ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I'm yours ฉันรักเธอแล้ว รับผิดชอบด้วยล่ะ [SNSD] (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 16 : เดทลั้ลลา (เวอร์ชั่นแทนี่)

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 55







    Chapter 16 :
    เดทลั้ลลา (เวอร์ชั่นแทนี่)


     

    วันนี้เป็นวันที่คนบางคนรอคอยมานาน...


    สาวตายิ้มที่น่ารักที่สุดในโลก(เจ้าตัวคิดเองเออเอง) กำลังนั่งรอนักร้องในดวงใจที่ตอนนี้เหมือนจะใกล้ๆพัฒนาเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันซะแล้ว และคาดหวังว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะพัฒนาไปอีกหลายระดับ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะคิดแบบเธอไหม แต่อย่างน้อย เธอก็จะพยายามคิดเข้าข้างตัวเองไปอย่างเดิมๆละกันนะ


    ต้นเหตุของการมาเที่ยวของเธอและนักร้องสาวนั้น เกิดจากการที่เธอทนเรียบร้อยเป็นกุลสตรีคอยแต่จะเป็นฝ่ายรอให้เขาโทรมาหาก่อนก็ไม่ไหว เลยจัดการโทรไปหาทันที คุยเรื่องไร้สาระทั่วๆไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็ค่อยๆเกริ่นเรื่องชวนไปเที่ยว


    อ๊ะๆ ถึงเธอจะเป็นฝ่ายโทรไปหาก่อน แต่ความเป็นกุลสตรีเกาหลีก็ยังต้องมี เพราะงั้นเธอถึงได้แค่เกริ่นเรื่องเที่ยวเอาไว้ แล้วพูดกดดัน(?)ให้แทยอนเป็นฝ่ายออกปากชวนเธอเอง โดยอ้างอิงจากวิธีทางจิตวิทยาที่ซอนมีเคยสอนเธอ


    และแน่นอนว่ามันได้ผลดีเกินคาด แทยอนชวนเธอไปเที่ยว แถมยังให้เธอเลือกสถานที่เที่ยวแบบตามใจอีกต่างหาก!


    แฟนคลับคนไหนได้รับสิทธิพิเศษแบบนี้มั่งค๊า ไม่มีหรอกค่า โฮ๊ะๆๆๆๆ ~


    รอนานไหมมิยองหลังจากนั้นไม่นาน ก็โผล่มาอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง แต่เธอรู้ได้ว่าคนที่เรียกนั้นเป็นใคร จากชื่อเฉพาะที่มีไว้เรียกกันและกัน ซึ่งเธอยอมให้แทยอนเรียกเพียงคนเดียว แม้จะแอบตกใจแต่คนถูกเรียกก็หันไปมองด้วยตายิ้มอันเป็นเอกลักษณ์


    ไม่นานหรอกแทแท เพิ่งมาถึงเมื่อกี้เอง


    ส่วนความจริงแล้ว ไม่นานบ้าอะไรล่ะ...นั่งอยู่คนเดียวตรงนี้มานาน 3 ชั่วโมงจนเหน็บจะกินอยู่แล้ว!


    แต่จะไปโทษแทยอนก็ไม่ได้ เพราะแทยอนมาตรงตามเวลานัดเป๊ะ ฝ่ายเธอเองต่างหากที่ใจร้อน รีบมาคอยก่อน...แน่ล่ะ มันเป็นเดท(?)ครั้งแรกของเธอ ก็เลยตื่นเต้นพะวงนั่นพะวงนี่ไปหมด กลัวว่าจะแต่งตัวไม่สวยพอบ้างล่ะ กลัวว่ารถจะติดมาไม่ทันบ้างล่ะ และอะไรๆอีกมากมาย เธอจึงตัดปัญหาตื่นก่อนเวลาปกติ 4 ชั่วโมงซะเลย


    ตลอดเกือบสี่ชั่วโมงนั้นก็หมดไปกับการเลือกสรรเสื้อผ้า และแต่งหน้าให้ดูดีที่สุด เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกจนกระทั่งผลออกมาเป็นที่พอใจ เธอจึงจะยอมเสด็จออกจากที่ประทับได้...และเป็นโชคดีอีกชั้นที่เธอรีบออกมาแต่เช้า รถจึงไม่ติดอะไรมาก


    ที่สำคัญคือได้โทรเรียกคนขับรถส่วนตัว(?)ที่มีสถานะเป็นเพื่อนซี้เพื่อนตายอย่างนิโคลมาช่วยขับรถให้(ทั้งๆที่ยังอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น) จึงประหยัดเวลาเธอไปได้มากโข


