ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชายาอ๋องไร้ใจ (ZiYu)

    ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 5 (2/2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.42K
      611
      1 ส.ค. 64

    ​​

     บทที่ 5

    บ้านที่อบอุ่น

    หลังจากที่หย่งจื่อ หมิ่งหลาน และคนตระกูลจางรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว จางซุนหลี่ได้เรียนเชิญจิ้นอ๋องไปหารือเรื่องการสร้างป้อมทหารแห่งใหม่ทางตอนใต้ของต้าจินในห้องหนังสือของจวน จางหมิ่งเทียนในฐานะรองแม่ทัพก็ได้เข้าร่วมหารือด้วย จะเหลือเพียงแต่สตรีตระกูลจางเท่านั้นที่แยกตัวออกมาจิบชาที่ศาลา

    ศาลากลางน้ำ

    ในขณะที่รอบุรุษหารืองานราชการอยู่นั้น กัวซิงฉีก็ได้เชิญทุกคนไปที่ศาลากลางน้ำ เพื่อไปจิบชาล้างปากหลังรับประทานอาหารคาว และก็จะได้ถามไถ่ชีวิตหลังแต่งงานของหมิ่นหลานด้วย แต่เหมือนว่าอนุฟางฝูจวี๋กับคุณหนูรองจะไม่เข้าใจความหมายของกัวซิงฉีเลยตามมาที่ศาลาด้วย

    "พระชายาเป็นยังไงบ้าง แต่งงานแล้วคนในจวนรังแกเจ้าหรือไม่" กัวซิงฉีกุมมือหมิ่งหลานในระหว่างเดินข้ามสะพานเพื่อไปยังศาลากลางน้ำ พร้อมกับถามไถ่เรื่องราวต่างๆ จนทั้งสองคนมาถึงที่หมาย กัวซิงฉีเดินไปนั่งเก้าอี้ด้านในสุด หมิ่งหลานก็นั่งลงด้านขวาของมารดา ส่วนอนุฟางฝูจวี๋นั่งด้านซ้ายกัวซิงฉีถัดไปก็เป็นจางมี่ฮวา

    "ท่านแม่ไม่ต้องกังวลใจ ลูกสบายดี ท่านอ๋องและทุกคนดีกับลูกมาก" หมิ่งหลานตอบมารดาของตนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แสดงให้เห็นว่านางมีความสุขกับการแต่งงาน ทำให้มี่ฮวาไม่อยากจะเชื่อว่าหมิ่งหลานมีความสุขจริงๆ เมื่อก่อนนี้ หมิ่งหลาน รักไท่จื่อจะตาย หมิ่งหลานจะตัดใจได้ง่ายปานนั้น

    "แม่ใหญ่ไม่เห็นต้องกังวล พี่รองแต่งเป็นพระชายาเอก ไม่เห็นต้องกลัวใครมารังแก"ในระหว่างที่สองแม่ลูกคนกันอย่างสนุกสนาน จางมี่ฮวาอดทนไม่ได้ที่ต้องมาฟังอะไรที่นางไม่คาดคิดมาก่อน เลยต้องสอดปากขัดจังหวะสองแม่ลูก

    "นั้นสิ ฮูหยินใหญ่อย่างได้กังวล พระชายาของเราเป็นสตรีที่โชคดีแล้ว ที่ไม่โดนแขวนคอ อุ๊ย พระชายาหม่อมฉันขออภัย ฮวาเอ๋อร์แม่คงพูดมากไป" อนุฟางฝูจวี๋หลังจากที่ได้เหน็บแนมหมิ่งหลาน ก็ได้จีบปากจีบคอขออภัยหมิ่งหลานอย่างไม่จริงใจก่อนจะหันมาขอความเห็นจากบุตรี มี่ฮวาก็ได้กระซิบกระซาบกันจน กัวซิงฉีรําคาญใจ

