ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] "IS THIS LOVE" ใช่รักหรือเปล่า? | KAIHUN FT. CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 :: Do You Mind? [Loading 100%]

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 59


     
     Chapter 5 
     

     


    'ขอแสดงความเสียใจด้วยนะเซฮุน ท่าทางงานนี้มึงคงชวดเงินสิบล้านวอนของจริงว่ะ...'


    'เพราะกูต้องหมั้นกับเยริเดือนหน้าแล้ว'


    "สงบสติตัวเองหน่อยโอเซฮุน" ซูจองเอ่ยปรามเพื่อนสนิทของเธออีกครั้งเมื่อเห็นว่าเขายังคงไม่มีสมาธิในการเรียน ทั้งท่าทางยุกยิกคล้ายคนอยู่ไม่สุขผสมด้วยอาการถอนหายใจติดกันเกินสิบรอบ แถมหน้าตายังซีดเซียวเหมือนพักผ่อนไม่เต็มที่ "ขืนนายยังเป็นอย่างนี้รับรองได้โดนอาจารย์ชเวเชิญออกนอกห้องแน่" 


    "ฉันมีสติอยู่แล้วซูจอง" ถึงจะตอบแบบนั้นแต่คนปากแข็งก็รู้ดีว่าสติของตัวเองล่องลอยไปไกลมากแค่ไหน คำพูดของศาสตราจารย์เกี่ยวกับบทเรียนไม่สามารถทะลุเข้าสู่สมองส่วนใดของชายหนุ่มได้เลย เพราะสิ่งเดียวที่เซฮุนคิดถึงคือคำพูดประโยคสั้นๆ ของใครบางคนซึ่งวนเวียนติดค้างอยู่ในหัวตลอดทั้งคืน


    มันวนเวียนอยู่อย่างนั้นซะจนเขาข่มตานอนไม่ลง ... และเรื่องที่ตลกที่สุดคือจนป่านนี้เซฮุนยังได้ยินเสียงของจงอินชัดเจนราวกับเราสองคนเพิ่งพูดถึงเรื่องหมั้นของมันไป


    "ต่อให้นายโกหกคนอื่นเก่งแค่ไหน แต่นายโกหกตัวเองไม่ได้หรอก"


    ใช่ โอเซฮุนโกหกตัวเองไม่ได้...


    เขายอมรับอย่างไม่อายว่ารู้สึกวูบโหวงในอกเหมือนถูกพรากของสำคัญตอนเปิดประตูออกมานอกห้องนอนแล้วพบแผ่นหลังกว้างของคนคุ้นเคยกำลังเดินห่างออกไปเรื่อยๆ ... จงอินกำลังไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้น ไปเพื่อแสดงให้เธอมั่นใจว่าทั้งคู่จะเข้าพิธีหมั้นหมายภายในหนึ่งเดือนข้างหน้า


    "ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยยัยลูกลิง"


    "นายทนไม่ไหวแล้วต่างหากเพื่อน" มือเรียวสวยฉุดต้นแขนของผู้ชายร่างโปร่งให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะก้มหัวต่อหน้าอาจารย์ชเวซึ่งเธอเรียกจนติดปากเป็นเชิงขออนุญาตออกนอกห้องชั่วคราว พอเห็นว่าฝ่ายนั้นไม่ว่าอะไรจึงลากตัวเพื่อนสนิทมาถึงม้านั่งบริเวณสวนสาธารณะใกล้ๆ "เอาล่ะ ไหนบอกมาสิว่านายมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ใช่ไหม" 


    "ไม่ใช่" เอ่ยปฏิเสธพร้อมทรุดตัวลงนั่ง เซฮุนสูดลมหายใจลึกสุดปอดเพราะหวังว่ากลิ่นอายธรรมชาติจะช่วยบรรเทาความมัวหมองที่เกิดขึ้นอย่างไร้สาเหตุได้ ทว่าประโยคเสียดแทงจิตใจจากปากเพื่อนที่คบกันมาหลายปีก็ทำเอาเขาไปต่อไม่ถูก


    "ถ้าไม่ได้มีเรื่องไม่สบายใจแล้วน้ำตาที่คลอเบ้าอยู่คือ?" ซูจองรู้จักเซฮุนดีที่สุด เธอรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายอ่อนแอที่พยายามสร้างกำแพงเพื่อปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวด จนทำให้บางครั้งดูแข็งกระด้างเกินความจำเป็น "รู้ไหมเซฮุน ขนาดคนที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลกยังเคยร้องไห้..."


