ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I'm yours ฉันรักเธอแล้ว รับผิดชอบด้วยล่ะ [SNSD] (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8 : สงคราม(เสีย)ประสาท

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 54




    Chapter 8 :
    สงคราม(เสีย)ประสาท

     

    สวัสดีค่ะคุณจองเจสสิก้า...ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ


    เธอเป็นใครน่ะ


    ฉันทิฟฟานี่ไง จำไม่ได้เหรอ


    อ๋อ~ ฟานี่น่ะเอง เป็นไงจ๊ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานสบายดีไหมเอ่ยฝ่ายเจสสิก้าก็ตอบรับทิฟฟานี่ด้วยความสนิทสนม ท่าทางยินดีเสียเต็มประดา แต่คนที่เคยสนิทสนมกันช่วงหนึ่งอย่างทิฟฟานี่แค่มองปราดเดียวก็ดูออกแล้วว่ามันเป็นการเสแสร้งแกล้งทำ!


    สบายดีค่ะ ว่าแต่คุณเจสสิก้ามาทำอะไรที่นี่เหรอคะ


    เผอิญมาเที่ยวกับเพื่อนน่ะค่ะ ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับแทยอน พรหมลิขิตชัดๆเลยเนอะ


    อะ..อืม


    บอกได้คำเดียวเลยว่า ตอแหล สุดๆ...ใครเชื่อก็ฟายละ


    เธอได้รู้จักกับเจสสิก้า หลังจากที่ได้เป็นเพื่อนกับยูรินั่นแหละ...ในช่วงแรกยอมรับว่าพวกเธอค่อนข้างประหลาดใจและตื่นเต้นกับการได้รู้จักนางแบบคนดัง แต่พอได้เจอกันบ่อยๆก็เริ่มเข็ดขยาดกับนิสัยวีนเหวี่ยงและเอาแต่ใจตัวเองของเจ้าหล่อน หลายๆคนจึงถอยตัวออกห่างและไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเจสสิก้าอีก หรือถ้ามี...ก็เป็นพวกที่หวังผลประโยชน์จากเจสสิก้า(แน่นอนว่าพวกนั้นทำไม่สำเร็จ โดนแม่นางเหวี่ยงกลับบ้านเกิดทุกราย)


    จะมีก็แค่ยูริเนี่ยแหละ ที่ทำดีกับเจสสิก้ามาโดยตลอด และไม่หวังสิ่งตอบแทนเหมือนใครๆ


    เห็นแบบนี้แล้วก็สงสารไอ้เห้งเจียแฮะ...ป่านนี้คงก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ ไม่รับไม่รู้เลยว่าคนที่ตัวเองรักนั้นตอนนี้ได้บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากเกาหลีเพื่อตามแทยอน(ของเธอ)โดยเฉพาะ


    แล้วไหนล่ะคะเพื่อนของสิก้าน่ะแทยอนถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเจสสิก้าอยู่คนเดียวท่ามกลางกลุ่มคนของตนเอง โดยการพูดแบบนี้เป็นการแสดงเจตนาที่จะไล่กลายๆ


    ที่สำคัญ...เห็นสายตาของทิฟฟานี่แล้ว รู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตแปลกๆ น่ากลัวไม่ใช่เล่น


    แต่คนอย่างเจสสิก้ามีหรือจะสนใจ...


    สิก้าหิวน้ำเลยให้ไปซื้อมาให้น่ะค่ะ อีกซักพักก็คงจะมาแล้ว


    สิก้า~ ฉันมาแล้วสาวร่างสูงวิ่งมาแต่ไกล ขอโทษทีนะ น้ำส้มมันหมดน่ะ เหลือแค่น้ำองุ่นอย่างเดียว


    อะไรนะ!...เจสสิก้ากัดฟันเตรียมจะวีนใส่ยูริตามเคย แต่เมื่อนึกได้ว่าตอนนี้แทยอนยังอยู่ข้างๆ เลยจำเป็นต้องเก็บคำพูดลงหลุมไปและปรับเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่


    ไม่เป็นไรจ้ะยูริ ฉันกินได้หมดแหละ ไม่เรื่องมากหรอก


    อึ้ง อึ้ง อึ้ง...พอเจอแบบนี้ทั้งทิฟฟานี่และยูริต่างก็ใบ้กินกันทั้งคู่


    แต่นอกจากทิฟฟานี่จะอึ้งเรื่องความน่ารักของเจสสิก้าแล้ว ก็ยังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ทั้งอึ้งและประหลาดใจอยู่ไม่น้อย