    "อนุฟาง เชิญดื่มชา ปากจะได้ไม่ว่าง" กัวซิงฉีรู้สึกโกรธและทดไม่ไหว หัวใจของนางร้อนไปหมด อนุฟางคนนี้ช่างเหิมเกริมนัก ยิ่งนานวันนังเด็กมี่ฮวาสนิทสนมกับไท่จื่อ สองแม่ลูกนี้ยิ่งไม่อยู่ในกรอบ ไม่เชื่อฟัง โอหังทั้งแม่ทั้งลูก

    "แม่ใหญ่เจ้าคะ ฮวาเอ๋อร์ขออภัยแทนท่านแม่ของฮวาเออร์ด้วยเจ้าคะ ท่านแม่ของฮวาเออร์แค่กังวลแทนแม่ใหญ่เท่านั้น ไม่เห็นต้องพูดรุนแรงเลยเจ้าคะ" จางมี่ฮวาลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินออกมาคุกเข่าลงออกหน้าปกป้องมารดาของตน แต่ภายใต้ใบหน้าที่งดงามปากบางก็เผลอแสยะยิ้ม แต่ดวงตากลมโตกับมีน้ำตาไหลรินออกมา แสดงตนของความน่าสงสารจากคนรอบข้าง อยากให้ฮูหยินจางดูเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย

    "โอ้ ฮวาเอ๋อร์ของแม่ เจ้าอย่าได้รับผิดแทนแม่เลย แม่ผิดเอง อีกหน่อยเจ้าก็จะได้ไปอยู่ตำหนักบูรพาแล้ว มีไท่จื่อดูแลเจ้าแม่ก็หมดห่วง" อนุฟางฝูจวี๋ก็รีบลงไปคุกเข่าลงข้างๆบุตรสาวสองมือกอดบุตรีไว้ ยิ่งทำให้หมิ่งหลานหมั่นไส้นางไปอีก

    ปัง!

    "เจ้า!!!" กัวซิงฉีเอามือตบโต๊ะเสียงดังถึงกลับหน้ามืดกับความจองหองของสองแม่ลูกนี้นับวันยิ่งทวีคูณ จนนางคิดว่าหากไม่มีคนคอยหนุนหลังตนเอง หากตระกูลกัวไม่ยิ่งใหญ่ มีหรือสามีของนางจะเห็นหัวนาง วันๆ เอาแต่คอยให้ท้ายอนุชั้นต่ำสองแม่ลูก

    "ท่านแม่ อนุฟางกับฮวาเอ๋อร์เพียงหวังดีกับลูกตามประสาคนคุ้นเคย ท่านแม่อย่าได้กังวลใจเลย ท่านกลับเรือนไม่พักผ่อนเถิด ลูกมีเรื่องจะสนทนากับฮวาเออร์เล็กน้อย" หมิ่งหลานมีเรื่องต้องสนทนากับมี่ฮวาตามลำพัง นางเลยให้นิ่งจูและมู่ผินที่เป็นสาวรับใช้คนสนิทของมารดาและอนุฟางพาทั้งสองคนแยกย้ายกันกลับเรือน แต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะไม่ค่อยพอใจ เพราะต่างคนต่างเป็นห่วงบุตรีกันทั้งคู่

    "หลานเอ๋อร์!"

    "นิ่งจู พาท่านแม่ไปพักผ่อนเถอะ"

    "เพคะ" นิ่งจูเดินไปประคองฮูหยินจางกลับเรือนตามตำสั่งหมิ่งหลาน

    "มู่ผิงพาอนุฟางกลับเรือน" เมื่อออกคำสั่งนิ่งจูแล้วก็สั่งมู่ผิงต่อ

    "เพคะ" มู่ผินก็รับคำสั่งโดยไม่ขัดขืน นางรับใช้อนุฟางมานานแต่ก็เป็นคนของจางซุนหลี่ ดังนั้นนางควรฟังพระชายาเพื่อจะได้เป็นผลดีต่อนายท่าน และยิ่งกว่านั้นคือเป็นผลดีต่อตนเอง

    "ส่วนเจ้าฮวาเอ๋อร์น้องรัก คุกเข่าต่อไป!"

