ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Shot-Fic] A PINK & INFINITE Story - คลังคนรักเอพิ้งค์กับอินฟินิท

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF] You are My PRESENT ( Myungsoo x Naeun ) Part 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.11K
      1
      1 ก.ค. 55

     Title : You are My PRESENT
    Pairing/Couple : Myungsoo (L) & Naeun
    BG song : ★ SHE'S BACK - INFINITE
     
     
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
     
     
     
    13.03.19XX เวลา 18.26.น.
     
     
     
    "แม่ฮะ แม่ไม่ไปไม่ได้หรอฮะ" 
     
    เสียงเจี้อยแจ้วของเด็กชายวัย 5 ขวบถามพูดเป็นมารดาที่กำลังรีบร้อน
     
    "โธ่ ลูกแม่ งานนี้สำคัญจริงๆนะลูก แม่ต้องขอโทษลูกจริงๆนะลูก" 
     
    หญิงสาวตอบกลับมาด้วยเสียงรีบเร่ง
     
    "แต่วันนี้วันเกิดผมนะฮะแม่!!!!" 
     
    เด็กชายตะคอกกลับมาด้วยเสียงอันดัง หญิงสาวจึงจับตัวลูกชายและลูบผมเป็นเชิงปลอบ
     
    "แม่รู้จ๊ะลูก แต่ที่แม่ต้องไปก็เพื่ออนาคตลูกเช่นกัน แม่จะพยายามกลับมาให้ทันนะจ๊ะ" 
     
    "นี่คุณ! ชักช้าเดี๋ยวไม่ทันการเอานะ" 
     
    "แม่ต้องไปแล้วล่ะลูก รออยู่บ้านนะ เป็นเด็กดีนะคับ" 
     
    หญิงสาวพูดพร้อมจูบที่หน้าผากของเด็กชายอย่างสงสาร ทำไมเธอถึงไม่อยากอยู่ล่ะ แต่งานนี้สำคัญกับอนาคตของลูกชายของเธอด้วย เธอจึงตัดสินใจออกไปเรื่องงาน
     
    "ฮึกๆ ฮะแม่ ผมจะรอแม่"
     
     
     
    13.03.19XX เวลา 21.55.น.
     
     
     
    กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง ~
     
    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในเวลาที่เงียบสงัด เด็กชายวัย 5 ขวบ ที่กำลังน่ารักน่าชัง ตื่นมาอย่างงัวเงีย 
     
     
     
    "อะ อะ อะไรนะคะ คุณผู้ชายช่วยพูดใหม่ได้ไหมค่ะ เกิดอะไรขึ้นกับคุณผู้หญิง" 
     
    เสียงสาวรับใช้ในบ้านที่รับโทรศัพท์ตะโกนออกมา เด็กน้อยที่เพิ่งตื่นพลอยใจเสียไปด้วย
     
    "คุณผู้หญิงเกิดอุบัติเหตุตอนนี้อยู่ ICU หรอค่ะ ค่ะ ค่ะ ได้ค่ะ แล้วดิฉันจะรีบไป" 
     
    หญิงสาววางโทรศัพท์ลงเตรียมที่จะไปโรงพยาบาล หันมาเห็นคุณหนูคนเดียวของบ้านถึงกับหน้าถอดสี
     
    "ป้ายังอิน แม่ผมเป็นอะไรฮะป้า ฮึก แม่ของมยองเป็นอะไรฮะ" 
     
    เด็กน้อยที่กำลังร้องไห้ ถามสาวคนรับใช้อย่างน่าสงสาร
     
    "โธ่ คุณหนูของป้า" 
     
    หญิงสาวกอดตัวคุณหนูมยองซูไว้แนบแน่น และนำไปโรงพยาบาล
     
     
     
    13.03.19XX เวลา 22.16.น.
     
    "คุณผู้ชายค่ะ ยังอินมาแล้วค่ะ คุณผู้หญิงล่ะค่ะ"
     
    "ยังอยู่ในห้อง ICU แล้วเธอพามยองซูมาด้วยทำไม!!!" 
     
    นักธุรกิจหนุ่ม'คิมมินซู' ตวาดใส่คนรับใช้อย่างโมโห เพราะไม่ใช่เรื่องที่เด็กต้องมารับรู้  ดีนะที่มยองซูตอนนี้ร้องไห้จนหลับบนบ่าของยังอิน
     
    "ดิฉันคิดว่า พาคุณหนูมา แกจะได้ไม่ต้องอยู่ที่บ้านคนเดียว ดิฉันกลัวแกเหงา" 
     
    ยังอินตอบผู้เป็นนาย ที่วันๆเอาแต่ทำงาน จนไม่สนใจใยดีผู้ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเลย
     
    "..." ไม่มีคำตอบออกมาจากปากคิมมินซูแต่อย่างใด
     
     
     
