Smile Music
ดู Blog ทั้งหมด

(JNP Review ) >>> Pirates of the Caribbean 4 : On Stranger Tides!!!

เขียนโดย Smile Music

    โอล่า!!! สวัสดีอีกครั้งนะครับทุกท่าน ขออภัยที่ห่างหายบล็อกไปซะนาน ส่วนนึงเพราะตัวผมเปิดเทอมตั้งแต่วันที่ 10 แล้วนะครับ  อีกทั้งงานมันยุ่งๆ + ขี้เกียจด้วยแหละครับ เลยไม่ได้มาอัพบล็อกเลย

  วันนี้จะขอมาวิจารณ์หนังกับเค้าบ้างครับ กับหนังที่ตัวผมรอมาตั้งแต่ต้นปี นั่นคือ
Pirates of the Caribbean 4!!!


  โดยส่วนตัว ผมอยากดูมากเลยละครับ เพราะลุ้นมาตั้งแต่จบภาค3แล้ว ว่ากัปตันแจ็ค จะเอาเรือคืนมาจากบาบอสซ่ายังไง และน้ำพุแห่งความเยาว์วัย มันมีอาถรรพ์พิศวงอะไรกันแน่!

 จนหนังเข้าโรงเมื่อวันที่ 19 ก็เลยรีบไปตีตั๋วดูที่เมเจอร์ฯเอกมัย เมื่อวันเสาร์ (แต่แอบโง่นิด ที่พอไปถึงเมเจอร์ กลับเพิ่งรู้ว่าสาขานี้มันไม่มีพากย์ไทย เพราะสาขานั้นฝรั่งมันมาดูกันเยอะ T__T เลยเสียเงิน 160 ไปนั่งอ่านซับไทยแทน)

  พอเข้าไปนั่งในโรงและหนังเริ่มฉาย จนถึงตอนจบ(ต่อไปนี้มีจะการพูดถึงเนื้อหาและฉากในหนังบางส่วน หากใครยังไม่ได้ชม โปรดระวังการเสียอรรถรส)  บอกตามตรงว่า Pirates 4 นั้น สนุกใช้ได้ แต่ "อะไรบางอย่าง" มันขาดหายไปจากเรื่องนี้พอดู -*-

  อย่างแรก คือตัวละครเก่าจากภาคที่แล้ว เช่น อลิซาเบธ และ วิลล์ เทอร์เนอร์ที่หายไป แต่สามารถรองรับด้วยเหตุผลได้ว่า การผจญภัยของวิลล์และอลิซาเบธ จบลงด้วยดีแล้ว แต่กะลาสีอื่นๆที่(น่าจะ)ยังสามารถกลับมาร่วมในการผจญภัยได้ กลับเหลือแต่โจชามี กิบส์ (เชื่อว่าหลายท่านยังคงคิดถึงพินเทล ราเก็ตตี้ คู่หูอ้วนผอมจอมโจร คัตต้อนกับนกแก้ว และมาร์ตี้ โจรสลัดแคระ)


 
(เหล่าตัวละครที่หายไป ใครคิดถึงใครกันบ้าง)

  ซึ่งเหตุผลที่ตัวละครเหล่านี้หายไป จะเปิดเผยในตอนหลัง ที่บาบอสซ่าบอกกับแจ็ค เรื่องเรือแบล็กเพิร์ลที่ถูกยึดไป ซึ่งก็น่าจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอว่าทำไมลูกเรือส่วนมาก ถึงเหลือแต่กิบส์
  แต่ในทางกลับกัน ก็ได้ตัวละครหลักใหม่ๆมาช่วยเสริมความสนุกในเนื้อเรื่อง อย่างเช่น แองเจลิก้า โจรสลัดสาวที่เคยเป็นรักเก่าของแจ็ค แบล็กเบียร์ด โจรสลัดผู้เป็นที่หวาดกลัวของโจรสลัดทั่วไป (และเป็นผู้ยึดเรือแบล็กเพิร์ลไป) และสครัม ลูกเรือหน้าใหม่เอี่ยมที่มาช่วยสร้างสีสัน




   แต่ด้วยตัวละครใหม่ ที่ไม่มากเท่าภาคที่แล้ว จึงเป็นส่วนนึงที่ทำให้หนังขาดความ "หลากหลาย" กว่าภาคที่ผ่านๆมา ที่มีตัวละครเสริมมาแย่งซีนกันบ่อยๆ ภาคนี้จึงโคลสอัพไปที่ตัวกัปตันแจ็คเป็นการฉายเดี่ยวเสียมากกว่า ซึ่งกัปตันแจ็คเองก็ไม่ทำให้คนดูผิดหวังแม้แต่น้อย ในเรื่องของฉากแอ๊คชั่นหรือฉากตลก


