คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 :: Don't Tell Anyone [Loading 100%]
เรายังไม่ได้มีเซ็กส์กันหรอก...
เอ๊ะ!
หรือจะมี?
เซฮุนโน้มตัวลงเก็บเสื้อเชิ้ตของตัวเองที่กองอยู่บนพื้นพรม ตั้งแต่ถูกจงอินลากเข้ามาทำเรื่องลามกในห้องนอนเขาก็ไม่ได้แตะต้องมันอีกเลย มือขาวราวน้ำนมกลัดกระดุมเม็ดสุดท้ายก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเงาสะท้อนของผู้ชายในกระจก
เขาทำบ้าอะไรลงไป? ทำไมถึงปล่อยให้รูมเมทที่อยู่ร่วมกันกว่าสามปีจับเปลื้องผ้าแล้วนอนดิ้นเร่าอยู่บนเตียงเหมือนปลาทรมานเพราะขาดน้ำทั้งที่ในใจกำลังลิงโลด
ว่าที่นักการฑูตไม่รู้หรอกว่าภรรยาที่ดีหนักแค่ไหนเวลาถูกสามีคร่อมทับยามร่วมรักกัน เขารู้แค่ตัวเองเต็มใจจะถูกฝังร่างเข้ากับเตียงตราบใดที่คนด้านบนต้องการ และต่อให้การจูบจะพรากเอาลมหายใจสุดท้ายของช่วงชีวิตไปแต่เซฮุนก็ยังยินยอมที่จะเผยอปากรอรับเรียวลิ้นซุกซนอยู่ดี
ร่างโปร่งเผลอยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นรอยแดงเถือกข้างซอกคอที่ซ่อนตัวภายใต้ปกเสื้อ นี่หรือเปล่าคือเหตุผลที่เขาไม่เคยสนใจใยดีผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ กว่าจะรู้ตัวว่าหัวใจผูกติดกับใครก็เกือบโดนมือดีฉกไปครอบครองซะแล้ว
แต่เรื่องทุกอย่างมันก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น...
สำหรับคนที่มองโลกด้วยความเป็นจริงก่อนเสมอ เซฮุนตระหนักได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนไม่มีทางราบรื่นเหมือนถนนที่ปูคอนกรีต ตรงกันข้ามคือมันจะขรุขระและผ่านไปได้อย่างยากลำบากเหลือเกิน
อุปสรรคแรกคือจงอินมีคนที่ครอบครัวจองตัวไว้ให้ อุปสรรคต่อมาคือสังคมจะมองเราเป็นตัวประหลาดทันทีถ้าคนพวกนั้นบังเอิญรู้ว่าเราจับมือหรือยิ้มให้กันด้วยความรู้สึกแบบไหน ส่วนอุปสรรคที่มองข้ามไม่ได้คือเซฮุนกับจงอินไม่ใช่เกย์โดยกำเนิด มันคงไม่ดีแน่ถ้าวันใดวันหนึ่งเขาเกิดรู้สึกดีกับผู้หญิงคนอื่นทั้งที่ยังปล่อยมือจากผู้ชายที่นอนหลับปุ๋ยบนเตียงไม่ได้
และสิ่งที่ทำให้เซฮุนเป็นกังวลมากที่สุดคือเขาคงไม่มีทางให้ความสุขจงอินได้เต็มที่ ด้วยรูปร่างและส่วนสูงสมชายชาตรีวัยเจริญพันธ์ เขารู้ตัวดีว่ายังไงมันก็คงสู้หญิงสาวที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งสวยงามน่าดูแลทะนุถนอมไม่ได้
ทว่าคิมจงอินกลับเพิ่มความมั่นใจให้คนขี้วิตกอย่างไม่น่าเชื่อ
'มึงชอบกูจริงเหรอจงอิน กูไม่มีอะไรให้มึงสมควรพิศวาสสักอย่างเลยนะ'
เจ้าของถ้อยคำตะกุกตะกักพยายามใช้มือซึ่งสั่นระริกราวกับเจ้าเข้าดันแผงอกคนเหนือร่างให้ขยับถอยห่างสักหน่อย หากแต่คนที่โดนพิษความหลงเล่นงานกลับไม่ยอมเช่นนั้น
'อือ...'
ชายหนุ่มผิวสีแทนปัดมือขาวที่เกะกะให้พ้นทางก่อนปลายจมูกทู่จะก้มลงดอมดมความหอมที่ไล่ตั้งแต่แก้มแดงปลั่งไปถึงไหปลาร้าน่ากัด
'หยุดดูดเนื้อกูแล้วตอบมาให้กระจ่างเดี๋ยวนี้จงอิน!'