    เวลาผ่านไป หมอและพยาบาลออกมา
     
    "คุณหมอครับ ภรรยาผมเป็นไงบ้าง" 
     
    นักธุรกิจหนุ่มถามผู้เป็นหมออย่างร้อนรน
     
    "หมอพยายามที่สุดแล้วครับ ยื้อเวลาเธอได้นิดหน่อย คุณควรทำใจนะครับ หมอช่วยได้เท่านี้จริงๆ คนไข้เสียเลือดมาก" 
     
    "ขอบคุณมากครับหมอ"
     
    "ครับไม่เป็นไรครับ หมอต้องขอโทษคุณด้วยเช่นกัน" 
     
    หมอหนุ่มก้มหัวให้อย่างเป็นมารยาทและเดินจากไป
     
     
     
    "แม่ฮะ แม่จะไม่เป็นไรใช่ไหมฮะ แม่จะกลับมาอยู่กับผมใช่ไหมฮะ" 
     
    เด็กชายคิมมยองซู ถามผู้เป็นแม่ที่หายใจรวนรินอยู่บนเตียงคนไข้ที่มีสายระโยงระยางเต็มไปหมด
     
    "มยองซู ละ ลูกต้องเข้มแข็งนะลูก อย่าโกรธพ่อเค้าด้วย พ่อเค้าทำเพื่อลูกนะ แม่คงอยู่กับลูกอีกไม่นาน มะ แม่...รัก...ลูก..มะ..." 
     
    ก่อนที่คนเจ็บที่อยู่บนเตียงจะพูดจบ ความเศร้าโศกได้พรากเธอไปจากนิรันดร์
     
    "แม่! แม่! แม่ฮะ!"
     
     
    "แม่! แม่!" คิมมยองซู ชายหนุ่มวัย 19 ย่าง 20 ปี ตะโกนลั่นห้อง ราวกับว่าฝันร้ายนั้นเป็นเรื่องจริง
    ' ฝันอีกแล้วหรอ... ' มยองซูคิดในใจ
    "กี่โมงแล้วว่ะเนี่ย" ชายหนุ่มสบถเหมือนทุกที แล้วดูนาฬิกา ใช่ เค้ามักจะฝันถึงเรื่องราวในอดีตเสมอๆ ในวันที่ใกล้วันเกิดของเค้าทุกปี และมันเป็นฝันร้ายที่สุดและเรื่องร้ายสำหรับเค้าด้วยเช่นกัน ที่ผู้อันเป็นที่รักที่สุดในชีวิตต้องมาจากไปในวันสำคัญของตัวเค้าเอง
    - วันที่ 7 เดือน มีนาคม ค.ศ.2012 เวลา 04.44 -
    "กะเวลาไว้ดีนี่ หึ" มยองซูยิ้มมุมปากเล็กน้อยราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
     
    แม้จะเป็นสิ่งที่เลวร้ายสักเท่าไหร่ ทำใจให้ชินกับมัน มันก็เรื่องปกติของเรา
     
     
     
     
     
    ณ มหาวิทยาลัยโซลอินเตอร์เนชั่นเนล
     
    "เฮ้ย มยองซู" เสียงแหลมๆ เรียกชื่อคนอยู่ไม่ไกล คนโดนเรียกหันหลังกลับมา แล้วยิ้มมุมปากเป็นเชิงทักทายปกติ
    "นี่มยองซูนายรู้อะไรมั๊ย" ลีซองจง เพื่อนสนิทของมยองซู เดินมากอดคอแล้วทำหน้ายักษ์ใส่
    "รู้อะไร" ตอบสั้นๆ
    "ชั้นล่ะเกลียดรอยยิ้มมุมปากของนายจริงๆ เปลี่ยนได้ม่ะ?"
    "นายก็บอกฉันทุกวัน" มยองซูไม่พูดเปล่ายังยิ้มมุมปาก ยั่วโมโหเพื่อนหน้าสวยที่กอดคออยู่
    "รู้ก็ดี จำไว้ด้วยว่าชั้นหมั่นไส้" ซองจงขยี้ผมที่จัดทรงมาอย่างดีของมยองซูจนมันยุ่งเหยิง แล้ววิ่งออกมา
    "ไอ่ซองจง" มยองซูวิ่งตามซองจงไป เช่นเดิมปกติสำหรับคนในมหาลัย เพื่อนสนิทคู่นี้มักจะวิ่งไล่ตามอาคารบ้างไปตามสนามบ้าง จนเป็นที่ชินตาของนักศึกษา
     
    "ถึงแม้จะมีความเจ็บปวดมากมาย ถ้าพร้อมที่จะเข้มแข็งและเดินไปกับมัน คุณจะมีความสุขในบางช่วงบางเวลา"
     
     
     