    "..." 


    "มนุษย์กับปัญหาเป็นของคู่กัน..."


    "..."


    "นายสามารถไม่พอใจ ร้องไห้ โวยวาย หรือแม้กระทั่งวิ่งหนีปัญหาไปเลยก็ได้..."


    "..."


    "แต่สิ่งที่นายไม่ควรทำอย่างเด็ดขาดคือแบกความทุกข์ไว้คนเดียว..."


    "..."


    "เพราะนายยังมีฉันเป็นเพื่อน ฉันยืนอยู่ตรงนี้ไงเซฮุน..." 


    "..."


    "ถ้านายมีเรื่องไม่สบายใจก็แค่ระบายให้ฉันฟัง และถ้าปัญหามันหนักหนานักก็ร้องไห้ออกมาเลย ร้องไห้ให้ดังจนไซเรนรถตำรวจอายก็ยังได้" 


    ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาเซฮุนมองซูจองด้วยความชื่นชมเสมอ สำหรับเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่สูญเสียทั้งพ่อและแม่ด้วยอุบัติเหตุ ซ้ำร้ายยังถูกพี่สาวทอดทิ้งให้ใช้ชีวิตคนเดียว แต่เธอก็ยังรอดมาได้และยืนหยัดอย่างสง่างามไร้มลทิน 


    เขาโชคดีจริงๆ ที่มีโอกาสได้เป็นเพื่อนกับเธอ


    "เกลียดเธอจริงๆ ยัยลูกลิงเอ๊ย!" 


    "เกลียดฉันเหรอ? ถ้าเกลียดมากนักก็เอาความทุกข์ของนายทุ่มใส่ฉันนี่! เอาให้สาสมเลยนะ!" 


    "แน่ใจว่าเธอรับไหว?" คราวนี้เซฮุนเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจัง เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าแม่สาวเก่งที่ต้องการแบ่งเบาความไม่สบายใจของคนอื่นจะช่วยให้คำปรึกษาได้ดีขนาดไหนเชียว


    "You bet!" 


    "จงอินกำลังจะหมั้น..." 


    ประโยคหยุดโลกของแท้เป็นอย่างนี้เองสินะ


    หญิงสาวรูปร่างหน้าตาสมบูรณ์แบบกระพริบตาถี่ๆ เพื่อเรียกสติตัวเองกลับมาหลังมันบินหายไปภายในชั่ววินาที เซฮุนกำลังบอกเธอว่าคิมจงอินคือสาเหตุแห่งรอยน้ำตาและสภาพคล้ายผีดิบอดนอนของเจ้าตัวน่ะเหรอ บ้าน่า! 


    "นายเสียใจ? หรือแค่เสียดายเงินสิบล้านวอนที่เป็นค่าจ้างอย่างที่นายเคยเล่าให้ฉันฟัง"


    เซฮุนส่ายหน้าแทนคำตอบ เขาไม่กล้าพอที่จะบอกซูจองตรงๆ ว่าเขากำลังเสียใจและเจ็บปวดเพียงเพราะจินตนาการถึงภาพสองคนนั้นเดินเคียงคู่กัน แค่คิดว่าจงอินกับเยริเหมาะสมกันทุกอย่างยังทรมานมากขนาดนี้ แล้วถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ เขาจะทำยังไง


    อาจเพราะการศึกษาหรืออะไรสักอย่างที่ทำให้ชายหนุ่มยึดติดว่าตนเกิดมาเพื่อคู่กับผู้หญิงเท่านั้น เซฮุนเป็นคนฉลาดที่พยายามจะโง่ด้วยการปิดหูปิดตาตัวเอง พยายามที่จะไม่รับรู้หรือยอมรับว่ารูมเมทผิวสีแทนมีผลต่อความรู้สึกมากมายเหลือเกิน


    ไม่ใช่ไม่รู้... ตรงกันข้ามคือเขารู้ทุกอย่าง


    รอยยิ้มของจงอิน เสียงหัวเราะของจงอิน ท่าทางของจงอิน นิสัยของจงอิน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นผู้ชายคนนั้นล้วนแล้วแต่ดึงดูดให้เขาติดอยู่ในเขาวงกตที่หาทางออกไม่เจอง่ายๆ


    เพราะฉะนั้นเซฮุนจึงต้องตอบโต้ด้วยการตีตัวออกห่าง!


