คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 : คู่จิ้น? แฟนฟิค?
Chapter 4 : คู่จิ้น? แฟนฟิค?
ทิฟฟานี่โยนกระป๋องโซดาให้ยูริอย่างแม่นยำ...
อย่างแม่นยำ...ใช่ แม่นยำสุดๆไปเลย
แม่นยำตรงหัวเธอเนี่ย!
“โอยย..เจ็บชะมัดเลย”ยูริคราง เอามือลูบหัวตัวเองที่ปูดขึ้นเล็กน้อยอย่างระมัดระวัง
เอ่อ...จำไม่ค่อยได้แฮะว่าเวลาหัวปูดนี่ต้องประคบร้อนหรือประคบเย็น...แต่ตอนนี้มีแค่เย็น ก็ใช้เย็นไปก่อนละกัน
ว่าแล้วก็เอากระป๋องโซดาตัวต้นเหตุมาแนบกับหัวตัวเองอย่างเบามือที่สุด บรึ๊ยยย เย็น~
“ยืนนานๆแล้วไม่ค่อยสะดวกแฮะ ไปหาที่นั่งคอยน่าจะดีกว่า”บ่นพึมพำคนเดียว เมื่อคิดได้ดังนั้นก็เดินโซซัดโซเซพาร่างตัวเองไปนั่งพักยังม้านั่งที่อยู่ไม่ไกลจากจุดเดิมเท่าไร พอทิฟฟานี่ดูเสร็จแล้วจะได้หาเธอเจอ...ถ้าหาไม่เจอเดี๋ยวแม่เจ้าประคุณก็โวยวายใหญ่โตอีก
แล้วทิฟฟานี่จะเป็นยังไงบ้างนะตอนนี้...
ยูริรีบสอดส่องสายตาหาเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง เนื่องด้วยรู้นิสัยเพื่อนคนนี้ดีว่าในนาทีเป็นนาทีตายเช่นนี้ เจ้าตัวอาจไปทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนเป็นแน่...ไม่รู้ว่าตอนนี้จะถูกกระทืบตายแล้วหรือเปล่า แต่แทนที่เธอจะเจอกับทิฟฟานี่ สายตาก็พลันเหลือไปเห็นคนบางคนที่ยืนเฉิดฉายสวยอยู่หลังเวที ในเวลานี้ที่ไม่ควรจะเจอ
ได้ข่าวว่างานนี้ไม่มีการเดินแบบ แล้วเจสสิก้ามาได้อย่างไร
แม้จะนึกดีใจที่ได้เจอกับคนที่ตัวเองแอบรักมานาน แต่ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้ก็ชวนให้สงสัยมิใช่น้อย
ด้วยความรักบังตา ส่งผลให้ควอนยูริลุกจากที่นั่งลืมเลือนความเจ็บปวดจากการถูกกระป๋องกระแทกไปหมดสิ้น เธอรู้อย่างเดียวว่าตอนนี้สิ่งที่เธอควรจะทำมากที่สุดคือเดินไปหาเจสสิก้าตามที่ใจเรียกร้อง
เดี๋ยว....ถ้าเจสสิก้าเห็นเธอจะทำหน้ายังไงล่ะ
จะดีใจหรือเปล่า หรือหงุดหงิด หรือจะรำคาญไม่อยากเจอหน้า
เธอจะดูเป็น ‘เพื่อน’ ที่เข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องของ ‘เพื่อน’ มากจนเกินไปหรือเปล่า
บางทีเจสสิก้าอาจจะกำลังทำงานอยู่....เธอเองก็ไม่อยากจะไปรบกวนเวลาทำงานของเจสสิก้า
อีกอย่างถ้าเธอเดินเข้าไปทักทั้งๆที่มีคนอยู่มากมายขนาดนี้ ทั้งเธอทั้งเจสสิก้าคงต้องโดนเพ่งเล็งแหงๆ
ร้ายที่สุด เจสสิก้าอาจจะตกเป็นข่าว หรือเป็นขี้ปากให้ชาวบ้านเขานินทา