    เหรอ...งั้นจะนั่งต่อไหมแทยอนถามอย่างมีมารยาท โดยพยายามที่จะควบคุมน้ำเสียงของตนเองไม่ให้ดังจนเกินไป เพราะเธอมีศักดิ์เป็นนักร้อง ต้องใช้เสียงอยู่ทุกวัน แน่นอนว่าประชาชนคนทั่วไปย่อมจดจำเสียงเธอได้ จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากเธอจะมาเที่ยวกับทิฟฟานี่ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นผู้หญิงทั้งคู่ คงไม่มีใครคิดมาเขียนข่าวหรอก


    แต่เธอก็ไม่อยากจะให้ผู้คนต้องมาแตกตื่น หรือรุมสนใจพวกเธออย่างสนใจ จนเธอเสียความเป็นส่วนตัว วันนี้มาพักผ่อนทั้งที ขอแบบคนธรรมดาๆจะเริศมาก


    อ่อ ไม่ล่ะ เราไปกันเลยเถอะทิฟฟานี่ส่ายหัวเบาๆ โดยยังพยายามเก็บอาการไม่ให้แสดงออกทางสีหน้าว่า กูนั่งจนเมื่อย!’ เดี๋ยวแทยอนจะรู้สึกเสียน้ำใจอะไรทำนองนั้น


    สาวตายิ้มก้าวขาฉับๆด้วยความไวแสง ทิ้งแทยอนให้ยืนมองงงๆท่ามกลางฝูงชนคนหมู่มาก เปล่า...เธอไม่ได้ลืมแทยอน แต่เธอแค่ตื่นเต้นไม่รู้จะทำตัวยังไงดีเลยต่างหาก ถึงจะเคยเที่ยวด้วยกันสองต่อสองที่ญี่ปุ่น แต่มันก็นานมาแล้ว...พอได้เที่ยวด้วยกันอีกที มันเลยตื่นเต้นอีก มากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป


    นี่ จะรีบเดินไปไหนล่ะนั่นแทยอนไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสเดินไปจนไกล เห็นตัวเล็กๆขาสั้นๆอย่างนี้อย่าประมาทไปเชียวล่ะ เดินเร็วกว่าเธอเสียอีก


    อ่า ฉันคิดว่าแทแทเดินข้างๆฉันซะอีกตอแหลขั้นสูงสุด...


    ก็เล่นเดินออกมาแบบนั้น ใครจะไปตามทันเล่าคนตัวเล็กบ่นอุบอิบ เดาได้เลยว่าตอนนี้กำลังทำแก้มป่องงอนๆอยู่ ถึงแม้จะมองไม่เห็นหน้าชัดๆเพราะมีหมวกบังอยู่ก็ตามที


    แต่ใครจะไปนึกล่ะ ว่าหลังจากนั้นแทยอนจะสามารถเปลี่ยนอารมณ์ได้หน้าตาเฉย


    มาจับมือกันไว้เถอะ เดี๋ยวหลง แถมยังคว้ามือเธอไปจับ หน้าตาเฉย...


    ไม่ได้สนใจเลยว่าหน้าตาคนถูกจับจะออกมาเป็นอย่างไร


    อย่าทำให้ต้องเขินบ่อยนักสิ เดี๋ยวปั๊ดจับข่มขืนซะเลยนี่!


     

     

    เฮ้ยๆๆๆๆ จับมือกันแหล่วววววทั้ง 4 ชีวิตที่หลบอยู่หลังซอกมุมตึกแสดงอาการดี๊ด๊าอย่างชัดเจนเมื่อได้เห็นภาพอันน่าประทับใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของหัวหน้าวงที่เปรียบดั่งพี่สาวแท้ๆของพวกเธอกับแฟนคลับสาวตายิ้ม


    แหมะ ไวไฟกันจริงๆนะคู่นี้ฮโยยอนยิ้มร่า หันไปคุยหัวเราะคิกคักกับซูยองและไอยูจนซันนี่ต้องรีบเอ่ยปรามด้วยน้ำเสียงดุๆ


    มัวแต่เม้าท์กันอยู่นั่นแหละ สองคนนั้นเดินกันไปไกลแล้วนะ


    เอ่อ...ไม่ค่อยจะบ่งบอกเลยว่าชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน


    เปล๊า...ที่พวกเธอ 4 คนตามมาน่ะ ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยหัวหน้าวงตัวน้อยทั้งนั้นเลยนะ กลัวว่าจะซุ่มซ่ามเดินสะดุดยอดหญ้า(?)ล้มจนเจ็บตัวอะไรทำนองนั้น ไม่ได้มีเจตนาอะไรไม่ดีเลยจริงๆ