เซฮุนไม่ใช่คนหน้าหนาหรือสามารถพูดเรื่องอย่างว่าได้โดยไม่อาย แต่คนอย่างเขาจะไม่มีวันเสียตัวให้ใครฟรี ถ้าจงอินมันคิดจะฟันแล้วทิ้งด้วยเหตุผลที่ว่าเราสนุกกันทั้งคู่ รับรองไอ้ดำไม่มีชีวิตรอดถึงงานหมั้นของมันแน่!
'กูคิดว่าตัวเองชัดเจนมาตลอดนะเซฮุน' ภาพที่จงอินยืดตัวขึ้นแล้วใช้ลิ้นกวาดเลียรอบริมฝีปากตัวเองทำเอาคนตัวขาวใจสั่น 'ลองคิดดูว่านอกจากมึงกูเคยมีใครไหม'
เออจริง! จงอินไม่เคยจีบผู้หญิงสักคนตั้งแต่รู้จักกันมา
'ละ แล้วทำไมตอนนั้นที่กูถามมึงถึงไม่ยอมรับ แถมยังมาด่าว่ากูไม่ใช้สมองอีก!'
'ก็ถ้ามึงใช้สมองไตร่ตรองสักนิดก็น่าจะรู้ว่ากูอยากได้มึงตั้งนานแล้วไอ้ซื่อบื้อเอ๊ย!'
'หมายความว่ามึงเป็นเกย์? มึงชอบผู้ชายด้วยกันงั้นดิ?!'
'เปล่า...' เซฮุนขมวดหัวคิ้วด้วยความไม่เข้าใจเมื่อจงอินส่ายหน้าแทนคำตอบ นั่นเท่ากับทฤษฎีของเขาผิดเต็มประตู
'...'
'กูชอบแค่โอเซฮุน ชัดเจนไหม?'
กิจวัตรประจำวันที่เซฮุนชอบทำหลังจากเลิกเรียนคือการฝังตัวอยู่ที่ขุมทรัพย์ความรู้อย่างห้องสมุดมหาวิทยาลัย หนังสือที่เขาอ่านมีตั้งแต่หนังสือท่องเที่ยว บทความวิชาการ ลามไปจนถึงหนังสือหมวดอ่านเล่นคั่นเวลา...
...และวันนี้ร่างโปร่งก็เพิ่งจะเข้าใจคำนิยามของอาการสะท้านอายจนแก้มร้อนจากที่เคยผ่านตามาบ้างตามหนังสือนิยายประโลมโลก
หมดปัญญาจะเถียง...
เซฮุนเอียงหน้าเปิดทางให้ริมฝีปากหนาฉกวูบเข้าที่ต้นคอก่อนจะต้องกำผ้าปูที่นอนแน่นเพราะความเจ็บ แรงดูดดึงและขบเม้มสร้างความปั่นป่วนในช่องท้อง แล้วไหนจะมือสากๆ ที่ลากไล้ตรงสีข้างนี่อีก
"สงสารกูบ้างก็ได้จงอิน"
"ทำไม มึงเจ็บเหรอ"
กล้าถามนะไอ้หมากลับชาติมาเกิด! หรือมึงคิดว่าตัวเองเป็นเอ็ดเวิร์ดแวมไพร์รูปหล่อแห่งเมืองฟอร์คหรือไงถึงได้กัดคอแล้วค่อยดูดเลือดน่ะฮะ?!
มือสีแทนแหวกสาบเสื้อที่ห่อหุ้มอาหารรสโอชะออก ปลายลิ้นเกร็งจ่อลงตรงฐานอกสีชมพูเข้มเพื่อหยอกเย้าก่อนจะอ้าปากงับส่วนหัวราวกับเด็กหิวนมขณะที่มืออีกข้างยังปรนเปรอผิวเนื้อแดงระเรื่อไม่ยอมหยุด
นั่นแหละ... คิมจงอินกำลังหิวนมจริงๆ
ชายหนุ่มผิวสีแทนสัญญากับตัวเองว่าเขาจะเบามือลงหน่อยถ้าเซฮุนช่วยส่งเสียงที่แสดงถึงความสุขสมออกมาบ้าง แต่เปล่าเลย ไอ้ตัวดีที่เขาหลงชอบหัวปักหัวปำทำแค่กัดปากกลั้นเสียงน่าอายแล้วส่ายหัวจนผมสะบัดเวลาเขาลงลิ้นระรัว
"อ่า..." แถมยังกลายเป็นตัวเขาซะเองที่ทนเก็บความรู้สึกดีซึ่งแทบล้นทะลักออกมานอกอกไม่ไหว
สามปีที่เคยรอคอยช่างคุ้มค่าถ้าเทียบกับการได้ครอบครองคนใต้ร่างด้วยความเต็มใจเหมือนวินาทีนี้...