ไม่เอาน่ายูริ....แค่เพื่อนไปทักกัน ทำไมจะต้องคิดเล็กคิดน้อย คิดอะไรให้มันมากมายนักเล่า
ไม่รู้ว่ายูริจมอยู่กับห้วงคิดของตัวเองนานเกินไปหรือเปล่า...แต่อย่างน้อยๆกว่าเธอจะรู้สึกตัว ก็พบว่าเพื่อนสาวคนสนิทที่ลากเธอมาที่นี่เดินกลับมากระตุกชายเสื้อเชิ้ตของเธอเบาๆเรียกสติซะแล้ว
“ว่าไงฟานี่...ดูเสร็จแล้วเหรอ”ทิฟฟานี่พยักหน้าหงึกหงักสองสามที
ยูริหันไปมองทางเวที ก็เห็นว่าวงChocolateกำลังทำการแสดงอยู่ จึงเกิดเป็นความสงสัย อดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
“ยังไม่จบเลยนี่ เธอจะรีบกลับทำไม อยากมามากไม่ใช่เหรอไง”
“ไม่เอา...จะกลับแล้ว”
“อ่ะ..อ่อ เอางั้นก็ได้”แม้ว่ายูริจะไม่ค่อยเข้าใจการกระทำของทิฟฟานี่นัก แต่ก็ไม่กล้าขัด จึงเดินตามทิฟฟานี่เอาแต่ก้มหน้านิ่งกลับที่จอดรถไปตลอดทาง
แต่ก็...ดีเหมือนกัน เธอจะได้ไม่ต้องเผลอตัวสติแตกไปหาเจสสิก้าเข้า
“เหนื่อยชะมัดเล้ยยยยยยยยย”ซูยองยืนบิดขี้เกียจ เรียกพลังงานร่างกายหลังจากที่พวกเธอทำการแสดงจนจบ
“เหนื่อยนักก็ไปหาน้ำมากินซะนะไอ้น้อง...ถ้าจะให้ดีเอามาเผื่อพี่สาวคนสวยคนนี้ด้วย”คนตัวเล็กตำแน่งคีย์บอร์ดว่า ก่อนจะนั่งลงกับเก้าอี้ที่ทางห้างจัดไว้ให้อย่างสง่าประดุจตัวเองเป็นเจ้าหญิงอย่างไรอย่างนั้น
“ค่า~ คุณพี่ ”ซูยองรับคำหน่ายๆ เนื่องจากตอนนี้ไม่มีแรงจะมาเถียงพี่สาวคนสวยได้ จึงต้องรับกรรมเดินไปขอน้ำจากยุนโฮที่กำลังคอยดูแลการทำงานของทีมงานคนอื่นๆอยู่
“ว่าไงน้องสาว”
“ขอน้ำหน่อยดิพี่ หิวววววว”
“เออ งั้นเอาไปเลย นี่เผื่อคนอื่นๆด้วยนะ”แล้วผู้จัดการสุดหล่อก็ยื่นถุงที่ใส่น้ำสองสามขวดให้เอาไปแบ่งกันกิน ซูยองรับมาด้วยความปลื้มปิติก่อนจะเอ่ยคำขอบคุณสั้นๆและเดินกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนร่วมวงที่เหลือทันที
“น้ำมาแล้ว”ไม่ทันที่เธอจะได้วางถุง ฮโยยอนก็ขว้าน้ำไปสองขวดทันที ท่ามกลางสายตาไม่พอใจของซูยอง
“อะไรอ่ะพี่ คิดจะกินคนเดียวสองขวดเลยเหรอ”
“บ้า พี่จะเอาไปให้แทยอนกับไอยูด้วยต่างหาก”ฮโยยอนยิ้ม “ทีนี้ก็เหลือขวดเดียว แกแบ่งกันกินกับซันนี่สองคนละกัน”
“อ่อ นั่นสิเนอะ”ซูยองพยักหน้าตามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ยอมเดินกลับไปหาซันนี่เพื่อทำการแบ่งน้ำกันโดยดี
“พี่ซันนี่...น้ำ”
“ทำไมมีแค่ขวดเดียวอ่ะ”ซันนี่เลิกคิ้วด้วยความฉงน จะว่าซูยองกินจนหมดก่อนก็คงไม่ใช่ คนบ้าอะไรจะกินน้ำได้รวดเร็วปานนั้น “เธอไม่กินเหรอ”