    เอ่อ แต่จริงๆแล้วนั่นน่ะมันเป็นแค่ประเด็นรอง ประเด็นหลักคือพวกเธออยากจะเห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ของแทยอนกับทิฟฟานี่ต่างหาก...เห็นคู่นี้ดูคลุมเครือๆกันมาตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นละ แถมยังแลกเบอร์อะไรไว้เสร็จสรรพ แต่สุดท้ายต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมโทร หรือจะไปแอบคุยกันลับหลังพวกเธอก็ไม่แน่ใจนะ


    เพราะรู้ตัวอีกที แทยอนก็มาเที่ยวกับทิฟฟานี่ซะแล้ว


    ไอ้พวกเธออยู่หอว่างๆก็ไม่รู้จะทำอะไรดี ในโทรทัศน์ก็มีแต่รายการเดิมๆ จะซ้อมก็ได้ซ้อมแค่เพลงเดิมๆ สุดท้ายเลยแอบตามแทยอนมาลับๆโดยการช่วยเหลือจากผู้จัดการวงแสนใจดีอย่างยุนโฮขับรถมาส่ง ที่แม้จะทำมาดนิ่งขรึมไม่อยากรู้ แต่ใจจริงแล้วพวกเธอเชื่อว่าเป็นห่วงสมาชิกทุกคนมากกว่าใคร


    และเชื่อได้เลยว่าเสร็จงานนี้แล้วกลับไปถึงหอ ยุนโฮต้องแอบถามพวกเธอแน่นอน


    น่ารักกันจังเนอะสองคนนี้ซูยองท่าทางมีความสุขเกินหน้าเกินตาคนอื่นพี่แทยอนก็เกือบๆจะเรียบร้อยไปแล้วนะ คนอื่นๆไม่เอามั่งเหรอ


    เพราะพวกเธออยู่ด้วยกันมานาน และเธอรักและเป็นห่วงสมาชิกทุกๆคนในวงมากๆ ถึงจะไม่ใช่เรื่องง่ายในวงการบันเทิงที่ศิลปินวัยรุ่นจะมีคนรัก แต่เธอก็ยังมีความรู้สึกที่อยากจะให้ทุกๆคนมีความรักกับใครสักคนอยู่ดี


    พี่ยังอยากทำงานอยู่นะฮโยยอนว่า ทั้งที่ยังมองคู่แทยอนกับทิฟฟานี่ไม่วางตา กะว่าจะไม่ให้พลาดแม้แต่ตอนเดียว


    ฉันยังเด็กอยู่นะคะ จะให้มาคิดเรื่องพวกนี้ได้ไง....จิ้นคนอื่นน่ะสนุกกว่าเยอะตอบกันครบทุกคน ขาดก็แต่พี่สาวตัวเล็กที่ยังทำเป็นนิ่งราวกับไม่ได้ยินคำถามของเธอ


    แล้วพี่ซันนี่ล่ะ...แฟนคนล่าสุดก็เลิกกันไปหลายปีแล้วนี่ ไม่เหงาใจ ไม่คิดอยากจะหาแฟนใหม่บ้างเหรอด้วยความสัตย์จริง เธอคิดว่าเธอเป็นห่วงเรื่องความรักของซันนี่มากกว่าใคร


    ดูเผินๆซันนี่เหมือนจะเป็นสาวเก่งสาวมั่นอะไรทำนองนั้น ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ใครล่ะจะรู้ว่าลึกๆแล้ว เจ้าหล่อนนั้นขี้น้อยใจมากแค่ไหน โดยเฉพาะกับคนที่แคร์มากๆ...บางทีเวลาเลิกกับคนรัก ปากบอกไม่เป็นอะไร แต่ก็ชอบแอบไปร้องไห้คนเดียวทุกที


    ถึงตอนนี้เธอจะอยากให้พี่สาวคนสวยมีใครสักคนมาเป็นคนรัก แต่ถ้ามีจริงๆ เธอก็คงต้องตรวจสอบกันยกใหญ่ล่ะ


    จริงๆแล้วตอนนี้ก็มีอยู่คนนึงที่สนใจอยู่ซันนี่เงียบไปพักใหญ่ก่อนจะตอบ เนื่องด้วยไม่รู้ว่าควรจะพูดออกไปอย่างไรดี...ใจหนึ่งเธอก็อยากให้ซูยองรู้เองจากการกระทำ แต่อีกใจมันก็ค้านอยากให้ปากบอกเสียตั้งแต่ตอนนี้