"อืม..."
ท่อนแขนเรียวกอดรั้งต้นคอหนาไว้แน่นเมื่อริมฝีปากของเราสัมผัสกันอีกครั้งหนึ่ง เสียงเฉอะแฉะจากการแลกเปลี่ยนของเหลวผ่านกล้ามเนื้อสีแดงสดในโพรงปากทำเอาหัวใจชายหนุ่มร่างโปร่งกระตุก ยิ่งตอนที่คนตัวโตกว่าใช้มือบังคับแยกขาเขาออกแล้วทิ้งน้ำหนักตัวลงมาแรงๆ จนพื้นเตียงยุบหัวใจก็ยิ่งทำงานหนักเข้าไปใหญ่
ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เปิดสมรภูมิชนช้างแล้วสินะ...
"พรุ่งนี้มีเรียนวิชาสำคัญไหม"
"ฮะ มึงว่าอะไรนะ" ดวงตาฉ่ำหวานไม่แพ้ใบหน้าปรือมองคนเหนือร่าง แสงสว่างของห้องนอนถูกลดทอนลงตามเวลาหัวค่ำ เซฮุนพยายามใช้สติที่มีเหลืออยู่น้อยนิดเรียบเรียงคำพูดของอีกฝ่ายกระทั่งสำเร็จก่อนจะพยักหน้า
"..."
"พรุ่งนี้กูมีนัดคุยงานสำคัญกับซูจอง"
"เหอะ!" จงอินอยากจะบ้าตาย ขนาดกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มมารหัวใจตัวเป้งก็ยังไม่วายทำเขาหงุดหงิด
"ไปด้วยกันไหมล่ะ..." ผู้ชายผิวขาวก้มหน้างุดเข้ากับหมอนหอมกรุ่น โอเค เขาไม่ปฏิเสธว่าในอดีตตัวเองเคยสบประมาทคู่เดทที่ชอบทำตัวติดกันเหมือนแท่งโครโมโซม จะไปไหนก็ต้องไปด้วยกันทุกที่ แถมทุกการกระทำยังต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะกระทบจิตใจหรือสร้างความลำบากให้อีกฝ่ายรึเปล่า
แม้แต่ตอนนี้เซฮุนก็ยังไม่เข้าใจคนพวกนั้น เพราะเขารู้แค่ทุกอย่างมันคงดีถ้าจงอินเลิกทำหน้าเหมือนหมาเมายาเบื่อตอนเขาพูดถึงเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวสักที
"ไม่มีใครต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ"
"..."
"แต่ถ้ามึงคิดว่าตัวเองลุกไหวก็เชิญ" จงอินจบประโยคก้ำกึ่งข่มขู่ด้วยจุมพิตหวานละมุนที่หลอมละลายคนในอ้อมกอดราวกับเทียนไขเผาไฟ ฝ่ามือสีแทนดันคอเสื้อหลุดลุ่ยให้พ้นจากไหล่ขาวก่อนจะลากลิ้นชิมความหวานแล้วพรมจูบทั่วใบหน้าจิ้มลิ้มในสายตาเขา
เซฮุนเป็นบุคคลน่าอิจฉาที่เกิดมาทั้งหล่อและสวยในเวลาเดียวกัน
ฟอด!
ว่าที่นักการเมืองมือสะอาดกดจูบแก้มใสอย่างแรงจนคนถูกกระทำเบ้หน้า เราสองคนเลือกประสานมือกันขณะที่ร่างกายทุกส่วนยังแนบชิด จะมีก็แต่สะโพกหนาที่เริ่มขยับถอยห่างแล้วเคลื่อนกลับเข้ามาอีกซ้ำๆ ส่งผลให้คนด้านล่างต้องอ้าขากว้างกว่าเดิมเพื่อรองรับน้ำหนักไว้
"จงอิน..."