“ก็แบ่งกันกินไง น้ำมันมีสามขวด สามคนนั้นเอาไปแล้วสอง ทีนี้เหลือแค่ขวดเดียวสำหรับเราสองคน”ว่าพลางเบ้ปากไปทางพวกฮโยยอนที่ยืนคุยกันอยู่
“อ๋อ เหรอ~ ”ซันนี่เดาะลิ้นทำเป็นเหมือนไม่ใส่ใจ แต่พริบตาเดียวก็ฉกน้ำมาจากมือซูยองแย่งกินก่อนเฉยเลย
“เฮ้ยย!ทำไมพี่กินเยอะขนาดนั้น”ซูยองร้องครวญคราง
ปกติเห็นเวลากินอะไรนี่จะเรียบร้อยตลอด โดยเฉพาะเวลามีงานข้างนอก เผลอๆบางทีนี่ไม่ยอมกินอะไรเลยเพราะกลัวว่าจะเสียภาพพจน์ จนพวกเธอต้องเอือมบ่อยๆ บางครั้งก็มีจับล็อคแล้วยัดเยียดอาหารให้บ้าง แต่ขนาดนั้นก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ
เห็นตัวเล็กๆขนาดนี้นะดิ้นเก่งจะตาย สามคนจับยังเอาไม่อยู่(ไอยูกับยุนโฮไม่ยอมเล่นกับพวกเธอด้วย)
แล้วทำไมคราวนี้ถึงได้กระดกเอาๆ ไม่ใช้หลอดด้วยนะนั่น!
“ก็คนมันหิวน่ะ อุ๊ยตายละ...เกือบหมดเลย”แสร้งอุทานด้วยเสียงที่น่าหมั่นไส้ที่สุดในโลก ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่นี่มีต่อยเลยนะเนี่ย
“ชักจะกวนใหญ่แล้วนะพี่”ซูยองจ้องซันนี่ตาเขม็ง “แต่เอาเถอะ ยังไงมันก็ยังไม่หมดล่ะนะ”
ว่าแล้วก็แย่งขวดน้ำคืนมากินต่อ ไม่ได้ๆ เดี๋ยวซันนี่กินหมดก่อน ไม่อย่างนั้นล่ะเธอได้อดกินจริงๆแน่
“ว่าแต่พี่ไปอดอยากมาจากไหนเนี่ย ถึงได้กินเอาๆซะขนาดนั้น ไม่รักษาภาพพจน์อย่างที่ปากบอกแล้วเรอะ”
“ก็...เอ๋~ นั่นมันคุณเจสสิก้านี่นา มาที่นี่ได้ยังไงน่ะ”ซันนี่รีบเปลี่ยนเรื่อง ชี้นิ้วไปทางเจสสิก้าที่กำลังยืนคุยอะไรไม่รู้สองต่อสองกับแทยอน จริงๆแล้วเธอเห็นนางแบบสาวมาตั้งนานแล้วแหละ แต่ที่ไม่รีบบอกก็เพราะจะมาใช้เบี่ยงเบนประเด็นเวลาซูยองถามเรื่องนี้
และเธอก็เดาไม่ผิดจริงๆ...เรื่องใหม่ๆสามารถดึงความสนใจจากเด็กตัวสูงโย่งคนนี้ได้เสมอ
“มาจีบพี่แทยอนอีกตามเคยแหละค่ะ...”ไอยูเด้งตัวขึ้นมาพูดข้างหลังพวกเธอสองคน สร้างความตกใจได้ไม่น้อย ดีนะที่ไม่โผล่มาตอนกลางคืน ไม่งั้นเธอคงช็อคตายแหง
แต่ประเด็นที่ไอยูพูดก็น่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย
“มาจีบเนี่ยนะ...ที่มาหาถึงหอเกือบทุกวันนี่ยังไม่พออีกเหรอ”ซันนี่เอ่ยปากวิจารณ์ พลางเสมองไปยังนางแบบสาวที่ยืนคุยกับแทยอนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
นั่น...แล้วยังจะมาทำเป็นเอามือปิดปากหัวเราะ น่าหมั่นไส้จริงแม่คุณ