    "พระชายาเพคะ อภัยให้หม่อมฉัน อย่าได้ลงโทษฮวาเอ๋อร์เลย" อนุฟางเริ่มกังวลใจเมื่อหมิ่งหลานไม่อนุญาตให้มี่ฮวาลุกขึ้น แต่กลับยังสั่งให้คุกเข่าอีก นางกลัวว่าผิวสวยของบุตรีนางจะช้ำเอา

    "อนุฟาง ฮวาเอ๋อร์ทำผิดต่อท่านแม่ ข้าเพียงจะสั่งสอนนางด้วยความรัก ท่านอย่ากังวลเกินเหตุ ลี่ถิงไปส่งอนุฟางที" ในเมื่ออนุฟางกล้าที่จะสั่งสอนหมิ่งหลานด้วยความหวังดี หมิ่งหลานก็จะสั่งสอนมี่ฮวาด้วยความรักความหวังดีจอมปลอมเช่นกัน

    "นี่ปล่อยข้านะ นางไพร่ ข้าบอกให้ปล่อย" เมื่อนางดื้อดึงคงต้องใช้กำลัง อนุฟางโวยวายไปตลอดทาง อนุฟางอดห่วงมี่ฮวาไม่ได้

    หมิ่งหลานเห็นว่าเหตุการณ์จะบานปลายไปกว่านี้ กลัวจะเกิดสงครามภายในบ้านจึงแยกตัวมารดาของตนให้ไปพักผ่อน อีกอย่างมารดาของนางจะได้สบายใจขึ้น หากเกิดอันใดขึ้น หรือแผนการของนางผิดพลาดท่านแม่จะได้ไม่เดือนร้อน และก็ต้องแยกตัวอนุฟางอันเป็นที่รักของบิดาออกไปด้วย จะได้จัดการมี่ฮวาน้องรักง่ายขึ้น อีกอย่างนางอยากย้อนความหลังที่นางยังไม่ได้สะสางกับมี่ฮวา เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใหญ่รู้ก็ได้ เมื่อฮูหยินจางและอนุฟางออกไปพ้นศาลากลางน้ำแล้ว หมิ่งหลานก็ส่งสัญญาณให้คนของนางทุกคนออกไป ทำให้เหลือเพียงแต่ หมิ่งหลานและมี่ฮวาอยู่ในศาลาเพียงลำพัง

    "เอาละฮวาเอ๋อร์น้องรัก เจ้าคงไม่รู้ ตอนนี้ข้าไม่ใช่คุณหนูใหญ่ผู้โง่งมคนนั้นแล้ว" เฮ้อ มี่ฮวาเจ้าช่างแสดงละครเก่งจริงๆ ทำเป็นหวาดกลัวข้า หึ นางงูพิษ

    "เอ่อ พี่รอง ท่านหมายความว่าอย่างไร"

    "เฮ้อออ ฮวาเอ๋อร์ ผู้น่าสงสาร พี่รองจะให้รางวัลเจ้าดีไหมนะ" เตรียมรับรางวัลที่พี่รองจะมอบให้เจ้าดีๆ ละ หมิ่งหลานลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปหาดึงแขนจางมี่ฮวากระชากให้ลุก แล้วลากนางมาใกล้ๆ ริมน้ำที่ไม่มีราวกั้น

    "โอ้ยยยย พี่รองปล่อยแขนฮวาเออร์นะ ฮวาเออร์ทำสิ่งใดผิด"

    "เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือคนงามของพี่รอง"

    "......."