"หะ หืม..." ว่าที่นักการฑูตคนเก่งหดคอหนีไอ้เจ้าเล่ห์ที่จงใจซุกหน้าเข้ากับซอกคอเพราะรู้จุดอ่อน
"มึงจะเป็นฝ่ายเสียบกูจริงเหรอ"
จงอินเบิกตากว้างราวกับเห็นผีช่องแอร์ทั้งที่อาศัยอยู่ขั้วโลกเหนือ เซฮุนกำลังแกล้งเขาใช่ไหมพระเจ้า หรือรอยหยักสมองมันลางานไปพักผ่อนกับครอบครัวถึงได้กล้าพ่นคำถามสิ้นคิดแบบนี้ ก็เห็นกันอยู่ว่าใครเป็นฝ่ายคุมเกม
"กูอยู่ข้างบน เพราะฉะนั้นมึงต้องโดนเสียบ"
"ถ้าอย่างนั้นมึงลงมาข้างล่างเลยจงอิน เดี๋ยวกูขึ้นข้างบนเอง" ไม่พูดเปล่าแต่ยังออกแรงกระชากท้ายทอยรูมเมทคนพิเศษ ถ้าไอ้ดำมันให้เหตุผลที่ดีกว่านี้เขาคงยอมสลัดกางเกงยีนส์ตัวโปรดไปแล้ว
"ไม่! ยังไงมึงก็ต้องเป็นเมียกูเท่านั้นเซฮุน!" มือขาวหยุดชะงักคล้ายถูกปุ่มหยุดเวลาเล่นงาน นัยน์ตาน้ำผึ้งกลอกกลิ้งไปมาก่อนจะจบลงด้วยการกลั้นยิ้มแทบตาย
"เมียเมอห่าอะไรล่ะ กูเป็นผู้ชายเว้ยผู้ชาย!" แต่สุดท้ายทักษะการเล่นละครของเซฮุนก็ชนะเลิศ
"อ้าว! คุณเป็นผู้ชายเหรอครับเนี่ย" ริมฝีปากหยักกดจูบลงกลางแผ่นอกบางก่อนจะเคลื่อนลงสู่หน้าท้องแบนราบที่เขาชอบแอบมองบ่อยๆ "แปลกจัง ปกติผมไม่มีอารมณ์อยากทำเรื่องอย่างว่ากับผู้ชายนะ แต่คุณแม่งเป็นข้อยกเว้นว่ะ..."
โอเซฮุนแพ้แล้ว แพ้ให้ผู้ชายที่เขาอยากเกลียดมาตลอดแต่กลับทำไม่สำเร็จ แพ้จนต้องยอมหลับหูหลับตาให้คนชนะเล่นกับร่างกายเขาตามใจอยาก ภาพสุดท้ายที่ร่างโปรงมองเห็นคืออะไรนะ?
อ๋อ! ... ภาพซองถุงยางอนามัยถูกโยนทิ้งนี่เอง
ไหนใครเคยบอกว่าเกลียดความวุ่นวายมากที่สุดในชีวิต?
เซฮุนคว่ำหน้าจอโทรศัพท์มือถือลงกับโต๊ะหลังกดรับสายใครบางคนที่กระหน่ำโทรหาตลอดตั้งแต่รู้ว่าเขาทำรายงานอยู่ที่คอนโดของซูจอง ทั้งที่บอกไปเกือบสิบรอบว่าอีกไม่นานก็จะกลับ แต่จอมดื้อรั้นก็ยังยืนยันให้เขารับสายแล้ววางทิ้งไว้เพราะอยากได้ยินเสียงว่าคุยอะไรกันบ้าง
อาการหนักแน่ๆ
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางหยิบโน๊ตบุ๊กคู่ใจขึ้นมาเปิดก่อนจะเริ่มลงมือเรียบเรียงเนื้อหาในส่วนที่รับผิดชอบ น่าโมโหที่ความงี่เง่าของจงอินส่งผลให้วิถีชีวิตเรียบง่ายของเขาเปลี่ยนแปลงภายในเวลาไม่กี่วัน แน่นอนว่าเซฮุนไม่ค่อยชอบแต่จำใจยอมรับ
"กินอะไรมาหรือยังเซฮุน ในตู้เย็นมีแกงกิมจิอยู่ ถ้าหิวเดี๋ยวฉันจะอุ่นให้ก่อน" ซูจองเอ่ยถามขณะขนหนังสือสามสี่เล่มมากองบนพื้นข้างตัวเพื่อน ความจริงรายงานวิชานี้ควรเสร็จนานแล้วถ้าไม่ติดว่าเซฮุนไม่สบายกะทันหันจนทำให้กำหนดการถูกเลื่อน
"ไม่เป็นไร ฉันอยากรีบทำรีบกลับมากกว่า"
"รีบกลับ?"