“ว่าแต่เธอรู้ได้ยังไงไอยู ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะสนใจเรื่องนี้”หันไปกล่าวโทษคนตัวสูง “อย่าบอกนะว่าเธอไปกรอกหูอะไรไอยู จะพาน้องเขาเสียคนอีกแล้วใช่ไหม”
“หื้อ~ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะพี่”’งานนี้คนโดนใส่ร้ายรีบปกป้องตัวเองเต็มที่
“จะไม่เกี่ยวได้ยังไง...ก็ฉันเห็นแกชอบนินทาเรื่องนี้ให้ไอยูฟัง อาจจะติดเป็นนิสัยไปแล้วก็ได้ โถๆๆน้องเล็กของพี่”
เรียกได้ว่าแทบทุกครั้งที่เจสสิก้าทำอะไรอันมีผลเกี่ยวข้องกับแทยอน ซูยองก็มักจะเอามานั่งจับกลุ่มคุยนินทากับพวกเธอเสมอ และทุกครั้งต้องลากไอยูเข้ามาร่วมวงด้วย
เผลออาจเอาไปเม้าท์มอยต่อในห้องนอนก็ได้ ด้วยความที่น้องเล็กทั้งสองเป็นรูมเมทกัน
จริงอยู่ไอยูผู้น่ารักมองโลกในแง่ดีงาม ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ และก็เป็นไอยูนั่นแหละที่คอยห้ามปรามไม่ให้พวกเธอพูดเรื่องนี้เพราะเกรงว่าทั้งแทยอนทั้งเจสสิก้าจะได้รับความเสียหาย
แล้วไหงตอนนี้ถึงได้พูดประโยคพรรค์นี้ออกมาซะเอง...ถ้าไม่ติดจากซูยอง
“แหม~ มาถึงขนาดนี้จะไม่คิดอย่างนั้นคงไม่ได้แล้วล่ะค่ะ”ไอยูว่า “ฉันได้ยินพี่เจสสิก้าพูดนะคะว่าเสร็จจากงานก็รีบมาหาพี่แทยอนที่นี่เลยน่ะค่ะ”
“แล้วเธอมีความเห็นว่ายังไงล่ะ”ซันนี่อดถามความคิดเห็นจากน้องสาว(ที่ตัวสูงกว่านิดนึง)ไม่ได้ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นนินทาชาวบ้าน ไหนๆวันนี้เจ้าตัวจัดมาให้แล้ว ก็ขอสักหน่อยละกัน
“ทั้งตกใจทั้งเป็นห่วงเลยค่ะ”
“ไม่คิดว่าพี่เจสสิก้าเขาจะจริงจังขนาดนั้น คิดๆดูแล้วก็สงสารพี่แทยอน ต้องรับศึกหนักน่าดู”
“ก็จริงของไอยู”ซูยองพยักหน้าเห็นด้วย
ในตอนนี้เธอยังไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอะไรมาก เพราะเจ้าของหัวข้อการนินทายังยืนอยู่ไม่ไกล กลัวว่าเม้าท์ไปเม้าท์มาเจ้าหล่อนจะได้ยินเข้าแล้วเหวี่ยงใส่พวกเธอแทนจีบแทยอน
หลังจากนั้นไม่นานเทพบุตรยุนโฮและเทพธิดาฮโยยอนก็เข้ามาช่วยแทยอนไว้ได้ทันท่วงที โดยอ้างว่าต้องรีบไปซ้อมและอยู่คุยกับโปรดิวเซอร์เรื่องงานเพลงใหม่ ไม่สามารถอยู่คุยต่อได้ เจสสิก้าจึงจำใจปล่อยแทยอนสู่อิสรภาพ
แต่ในฐานะคนนอกอย่างพวกเธอคงช่วยได้แค่นี้ เนื่องด้วยไม่มีสิทธิ์อะไรไปห้ามไม่ให้เจสสิก้ามายุ่งกับแทยอน ต่อจากนี้ก็อยากให้แทยอนเปิดอกคุยกันกับเจสสิก้าด้วยตัวเองเรื่องความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่