    เอ๊ะ!เห้งเจีย แกมาทำอะไรที่นี่


    ฉันเหรอ...ก็มาเป็นเพื่อนสิก้าไงตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มซื่อๆตามแบบฉบับของเจ้าตัว ท่าทางยังจับสถานการณ์ไม่ได้


    เฮ้ๆ อย่าบอกนะว่าแกคือเพื่อนที่คุณเจสสิก้าพูดถึง


    ใช่แล้วจ้ะ...ฉันมาเที่ยวกับยูริก่อนจะหันไปออดอ้อนแทยอนผู้ไม่มีบทบาทอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้ แต่ก็แค่ในฐานะเพื่อน เพราะงั้นแทอย่าหึงสิก้านะคะ


    ใครจะไปหึงหล่อนกัน!


    แทยอนอดค่อนขอดในใจไม่ได้อย่างหัวเสีย เธอไม่ยักกะจำได้ว่าเธอพัฒนาสายพันธุ์ไปเป็นคนที่ควรจะหึงเจสสิก้าตั้งแต่เมื่อไร


    คิดไปคิดมา สายตาก็พลันไปปะทะกับนัยน์ตายิ้มของคนบางคน ซึ่งมองมาทางเธอด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย


    เอาน่า...ทิฟฟานี่ก็คงจะหวงเธอในฐานะแฟนคลับธรรมดาๆ ที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากเพราะคนที่ควงแขนเธออยู่นี้เป็นถึงนางแบบชื่อดังขึ้นชื่อเรื่องความแรง ฉะนั้นแล้วเธอคิดว่าเธอควรจะปฏิบัติตัวกับเจ้าหล่อนให้เหมือนเดิมหรืออาจจะดูแลให้ดีกว่าเดิมเพราะถึงอย่างไรเสียทิฟฟานี่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนคลับของเธอ


    แถมยังมีนิสัยเรียบร้อยน่ารักอีกต่างหาก...


    ไหนๆคุณเจสสิก้าก็มีเพื่อนแล้ว งั้นพวกเราขอตัวนะคะ...จะได้ไปเที่ยวกันได้ซะทีแล้วความคิดของแทยอนก็มีอันต้องพังทลายลงมาในชั่วพริบตาเมื่อสาวเรียบร้อยน่ารักของเธอเดินเข้ามากระชากเธอออกจากมือเหนียวตุ๊กแกเรียกอาม่าของเจสสิก้า


    แล้วสอดมือเข้ามาควงแขนเธอซะเอง!


    รีบไปกันเถอะค่ะแทยอน ป่านนี้คนอื่นๆคงจะมากันครบแล้ว


    เอ้อ...นั่นสินะ งั้นฉันไปก่อนนะสิก้าแม้แทยอนจะยังคงช็อคกับการกระทำของทิฟฟานี่ แต่ก็ไม่อยากเก็บมาใส่ใจนัก เพราะเจ้าหล่อนเป็นคนทำให้เธอหลุดพ้นจากบ่วงเวรบ่วงกรรมได้ง่ายๆ อย่างที่ไม่มีใครกล้าทำ


    ไปก่อนนะยูริทิฟฟานี่ยิ้มหวานให้เพื่อนรัก และไม่ลืมส่งสายตาล้อเลียนไปยังนางแบบสาวที่ได้แต่ยืนกัดฟันกรอดๆมองภาพแทยอนถูกทิฟฟานี่ลากตัวจนห่างจากเธอออกไปเรื่อยๆ


    เรื่อยๆ...


    อินังหมีอ้วนหน้าด้าน!