"ใช่"
ซูจองขมวดคิ้วด้วยอารามสงสัย ร้อยวันพันปีเพื่อนตัวสูงคนนี้ไม่เคยจริงจังกับเรื่องกลับหอพักตรงเวลา แล้ววันนี้มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่า...
"ไม่ต้องรีบทำขนาดนั้นหรอก ถ้าเสร็จไม่ทันหรือดึกจนรถไฟฟ้าหมดก็นอนค้างที่นี่ก่อน..."
"ค้างไม่ได้!" เซฮุนรีบส่ายหน้าปฏิเสธความหวังดีของซูจองแทบทันที "เอาเป็นว่าถ้าเสร็จไม่ทันฉันจะเอากลับไปทำที่หอ ส่วนเธอก็ทำตามที่แบ่งไว้ โอเคนะ?"
ความน่ากลัวของเพื่อนสนิทคือเราไม่สามารถปิดบังอะไรอีกฝ่ายได้เลย โดยเฉพาะกับเพื่อนสนิทที่ฉลาดเป็นกรดแบบซูจอง เซฮุนภาวนาขอให้ผู้หญิงตรงหน้าอย่าสงสัยถึงสาเหตุที่เขาปฏิเสธการค้างคืนกับเธอทั้งที่เคยทำอยู่บ่อยครั้ง
... เพราะชายหนุ่มยังไม่อยากเห็นเธอช็อกจนตาเหลือกกับเหตุผลที่เขาอยากอยู่กับใครอีกคนมากกว่า
และที่สำคัญคือความสัมพันธ์ระหว่างเขากับใครคนนั้นเป็นความลับ
ลับชนิดที่แม้แต่มดสักตัวก็รู้ไม่ได้เด็ดขาด
ต้องขอบคุณจงอินที่สอนสัจธรรมอันเที่ยงแท้แก่เซฮุนว่าความยุติธรรมไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ เพราะในขณะที่มันสัมผัสเนื้อตัวเขาทุกซอกทุกมุมจนจับใส่ตะกร้าล้างน้ำสักกี่รอบก็ยังได้กลิ่นเหม็นคาว...
...ในขณะเดียวกันนั้นมันก็กำลังจะกลายเป็นคู่หมั้นของผู้หญิงคนอื่นอย่างถูกต้องด้วย
เจ็บปวดหัวใจดี
บางครั้งเขาก็อยากจะทำตัวอ่อนแอดูบ้าง...
ข้อเสียของการพยายามทำตัวเป็นคนเข้มแข็งคือต่อให้ล้มก็ไม่มีใครช่วยพยุง ไม่ว่าจะถูกทำร้ายความรู้สึกหรือเจอกับเรื่องแย่สักกี่ครั้งก็ไม่มีใครหันมอง คนพวกนั้นจะคิดว่าเขาเก่งและยืนหยัดด้วยตัวเองได้เสมอ
เพราะเซฮุนไม่เคยร้องขอให้ใครช่วยเหลือหรือเห็นใจแม้แต่ครั้งเดียว
กับเรื่องของจงอินก็เหมือนกัน
ร่างโปร่งรู้ดีแก่ใจว่าตัวเองไม่มีทางจะร้องไห้ฟูมฟายหรือแสดงอาการน้อยใจกับเรื่องที่มันขอร้องให้ความสัมพันธ์ไร้ชื่อเรียกระหว่างเราเป็นความลับ นอกจากเยริแล้วก็ไม่ควรปล่อยให้ใครรู้เรื่องนี้อีก ตอนนั้นชายหนุ่มทำได้แค่พยักหน้าก่อนจะแบกร่างกายช้ำๆ ออกจากห้อง
ไอ้มนุษย์ขี้กวนที่พ่วงตำแหน่งนักเห็นแก่ตัวหมาดๆ คงลืมไปว่าน้ำตาไม่ใช่หน่วยวัดความเสียใจ บางทีคนที่ยิ้มอาจกำลังซ่อนรอยแผลเหวอะหวะเอาไว้ก็ได้ใครจะรู้
ชายหนุ่มผิวขาวก้าวขาเดินหลังไฟสัญญาณจราจรเปลี่ยนสี หลายวันมานี้จิตใต้สำนักของเขาเฝ้าคิดทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่โดนเงินสิบล้านวอนฟาดหัวแลกกับการโกหก กระทั่งดำเนินมาถึงวันที่ร่างกายถูกครอบครองโดยรูมเมทที่อยู่ร่วมห้องกันมานาน ซึ่งมันตลกตรงที่เซฮุนมองไม่เห็นอนาคตต่อจากนั้น
เราสองคนมีอะไรกันโดยไม่ได้ใช้ความรู้สึกร่วมด้วย จงอินอาจจะแค่อยากปลอบใจเพราะเห็นน้ำตา ส่วนเขาก็แค่สนองความต้องการส่วนลึกที่ถูกกดไว้เท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้นเรื่องระหว่างเซฮุนกับจงอินจึงกลายเป็นความสัมพันธ์ไร้ชื่อเรียกและฉาบฉวยสิ้นดี
แต่ถ้าถามว่าเขาอยากหยุดไหม?