  อย่างที่สอง ที่ขาดไปในเรื่องนี้ คือสามภาคที่ผ่านมา ฉากแอ๊คชั่นที่เห็นได้ชัดและเด่นสุด ก็ไม่พ้นฉากระดมปืนใหญ่เข้าใส่กัน และฉากยกพวกไปสู้กันตัวต่อตัวบนเรือ ซึ่งในภาคนี้ ฉากแบบนั้นแทบจะไม่ปรากฎเลยทีเดียว อีกทั้งการยกพวกประดาบกันในตอนท้ายๆ ก็มืดเสียจนมองไม่ค่อยชัดเจน แต่ก็ได้ดนตรีประกอบ มาช่วยบิ๊วอารมณ์ร่วม~ (นอกนั้นตัวคนเขียน นึกไม่ค่อยจะออกแล้ว)

  การดำเนินเรื่องนั้น นับว่าดี แต่มีหลายอย่างที่"เหมือนจะ" ดำเนินเร็วและมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เช่น คำทำนายของโจรสลัดเคราดำ ที่มาจากปากของแองเจลิก้า ซึ่งน่าจะเจาะลึกถึงรายละเอียดลงไปสักหน่อย หรือมิชชันนารีลึกลับ ฟิลิบ เป็นต้น

  กลับมาที่ในส่วนของ ฉากที่ตื่นเต้น ระทึกและตรึงใจนั้น ในภาคนี้ยังคงมีอยู่อย่างแน่นอน โดยฉากที่ตื่นเต้นที่สุดในความเห็นของผู้วิจารณ์หลายๆคน คงไม่พ้นฉากของ
นางเงือก!!!

 


  โดยเฉพาะฉากที่ลูกเรือร้องเพลงเชิญชวนนางเงือก(หรือนางเงือกร้องเพลงเย้ายวนลูกเรือ) ลูกเรือถูกโจมตีจากกลุ่มนางเงือก หนังได้แสดงให้เห็นถึงด้านที่ดุร้าย และด้านที่น่าหลงใหลของ "พวกเธอ" ได้ดีทีเดียว แม้จะโผล่มาแค่แวบเดียว แต่นับว่าเป็นฉากที่ "สุดยอด" ที่สุดฉากนึงสำหรับตัวคนเขียน ที่อธิบายได้สั้นๆว่า ทั้งสง่างามและอันตรายสำหรับคนที่อยู่ในสถาณการณ์แบบนั้น



   มาที่ด้านตัวละครหลักกันอีกครั้ง ในภาคนี้กัปตันแจ็ค เริ่มดูเหมือน(?)จะมีความเมตตา สงสารในสิ่งอื่นนอกจากตัวเองบ้างแล้ว อย่างฉากช่วยลูกเรือจากนางเงือก หรือฉากเข้าข้างฟิลิป ในการช่วยนางเงือกเซริน่า หรือการแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใย และความไม่ไว้ใจในตัวคนรักเก่าอย่าง แองเจลิก้า จนถึงขั้นที่พยายามยุยงระหว่างแบล็กเบียร์ดกับแองเจลิก้าผู้เป็นลูกสาวเสียทีเดียว

  ตัวละครแบล็กเบียร์ดเองนั้น ก็แสดงให้เห็นถึงด้านเลวและร้ายหลายด้าน ด้านที่น่าหวาดกลัว และโหดร้ายเห็นแก่ความทะเยอทะยานส่วนตน แต่ด้านที่เห็นแก่ตัวที่สุดคงจะเป็นตอนจบนั่นแหละ ที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อสร้างตำนานของตัวเอง ถึงขนาดยอมให้ลูกสาวตัวเองตายได้ แต่อีกมุมนึงก็น่าเห็นใจอยู่เหมือนกัน


  
  กัปตันบาบอสซ่าผู้แค้นเก่าของแจ็ค ผู้ซึ่งภาคนี้มาอยู่ฝ่ายกับอังกฤษ ในการค้นหาน้ำพุแห่งความเยาว์วัย ถวายกษัตริย์จอร์จ แต่ในความจริงแล้วต้องการทำแค่แก้แค้นแบล็กเบียร์ด ผู้ที่ทำให้ตัวเองต้องเสียขาไปข้างนึงเท่านั้น ก็ยังมีมุมเจ้าเล่ห์ไม่แพ้แจ็คอยู่ และฉากตลกๆอยู่เช่นกัน (ในหนังจะมีฉากนึง บาบอสซ่าดื่มเหล้าจากขาไม้ของตัวเอง ฉากนี้เรียกเสียงฮาในโรงได้เยอะทีเดียว)