    หน้าตาธรรมดาๆนะ แต่หุ่นดีสูงเพรียวเชียวล่ะ หน้าที่การงานก็ดีฐานะร่ำรวย เสียอย่างเดียวซื่อบื้อไปนิด...สุดท้ายจึงออกมาเป็นแค่คำใบ้แถมแอบหลอก(?)ด่าไปในตัว


    แน่นอนว่าไม่ได้ทำให้คนตัวโย่งรับรู้เลย


    อ่อ แล้วคนๆนั้นเป็นใครกันเหรอ ฉันรู้จักไหมนั่น...ยังมีหน้ามาถามอีก


    ฮโยยอนและไอยูหันมามองหน้าเธออย่างเข้าใจ อารมณ์ประมาณว่าอยากจะซื้อกระจกมาให้ซูยองมันเอาไปส่องเหลือเกิน


    เรารีบตามกันไปเถอะน่า มัวแต่สนใจเรื่องของฉันอยู่ได้สุดท้ายเธอก็ไม่คิดที่จะขยายความอะไรต่อจากนั้น เกรงว่าพูดไปก็ไร้ค่าอยู่ดี....


    เหนื่อยกับความรักของตัวเองจริงๆ..ไปลุ้นความรักของแทยอนซะยังจะดีกว่า


     

     

    เจ๋งใช่ไหมล่ะ ร้านของยูริน่ะ คนที่เจอกันที่ญี่ปุ่นเมื่อคราวนั้นทิฟฟานี่โฟ่วแตกราวกับคนที่ไม่ได้พูดอะไรมานานอย่างไม่มีเหนื่อยไม่มีเมื่อย แน่นอนว่าตลอดวันตลอดเวลาที่ได้อยู่กับเธอเชียวล่ะ ยิ่งได้มานั่งในร้านอาหารที่มีบรรยากาศดีๆคงยิ่งทำให้พลังงานฟื้นฟูเร็วมากขึ้นอีกหลายเท่า


    ที่มากับเจสสิก้าสินะแทยอนพึมพำ จะว่าไปแล้ว วันสุดท้ายที่เขาได้เจอกับเจสสิก้าที่สนามบิน เจ้าหล่อนก็ไม่ได้แสดงท่าทีตื่นเต้นอะไรมากที่ได้เจอเธอ อันที่จริงไม่ได้เข้ามาพูดคุยกับเธอด้วยซ้ำไป เอาแต่เกาะติดอยู่กับยูริตลอดเวลาจนดูเหมือนคนเป็นแฟนกันไม่มีผิด


    เธอไม่ได้เสียใจหรือเสียดายอะไรหรอกนะ เพราะถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้คิดอะไรกับเจสสิก้าเกินเลยคำว่าเพื่อนอยู่แล้ว ดีด้วยซ้ำไปที่เจสสิก้าจะได้มีคนที่รักอย่างจริงๆจังๆซะที


    หวัดดีฟานี่....อ้าว คุณแทยอนมาได้ไงคะเนี่ยเจ้าของร้านเดินออกมาต้อนรับลูกค้าคนพิเศษที่มีศักดิ์เป็นเพื่อนอย่างเป็นกันเอง โชคดีที่วันนี้ลูกค้าไม่ค่อยมากันเยอะ เธอจึงเหลือเวลาพักออกมาทักทายโลกภายนอกบ้าง


    ฉันเป็นคนพามาเองแหละตอบพร้อมฉีกยิ้มกว้าง วันนี้เราสองคนมาเดทกันน่ะ


    ยูริหัวเราะแห้งๆกับคำตอบที่ท่าทางไม่ได้ปรึกษาชาวบ้าน สังเกตได้จากสายตาดุๆจากแทยอนที่ถูกส่งออกมาเพื่อทิฟฟานี่โดยเฉพาะ


    มองภาพทิฟฟานี่ที่สนิทสนมกับแทยอนด้วยสีหน้าโล่งใจ โชคดีที่วันนี้เจสสิก้าติดงานถ่ายแบบจึงไม่สามารถมาหาเธอที่ร้านได้เหมือนปกติ ไม่อย่างนั้นเจ้าหล่อนคงทนไม่ได้ที่ต้องเห็นภาพบาดตาบาดใจอย่างนี้แน่ๆ


    ถึงแม้ว่าเจสสิก้าจะทำตัวดีกับเธอขึ้นมาก และมาหาเธอบ่อยๆแทนที่จะไปหาแทยอน แต่เธอก็รู้ดีว่าเจสสิก้ายังคงมีความรู้สึกรักแทยอนไม่เสื่อมคลาย แค่ตอนนี้อาจจะกำลังอยู่ในช่วงสับสนกับชีวิต แต่หลังจากนี้ไม่น่าน เธอเชื่อว่าเจสสิก้าจะกลับไปตามแทยอนอย่างเดิมแน่นอน


    ส่วนเธอ ก็จะคอยทำหน้าที่เป็นเพื่อนเป็นที่ปรึกษาที่ดีต่อไป...