ถ้าขืนยังปล่อยให้มันคาราคาซังไม่ชัดเจนต่อไป คงไม่มีอะไรดีขึ้นมา
นาทีนี้ สำหรับฮวังมิยอง ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าการเข้าอินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาอะไรบางอย่างอีกแล้ว
หลังจากที่ยูริมาส่งเธอถึงที่บ้านแล้ว ช่างก็เอาเครื่องซีพียูมาให้เธอพอดี ใช้เวลาในการติดตั้งกันไม่นานนัก คอมพิวเตอร์ของเธอก็สามารถใช้งานได้อย่างปกติสุข
และเมื่อคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้แล้ว ทุกอย่างมันก็ง่ายไปหมด
ทิฟฟานี่ตัดสินใจเข้าเว็ปyoutubeก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเธอเชื่อว่า มันจะสามารถให้ข้อมูลกับเธอได้ชัดเจนมากที่สุด ทันทีที่หน้าเว็ปเปิดเธอไม่รอช้า รีบพิมพ์สิ่งที่อยากรู้ลงไปทันที
ไม่นานสิ่งที่เธอต้องการก็ปรากฏขึ้น คลิปวีดีโอต่างๆโผล่ให้เห็นกันพรึ่บพรั่บ ทำเอาเธออยากจะเป็นลม แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเปิดดูคลิปที่มีช่วงเวลานานที่สุด เพื่อความชัดเจน
เสียงเพลงรักหวานใสเริ่มบรรเลงทันทีที่เธอเปิดคลิป นี่ยังไม่นับภาพประกอบและคลิปที่ตัดต่อออกมามากมายเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ บอกตามตรงว่าเห็นแล้วมันน่าปรี๊ดมาก
‘OPV Love story TaeU Chocolate’
โอเค...บางคนอาจจะชมว่ามันน่ารักอย่างนั้นเรียลอย่างนี้ แต่สำหรับเธอ ไม่เลยสักนิด!
อย่าเข้าใจผิด เธอไม่ได้แอนตี้ไอยู ไอยูเองก็น่ารักน่าเอ็นดูมากมายในสายตาของเธอ แถมยังเล่นดนตรีได้เก่ง ใครจะไปกล้าเกลียดได้ลงคอ
เธอแค่ไม่อยากให้ใครหน้าไหนมาคู่กับแทยอนของเธอเท่านั้นเอง...
ทิฟฟานี่ตัดสินใจปิดคลิปนั่นไปทั้งๆที่ยังเล่นได้ๆไม่ถึงครึ่ง ก่อนจะเข้าไปยังเว็ปไซต์แฟนคลับวงChocolateแทน ซึ่งเธอมั่นใจว่านี่เป็นแหล่งข้อมูลสุดท้ายที่เธอจะดู
‘แฟนฟิคชั่น’
บอกตามตรง...ตอนแรกเธอไม่เคยคิดจะมาสนใจห้องนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะเธอไม่ใช่คนที่ชอบนั่งอ่านอะไรประเภทนิยายรักหวานๆแหววๆ ถึงแม้ตอนนี้จะมีความรักให้แทยอน มันก็ยังเป็นสิ่งสุดท้ายในโลกที่เธอคิดจะใส่ใจ
อ่อ...ถ้าเป็นนิยายฆาตกรรมลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนนี่ก็ว่าไปอย่าง ประมาณว่า สภาพศพเลือดไหลเครื่องในหลุดสมองกระจายอะไรทำนองเนี้ย
อุ๊ แม่เจ้า...นี่มันอะไรกันวะคะเนี่ย!