    "แฮก แฮก" เสียงหอบของซองจงที่วิ่งหนีพรานป่าตะครุบเหยื่อ(?)อย่างมยองซูมาที่ห้องชมรมกีฬาบาสเกตบอล สักพักมยองซูก็ตามมาด้วยเช่นกัน
    "พวกพี่วิ่งกันมาอีกแล้วหรอค่ะ" โอฮายอง สาวนักบาสเกตบอลปี 1 ถามมยองซูกับซองจงที่มาถึงก็นั่งหอบแบบหมดสภาพ
    "ก็จะมีอะไรซะอีกล่ะ ยัยเด็กโข่ง" ซองจงตอบฮายองกลับไป
    "แหม่ ปากแบบนี้มันน่าให้วิ่งรอบสนามซะดีไหม"
    "อย่างกับว่าเธอสั่งแล้วชั้นจะทำอย่างนั้นล่ะ"
    "อะ อะ ไอ้ สวยกว่าผู้หญิง" ฮายองด่าคำที่ตัวเองคิดว่าด่าเจ็บที่สุดออกมา
    "แน่ใจนะว่าเป็นคำด่า ขอบคุณที่ชม ยัยเด็กโข่ง" ซองจงหันไปยิ้มระรื่นให้กับฮายอง
    "อะ อะ ไอ้ "
    "ซองจงไปแกล้งน้องน่า ฮายองเธอก็หยุดได้แล้ว ที่นี่ห้องชมรมนะไม่ใช่ห้องหอ ที่จะมาทะเลาะกันน่ะ" มยองซูที่นั่งดูทั้งสองทะเลาะกันมานานสองนาน พูดขัดขึ้นให้กระเทือนนิดๆ
    "ห้องหออะไร!!!!" และแล้วก็ตวาดใส่มยองซูพร้อมกัน
    "ป่าว เอ้อ! ว่าแต่ฮายองพวกที่เหลือเค้าไปไหนกันหมดล่ะ ไม่เห็นอยู่สักคน" มยองซูเปลี่ยนเรื่องหนีเอาตัวรอด
    "อ่อ พวกพี่ๆน่ะ ไปรับคนที่สนามบินน่ะ เห็นว่าเป็นคนรู้จักของอึนจีออนนี่ นี่ก็ปล่อยฮายองไว้ เผื่ออปป้าสองคนมาจะได้ไม่ต้องตามหาน่ะ" ฮายองเคลียร์เค้าสงสัยให้มยองซู
    "แต่ชั้นว่าที่เค้าไม่ให้เธอไปเพราะว่ะเธอตัวใหญ่จนไม่มีที่นั่งมากกว่ามั้ง" เสียงบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญเอ่ยขึ้นมา
    "พี่ซองจงขา~" ฮายองลากเสียงหวาน
    "ว่าไงจ๊ะ ฮายองของพี่~" ซองจงลากเสียงกลับมาเหมือนกัน
    "พี่ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้หรอกนะคะ" ว่าแล้วฮายองก็วิ่งไล่ซองจงรอบสนามบาส ทำให้บุคคลที่สามที่อยู่ในห้องส่ายหน้ากับความระอา
     
    "ใครกันนะ ที่มาใหม่ในวันนี้ ท่าทางกิตติมศักดิ์ซะด้วยสิ"
     
     
    "ฮึ้ย ยัยน้องสาวตัวดีทำไมไม่รับโทรศัพท์ฉันสักทีนะ" เสียงบ่นเล็กน้อยของหญิงสาวดังขึ้นอย่างหัวเสีย หลังจากโทรไปแล้วปลายสายไม่รับซักที คงไม่เกิดอะไรขึ้นหรอกนะ
    “เอาน่า อึนจีน้องใช่ว่าจะเป็นเด็ก เดี๋ยวก็มาเองล่ะ” จบคำพูด อึนจีชักสีหน้าใส่คนที่อยู่ข้างๆทันที
    “ใช่สิ ไม่ใช่น้องของนายนิ นัมอูฮยอน”  หญิงสาวกระแทกเสียงเล็กๆ ใส่แฟนหนุ่ม ก่อนจะทำหน้ามู่
    “นาอึนก็น้องสาวฉันคนนึงนะ ยัยบ๊อง” อูฮยอนพูดพร้อมดีดหน้าผากอึนจี
    “มันเจ็บนะ!” อึนจีเงื้อมมือจะต่อยแขนคนตรงหน้า แต่มีเสียงเล็กๆขัดขึ้น
    “อะแฮ่ม ทำอะไรกันค่ะ ที่นี่สนามบินนะคะ ไม่ใช่เรือนหอ” 
    “มาถึงก็กวนเลยนะ ยัยน้องสาวตัวดี” อึนจีเดินเข้าไปหาคนมาใหม่พร้อมเขกหัวเบาๆ
    “พี่อึนจีอ่า นาอึนกลับมาทั้งทีต้อนรับกันแบบนี้หรอค่ะ” คนถูกเขกทำเสียงงอน
    “ใครใช้ให้เธอไม่รับโทรศัพท์ฉันล่ะ” อึนจีทำท่าจะเขกหัวนาอึนอีกรอบ แต่คนอายุน้อยกว่ารู้ทัน รีบหลบไปหลังอูฮยอน ผู้ถูกลืมชั่วคราว
    “อึนจีพอเถอะ เพื่อนๆรอนานแล้วนะ” เสียงบุคคลผู้ถูกลืม ห้ามทัพสองสาวพี่น้องเบาๆก่อนจะกลายเป็นเด็กวิ่งไล่จับในสนามบินซะก่อน
    “ก็ได้ งั้นตามฉันมา” อึนจีพูดจบแล้วเดินนำหน้าไป ท่าทางงอนเล็กน้อยของอึนจีทำให้นาอึนรีบเดินไปง้อ อูฮยอนมองสาองสาวแล้วยิ้มออกมา แม้ว่าอึนจีและนาอึนจะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ แต่ทั้งสองก็รักและผูกพันกันมาก เสียงหัวเราะเล็กๆของทั้งสองคน ทำให้อูฮยอนหลุดจากภวังค์แล้วเข็นกระเป๋าตามสองสาวไปเงียบๆ
     