    งั้นฉันเข้าไปข้างในก่อนนะ มีอะไรก็เรียกคีย์กับจียอนได้เอ่ยขอตัวไปทำหน้าที่ต่อ แม้ว่าตอนนี้ลูกค้าจะไม่ได้เยอะแยะก็ตาม


    จ้าขานรับก่อนจะหันไปสนใจแทยอนต่อ แทแทเอาสร้อยข้อมือที่ฉันซื้อให้ออกมาหน่อยสิ


    แทยอนหันไปหยิบถุงกระดาษเล็กๆ แล้วคว่ำปากถุงเทสร้อยที่ว่านั่นลงบนโต๊ะ  เรียกสายตาไม่พอใจจากทิฟฟานี่ได้ไม่น้อย....คนเขาอุตส่าห์ซื้อให้ ทำไมถึงไม่ใส่ แถมยังไม่รักษาอีกต่างหาก


    ใส่ให้ดูหน่อยสิ เอาแบบใส่แล้วใส่เลย ไม่ถอดเลยนะแต่ก็ไม่พอใจได้เพียงไม่นาน ในเมื่อคนตรงหน้าคือแทยอนคนที่เธอรักเพราะฉะนั้นจึงเปลี่ยนเป็นอ้อนแทน


    ไม่เอาอ่ะ มันน่ารำคาญออกและคำตอบของแทยอนก็ออกมาได้...น่ารักจริงๆ


    ทำไมอ่ะ ทีฉันยังใส่สร้อยที่แทแทซื้อให้เลย


    ก็มันไม่เหมือนกันนี่แทยอนว่าสร้อยนั่นน่ะ ฉันซื้อให้เพราะเธออยากได้ แต่อันนี้น่ะเธอซื้อให้ฉันเอง ไม่ปรึกษาฉันสักคำ


    ใจร้ายทิฟฟานี่ทำแก้มป่องงอนๆ สะบัดหน้าเชิดหนี ร้อนถึงคนโดนงอนอย่างแทยอนต้องมาสรรหาคำพูดมาง้อ


    มิยองอ่า


    ถ้าไม่เอาก็เอาคืนมาด้วย เสียของทำท่าจะแย่งมา หากแต่แทยอนกลับชักกลับแล้วรีบสวมใส่ข้อมือเสร็จสรรพ


    เอาสิ มิยองซื้อให้ทั้งที ไม่เอาได้ไงจริงๆก็ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไรหรอกนะ เธอง้อพวกสาวๆที่เคยหลอกใช้ด้วยคำพูดหวานๆออกบ่อย...ถึงความรู้สึกที่มีต่อทิฟฟานี่จะจริงจังมากกว่าความรู้สึกที่มีต่อคนพวกนั้น แต่ลงท้ายยังไงเธอก็ต้องง้อแบบจำยอมอยู่ดี


    เอาวะ..ใส่ก็ใส่ ถึงจะไม่ชอบก็เหอะ


    เพราะถึงยังไง เธอคิดว่าทนใส่อะไรที่ไม่ชอบ ดีกว่าเห็นหน้าบึ้งๆของทิฟฟานี่....ถ้าให้เลือกแล้ว เธออยากที่จะเห็นรอยยิ้มละลายโลกของเจ้าหล่อนมากกว่านะ


    ใส่แล้วด้วยเนี่ยเห็นมะๆ ใส่แล้วๆ


    น่ารักจังเลยใส่เองชมเองราวกับคนบ้า


    เคยเห็นไหม...นักร้องง้อแฟนคลับ


    ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า แต่ที่เขาว่ากันว่า ความรัก ทำให้เราทำได้ทุกอย่างนี่ท่าจะเป็นเรื่องจริง


    หายงอนแล้วเนอะส่งสายตาคาดหวังสุดพลังไปยังสาวตายิ้มที่หลุดยิ้มตั้งนานแล้ว...