    จากที่เคยเจอหน้าทุกวันก็กลายเป็นนานๆ ครั้ง จากที่เคยพูดคุยด้วยก็แปรเปลี่ยนเป็นคำด่าทอที่เอาแต่ทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย แล้วสุดท้ายระยะห่างระหว่างเราสองคนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าตกใจ


    กำแพงที่คิดว่าแข็งแรงพอจะต้านทานกลับพังทลายไม่เหลือชิ้นดีเมื่อจงอินตกลงปลงใจจะหมั้นกับเด็กผู้หญิงที่ชื่อเยริตามความเห็นของครอบครัวทั้งที่เคยคัดค้านหัวชนฝามาตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เซฮุนนึกเกลียดความโลเลของไอ้มนุษย์ขี้กวนเพราะมันทำเอาเขาเสียศูนย์


    เขาควรทำอย่างไรต่อไปดี...






    "พี่จะรีบแก้ขนาดช่วงเอวให้ใหม่ ยังไงอีกสามวันรบกวนน้องเยริแวะเข้ามาลองสวมชุดที่ร้านหน่อยนะคะ" น้ำเสียงละมุนจากเจ้าของเวดดิ้งสตูดิโอชื่อดังเรียกรอยยิ้มสดใสของเด็กสาว เธอพยักหน้าและโค้งหัวทำความเคารพตามมารยาทที่ถูกปลูกฝังอย่างเคร่งครัดก่อนจะขอตัวตามว่าที่คู่หมั้นหนุ่มซึ่งเดินหนีทันทีหลังภารกิจของตัวเองเสร็จสิ้น


    "พี่จงอินรอเยริด้วยสิคะ!" เสียงหวานตะโกนเรียกชายหนุ่มผิวสีแทนที่เร่งฝีเท้าอย่างรวดเร็ว "เยริบอกว่าให้รอก่อนไม่ได้ยินหรือไง!"


    จงอินถึงกับหยุดชะงักปลายเท้าทันทีที่ได้ยินเสียงตะคอกของว่าที่คู่หมั้น เขาแค่นหัวเราะกับตัวเองอยู่สักพักแล้วจึงหันหน้ากลับไปหาเธอ ไม่บ่อยนักหรอกที่สุภาพบุรุษอย่างลูกชายท่านอัยการจะชิงชังใครถึงขั้นยิ้มเหยียดหยามใส่ แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้เขาคิดว่าเธอสมควรได้รับมัน


    "ทำไมพี่ต้องรอ?" ยังไงซะเราสองคนก็ต่างคนต่างมา ดังนั้นถ้าจะต่างคนต่างกลับก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน


    "เพราะมันเป็นหน้าที่ของพี่ค่ะ" เด็กสาววัยมัธยมปลายตอบเสียงเย็น "หน้าที่ของคู่หมั้นที่ดีคือต้องดูแลกันและกันบ้าง อย่างเช่นตอนนี้ที่พี่ไม่ควรปล่อยให้เยริกลับบ้านเอง"


    "เธอรู้อยู่แก่ใจว่าพี่ไม่ต้องการหมั้น!" 


    ให้ตายสิ! ทั้งที่จงอินมีจุดยืนที่ชัดเจนมาเสมอว่าคิดกับเยริเพียงน้องสาวและให้ความเอ็นดูเธอเป็นอย่างดี แล้วดูสิ่งที่เธอตอบแทนเขา! มันไม่ต่างอะไรจากการถอดรองเท้าฟาดหน้าเลยด้วยซ้ำ! แค่เรื่องไร้สาระเมื่อวานกลับทำให้เธอโทรไปร้องไห้ใหญ่โตกับแม่เขาจนงานหมั้นบ้าบอถูกเลื่อนเข้ามาอีก