    ยัยนั่นมาทริปนี้ได้ยังไงหันขวับไปยังคนตัวสูงข้างๆ ก่อนจะแร๊ปพ่นไฟใส่ไม่ยั้งจนคนฟังไม่รู้จะหาเวลาไหนไปแทรกกลางเพื่อตอบคำถามของเจ้าหล่อน


    ใครเป็นคนพายัยนั่นมา


    แล้วยัยนั่นเป็นอะไรกับแทยอน


    สำคัญที่สุด...ทำไมยัยนั่นถึงได้เกาะแกะกับแทยอนขนาดนี้


    บอกฉันมานะควอนยูริ


    เหอ~ ฉันไม่รู้เรื่องนะยูริหน้าเหวอโบกมือปฏิเสธพัลวันเมื่อเจสสิก้าส่งเอฟเฟคหนาวเย็นเข้าขั้นติดลบมาให้


    ปกติอากาศกลางๆเดือนกุมภาพันธ์ที่ญี่ปุ่นก็หนาวจะแย่อยู่แล้วนะ พอมีไอเย็นที่ส่งตรงมาเพื่อเธอโดยเฉพาะมาเสริมด้วย ก็ยิ่งหนาวเข้าไปกันใหญ่


    ที่ว่าไม่รู้เรื่อง คือเรื่องที่ยัยนั่นได้มาทริปนี้ หรือเรื่องที่ยัยนั่นชอบแทยอน


     เรื่องที่ฟานี่ได้มาทริปนี้...อ้อมแอ้มตอบไม่เต็มเสียง เพราะรู้ว่าตัวเองมีความผิดเต็มๆ ส่วนเรื่องที่ฟานี่ชอบแทยอน ฉันรู้ตั้งนานแล้ว


    แล้วทำไมเธอถึงไม่ยอมบอกฉัน!”ตามคาด เจสสิก้ายิ่งโวยวายใหญ่โต ไม่คิดจะอายคนนับพันที่เดินผ่านไปผ่านมาเลยแม้แต่น้อย


    ง่า...คือฉันลืมน่ะสิก้า ขอโทษด้วยนะ


    เธอนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆเลยนะควอนยูริ


    ขอโทษนะยูริเอ่ยขอโทษแล้วก้มหัวลงมองพื้นด้วยความรู้สึกผิด


    เธอรู้ว่าตัวเองผิด...รู้ตัวจริงๆ


    แล้วอย่าถามว่าทำไมไม่น้อยใจนะ เผอิญว่าความรู้สึกนั้นมันฝังลึกอยู่ภายใต้ก้นบึ้งของจิตใจ


    รู้ว่ามันมี แต่ไม่กล้าที่จะนึกถึง...เธอรู้สถานะของตัวเองดีว่าอยู่ในระดับไหน


    เป็นแค่ เพื่อน คนหนึ่งเท่านั้นเอง


    เจสสิก้ายังคงนิ่งต่อไป ก่อนจะค่อยๆปรายตามองยูริเล็กน้อยทางหางตา แล้วความรู้สึกสงสารก็โผล่ขึ้นมาเมื่อเห็นหน้าประหนึ่งหมาหงอยของเจ้าตัว หญิงสาวจึงถอนหายใจและพยายามควบคุมสติของตัวเองให้ดี


    ช่างมันเถอะ ไหนๆเรื่องก็ผ่านไปแล้ว


    เธอมาช่วยฉันคิดดีกว่าว่าจะทำยังไงถึงจะกำจัดยัยฟานี่ออกไปได้


    ไม่งั้นฉันเข้าใกล้แทยอนไม่ได้แน่ใจจริงยูริก็อยากจะมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น แต่เพราะรู้ดีว่าเจสสิก้ายังคงมีอารมณ์เคืองๆเธออยู่ จึงไม่กล้าพูดอะไร เพราะเกรงว่าจะทำให้สาวเจ้าโกรธหนักเข้าไปอีก


    ไม่งั้นเจสสิก้ามีหวังได้ไล่เธอกลับเกาหลีก่อนกำหนดแน่ๆ


    แล้วมันจะยิ่งเป็นปัญหากับเธอ เพราะด้วยความเป็นห่วงที่มีอย่างมากมายและเหลือล้น เธอไม่ยอมกลับอยู่แล้ว...แต่ก็ไม่ใจกล้าหน้าด้านพอที่จะอยู่ข้างๆเจ้าหล่อน


    อาจจะทำตัวดุจมนุษย์ล่องหน หรือที่คนทั่วไปเขาเรียกกันว่า คนโรคจิต คอยสะกดรอยตามและดูแลเจสสิก้าอยู่ในระยะไม่ใกล้ไม่ไกล