    จะหายได้ไง ก็ไม่ได้งอนตั้งแต่แรกนี่นาความจริงแล้วเธอคิดว่ามันจะออกมาแป้ก นึกว่าแทยอนจะไม่บ้าจี้ง้อเธอซะอีก เพราะถ้าให้นึกถึงความเป็นจริงแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรให้คนอย่างคิมแทยอนนักร้องชื่อดังต้องมาง้อเธอสักนิด


    แต่ไหนๆ แทยอนก็อุตส่าห์ง้อเธอ ให้ความสำคัญกับเธอมากถึงขนาดนี้แล้ว...เล่นบทโหดต่อไปสักหน่อยคงจะสนุกดี


    ห้ามถอดเชียวนะ ถ้าเห็นว่าถอดจะงอนจริงๆด้วย


    ไม่ถอดจ้า ไม่ถอดไม่อยากจะบรรยายถึงสภาพแทยอนในตอนนี้เลยจริงๆ


    เอาเป็นว่า...ถ้าเอาลูกหมาวัยหย่านมกำลังอ้อนเจ้าของมาวางข้างๆแทยอน คงแยกไม่ออกว่าไหนคน ไหนหมา!


     

     

    ไอ้แทนี่มันเกลียมัวจริงๆว่ะฮโยยอนวิจารณ์สภาพอันไม่น่าดูของแทยอนในตอนนี้ พอมาอยู่กับทิฟฟานี่แล้วเปลี่ยนไปจริงๆแฮะ....แต่ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีล่ะนะ


    ตอนนี้พวกเธอ 4 คนก็ยังคงตามมาซุ่มดูแทยอนและทิฟฟานี่อย่างเคย ตั้งแต่ทั้งคู่เจอกันยังสถานที่นัดพบ เดินเที่ยวด้วยกัน ซื้อเสื้อผ้าด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน(อันนี้แอบเฝ้าอยู่ข้างนอกใกล้ๆทางออก เพราะเกรงว่าเข้าไปในโรงหนังแล้วจะตามไม่ทัน มันมืด) ซื้อของด้วยกัน กินไอติมด้วยกัน จนกระทั่งออกจากห้างเดินมาที่ร้านนี่ด้วยกัน


    ใครจะรักเพื่อนอย่างพวกเธอนี่ หาไม่ได้อีกแล้วในโลกนี้ ไม่มี๊ ไม่มีจริงๆค่า


    และถึงแม้จะมีหมวกบิดบังใบหน้าและแต่งหน้าแต่งตัวพรางตัวกันทุกคน แต่พวกเธอก็ไม่ต้องการให้เป็นที่สังเกตจึงแอบมองจากหลังต้นไม้ใหญ่หน้าร้านเช่นนี้


    เอ่อ...ไม่เป็นที่สังเกตเท่าไรหรอกมั้ง อย่างน้อยก็จากแทยอน แต่จากคนนอกนี่ไม่แน่ใจ


    ฉันว่าหลังจากนี้ พี่แทยอนกับพี่ทิฟฟานี่ต้องได้เป็นแฟนกันแน่ๆเลยไอยูแสดงความคิดเห็นเพ้อๆ ตามประสาเด็กวัยรุ่นผู้หญิงที่ชอบอะไรโรแมนติกๆ นี่กะว่ากลับไปจะไปแต่งฟิคคู่แทนี่เอาไว้ให้เพื่อนๆในวงอ่าน...คงสนุกไม่หยอก


    ก็ไม่แน่หรอกนะไอยู แทยอนน่ะ ถ้าไม่แน่ใจจริงๆคงไม่พูดอะไรออกมาหรอก...คนอย่างนั้นน่ะปากหนักจะตายหากคนตัวเล็กที่สุดในวงอย่างซันนี่กลับมีความเห็นต่างออกไป


    ต่อให้มันดูออกว่าฟานี่ชอบมันเกินคำว่าแฟนคลับก็ตามทีนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่พวกเธอก้าวเกินแทยอน อันที่จริง พวกเธอรู้ตั้งนานแล้วล่ะว่าทิฟฟานี่คิดอะไรกับแทยอน แต่ที่ยังไม่ได้บอกเพราะต้องการให้แทยอนรู้ได้ด้วยตนเอง แบบนั้นมันคงจะมีค่ามากกว่า


    เหมือนที่เธอกำลังทำนั่นแหละ ต่อให้ชาวโลกรับรู้กันหมดแล้วเรื่องของซูยอง แต่เธอก็ไม่คิดจะให้ใครคนอื่นไปบอกซูยอง เธออยากให้เจ้าเด็กโย่งนั้นรู้เอง...แต่ถ้ามันยังซื่อบื้อไม่รู้เรื่องอย่างนี้ต่อไป เธอคงต้องเป็นฝ่ายไปบอกเอง สักวันหนึ่ง สักวันที่เธอพร้อม


    เฮ้ย! ทุกคน นั่นมันคุณเจสสิก้านี่นาฮโยยอนชะงักเมื่อสายตาดันเหลือบไปเห็นนางแบบสาวเดินเฉิดฉายเข้าร้านไปด้วยความเร็วแสง


    ซวยแล้ว


    ท่าทาง...งานนี้อาจมีการนองเลือด?