    เสียงโหวกเหวกโวยวายของหนุ่มกลุ่มหนึ่งดังอย่างไม่เกรงใจใคร ราวกับว่าทั้งโลกจะมีแต่พวกเขาเท่านั้น
    “เฮ้ๆ มากันแล้ว” เสียงคนในกลุ่มตะโกนออกมา ทำให้ทั้งกลุ่มเงียบพร้อมกันอย่างไม่น่าเชื่อ
    “ว้าว นางฟ้าชัดๆ”
    “สวยชะมัดเลย”
    “อ่า~ ขาว น่ารัก” 
    คำอุทานที่ออกมาจากห้วงความคิดของแต่ละคน คนที่เพิ่งเดินมาถึงกับทนไม่ได้ต้องจับหัวชนกันพร้อมกันสามคน
     
    “โหย ไรเนี่ย อึนจี จับหัวฉันชนทำไม” เสียงหนุ่มผู้สูงที่สุดในกลุ่มบ่นออกมาพร้อมลูบหัวตัวเองป้อยๆ
    “ดูตาพวกนายมองน้องสาวฉันสิ คนนี้ไม่ได้นะเฮ้ย อีซองยอล” อึนจีพูดพร้อมกอดนาอึนไว้
    “รู้แล้วน่า ว่าแต่ คนสวยชื่ออะไรเอ่ย เรียกพี่ว่า ซองยอลก็ได้นะ” ซองยอล พูดปัด แล้วหันไปพูดกับนาอึน
    “นาอึนค่ะ ซนนาอึน” นาอึนยิ้มเล็กน้อยให้ชายตรงหน้า
    “ชื่อเพราะจัง พี่ชื่อโฮย่านะครับ” ไม่รอช้า โฮย่าที่อยู่ข้างๆซองยอลรีบแนะนำตัวทันที
    “พี่ชื่อดงอูครับ สนใจแลกเบอร์หน่อยมั๊ยครับน้องนาอึนคนสวย” ดงอูก็ไม่รอช้าเหมือนกัน พูดจบมือปริศนาตบหัวดงอูทันที
    “นาอึนไม่ต้องไปสนใจพวกนี้หรอก มันปากหวานไปงั้นล่ะ ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ” เจ้าของมือปริศนาพูดพร้อมยิ้มตาตี่ตามฉบับของตน
    “อ่าค่ะ พี่ซองกยู” นาอึนยิ้มให้ซองกยูเบาๆ
    “ว่าแต่ สาวๆคนอื่นล่ะ” อูฮยอนที่เงียบอยู่ถามพูดขึ้นมา
    “อ่อ พวกนั้นไปซื้อของน่ะ เห็นว่าจะจัดปาร์ตี้กันอ่ะ” ซองยอลพูดไขข้อข้องใจให้กับอูฮยอน
    “ฉันจะพานาอึนไปพบคุณพ่อก่อนนะ พวกนายไปรอที่ชมรมก็ได้” อึนจีพูดแล้วจูงมือนาอึนเดินออกไปทันที ทิ้งให้ห้าหนุ่มยืนงงอยู่กับอารมณ์แปรปรวนของคนหวงน้องสาว
    “งั้นเราก็ไปกันเถอะ” โฮย่าพูดพร้อมลากคอดงอูไปด้วย ตามด้วยอูฮยอน ส่วนซองยอลยังคงยืนมองสาวที่เพิ่งรู้จักกันไม่วางตา จนซองกยูต้องเข้ามาสะกิด
    “พี่สาวเค้าหวง ตัดใจซะเถอะ”
    “ไม่หรอก  ถ้าชอบซะอย่างอะไรก็ทำอะไรไม่ได้หรอก” เสียงของซองยอลเปล่งออกมาอย่างมุ่งมั่น
    “ตามใจนายล่ะกัน” ซองกยูพูดพร้อมตบบ่าคนตัวสูงเบาๆ แล้วเดินออกไป
    ....ท่าทาง อีซองยอล จะตกหลุมรัก ซนนาอึน ซะแล้วสิ....
     