    โถ...ควอนยูริ ถ้าชีวิตแกมันจะเศร้าเคล้าน้ำตาขนาดนี้นะ


    เอาล่ะ จากตารางการเที่ยวในครั้งนี้...พวกนั้นจะไปกินข้าวกลางวันกันก่อนเจสสิก้าเปรยเงียบๆระหว่างอ่านข้อมูลการเดินทางในครั้งนี้ที่อุตส่าห์ไปปล้น เอ๊ย! ขโมย เอ๊ย! ขอมาจากทางบริษัท CS.Ent


    ตามตำราพิชัยสงครามของซุนวู ว่ากันว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง


    หึ...ศึกษามาดีขนาดนี้ แทยอนหนีเธอไปไหนไม่ได้หรอก


    ยัยฟานี่ก็เหมือนกัน...ต้องโดนเขี่ยออกไปไกลๆ ชิ่วๆ ~


    เอาล่ะยูริ...ฟังแผนการของฉันดีๆนะ แล้วกรุณาช่วยปฏิบัติตามอย่างดีด้วย


     

     

     

    นี่ๆ พี่ฮโยยอน...ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครน่ะ ควงแขนพี่แทตลอดเลย


    สงสัยจะเป็นเจสสิก้าคนที่สองมั้ง ฮ่ะๆๆๆฮโยยอนตอบโดยไม่ยอมละสายตาไปจากแทยอนและผู้หญิงคนดังกล่าวที่อยู่ในประเด็น


    แปลกแฮะ เกิดมาไม่เคยเห็นใครควงแขนพี่แทได้นานขนาดนี้เลย เอ่อ...ถ้าไม่นับคุณเจสสิก้าน่ะนะไอยูก็ร่วมเข้าวงสนทนาด้วยเงียบๆ ก่อนจะเบนสายตาไปยังบุคคลที่สามซึ่งมีชื่ออยู่ในประโยคของพวกเธอ 3 คน


    ตอนนี้คณะเดินทางของพวกเธอไปพากันมาปักหลักอยู่ที่ร้านอาหารชื่อดังภายในโตเกียว เพื่อรับประทานอาหารกลางวันรสเลิศ ก่อนที่จะเตรียมตัวเพื่อไปเที่ยวยังสถานที่อื่นๆที่น่าสนใจต่อไป


    เนื่องจากในวันแรก กว่าจะมาถึงก็ปาไปเกือบเที่ยงแล้ว กิจกรรมในวันนี้จึงไม่มีอะไรมาก จะได้รีบเดินทางไปยังโอซาก้า เพื่อเข้าพักผ่อนยังโรงแรมที่ได้จัดเตรียมไว้ สำหรับการเดินทางเที่ยวตามสถานที่สำคัญมากมายตลอด 3 วันหลังจากนี้


    เพราะถึงแม้ว่าการเดินทางจากโตเกียวไปยังโอซาก้าโดยใช้รถไฟชินคันเซนซึ่งใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมงโดยประมาณเท่านั้น แต่ถ้าคำนวณเวลาแล้ว กว่าจะได้ไปถึงที่พักก็คงเกือบค่ำได้เวลาอันเหมาะสมพอดี


    ส่วนเรื่องเที่ยวในโตเกียวนั้น มีแผนว่าจะได้เที่ยวกันใน 3 วันสุดท้ายของการเดินทาง


    แทยอนคะ อ้ำค่ะอ้ำ อ้ามมมสาวตายิ้มยังคงแค้นเรื่องเมื่อครู่อยู่ไม่น้อย จึงพยายามเอาอกเอาใจแทยอนเกินความจำเป็นด้วยความหมั่นไส้เจสสิก้า


    แต่ยอมรับ...ว่ามันมาจากความอยากที่จะทำด้วย 51%


    ก็แทยอนของเธอน่ารักซะขนาดนี้ ห้ามใจไหวได้เหรอ!


     เอ่อ...ขอบใจ


    ว๊ายย แทยอนน่ารักจังเลยหยิกแก้มหนึ่งทีเป็นรางวัล โดยไม่วายส่งยิ้มเยาะเย้ยไปทางแขกไม่ได้รับเชิญที่นิ่งทางฝั่งตรงข้าม


    เจสสิก้า...นางแบบสาวที่มาเข้าร่วมทริปเดียวกันกับพวกเธอ ใช้เส้นสายจากการที่ตัวเองเป็นคนดังและครอบครัวค่อนข้างมีอิทธิพลในวงการบันเทิงมากพอสมควร


