเรารอดชีวิตกลับมาแบบนี้จะต้องมีอะไรแบบแผงแน่ๆ
“ขอโทษด้วยจิยูกิแต่ฉันไม่อาจผิดสัญญากับเธอคนนั้นได้”
คำพูดของเรย์จิทำให้อารมณ์ของฉันเดือดขึ้น นี่เขาไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลยหรือไงกัน
“นี่นายรู้บ้างไหมนายเกือบทำให้พวกเราทุกคนต้องตายนะ! ไดร์ดฮาร์ดมันแข็งแกร่งมากขนาดที่ว่านายไปสู้กับเขาอีกรอบรับรองว่านานได้ตายของจริงแน่! ที่พวกเรายังมีชีวิตรอดอยู่ก็เป็นเพราะไดร์ฮาร์ดไว้ชีวิตของเราหรอกนะ!!”
“หมายความว่ายังไงหรอจิยูกิที่พวกเรารอดมาได้ไม่ใช่เป็นเพราะเธองั้นหรอ?”
เรย์จิถามด้วยความสงสัยเพราะก่อนที่เขาจะสลบสิ่งที่เขาจำได้ก็คือเสียงของจิยูกิกำให้เขาคิดว่าเพราะเธอเขาถึงรอดมาได้
“ฉันเองก็สงสัย”
ชิโรเนะได้พูดเสริม เธอเองก็อยากรู้ว่าในระหว่างที่เธอได้สลบไปเพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหวมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
แต่สิ่งที่เธอรู้ก่อนที่จะสลบไปก็คือความสามารถในการใช้ดาบของไดร์ฮาร์ดนั้นมันเหนือขั้นยิ่งกว่าเธอ แถมเธอยังรู้สึกคุ้นเคยกับวิชาดาบของไดร์ฮาร์ดอีกด้วย
“ถ้าอยากรู้เดียวฉันจะเล่าให้ฟัง คุณริโนะคุณก็มาช่วยฉันเล่าด้วย”
“ค่ะ?!”
ฉันและริโนะที่เป็นผู้ที่ไม่ได้สลบได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นให้พวกเรย์จิฟัง ซึ่งหลังจากที่พวกเขาได้ฟังสีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัย ก่อนที่เรย์จิจะพูดโพล่ขึ้นมา
“แต่ว่า! พวกเราไม่สามารถปล่อยให้ผู้คนมากมายลำบากเพราะการรุกรานของพวกปีศาจไม่ได้ เรน่าเองก็ต้องการให้พวกเราทำแบบนั้น”
แม้ว่าเรย์จิจะได้ฟังที่ฉันเล่าไปทั้งหมดแล้วแต่เขาก็ยังคงมีความคิดที่จะไปปราบราชาปีศาจเช่นเดิม เขาจะยึดติดอะไรกับเรน่าขนาดนั้น
“แต่รุ่นพี่เรย์จิค่ะหลังจากที่ฉันได้ลองคิดดู ไม่เคยมีเหตุการณ์ไหนที่พวกปีศาจมาบุกโจมตีมนุษย์ก่อนเลยนะคะ”
ขวับ!!
ทุกคนหันไปมองที่ริโนะพร้อมกันทำให้เธอสะดุ้งเพราะความตกใจที่ถูกทุกคนจับจ้อง
“หมายความว่ายังไงหรอริโนะจัง”
ชิโรเนะถามด้วยความสงสัย
“คะ-คือว่าฉันได้เก็บคำพูดของไดร์ฮาร์ดมาลองคิดดูน่ะค่ะ แล้วก็พบว่าทุกเหตุการณ์ที่มีคนเสียชีวิตจากปีศาจล้วนเกิดจากการที่มนุษย์เป็นฝ่ายเริ่มก่อน..ค่ะ..”
ทุกคนที่ได้ยินแบบนั้นก็เงียบและเริ่มคิดตามคำพูดของริโนะ ซึ่งก็เป็นอย่างที่ริโนะพูดเป็นมนุษย์ที่เป็นฝ่ายโจมตีปีศาจก่อนทุกครั้ง ไม่เคยมีเหตุการณ์ไหนเลยที่ปีศาจจะเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน
“แต่ปีศาจก็ยังต้องถูกกำจัดอยู่ดี คิดดูสิว่าดีผู้กี่ชีวิตที่ต้องสูญเสียเพราะพวกปีศาจน่ะ”
เรย์จิได้พูดขึ้นมาทำลายบรรยากาศอันอึมครึม ทำให้ทุกคนเริ่มมีสีหน้าที่ดีขึ้น ยกเว้นฉันและริโนะที่เริ่มคิดว่าสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ในตอนนี้นั้นมันถูกต้องหรือเปล่า
“แต่ถ้าพวกเราไม่กำจัดราชาปีศาจก็ไม่สามารถกลับบ้านได้ไม่ใช่เหรอค่ะ?”
พวกเราพยักหน้าให้กับคำพูดของคายะเพราะเดิมทีแล้วที่พวกเราต้องงดิ้นรนมากขนาดนี้ก็เป็นเพราะต้องการที่จะกลับบ้าน มีแต่ต้องปราบราชาปีศาจเท่านั้น แต่ตอนนี้มีกำแพงที่มีชื่อว่าไดร์ฮาร์ดกำลังขวางเป้าหมายของพวกเราเอาไว้อยู่
“ใช่แล้วล่ะนี่ก็ผ่านมาครึ่งปีแล้วครอบครัวของพวกกเราคงเป็นห่วงพวกเรามากจนบางทีอาจจะคิดว่าพวกเราตายไปแล้วก็ได้”
ที่ชิโรเนะพูดมาก็ถูกเพราะนี่ก็ผ่านมาครึ่งปีแล้วไม่รู้ว่าคนทางนู้นตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง
“คุณชิโรเนะเองอยากจะเจอกับเพื่อสมัยเด็กอีกครั้งใช้มั้ยค่ะ?”