    “พี่ค่ะ ฉันว่ามันเยอะไปไหมค่ะ? พี่โชรง” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มสาวสี่คนกำลังถือถุงของพะรุงพะรังกันทั้งสองมือ
    “ยูคยองเธอก็รู้พวกนั้นกินจุจะตาย”  เสียงผู้ถูกถามตอบมาอย่างเหนื่อยหอบ
    “พี่ยังว่ามันน้อยไปนะเนี่ย”
    “โห พี่โบมีค่ะ ยังน้อยหรอค่ะเนี่ย นัมจูว่ารีบเดินกันดีกว่าเมื่อแขนจะแย่อยู่แล้ว” ร่างของทั้งสี่สาวรีบเดินอย่างรวดเร็ว ถ้าขืนชักช้าแขนพวกเธอได้หลุดจากไหล่แน่ๆ
     
    “พวกพี่ซื้ออะไรกันมาแยะแยกค่ะเนี่ย” ฮายองเดินเข้ามาในห้องประชุมหลังจากได้ยินเสียงโอดครวญของเหล่าพี่สาว
    “ของปาร์ตี้น่ะ ฮายองอยู่ก็ดีเลย มาช่วยกันจัดหน่อย” โชรงพูดพร้อมยกของออกจากถุง
    “ค่ะ ว่าแต่พวกพี่ซองกยูไม่ได้ไปด้วยกันหรอค่ะ” ฮายองถามพร้อมมองหาตอนไปยังไปด้วยกัน แต่ไหงตอนนี้มีแต่เหล่าพี่สาว
    “เดี๋ยวก็มาล่ะ อย่าไปสนใจพวกนั้นเลย” โชรงตอบแบบปัดๆ
    “อ่าค่ะ”
       โชรง โบมี ยูคยอง นัมจู ฮายอง เตรียมปาร์ตี้ได้ซักพัก ผู้ที่ถูกกล่าวถึงเดินเข้ามา
    “ว้าว มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย” มาด้วยเสียงไม่พอยังเอื้อมมือไปยังอาหารที่วางตรงหน้าทันที
    “ย๊า คิมซองกยู หยุดเลยนะ” เสียงหญิงสาวผู้หนึ่งตะโกนออกมา
    “เธอจะตะโกนทำไม ห้ะ ปาร์คโชรง” 
    “ก็นายมัน.....” โชรงคิดหาคำพูดให้คนถามไม่ถูก เจ้าของงานเค้ายังไม่มายังจะมีหน้ามีกินก่อน
    “พอเถอะน่าซองกยูนายก็ไปกวนโชรงเค้า” เป็นอูฮยอนที่ห้ามทั้งสองคน(อีกแล้ว)
    “แล้วอึนจีล่ะอูฮยอน ไปหาท่านอธิบการบดีหรอ” โบมีถามขึ้นเมื่อไม่เห็นสองสาวพี่น้องอึนจีกับนาอึน
    “อืม อึนจีอยากให้ไปพบท่านก่อน แล้วซองจงกับมยองซูล่ะ” อูอยอนตอบและถามถึงบุคคลที่ควรอยู่ในห้องแต่กลับไม่อยู่
    “พี่ซองจงนอนอยู่ห้องพักค่ะ เดี๋ยวฮายองไปตามมาให้ ส่วนพี่มยองซูคงไปสวนสาธารณะน่ะค่ะ” ฮายองเป็นคนตอบคำถามแทน แล้วเดินออกไป
    ‘ ไปอีกแล้วหรอ ‘ บุคคลในห้องคนนึงได้แต่คิดกับตัวเอง
    ...................................................................
    ......................................................
    ............................................
    ...............................
    ....................
    ..........
    ......
    ...
    ..
     
    “ลุงรู้แค่พ่อกับแม่ของหลานสบายดีก็ดีใจแล้วล่ะ" จองอึนจาง บอกผู้เป็นหลานสาวด้วยรอยยิ้ม
    "ค่ะ ท่านทั้งสองฝากความคิดถึงมาด้วยค่ะ และถ้าว่างเมื่อไหร่จะมาเยี่ยม" นาอึนบอกผู้เป็นลุงที่ตนนับถือเป็นพ่ออีกคนนึง
    "ฮ่าๆๆๆๆๆ เป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า แต่ก็ไม่เคยมาหาสักที หลานมีอะไรไปทำก็ไปทำนะ ลุงไม่มีอะไรแล้วล่ะ" ชายวัยห้าสิบ หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
    "งั้นนาอึนขอตัวนะคะ" นาอึนลุกขึ้นยืนแล้วโค้งให้ผู้เป็นลุงอย่างสุภาพ
    "อึนจีอยู่คุยกับพ่อก่อนนะลูก"
    "ค่ะ"
    "งั้นนาอึนรอที่เดิมนะคะพี่อึนจี"
     