    ถึงค่าอาหาร ค่าที่พัก และกิจกรรมอื่นๆเจ้าตัวจะต้องออกเงินเอง...แต่ถึงอย่างไร สิ่งที่สำคัญที่สุด เจสสิก้าก็ได้เข้าร่วมการเดินทางในครั้งนี้กับพวกเธอตลอด 7 วัน อย่างไม่มีข้อกังขา(เพราะไม่กล้าเถียง)ใดๆ


    ท่าทางชีจะไม่แคร์สายตาและคำนินทาก่นด่าสาปแช่งจากใครเลยจริงๆ


    อ่อ...ยกเว้นทิฟฟานี่นะ ถึงสาวตายิ้มจะไม่ได้ส่งกระแสจิตด่าโดยตรง แต่จากทุกๆการกระทำเจสสิก้าก็รับรู้ได้อย่างไม่ต้องมีล่ามแปล...


    ว่าตนเองกำลังถูกหาเรื่อง!


     อิหมีอ้วน แกกล้าดียังไงมาทำออดอ้อนออเซาะกับแทยอนของฉันห๊ะ


    แล้วไงล่ะคะคุณนางแบบ


    ออกห่างจากแทยอนเดี๋ยวนี้เลยนะ


    นี่ๆ จะทำแบบนั้นได้ยังไง ไม่เห็นเหรอคะว่าแทยอนกำลังมีความสุขกับฉันอยู่


    อี๋ ~ หน้าด้านที่สุด พูดมาได้ไม่อายปาก


    ด้านได้อายอดนะคะ อีกอย่างคุณก็พอกันแหละค่ะ


    อะไร ฉันทำไม


    กอดแทยอนกลางสนามบิน แถมยังตามมาถึงที่นี่อีก ถ้าไม่เรียกว่าหน้าด้านจะเรียกว่าอะไรคะ


    แก!’


    อ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งโมโหสิคะ...ดูซินั่น ออกอาการมากจนเงิงออกปากเลยนะคะ


    แก แก อินังหมีอ้วนกวนตีน หน้าด้าน ไร้ยางอาย ตอแหลที่สุด


    อุ๊ย หยาบคายที่สุดอ่ะ เกินมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย ฟานี่รับไม่ด้ายย ~


    สรุป...การเถียงกันผ่านทางกระแสจิตครั้งนี้ ทิฟฟานี่ชนะใสๆ


    ปึง!

    ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะเจสสิก้าตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นเดินกระแทกเท้าจากไปท่ามกลางสายตางุนงงของทุกคนในห้อง


    ก่อนที่เจสสิก้าจะชะโงกหน้ากลับเข้ามาแล้วส่งสายตาที่มิอาจจะสื่อความหมายได้ให้ยูริ


    เอ่อ...งั้นฉันก็ขอตัวด้วยคนนะคะคนตัวสูงรีบตามเจสสิก้าออกไป และไม่ลืมที่จะโค้งประหลกๆให้ทุกคนอย่างมีมารยาทตามความเคยชิน


    ทิฟฟานี่มองตามการกระทำของทั้งคู่อย่างไม่ใคร่จะสนใจนัก ก่อนจะหันมาส่งยิ้มหยาดเยิ้มให้คนตัวเล็กข้างๆแล้ว...


    ป้อนต่อ...


    อ้ำอีกคำค่ะแท อ้ามม ~


     

     

    ***********************************************************

    อัพช้ามากใช่ไหม? โอเคทุกคนไม่ต้องบอก เรารู้ตัวดี5555

    ไม่มีอะไรจะแก้ตัวค่ะ เพราะถ้ายิ่งบอกเหตุผลไป เชื่อว่าทุกคนจะยิ่งรุมประณามเราแน่นอน- -

    เอาเป็นว่า...รู้แค่ เรามาอัพแล้ว เท่านั้นพอค่ะ5555

     

    ปล.ที่มีคนบอกให้เราตกแต่งอะไรต่อมิอะไรให้สวยงามนั้น ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะคะ

    แต่เราคงไม่มีโอกาสได้ทำค่ะ เพราะความขี้เกียจ + ไม่มีไอเดียในการแต่ง

    แล้วกลัวว่าแต่งไปแต่งมามันจะรกด้วยแหละ เรายิ่งทำอะไรไม่เหมือนมนุษย์โลกอยู่ด้วย

    เอาเป็นว่า...ไม่ทำดีกว่าค่ะ55555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×