    ทั้งที่เขาอุตส่าห์บอกเธอไปตั้งหลายรอบเรื่องคนรัก ... ทว่าเยริกลับไม่นำพาสิ่งนั้นใส่สมองเลย ความดื้อดึงและนิสัยเอาแต่ใจตัวเองของเธอนั่นแหละที่ส่งผลให้คนรอบข้างต่างส่ายหัวเพราะเอือมระอา


    "ถ้าอย่างนั้นก็ไปบอกครอบครัวของพี่สิคะ! ไปบอกกับพ่อแม่ของพี่ซะว่าต้องการยกเลิกงานหมั้นระหว่างเรา บอกให้หมดว่าพี่มีคนรักเป็นเพศเดียวกันและรังเกียจเยริมากขนาดนี้..."


    "..."


    "เลิกขี้ขลาดมุดหัวอยู่ในกระดองแล้วทำตัวให้สมกับที่เกิดมาเป็นผู้ชายหน่อย! รสนิยมทางเพศที่ผิดจากคนทั่วไปมันไม่ได้หมายความว่าพี่จะสามารถไร้ความรับผิดชอบด้วยการโยนหน้าที่ปฏิเสธทุกอย่างมาให้เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะได้!..."


    "..."


    "แต่ถ้าพี่จงอินไม่มีความกล้ามากพอก็ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมต่อไปเถอะค่ะ!"


    "..."


    "อ้อ! ไอ้วิธีกินเหล้าย้อมใจมันมีไว้ใช้สำหรับคนขี้แพ้เท่านั้นนะคะ คนที่เขาได้กลิ่นก็รังแต่จะสมเพชมากกว่าสงสาร คราวหน้าถ้าช่วยล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดก่อนมาเจอกันจะขอบคุณมากค่ะ"


    "..."


    "ขอโทษที่เผลอเสียมารยาทนะคะพี่จงอิน..." พอกล่าวจบเด็กสาวผมยาวในชุดเดรสเนื้อดีก็โค้งตัวจนหัวแทบชิดเข่าก่อนจะเดินจากไปโดยไม่สนใจใยดีคนทางนี้อีกเลย


    บ้าไปแล้วคิมจงอิน... นี่นายสิ้นคิดถึงขั้นต้องให้เด็กมัธยมปลายสั่งสอนเลยหรือไง...






    คนเราจะอับอายได้มากที่สุดแค่ไหน?


    จงอินเฝ้าถามตัวเองหลายชั่วโมงว่าตัวเขากำลังทำอะไรอยู่ เขากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วใช่ไหม และคำตอบที่ได้คือไม่... ไม่ใช่เลย


    ความจริงคือเขาพลาดตั้งแต่เลือกใช้วิธีกดดันเยริจนทำให้เธอเก็บทุกสิ่งไปคิดมากกระทั่งระเบิดออกมาในวันที่สภาวะอารมณ์ไม่มั่นคง เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่มีความผิดสักนิด เธอก็แค่ทำตามคำสั่งของครอบครัวแล้วยังต้องมาเจอกับผู้ชายแย่ๆ ที่ผลักภาระให้พ้นตัวอย่างเขา


    แต่ถ้าจะให้จงอินบอกครอบครัวตามตรงเขาก็ทำไม่ได้เหมือนกัน


    มนุษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่มีด้านมืดหรือจุดบอดของตัวเองทั้งสิ้น และจงอินคือหนึ่งในนั้น เพราะเขาเห็นแก่ตัวอย่างไม่น่าให้อภัยเลยทีเดียว


    ย้อนเวลากลับไปประมาณสามปีก่อนที่ชายหนุ่มได้มีโอกาสย้ายเข้าหอพักครั้งแรกหลังถูกขังไว้ใต้กรอบของแม่มาตลอดชีวิต ทั้งที่ระยะทางไปกลับบ้านและมหาวิทยาลัยนั้นใกล้นิดเดียว แต่จงอินก็เลือกที่จะโบยบินเข้าสู่อิสระซึ่งเจ้าตัวปรารถนา


    ทว่าสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดคือโอเซฮุน รูมเมทผิวขาวผ่องที่เล่นตลกกับหัวใจอย่างร้ายกาจตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากัน


    จงอินกล้าสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่าเขาไม่ใช่เกย์และยังชอบผู้หญิงหุ่นเอ็กซ์เซ็กส์แตกตามธรรมชาติของผู้ชาย แต่สงสัยเซฮุนคงเป็นข้อยกเว้นของกฎเกณฑ์ทุกอย่างบนโลกใบนี้ล่ะมั้ง


    ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด...