    "ที่เดิม สถานที่แห่งความทรงทำของเธอ รักแรก และรักเดียวของเธอ เธอไม่เคยลืม แม้จะผ่านไปกี่ปี"
     
     
     
     
    ' ยัยเด็กบ๊อง ตอนนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างนะ ' ในห้วงความคิดของ คิมมยองซู กำลังหลับตานึกจินตนาการถึงใครบางคน บนม้านั่งริมแม่น้ำ ใครบางคนคนนั้น เป็นผู้ที่ทำให้เขามีรอยยิ้มในวันนี้ ถ้าเขาไม่ได้พบเธอในวันนั้น เขาคงเป็นผู้ชายที่ไม่อยากอยู่บนโลกในนี้แล้วก็ได้ ที่ตรงนี้ สวนที่ลมพัดโกรก เย็นสบาย ทำให้เขารู้จักคำว่า รัก แม้จะได้พบช่วงสั้นๆ แม้จะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ถาม เขาจะไม่มีวันลืม
     
    "ขอโทษนะคะ นั่งตรงนี้ได้ไหมค่ะ" เสียงหวานๆของหญิงสาวคนหนึ่งพูดเอ่ยกับมยองซูเบาๆ
    "อ่า...." มยองซูลืมตาขึ้นมา มองไปรอบๆ พบว่า ม้านั่งที่อื่น ถ้าไม่ใช่คู่รัก ก็เป็นครอบครัวที่นั่งม้านั่ง จนไม่มีที่เหลือ
    "....." หญิงสาวงงกับปฏิกิริยาของคนข้างหน้า
    "อ๊ะ เชิญครับ" มยองซูขยับตัว เพื่อแบ่งที่ให้กับสาวที่อยู่ข้างหน้า
    "ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวนั่งลงข้างๆ เว้นระยะห่างไว้ และนำสมุดวาดภาพของตัวเองออกมา และนั่งวาดอะไรบางอย่าง
     
    ' ซนนาอึน งั้นหรอ ' มยองซูเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ หลังเห็นปกสมุดวาดภาพของเธอ
    "ไม่มั้ง ยัยนั่น โตขึ้นมาคงไม่สวยขนาดนี้หรอก" มยองซูพึมพัมเบาๆพร้อมส่ายหัวเล็กน้อย กับความคิดบ้าๆของเขา
    "อ่ะ ค่ะ คุณว่าอะไรนะ" นาอึนถามคนข้างๆ
    "อ่อ ไม่มีอะไรครับ" มยองซูตอบพร้อมรอยยิ้ม
    "อ่ะค่ะ" นาอึนเองก็ยิ้มตอบเช่นกัน
    "ว่าแต่คุณ..." มยองซูกำลังจะถามชื่อหญิงสาว แต่ทว่ามีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแทรก
    คือ นยอ กา แน เก โอนดา โอนดา โอนดา ชีกานึล นอมอ โอนดา โอนดา โอน....
    "ครับพี่อูฮยอน" มยองซูรับสายเมื่อเห็นว่าใครโทรมา
    "ครับ จะรีบไปครับ" พูดจบมยองซูเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิม
    "เอ่อคุณ/คุณชื่อ" นาอึนและมยองซูเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
    "เชิญคุณพูดก่อนเลย" มยองซูพูดอย่างให้เกียรติ
    "คุณรู้จักกับพี่อูฮยอนด้วยหรอค่ะ นัมอูฮยอนน่ะ" นาอึนถามอย่างสงสัย
    "อ่าครับ เค้าเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยครับ" มยองซูตอบหญิงสาว
    "บังเอิญจังเลยนะคะ เค้าเป็นว่าที่พี่เขยของชั้นเองล่ะค่ะ"
    "อ่อ งั้นคุณก็เป็นน้องสาวของพี่อึนจีที่มาจากต่างประเทศสินะครับ"
    "ค่ะ ว่าแต่..พี่อูฮยอนโทรมามีอะไรหรอค่ะ"
    "อ่อ เค้าให้กลับไปชมรมน่ะครับ ว่าแต่จะไปพร้อมกันเลยไหม รู้สึกงานจะเตรียมพร้อมต้อนรับคุณแล้วนะ" มยองซูเอ่ยปากชวนหญิงสาว
    "โอเคค่ะ" นาอึนเก็บสมุดวาดภาพของตัวเองและเดินไปพร้อมกับมยองซู
     
    "นิสัยก็เหมือน หน้าตาก็คล้าย จะใช่ 'นาอึน' คนนั้นหรือเปล่านะ"
     
     
     