     

     

    ไม่นึกว่าวันนี้จะต้องยกเลิกงานไปกะทันหัน...ไม่รู้ว่าควรจะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ ที่ตากล้องดันป่วยมาไม่ได้ ที่สตูดิโอก็ไม่มีตากล้องคนไหนที่มีฝีมือมากพอ จึงต้องล้มเลิกไปและเลื่อนไปถ่ายในวันอื่นแทน


    เพราะงั้น เธอเลยมีเวลามากพอ ที่จะแวะมาหายูริก่อนกลับบ้าน


    ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้เธอถึงได้ติดใจยูริเหลือเกิน...แทนที่จะตามไปหาแทยอนที่หอเหมือนปกติ ทั้งๆที่ยังคงรักแทยอนอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีความลังเลนิดหน่อยก็ตามที


    อาจเพราะยูริเป็นเพื่อนที่ดี ช่วยอยู่ข้างๆรับฟังปัญหาทุกอย่างของเธอด้วยใจจริง เธอจึงรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้อยู่กับยูริก็เป็นได้ มันน่าจะเป็นเช่นนั้นมากกว่าความรู้สึกในเชิงของความรักล่ะนะ ถึงแม้ว่ายูริจะทำให้เธอหวั่นไหวในบางครั้งก็ตามที


    เอาเถอะ เธอไม่อยากจะคิดอะไรมากมายยุ่งยากให้มันปวดหัวหรอก แค่เรื่องราวการทำงานในวันนี้ก็มากพอที่จะเล่าให้ยูริฟังไม่หวาดไม่ไหวแล้ว...


    แต่ทันทีที่เดินเข้าไปในร้าน เธอก็ต้องพบกับภาพอันน่าประหลาดใจ


    เปล่า...ไม่ใช่ภาพที่ยูริกำลังเดินยกถาดอาหารออกมาตรงหน้าเธออย่างพอดิบพอดี


    และไม่ใช่ภาพสีหน้าตกใจราวญาติเสียของยูริด้วย


    แต่เป็น ภาพแทยอนกับทิฟฟานี่กำลังนั่งกินข้าวด้วยกันสองต่อสอง!


    เป็นแทยอนแน่ สำหรับเธอแล้ว ต่อให้แทยอนปลอมตัวแค่ไหน เธอก็ไม่มีทางจำผิดเด็ดขาด...จะลืมได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อรักมาตั้งนาน เนิ่นนาน จนกระทั่งถึงตอนนี้


    ดูเหมือนว่าสองคนนั้นจะยังสวีทกันต่อไปโดยไม่รับรู้ถึงการมาของเธอ ซึ่งมันก็ดีแล้วล่ะ ดีมากแล้วจริงๆ มันช่วยทำให้เธอตัดสินใจอะไรๆได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิมเยอะแยะเลย ตอกย้ำเรื่องที่เคยคาดการณ์เอาไว้เมื่อตอนที่ยังอยู่ที่ญี่ปุ่น


    ถึงจะเคยคิดไว้แล้วว่าวันนี้มันต้องมาถึง...แต่ก็ไม่นึกว่ามันจะมาถึงเร็วและเจ็บได้มากขนาดนี้


    เจสสิก้ากลั้นน้ำตาไว้ หันไปฝืนส่งยิ้มบางๆให้ยูริ และรีบวิ่งออกไปจากร้านทันที


    วิ่ง...โดยไม่หันหลังกลับไปมองอะไรอีกเลย


    วิ่ง...โดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะมอง จะสนใจอะไรยังไง


    และวิ่ง โดยไม่รู้ว่าตัวเองนั้นวิ่งไปที่ไหน...ขอแค่วิ่งไปให้ไกลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้


    สิ สิก้า!” ไม่รู้หรอกว่ายูริวิ่งตามมาตั้งแต่เมื่อไร แต่เธอก็ต้องหยุดการวิ่งลงเพราะได้มือหนาของเจ้าตัวมาฉุดรั้งเอาไว้


    ...


    เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม


    เจสสิก้าก้มหน้านิ่ง ไม่ยอมพูดอะไรออกมาแม้แต่น้อยจนคนตัวสูงได้แต่ถอนหายใจปลงๆ...ตอนนี้เจสสิก้าคงไม่อยากพูดอะไรจริงๆ แต่อย่างน้อย เธอพาไปนั่งพักก่อนท่าจะดีกว่ามายืนเฉยๆกลางทางเดินให้เป็นเป้าสายตาของคนอื่นเช่นนี้


    ...