    เสียงกดรหัสตามด้วยเสียงเปิดประตูเรียกสติชายหนุ่มกลับสู่ปัจจุบันอีกครั้ง ร่างโปร่งของคนที่เพิ่งคิดถึงหมาดๆ เดินสะโหลสะเหลคล้ายคนหมดแรงพลางโยนกระเป๋าสะพายลงบนโต๊ะหน้าโซฟาก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งอย่างไม่กลัวเจ็บ


    "ไง ว่าที่คู่หมั้นมึงสวยมากไหมเวลาใส่ชุดเต็มยศน่ะ" 


    จงอินไม่อยากจะเชื่อว่าเขาต้องทำร้ายจิตใจเยริเพื่อคนซื่อบื้อแบบเซฮุน ไม่รู้เพราะเขายังเป็นคนเปิดเผยไม่พอหรือไอ้ตัวขาวมันแกล้งโง่กันแน่ถึงได้ไม่ยอมรู้เรื่องสักทีว่าที่ลงทุนทำตัวเลวอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อมันล้วนๆ


    ทั้งอ้อนวอน ทั้งขู่เข็ญ จนสุดท้ายต้องงัดไม้ตายเอาเงินสิบล้านวอนมาหลอกล่อกว่าไอ้รูมเมทที่รักจะยอมเปิดเผยตัวในฐานะแฟนของเขา 


    เออ! คิมจงอินแม่งประสาทแดกตั้งแต่ไปหลงชอบผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนแล้ว!


    "ไม่ต้องสนใจเรื่องของว่าที่คู่หมั้นกูหรอก!" 


    ชายหนุ่มผิวแทนผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากคุยกับเซฮุนตอนที่หัวเสียขั้นหนัก อย่างน้อยที่สุดก็ต้องเป็นช่วงที่เขาอารมณ์ผ่อนคลายกว่านี้ แต่แล้วแรงยื้อตรงข้อมือบวกกับน้ำเสียงแหบพร่าก็ส่งผลให้หัวใจชายหนุ่มอ่อนยวบไม่ต่างจากขี้ผึ้งลนไฟ


    "มึงจะหมั้นกับ 'คนอื่น' จริงๆ เหรอจงอิน" 


    บ้าเอ๊ย! ทำหน้าทำตาอย่างนั้นอยากโดนจับฟัดนักหรือไงวะ?!






    "เยริไม่ใช่คนอื่น เธอเป็นลูกสาวของครอบครัวที่แม่กูรู้จัก" 


    เซฮุนปล่อยพันธนาการออกจากข้อมือหนาทันทีที่ได้ยินคำตอบซึ่งมีฤทธิ์เสมือนเข็มแหลมพันเล่ม เขาก้มหน้ามองพื้นห้องพลางทบทวนสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ที่พ้นผ่าน


    ความรู้สึกของคนเราที่เก็บซ่อนไว้เนิ่นนาน ทำไมถึงเพิ่งมาถูกปลุกเอาตอนนี้นะ ถ้าเลือกได้ชายหนุ่มขอกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมซะดีกว่า


    กลับไปเป็นเซฮุนที่เกลียดขี้หน้าจงอินน่ะ


    "กูอยากดื่มน้ำมะเขือเทศปั่น มึงจะเอาด้วยไหม" ร่างโปร่งผละลุกขึ้นแล้วตรงดิ่งไปยังตู้เย็นขนาดกลางที่ตั้งอยู่ด้านซ้ายของครัวซึ่งนานทีปีหนจะมีคนใช้งาน ค้นหาถุงมะเขือเทศสดอยู่สักพักจึงนำออกมาล้างทำความสะอาดก่อนเตรียมอุปกรณ์อื่นๆ


    "เอาสิ ดื่มน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพบ้างก็ดีเหมือนกัน" จงอินมองแผ่นหลังบางผ่านเสื้อเชิ้ตสีอ่อนก่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะผุดขึ้นที่มุมปาก "วันนี้เยริน่ารักมากเลยว่ะ" 


    ปึ้ก!