ทำไมไอ้ห้องนี้มีแต่คำว่า ‘แทยู’ อยู่เต็มเกลื่อนกลาดซะขนาดนี้
สาวตายิ้มไล่อ่านรายชื่อแฟนฟิคแต่ละเรื่องลงไปเรื่องแล้วเรื่องเล่า จะกี่เรื่องต่อกี่เรื่องก็ล้วนมี ‘แทยู’ รวมอยู่ไปซะหมด
เนื่องจากเธอต้องการเวลาทำใจ จึงตัดสินใจคลิกเข้าไปดูฟิคของคู่ ‘ซูยองกับซันนี่’ อย่าง ‘ซูซัน’ เสียก่อน
เชอะ!คู่นี้ยังจะเข้าท่าน่ารักกว่าตั้งเยอะ
ดูสิ เคมีเข้ากั๊น เข้ากัน~ สูงกับตัวเล็ก เหมาะสมกันยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยก
แต่ในท้ายที่สุด เมื่อเธอไล่อ่านฟิคของซูซันจนหนำใจแล้ว...มันก็ถึงเวลาของคู่ที่อยากจะหลีกเลี่ยง
ฟานี่อา...แค่อ่านฟิค อย่าไปคิดอะไรมาก มันก็เหมือนกับเรื่องทั่วๆไปนั่นแหละ
เธอคลิกเข้าไปดูเรื่องที่ติดท๊อป 1 ใน 5 เรื่องยอดนิยม ก่อนจะบังเกิดความลังเลอีกครั้งเมื่อพบเห็นตอนปลีกย่อยต่อไปอีก30กว่าตอน...กว่าจะอ่านจบเธอคงประสาทกินพอดี
ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์แกล้ง เธอถึงได้เลือกกดตอนที่มียอดคนอ่านคนคอมเม้นท์สูงที่สุด
เอาเถอะ...จะตอนไหนๆก็เหมือนกันไปหมดแหละน่า กะอีแค่แฟนฟิค จะมีอะไรนักหนา
“ไอยู เธอจะหนีพี่ไปไหนน่ะห๊ะ”แทยอนกล่าวเสียงเข้ม
“เปล่าค่ะ แค่เห็นว่าพี่แทยอนคุยกับพี่ซันนี่ดูมีความสุขดี เลยไม่อยากเข้าไปขัด”คนอายุน้อยกว่ายืนนิ่ง ไม่ยอมหันกลับไปประจันหน้ากับคนอายุมากกว่าที่อยู่ข้างหลัง ด้วยเกรงว่าจะเผลอแสดงความอ่อนแอออกมาให้เขาได้เห็นอีก
อะไรกัน...เข้มแข็งหน่อยสิไอยู อย่าร้องไห้อีกเลย
“แล้วทำไมต้องวิ่งหนีออกมาแบบนี้ด้วย พี่เป็นห่วงนะรู้ไหม”แทยอนก้าวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ “มีอะไรก็พูดกันดีๆ เงียบใส่แบบนี้พี่ไม่สบายใจ”
ไอยูรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านลงบนไหล่มน แต่มันกลับยิ่งทำให้น้ำตาเธอไหลพราก
“ฮึก..ฮึก พี่แทยอนอย่ามาแสดงความเป็นห่วงกับฉันเลยค่ะ พี่รู้ไหมว่าพี่ทำแบบนี้แล้วฉันจะยิ่งคิดมาก”
“ไอยู เธอร้องไห้ทำไมกัน”แทยอนตกใจเมื่อไอยูหันหน้ามา มือขาวๆรีบเช็ดหยาดน้ำตาของสาวเจ้าที่ยังคงไหลต่อไปไม่หยุด
“พี่รู้ไหมค่ะ ฉันน่ะมันเป็นน้องที่แย่จริงๆ”พูดทั้งสะอื้น หากแต่คนฟังกลับไม่รู้สึกว่ามันฟังไม่รู้เรื่อง ราวกับว่ามันเป็นประโยคที่ไม่จำเป็นต้องใช้ปากพูด...ของแบบนี้แค่มองตากันก็เข้าใจถึงความรู้สึกแล้ว
“ทั้งเอาแต่ใจ คอยอ้อน และชอบทำให้พี่แทยอนลำบากใจอยู่เรื่อย”
“ฉันไม่ชอบที่พี่ไปคุยกับคนอื่น ส่งยิ้มให้คนอื่น ทำกับคนอื่นเหมือนที่ทำกับฉัน..ไม่ชอบเลยจริงๆ”
“แต่ว่าฉันน่ะ...รักพี่นะคะ”
“ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว พอเถอะ”แทยอนส่งยิ้มให้คนที่เคยเป็นน้องสาวแสนน่ารักของตัวเองมาตลอด อาจเพราะโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก และอายุที่ห่างกันมากมายหลายปี จนทำให้เธอมองข้ามความรู้สึกดีๆที่น้องสาวคนนี้มีมาให้เธอเสมอ
แต่ในตอนนี้ เธอคิดว่าเธอคงรู้ใจตัวเองแล้วล่ะ
เธอรู้ใจตัวเอง...ตั้งแต่ตอนที่ไอยูวิ่งหนีออกมาแล้ว
“เพราะสิ่งที่พี่อยากจะบอก ก็คือ...พี่รักเธอเหมือนกันนะ รักมานานมากแล้วด้วย”
“พี่แทยอน...”ไอยูมองหน้าแทยอนด้วยความปลาบปลื้ม น้ำตาไหลหนักกว่าเดิม
“เด็กขี้แงเอ๋ย”แทยอนลูบหัวคนที่มีทีท่าว่าจะยังคงร้องไห้ต่อไปอย่างเอ็นดู
ก่อนที่ทั้งสองจะได้มาสบตากัน ด้วยความรักที่มีให้กันและกันตลอดมาจนเปี่ยมล้น ดวงหน้าขาวใสค่อยๆเลื่อนเข้าไปใกล้กันเรื่อยๆ และ....