    วิ่งมาไกลเลยนะ นั่งพักก่อนเถอะยูริประคองเจสสิก้าไปนั่งลงยังม้านั่งของสวนสาธารณะที่อยู่ไม่ไกลจากจุดเดิมที่พวกเธออยู่นัก


    เนิ่นนานหลายนาที หรือบางทีอาจจะเป็นชั่วโมงที่พวกเธอนั่งข้างๆกันนิ่งๆ โดยไม่มีใครพูดอะไรเลย...มีเพียงสัมผัสอุ่นๆจากมือของคนตัวสูงเท่านั้นที่บ่งบอกว่านางแบบสาวไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว


    ยูริอาในที่สุดเจสสิก้าก็ยอมเอ่ยปากออกมา


    หือ ว่าไง


    เธอจะว่ายังไง ถ้าฉันจะตัดใจจากแทยอนคำถามนี้สร้างความประหลาดใจให้กับคนฟังได้ไม่น้อย...เนื่องจากเธอรู้ว่าเจสสิก้าไม่ใช่คนที่จะเลิกรักใครได้ง่ายๆ มันต้องมีเหตุผลที่หนักแน่นมากเพียงพอ


    เหตุผลมันก็ง่ายๆนะยูริพูดขึ้นราวกับรู้ถึงความสงสัยของเธอ แทยอนไม่ได้รักผู้หญิงที่ชื่อเจสสิก้า..แต่เขารักทิฟฟานี่ แค่นี้มันก็เพียงพอแล้ว


    ยูริเงียบไปหลายนาที เนื่องจากในตอนนี้สมองของเธอกำลังสั่งการออกเป็นสองอย่างสองทางเลือก


    หนึ่ง ยุให้เจสสิก้าเลิกรักแทยอน และสื่อเป็นนัยๆว่ายังมีคนบางคนที่รักหล่อนอยู่


    สอง ให้เจสสิก้าเลือกทำตามใจตัวเอง


    อันที่สองมันน่าจะดูดีกว่านะ...


    มันก็เรื่องของเธอ ฉันไม่มีสิทธิ์ห้ามอะไรหรอก


    ถ้าเธอมีความสุขที่ได้รัก เธอก็น่าจะรักต่อไป


    แต่ถ้าเธอรักแล้ว เจ็บกว่าสุข ฉันว่าเธอก็ควรจะเลิก


    อันนี้เป็นแค่การออกความเห็นอย่างคนทั่วไปนะ


    ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวเธอเอง ทำไปตามความรู้สึก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวเธอเอง


    แต่ไม่ว่าเธอจะเลือกทางไหน ฉันก็ยังจะนั่งเป็นเพื่อนเธออยู่อย่างนี้...สัญญาเลยว่าจะไม่ไปไหน


    พระเอกไปไหม?...ไม่หรอก เธอแค่อยากให้เจสสิก้าเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการมากที่สุด ต่อให้สิ่งนั้นมันจะถูกหรือผิดร้ายแรงก็ตาม


    เธอไม่ได้มีความหวังที่จะอยากครอบครองเจสสิก้า เธอแค่มีความสุขกับการแอบรัก แค่ได้เห็นเจสสิก้ามีรอยยิ้มเธอก็ดีใจมากพอแล้ว ไม่ได้หวังสิ่งอะไรตอบแทน...ขอเท่านี้ เท่านี้จริงๆ

     


    ************************************************



    ขอสารภาพว่าตอนแรกนึกชั่งใจอยู่นานว่าจะแต่งให้คู่ยูลสิกออกมาเป็นแบบนี้ดีหรือเปล่า

    แลจะ...สงสารควอนยูลอ่ะ5555 แต่งไปน้ำตางี้หยดติ๋งๆ(เวอร์)

    อาจจะดูพระเอกเกินไปนะคะสำหรับคนอย่างยูริ แต่ต้องยอมรับนะคะว่าจริงๆแล้วคนแบบนี้ก็มีอยู่ในโลก

    อย่างน้อยที่เรารู้จักก็มีอยู่คนนึง- -

    โอเค...ถ้ายูลสิกจะดราม่ามากไปก็ควรไปสนใจแทนี่นะคะ55555

    คู่นี้ถึงจะคลุมเครือไปบ้างอะไรบ้าง แต่ก็พัฒนาได้น่ารักไม่หยอก(แต่งเองชมเอง)

    และขอโทษด้วยที่มาอัพช้า(ปกติก็ช้าอยู่แล้ว)

    ไม่ได้ไปเที่ยวไหนหรอกปีใหม่น่ะ...แต่ขี้เกียจ เลยนอนยาว- -



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×