ฉันที่เห็นว่าบรรยากาศมันเริ่มกลับมาอึมครึมอีกครั้งจึงเปลี่ยนคู่สนทนามาที่ชิโรเนะเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
“เอ๋!? สงสัยจังว่าเพื่อสมัยเด็กของคุณชิโรเนะเป็นคนแบบไหน?”
ซาโฮโกะเร่งเร้าชิโรเนะเพราะเธอเองก็อยากที่จะรู้ด้วยความกัน และถือเป็นการตัดคู่แข่งออกไปด้วยในตัว
“อืม~ซาโฮโกะริโนะก็ไม่รู้หรอกน้า~แต่คงเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่ให้คำสัญญาไว้กัยคุณชิโรเนะใช่ม๊า~”
“ดะ-เดี๋ยวสิ! แม้แต่คุณนิโนะด้วย ฉันกับคุโรกิไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้นกันสักหน่อย!!”
“งั้นหรอ แต่ฉันเห็นเขาฝึกอยู่ในโรงฝึกของครอบครัวเธอนี่นา ฉันเองก็สนใจเขาอยู่ด้วย เขาอาจจะดูเป็นคนเรียบๆแต่ก็เป็นคนที่สุดยอดเลยล่ะ แถมยังค่อนข้างหล่ออีกด้วยนะ บางทีถ้าไม่มีเรย์จิคุงอาจจะเป็นทีนิยมก็ได้นะ”
ฉันตั้งใจฟังที่ริโนะพูด ถึงแม้ว่าฉันจะเคยได้ยินเรื่องเพื่อสมัยเด็กจากชิโรเนะมาบ้างแล้วแต่ก็ไม่เคยเจอตัวจริงของเขาหรอก
แต่ถึงขนาดที่ริโนะที่ทำงานในวงการไอดอลชมว่า‘ค่อนข้างหล่อ’ดังนั้นเขาก็คงจะดูดีกว่าผู้ชายทั่วไปนั่นแหละ
แต่เพราะผู้ชายคนอื่นในโรงเรียนโดนเรย์จิกลบรัศมีไปหมดนั่นล่ะมั้งทำให้เป็นเหตุผลที่ทำให้คุณเพื่อนสมัยเด็กไม่โดดเด่น
“...หล่อหรอ? ก็คงจะใช่มั้ง?”
ชิโรเนะเองหัว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยแน่ใจ
“เขา...”
เรย์จิพูดคำหนึ่งออกมาซึ่งมีความหายเชิงลึก ทำให้ชิโรเนะที่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับออกอาการลนลาน
“..ร-เรย์จิคุงคงไม่เข้าใจผิดใช่มั้ย!? ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุโรกิคุงสักหน่อย!”
ชิโรเนะรีบอธิบายให้เรย์จิฟังอย่าสุดตัวเพื่อไม่ให้เขาเข้าใจผิด ฉันรู้ดีว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ ยกเว้นคายะเอาไว้คนหนึ่งรายนั้นไม่รู้จักความรักหรอก ผู้หญิงทุกคนต่างมีความรู้สึกดีดีให้กับเรย์จิทั้งนั้น
ถ้ามองในมุมมองของฉันดูท่าชิโรเนะจะไม่มีความรู้สึกอะไรพิเศษกับเพื่อนสมัยเด็ก แต่ถ้าให้ฉันเดาเพื่อนสมัยเด็กคนนั้นน่าจะชอบชิโรเนะก็เป็นได้
และชิโรเนะยังบอกอีกว่าอยากขอโทษเพราะก่อนที่เธอจะถูกอัญเชิญมาเธอได้พูดเรื่องโหดร้ายกับเอา(ไม่มีโอกาสแล้วจ่ะ)
“แต่คุณชิโรเนะไม่ได้บอกเหรอคะว่าอยากจะขอโทษเพื่อนสมัยเด็กคนนั้น?”
“เรื่องนั้น...”
ชิโรเนะลังเลที่จะพูด ทุกคนที่อยู่ที่นี่กำลังเฝ้ารออย่างตั้งใจ
“เอาล่ะทุกคนเรามาคุยเรื่องของเรน่าก่อนดีมั้ย? การฟังเรื่องของชิโรเนะเก็บไว้ก่อนก็ยังไม่สายเกินไปหรอกว่ามั้ย?”
“เอ๋~”
ริโนะพูดออกมาด้วยความเสียดายที่เรย์จิห้ามเอาไว้ ทั้งๆที่อีกนิดเดียวเธอก็จะได้รู้ความลับของคู่แข่งแล้วแท้ๆ
แต่เรื่องของเรน่านั้นสำคัญกว่าเพราะพวกเรามีอีกหลายเรื่องที่อยากถามเธอ ซึ่งเป็นคำถามที่ไม่ได้ถามก่อนจะเริ่มออกเดินทาง
ทำไมเหล่าเทพถึงปล่อยราชาปีศาจที่จะเป้นอันตรายต่อตัวเองเอาไว้?
แล้วมันเป็นความจริงไหมที่ว่าพวกเราจะกลับไปไม่ได้จนกว่าจะปราบราชาปีศาจได้?
ก่อนที่พวกเราจะสลายกลุ่มกันไป...
+++
ไรต์เกลียดตัวเองว่ะ เอาเป็นว่าไม่ต้องมงต้องมีมันเเล้วเวลาลง เสร็จตอนไหนก็ลงตอนนั้น
เห้อ~
ความคิดเห็น