จูบกันเนี่ยนะ! ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ทิฟฟานี่กดปิดหน้าต่างตอนนั้นทิ้งอย่างไม่ใยดี แล้วเอามือทึ้งผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด
มีเป็นสิบๆตอนไม่เลือก ดันเลือกตอนสารภาพรักกันซะงั้น....ช้ำเลยเรา
นี่ยังดีนะไม่อ่านต่อ ถ้าเธออ่านต่ออาจจะเจออะไรที่ทำร้ายจิตใจมากกว่านี้แน่ๆ
“ตกใจหมดเลย ยัยบ้าเอ๊ยย”ไม่รู้ว่าประโยคหลังนี่ด่าใคร แต่เธอไม่ได้ด่าตัวเองแน่นอน คนที่มีสิทธิ์เป็นไปได้มากที่สุดก็คงเป็น คนแต่ง นั่นแหละ
“...”ทิฟฟานี่นั่งสงบสติอารมณ์เงียบๆสักพัก คิดทบทวนจัดการอะไรต่อมิอะไรที่ไหลวนเวียนเข้ามาในหัวเธอไม่ขาดสาย...ตอนนี้เธอต้องมีสติ ใจเย็นไว้
ยะ..เย็นไม่ได้แล้วโว้ยยยยยย!
“นี่แน่ะๆ เรียลนักเหรอ เรียลนักใช่ไหม”ทิฟฟานี่แทบจะไม่รู้สึกตัวว่าเธอทำอะไรลงไป ความรู้สึกเหมือนโลกหมุน มันมึนมันงงไปหมด สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แถมยังปล่อยให้ความโกรธเข้ามาบังจิตใจ
เอาเถอะ ต่อให้แฟนคลับคนอื่นๆจะมารุมด่าก็ช่าง เธอไม่แคร์...เธอแค่อยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองพอใจเท่านั้น อีกอย่างเธอก็แค่เสนอความคิดของตัวเองลงไป ไม่เห็นว่ามันจะผิดตรงไหน
ตรุ๊งงงง~
เสียงสัญญาณจากเว็ปไซต์ดังขึ้นเพื่อยืนยันการกระทำของเธอ พร้อมกับข้อความเล็กๆที่เด้งออกมาให้เธอกดยืนยันครั้งสุดท้าย
ไม่รู้ว่าจะมีไว้ทำไม...ในเมื่อมันมีแค่ปุ่ม ‘OK’ เท่านั้นที่สามารถกดได้
‘คุณได้ทำการตั้งกระทู้แล้วเรียบร้อย ทางระบบจะแสดงหน้ากระทู้ของคุณภายใน 3 วินาทีต่อไปนี้’
“ทุกคนๆ มาดูนี่ดิ”เด็กตัวโย่งประจำวงกวักมือเรียกสมาชิกคนอื่นๆที่กระจัดกระจายกันไปทั่วห้องให้มารวมตัวกันยังหน้าคอมพิวเตอร์ แม้ทุกคนจะคิดว่าคงเป็นเรื่องไร้สาระอีกตามเคย แต่ก็ยอมเดินมาตามคำขอ
“มีอะไรน่าสนใจนักเหรอ”ฮโยยอนเดินมาถึงก่อนเป็นคนแรก กวาดสายตาอ่านเนื้อหาสั้นๆเพียงไม่กี่บรรทัดในหน้ากระทู้ที่ซูยองเปิดอยู่
แต่...เนื้อหาสั้นๆนี้ดันฮาอย่างแรง!