  อีกทั้งตัวละครอย่าง ฟิลิบ มิชชันนารีที่ถูกจับตัวมา ซึ่งนับว่าเป็นตัวละครที่สำคัญอีกคนนึง หลายๆอย่างที่บ่งบอกว่าเค้าเป็นผู้ศรัทธาในศาสนาอย่างแท้จริง และรู้สึกสำนึกผิดในบาปเสมอ เช่น ตอนที่ทำให้นางเงือกเซริน่า ต้องถูกจับตัวมา มองมุมนึงคู่นี้ก็เป็นเหมือนวิลกับอลิซาเบธในอีกรูปแบบนึง เพียงแต่คู่นี้ไม่ได้พะบู๊กับใคร หรือต้องคอยสู้กับเล่ห์เหลี่ยมของคนรอบๆข้างมากเท่าวิลกับอลิซ (ฮา) จึงเป็นคู่ที่น่ารักอีกคู่นึง

   ในส่วนของตอนจบนั้น ผู้เขียนขอบอกได้แค่ว่า จบลงแบบสวัสดิภาพและHappy ending แม้จะมีบางส่วนที่ผิดคาดไปจากที่ผู้เขียนคิดไว้เอง (เช่น เคราดำนั้นตายง่ายเกินไป) หรือการจบที่เดาทางได้ง่ายๆ แต่หนังเรื่องนี้ ถามว่าคุ้มค่าดูไหม บอกได้แค่ว่า ค่าตั๋ว 160 ก็นับว่าพอจะคุ้มอยู่ (ถ้าถามว่าขาดทุนเป็นจำนวนเท่าไหร่ คงสักจะ 20 บาทได้) ถ้าให้คะแนน ก็ขอให้เป็น 8.5/10  ละกัน

   แต่ส่วนตัวคิดว่าภาคนี้เหมือนเป็นการสร้างภาคแรกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า จะมีภาค 5 ต่อไปหรือไม่ สำหรับใครที่อยากไปดูแต่กลัวไม่คุ้ม แนะนำให้ไปวันพุธ ค่าตั๋ว80 ละกันครับ =w= แต่หนังการันตีว่าสนุกเรื่อยๆเลยทีเดียว

  ขอบคุณภาพประกอบและเนื้อหา ความคิดเห็นบางส่วนจากเว็บไซต์นะครับ
http://movie.kapook.com/view25384.html

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=prince-who&group=2&month=05-2011&date=26

โจนิสพอร์น เจนิเดรีย ญาญิมซิลริ 
กัปตันเรือ The Flying sea-dragon

ความคิดเห็น

preawviiandearth
preawviiandearth 1 มิ.ย. 54 / 21:05
อยากดูฉากนางเงือก -3-
ยุย
ยุย 23 ต.ค. 56 / 17:13
ธีทำให้หญิงชอบ
การทำวิธีนี้ได้ต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป ขั้นตอนมีดังนี้
1.เอาใบพลูใส่ในกระเป๋ากางเกงตอนไปเรียนหรือทำงาน
2.นึกใจทั้งวันว่า "ต้องมีคนชอบ"
3.วันแรกผ่านไป พอขึ้นวันที่ 2 ไม่ต้องทำให้ไปตามปกติ
4.เดินเข้าไปคุยกับใครก็ได้ที่เป็นผู้หญิงแล้ว เค้าจะลงมาชอบเรา
ใครอ่านแล้วต้องขุดแล้วนำข้อความนี้ไปลงกระทู้ไหนก็ได้ 2 กระทู้
ถ้าไม่เอาไปลงจะเป็นอันเป็นไฟภายใน 3-7 วัน
พอดีไปอ่านเจอมีโอกาสติด
ยุย
ยุย 23 ต.ค. 56 / 17:15
#10 By (114.128.122.199) on 2009-07-27 17:44
อย่าอ่านนะขอร้อง
มีความลับจะมาบอกเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
เคยมีเด็กถูกฆ่าตายที่ห้องนำ้ของภารโรง
แต่ไม่สามารถหาต้นเหตุของคดีได้ จึงปล่อยร่างไร้วิญญาณของเด็กน้อยทิ้งใว้ ณ ที่เดิม ไม่มีการทำพิธีอะไรทั้งสิ้น
วญญาณของเด็กจึงล่องลอยวนเวียนอยู่ในรร เป็นเวลาหลาย10ปี
จนวันหนึ่งได้มีกลุ่มนรหญิงได้เข้าไปในห้องนำ้นั้นเพื่อหวังจะแกล้งภารโรง จึงได้พบวิญญาณของเด็กน้อยกำลังไต่ไปตามเพดารพร้อมแสยะยิ้มให้ พวกเธอกลัวมากรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ
แต่เพื่อนคนหนึ่งดันไปเหยียบแอ่งน้ำที่พื้นเข้า
เพื่อนคนหนึ่งได้จับแขนของอีกคนหนึ่งไว้จึงล้มกันมาเป็นทอดๆและหัวฝาดพื้นตายหมด วิญญาณของพวกเธอจึงวนเวียน ณ ที่แห่งนั้นตลอดไป จงส่งต่อไปอีก20กระทู้ภายในเวลา7ชม. ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อหรอกแต่เพื่อนเราประสบอุบัติเหตุ5คนตั้งแต่เราอ่าน