    "อ่า งั้นคุณก็เป็นพี่สินะ" ร่างบางเอ่ยด้วยด้วยยิ้ม ให้กับคนที่เดินข้างๆ
    "คงงั้นมั้งครับ ถึงชมรมแล้ว" มยองซูเปิดประตูให้เจ้าของงานเดินเข้าไปก่อน
     ปัง ปัง ปัง ปัง
    "Welcome to KOREA A~~~~" เสียงตะโกนของคนในห้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงพลุเล็กๆ
    "อะ อะไรกันค่ะเนี่ย" นาอึนถามคนในห้องด้วยรอยยิ้ม
    "ปาร์ตี้สำหรับเพื่อนสุดที่รักไง คิดถึงเธอมากเลยนาอึนนี่" ยูคยองเดินออกมาตอบคำถามแล้วกอดนาอึนแน่น
    "ย๊า ยัยฟรานเชสก้า ชั้นหายใจไม่ออก" นาอึนพูดพร้อมตีหลังเพื่อนสนิทแรงๆ
    "ยังมือหนักเหมือนเดิมนะยะ" ยูคยองหน้ามุ่ยใส่คนตรงหน้าเล็กน้อย
    "แหม ชั้นก็เป็นของชั้นแบบนี้" นาอึนยิ้มให้ยูคยองอย่างดีใจ
    "อะ แฮ่ม ในห้องนี้มีแต่เพื่อนสาวสุดซี้หรอจ๊ะ ลืมพวกพี่ไปได้ไง นาอึนสวยขึ้น สูงขึ้นด้วยนะเนี่ย" โชรงที่ดูอยู่ บ่นขึ้นอย่างน้อยใจ แล้วเดินไปสำรวจตัวนาอึน
    "นาอึนว่า... พี่โชรงไม่สูงขึ้นมากกว่าค่ะ" นาอึนหยอกคนที่ขึ้นว่าพี่สาวอีกคนตรงหน้า
    "ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เสียงรอบข้างหัวเราะขึ้นมา ใครจะรู้ล่ะว่ามีคนกล้าแหย่ยัยป้าโหดโชรงด้วยเรื่องนี้
    "ย๊า ยัยเด็กคนนี้" โชรงกำลังยื้อมือตีนาอึน แต่นาอึนกลับวิ่งไปกอดโบมีก่อน พร้อมกับอ้อน
    "พี่โบมี~ ดูสิ พี่โชรงจะตีนาอึนอีกแล้ว"
    "เราก็จะไปแกล้งพี่เค้าทำไมล่ะ ห๊ะ" โบมีพูดพร้อมกับตีแขนนาอึนที่กอดอยู่เบาๆ
    "โหย พี่โบมีอ่ะ" นาอึนทำแก้มป่องอย่างน่ารัก
    "พอแล้วน่า นาอึนอา~" เป็นอึนจีที่ห้ามทัพ(?)ทั้งสามคน แล้วดึงนาอึนมาอยู่ข้างๆตน ข้างนาอึนอีกด้านนั้นเป็นมยองซู
    "มารู้จักพวกที่เหลือก่อนนะ ข้างๆยูคยอง ชื่อนัมจูนะ คิมนัมจู ถัดมาก็โอฮายอง น้องเล็กของเราเอง 2 คนนี้อยู่ปี 1 ข้างๆฮายองชื่อลีซองจง อยู่ปี 3" อึนจีแนะนำให้นาอึนรู้จัก
    "ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ซนนาอึน ปี 2 ค่ะ" นาอึนแนะนำตัวเองและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
    "ส่วนคนข้างๆเธอไม่ต้องแนะนำหรอกมั้ง เปิดประตูให้กันซะขนาดนี้" อึนจีแอบแขวะนาอึนเล็กๆ
    "บังเอิญเจอกันน่ะค่ะ พี่อึนจี" นาอึนอธิบาย
    "รู้จักกันครบทุกคนแล้วใช่ไหม งั้นมาชนแก้วกัน" อูฮยอนพูดแล้วหยิบแก้วโคล่าขึ้นมา
    "เอาล่ะชูขึ้นสูงๆนะทุกคน" อูฮยอนบอกเมื่อเห็นทุกคนหยิบแก้วขึ้นมาแล้ว
    "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน และยินดีต้อนรับเข้าสู่เกาหลีนะ นาอึน เชียร์สสส" อูฮยอนตะโกนเสียงดัง พร้อมยกแก้วขึ้นไปชนในอากาศ
     