“มีอะไรเหรอคะ”เมื่อสมาชิกมาจนครบทุกคน ซูยองจึงหลีกทางให้ทั้งสามคนได้อ่านกันสะดวกๆ โดยพยายามทำเป็นไม่สนใจฮโยยอนที่ขำจนลงไปนอนเกลือกกลิ้งกับพื้นห้อง
ดีเลย ถือเป็นการทำความสะอาดพื้นไปในตัว
“นะ..นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย”แทยอนอ้าปากหวอ คาดไม่ถึงว่าจะมีคนที่กล้ากระทำการณ์อันอุกอาจเช่นนี้ “ยัยนี่มันเป็นใครวะเนี่ย”
“ฮ่ะๆ ท่าทางจะเป็นแฟนคลับที่รักเธอมากๆเลยล่ะแทยอน”คนตัวเล็กที่สุดในวงยิ้มกริ่มล้อเลียน โดยมีไอยูคอยผสมรับเป็นลูกคู่กันอย่างลงตัว
“นั่นสิคะ เห็นแล้วชักอยากจะเห็นหน้าขึ้นมาตงิดๆ”
“บ้า...บ้าชัดๆ ไม่บ้าก็เพ้อ ไม่เพ้อก็โรคจิตแล้วล่ะขนาดนี้”คนโดนพาดพิงทำหน้าแหยเหมือนกินมะนาวเข้าไปทั้งลูก เกิดมาเพิ่งจะเคยเจอแฟนคลับที่ประหลาดได้มากถึงขนาดนี้
ถึงท่าทางจะไม่น่ากลัวเท่าพวกแฟนคลับที่กรีดข้อมืออะไรเทือกๆนั้น แต่ก็ยังดูเป็นโรคจิต...ไม่น่าไว้ใจอยู่ดี
วันดีคืนดีถ้าไปเจอกันตามลำพังข้างนอก ไม่มีการ์ด ไม่มีคนคอยคุ้มกัน เธอคงได้โดนผู้หญิงคนนี้ลากไปทำมิดีมิร้ายแน่นอน ฟันเฟิร์ม
“แกนี่ใจร้ายจังนะแทยอน ฮ่ะๆๆ”หลังจากขำจนหนำใจแล้วฮโยยอนก็พยุงร่างตัวเองขึ้นมา “คนเขาอุตส่าห์มอบความรักให้แกขนาดนี้ ฉันว่าน่ารักดีออก”
ถึงจะดูเพ้อฝันไปนิดๆ แต่เธอก็คิดว่ามันเป็นการกระทำที่น่ารักน่าเอ็นดูอยู่ไม่หยอก คิดดูเถอะว่าจะมีสักกี่คนในโลกนี้ที่จะกล้าคิดและกล้าทำแบบนี้ ท่ามกลางแฟนคลับนับพันนับหมื่นที่ออนไลน์อยู่ และพร้อมที่จะโจมตีได้ทุกเมื่อถ้าเกิดคนพวกนั้นไม่เห็นด้วยขึ้นมา
แต่ท่าทางคนโพสจะไม่ค่อยได้ใส่ใจอะไร ไม่แม้แต่จะออนไลน์เพื่อเช็คเรตติ้ง...คงจะทำด้วยความสะใจส่วนตัวมากกว่าล่ะมั้ง
“น่ารักกะผีน่ะสิ”หน้าเครียดกว่าเดิม เห็นได้ชัดว่าแทยอนหวาดผวากับเนื้อความในกระทู้นี้มาก
“จิ้นศิลปินกับตัวเองเนี่ยนะ”
ถึงตอนนี้แล้วทุกคนอาจจะไม่เข้าใจว่าเนื้อหาในกระทู้นั้นคืออะไร งั้นเธอจะบอกให้...แต่ขอแค่ประเด็นหลักจับใจความเลยนะ
‘โดยความเห็นส่วนตัวของฉัน ฉันคิดว่าคู่ที่เรียลที่สุดคือซูซันและฮโยยูค่ะ’
‘ส่วนแทยอน สมควรจะคู่กับฉันมากที่สุดค่ะ’
***************************************************
ฟานี่โคตรเพ้อ555
แต่เพราะรักแทยอนมากนะ ถึงได้ทำลงไปแบบนี้><
ถ้าได้มาเจอกับเจสสิก้านี่จะเป็นยังไงนะ^^?
ความคิดเห็น