    วัตถุให้ความคมกระแทกลงกลางแผ่นเขียงไม้ด้วยความรุนแรง หลายครั้งหลายคราที่เซฮุนพยายามบังคับมือให้หยุดสั่น แต่ท้ายที่สุดมันก็ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิงเพราะใครบางคนที่ยังไม่ยอมหยุดพล่ามเรื่องที่ฟังแล้วแสลงหูสำหรับเขา


    "อย่างน้องเยริเนี่ยนะน่ารัก?" 


    "เออสิ ดูไปดูมาน้องเขาน่ารักจริงๆ" จากยิ้มเจ้าเล่ห์กลายเป็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม "หรือมึงไม่คิดแบบเดียวกับกู" 


    เสร็จแน่โอเซฮุน! เก็บความรู้สึกไม่เก่งเหมือนเคย...


    ถึงสามปีที่ผ่านมาเซฮุนจะแกล้งโง่ไม่ยอมรับรู้ความรู้สึกที่เขามีให้แต่มันกลับแสดงปฏิกิริยาคล้ายเด็กอนุบาลหวงของเล่นทุกครั้งที่เขามีทีท่าสนใจเพศตรงข้าม กรณีหนักสุดที่จำได้คือเมื่อช่วงต้นปีที่เขาแอบหนีเที่ยวผับโดยไม่บอกมันก่อน พอกลับมาถึงห้องก็เจอซากกระเป๋ากับเสื้อผ้ากองระเกะระกะเต็มไปหมด


    เซฮุนแบกข้าวของเขาออกมาทิ้งแล้วอ้างว่าไม่อยากอยู่รวมกับคนติดเหล้าทั้งที่ตัวเองดื่มหนักกว่าเขาซะอีก! ลำบากต้องง้ออยู่หลายชั่วโมงกว่าจะได้แบกสารร่างพังๆ เข้าไปนอนแก้อาการแฮงค์ข้ามคืน


    เหตุการณ์นั้นสอนให้จงอินจำฝังหัวว่ารูมเมทตัวขาวเป็นคนประเภทรักแรงหึงแรง! และห้ามทำให้หึงเด็ดขาดถ้ายังอยากมีชีวิตรอด...


    "ในสายตากูหน้าตาแบบน้องเยริหาได้เกลื่อนแถวเมียงดง" ริมฝีปากสีสดขมุบขมิบพูดเสียงเบา "บล็อกนี้โรงพยาบาลศัลยกรรมกำลังฮิตไม่รู้หรือไง คงเป็นลูกค้าประจำเลยล่ะสิ" 


    "อคติหน่า..." จงอินแกล้งทำตัวเป็นชายหนุ่มโลกสวยประหนึ่งกำลังวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ "น้องเขาอาจจะเป็นคนหน้าโหลก็ได้"


    "เหอะ! หน้าโหลเพราะมีดหมอร้อยเปอร์เซ็นต์!" 


    "..."


    "โครงหน้าเรียวผิดปกติทั้งที่ตัวบวมเกินน้ำหนักมาตรฐาน..."


    "..."


    "ตาสองชั้นนั่นก็ดูออกว่าไม่ใช่ของธรรมชาติ..."


    "..."


    "จมูกโด่งปลายเชิดรั้นตามพิมพ์นิยม..."


    "..." 


    "ริมฝีปากบวมตุ่ยสงสัยคงยังไม่ค่อยเข้าที่..."


    "..."


    "พอดูรวมๆ แล้ว... พลาสติก!" 


    จงอินแทบกลั้นขำไม่อยู่ตอนฟังเซฮุนร่ายยาวต่อว่าเด็กสาววัยมัธยมปลายแบบเกินจริงหลายเท่าตัวเพราะแรงโทสะ ท่อนขายาวก้าวช้าๆ หวังเข้าประชิดตัว ทว่าคนไวต่อสิ่งเร้ากลับหันขวับมาเขวี้ยงค้อนวงโตใส่เต็มหน้า


    "กูไม่มีอารมณ์ทำให้มึงกินแล้วจงอิน ไสหัวไปให้พ้นสายตาด้วย!" คนตัวขาวหยิบถ้วยใบเล็กจากตู้เก็บของเพื่อใส่มะเขือเทศหั่นซีก 


    "มึงว่าถ้ากูมีลูกกับเยริ ลูกกูจะหน้าเหมือนคะ..."