คำตอบคือไม่! ไม่มีทาง!
และเขาเชื่อว่าจงอินก็คงคิดแบบเดียวกัน
ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายคงไม่เรียกหาเขาทุกคืนทั้งที่งานหมั้นบ้าบอใกล้เข้ามาทุกทีหรอก
"นึกว่าจะนอนค้างที่คอนโดยัยนั่นซะอีก" รอยยิ้มมุมปากบนใบหน้าคมเข้มแสดงออกถึงความพอใจ ห้าทุ่มตรงเป๊ะกับการปรากฏตัวของเซฮุนส่งผลให้คนที่นั่งจ้องนาฬิกากว่าค่อนคืนหายกังวลเป็นปลิดทิ้ง
"จะนอนที่ไหนก็ไม่เกี่ยวกับมึงไหมล่ะ" โอเซฮุนก็คือโอเซฮุน เคยเป็นลูกชายของแม่อย่างไรก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้น จะหวังให้เขาร้องงื้อ ร้องฮื่อ แล้ววิ่งเข้าไปออดอ้อนออเซาะไอ้หมีหน้ายุ่งนี่น่ะเหรอ ฝันไปเถอะ!
ระดับเขาแค่อยู่เฉยๆ ราชรถก็มาเกยแล้วด้วยซ้ำ!
Loading 100%
ใครอ่านแล้วไม่เม้นท์ ไม่โหวต เราจะให้เซฮุนสาปให้กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม (ปากท้องต้องมาก่อนความสวย)
เป็น 10 % ที่หลายอารมณ์อยู่นะคะรีดเดอร์ หวังว่าทุกคนจะสัมผัสได้ถึงตัวตนของเซฮุนที่เราซ่อนไว้ในแต่ละบรรทัดเน้อ ><
คำเตือน: คนแต่งเรื่องนี้มันชอบหักมุม รับรองว่ายังมีอะไรอีกเยอะที่คุณคิดไม่ถึงแน่ กรุณาเตรียมหมอนไว้จิกตอนฟินพร้อมทิชชู่ไว้ซับน้ำตาด้วยนะคะ บ๊ายบายยย
ปล.กราบขอบพระคุณแนบอกสำหรับคอมเม้นท์ยาวๆ ที่ช่วยเพิ่มแรงใจให้เราอย่างมาก จะเม้นท์สั้นเม้นท์ยาวเราก็อ่านทุกอันและรักทุกคนเท่ากันเล้ย ^_^
***จะมากไปไหมถ้าเราขอให้รีดเดอร์ที่รักช่วยนิยามคำจำกัดความของฟิคเรื่องนี้ให้หน่อย ไม่มีรางวัลให้นะ คนแต่งแค่อยากรู้ความรู้สึกของคุณน่ะ ไม่รู้จะได้รึเปล่า***
เม้นท์เป็นกำลังใจและสกรีมในทวิตแท็ก #ficthislove กันได้นะค้าา
ฟิคเรื่องนี้ไม่มีน้องฮุน มีแต่พี่ฮุนคนแมนที่พร้อมไฟท์กับทุกคน
*** อ่านแล้วก็ช่วยเม้นท์ช่วยโหวตกันสักนิดนะคะ เราอยากรู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับตัวอักษรที่เราพยายามเรียบเรียงออกมา เข้าใจความรู้สึกของคนที่พูดคนเดียวมั้ยอ่า เศร้านะ T-T ***
ความคิดเห็น