    "หึ ไม่ตอบดีมาก งั้นตั้งใจฟังข้าให้ดี เมื่อก่อนพี่รองเอ็ดดูเจ้า เพราะเจ้าเป็นน้อง หึ ข้ายังจำได้เมื่อก่อนตอนเจ้ายังเด็กเจ้ามักมาอ้อนข้าให้ซื้อของให้ ไม่ว่าเจ้าอยากได้อะไรข้าก็หาให้เสมอ"

    "ฮวาเออร์ทราบดี ฮวาเออร์ไม่เคยคิดอยากได้ของพี่รอง ตะ... แต่ว่า เป็นไท่จื่อที่ดีกับฮวาเออร์ ฮึก ฮืออ" มี่ฮวาเริ่มกลัวขึ้นมาจริงๆ ตอนแรกแค่จะแกล้งร้องไห้บีบน้ำตาเพื่อให้คนสงสาร แต่ตอนนี้ไม่มีใคร นางก็ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นอีก แต่นางก็สู่แรงหมิ่งหลานไม่ได้อยู่ดี แต่นางต้องอดทนไว้เพราะทางขึ้นสะพานมีคนของ หมิ่งหลานอยู่นางเลยต้องอดทนไว้

    "เจ้าคิดว่าข้าโง่งั้นหรือ ตัวข้าแต่ก่อนนั้นแม้จะโกรธเจ้าไปบ้างแต่ข้าก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายเจ้า เหมือนที่เจ้าทำกับข้า" หมิ่งหลานมองใบหน้าของมี่ฮวาด้วยความเฉยชา ภายในดวงตาของมี่ฮวานั้นไม่มีความจริงเลยสังสักอย่าง มีแต่ความแสแสร้ง

    "พี่รองท่านพูดอะไร ฮวาเออร์ไม่เคยคิดทำร้ายพี่รองนะ" มี่ฮวาแสแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไปถ้าไม่มีหลังฐานใครก็จะมากล่าวหานางไม่ได้

    "เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ เจ้าเป็นคนผลักข้าตกสระบัวเอง แล้วเจ้าก็ยืนมองข้าจมน้ำอย่างเลือดเย็น"

    "!!!!" มี่ฮวาทำสีหน้าตกใจสุดขีด หมิ่งหลานรู้ได้อย่างไรว่าเป็นนาง นางอุตส่าห์ปิดบังหน้าตาเพื่อไม่ให้ใครเห็นหรือจำนางได้

    ตู้มมมมม

    "!!!!!!!!!" แล้วมี่ฮวาตกใจยิ่งกว่า เมื่ออยู่ๆหมิ่งหลานก็จับมือมี่ฮวามาผลักตัวเอง ทำให้หมิ่งหลานตกลงไปในสระน้ำที่มีความลึกกว่าสระบัววันนั้นอีก มี่ฮวามือไม้สั่นไปหมดเพราะคนของหมิ่งหลานต้องเห็นว่านางผลักหมิ่งหลายตกน้ำแน่

    "ฮวาเอ๋อร์ ช่วยด้วยยยย" หมิ่งหลานเล่นละครเป็นคนจมน้ำมองดูสีหน้าของจางมี่ฮวาที่ตื่นตระหนกอยู่บนศาลากลางน้ำ หึไงชอบของขวัญที่พี่รองมอบให้หรือไม่น้องสาวสุดที่รัก

    "หมิ่งหลาน!" ไท่จื่อที่ผ่านเดินมาสระบัวพอดีเห็นว่าจางมี่ฮวาที่เหมือนกำลังจะทะเลาะกันกับหมิ่งหลาน อยู่ๆ นางก็ผลักหมิ่งหลานตกน้ำ ทำให้เขาตกใจมาก จึงรีบใช้วิชาตัวเบาลอยไปกลางอากาศก่อนจะกระโดดลงไปช่วยหมิ่งหลานที่กำลังจะจมน้ำโดยไม่รู้เลยว่าสายตาของหมิ่งหลานตอนนั้นมองไท่จื่อเป็นเช่นไร

    "พระชายา"

    ตู้มมมมม

    "ไท่จื่อ!"

    'หึ มาซะทีนะตัวหมากชั้นดีของข้า'

     

     

    เปย์

    ฝากติดตามด้วยน้า

    #ขอบคุณทุกคนที่ติดตามคะ 

    เม้นให้กำลังใจหน่อยคะ

    ฝากโดเนท คนละ 5 บาท 10 บาท

    เป็นกำลังกายกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะ จุฟๆ

     

     

     

     

     

     


     

     


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×