    เปรี้ยง!


    "มาถามกูทำบ้าอะไร?! ไปถามเมียที่อุ้มท้องลูกมึงนู่นไอ้ห่า!" เซฮุนปาสิ่งของในมืออัดกำแพงห้องครัวด้วยความลืมตัว เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นลูบใบหน้าแดงจัดเพื่อระงับอารมณ์ นึกถึงคำที่แม่พร่ำสอนว่าเกิดเป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งและอย่าเสียน้ำตาง่ายๆ แล้วก็ได้แต่สะท้อนใจ 


    ความรู้สึกที่คับแน่นในอกมันผลักดันเอาหยดของเหลวให้ไหลทะลักจนล้นออกมานอกดวงตาเรียวรี เขาไม่อยากเป็นคนอ่อนแอ แต่เปลือกความเข้มแข็งที่สร้างไว้หลอกตัวเองและคนอื่นไม่ถาวรคงทนสักเท่าไหร่


    "ขี้แยจังวะ" ความอบอุ่นจากอ้อมแขนสีแทนและน้ำเสียงทุ้มข้างหูเล่นเอาร่างโปรงแข็งทื่อเหมือนหุ่นขี้ผึ้งในพิพิธภัณฑ์ หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงและดังจนน่ากลัวว่าจะกระเด็นหลุด ที่น่าโมโหคือร่างกายไม่รักดีก็รู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาวราวกับถูกพิษไข้ป่ารุมเร้า


    ทว่าทุกอาการที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันเทียบไม่ได้เลยกับสัมผัสอันตรายที่หลังต้นคอขาวผ่อง


    เซฮุนเป็นชายหนุ่มอายุยี่สิบสองปี เขาไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาที่จะงุนงงกับการที่อีกฝ่ายใช้ริมฝีปากลากผ่านบริเวณผิวเนื้ออ่อนนุ่มแล้วจงใจสัมผัสให้ลึกซึ้งกว่าเดิมด้วยปลายลิ้นเปียกชื้น ยิ่งถูกฟันคมกัดเบาๆ ถี่ๆ บางสิ่งบางอย่างที่เคยซุกซ่อนไว้ก็โผล่พรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว


    ขอโทษทีนะเยริ พี่เคยบอกเธอรึยังว่าความเห็นแก่ตัวเป็นเรื่องไม่เข้าใครออกใครพอๆ กับเรื่องเงินนั่นแหละ



    Loading 100%

    ขอกำลังใจหน่อยจิ ><


    เราจะขอทยอยอัพตอนนี้ให้ครบ 100% แล้วพักสักหน่อยนะคะ ทั้งสงครามมิดเทอมที่เหลือวิชา โภชนาการ จิตวิทยาฯ เจเนอรัลไซน์ บวกกับสภาพจิตใจที่ไม่โอเคจริงๆ หวังว่าทุกคนจะเข้าใจแล้วเข้มแข็งไปด้วยกันนะคะ /\ 

    *เราลงตอนนี้ได้เพราะแต่งสำรองไว้ค่ะ แต่ยังไงก็ไม่ทิ้งแน่ๆ จะกลับมาเมื่อทุกอย่างดีขึ้น รักเสมอ >< 


    เม้นท์เป็นกำลังใจและสกรีมในทวิตแท็ก #ficthislove กันได้นะค้าา 

    ฟิคเรื่องนี้ไม่มีน้องฮุน มีแต่พี่ฮุนคนแมนที่พร้อมไฟท์กับทุกคน 

    *** อ่านแล้วก็ช่วยเม้นท์ช่วยโหวตกันสักนิดนะคะ เราอยากรู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับตัวอักษรที่เราพยายามเรียบเรียงออกมา เข้าใจความรู้สึกของคนที่พูดคนเดียวมั้ยอ่า เศร้านะ T-T *** 




      CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×