     
    2 วันต่อมา
     
    "แค่นี้น่ะหรอ!!!!" เสียงตะโกนของหนุ่มๆในชมรมบาสดังขึ้น จนคนอ่านหนังสืออยู่อย่างซองกยูและซองจงสะดุ้ง
    "ประมาณนั้น" เสียงของมยองซู ที่นั่งอยู่ด้านหน้าของหนุ่มเลือดร้อน(?)ทั้งสามซองยอล โฮย่า และดงอู ที่กำลังสอบสวน(?)มยองซูเมื่อวันที่มีปาร์ตี้ต้อนรับกลับมาของนาอึน ทั้งที่ตอนไปรับนาอึนที่สนามบิน มยองซูไม่ได้ไป แต่ทว่าทั้งสองคนมาถึงชมรมด้วยกัน มันน่าแปลกใช่ไหมล่ะ!!!!!
    "นึกว่าไปรู้จักกันตอนไหนโดยไม่ยอมบอกซะอีกนะเนี่ย" ดงอูพูดอย่างอารมณ์ดี
    "แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย" ซองยอลยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
    "หมายว่าไงซองยอล" มยองซูถามออกไป
    "ก็ชั้นชอบน้องนาอึนเค้าอ่ะดิ" ซองยอลยิ้มๆ
    "งั้นหรอ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ชั้นไปนะ" มยองซูพูดแล้วเดินออกไปทันที
    "มันเป็นอะไรของมันวะ" โฮย่าถามซองยอลอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ได้รับการยักไหล่มาแทนคำตอบ
    'หรือนาอึนจะเป็นคนนั้นของนายนะ มยองซู' บุคคลหนึ่งในห้อง ได้แต่คิดอยู่ในใจแต่พูดอะไรไม่ได้
     
     
     
    "นาอึนทำไมแกไม่เข้าชมรมกับฉันล่ะ" ยูคยองถามนาอึนระหว่างที่กำลังเดินไปตึกศิลป์
    "ก็ พี่มยองซูเค้าบอกว่าชมรมแกเต็มแล้วนิ" นาอึนตอบตามความจริง
    'ฮึ่ม! พี่มยองซูนะ พี่มยองซู โกหกให้หน่อย ก็ไม่ได้' ยูคยองคิดอยู่ในใจ
    "พี่อูฮยอนเป็นประธานชมรมก็ให้แกเข้าได้น่า นะ นะ นะ เข้าชมรมกับพวกชั้นนะ" ยูคยองเขย่าแขนนาอึนเล็กน้อยเป็นเชิงอ้อนๆ
    "ไม่เอาน่าเต้าหู้ แกก็รู้ชั้นไม่ชอบเข้าโดยใช้เส้น" นาอึนตอบเพื่อนสนิทด้วยเสียงเบาๆ
    "ก็นะ ฝีมือการวาดภาพของแกเข้าขั้นเทพ แถมชมรมศิลปะเป็นชมรมในฝันของแกนิหน่า" ยูคยองเบ้ปากเล็กน้อย
    "ไม่เอาน่า ยังไงชั้นก็กลับบ้านพร้อมพี่อึนจีอยู่ดี ชั้นไปหาแกที่ชมรมก็ได้จริงมั๊ย" นาอึนยิ้มให้เพื่อนสาว
    "ยังไงก็บังคับแกไม่ได้แล้วนิ ตามใจแล้วกัน" ยูคยองยิ้มออกมา
    He's my baby He's my baby ทัล คม ฮัน ซก ซา กิม He's my baby He's my baby นอ เอ เก ยัก ซก ฮัล เก
    "พี่อึนจีโทรมาน่ะ" ยูคยองบอก นาอึนได้แต่พยักหน้ารับเบาๆ
    "ค่ะ พี่อึนจี" ยูคยองกรอกเสียงลงทันทีที่รับโทรศัพท์
    'ยูคยอง ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน' เสียงปลายสายถามกลับมา
    "กำลังพานาอึนไปสมัครชมรมค่ะ พี่อึนจีมีอะไรรึเปล่าค่ะ"
    'คุณแม่เธอมารับเธอน่ะ ท่านรออยู่ที่ห้องอธิการบดี'
    "อ่าค่ะ แล้วจะรีบไปนะคะ ขอบคุณนะคะพี่อึนจี" ยูคยองกรอกเสียงขอบคุณลงไปแล้วหันมาทางนาอึน
    "ไปเถอะไม่ต้องห่วงชั้นหรอก จะถึงอยู่แล้วไม่ใช่หรอ เดี๋ยวชั้นไปเองได้" นาอึนยิ้มให้เพื่อนสาวคนสนิทอย่างรู้ใจ
    "ขอโทษนะนาอึน อย่าโกรธชั้นนะ" ยูคยองพูดเสียงอ้อยอิ่ง
    "ไม่เป็นไรหรอก ชั้นเข้าใจ ไปเถอะเดี๋ยวท่านรอนาน" นาอึนยิ้มให้ยูคยองอีกครั้ง
    "แล้วเจอกันนะ" ยูคยองเดินออกไปทันที
     
    เมื่อแยกกับยูคยองแล้ว นาอึนเดินตามทางไปเรื่อยๆ จนถึงห้องที่ติดป้ายว่า "ชมรมศิลป์" ก่อนจะเคาะประตูและเดินเข้าไป
    "สวัสดีค่ะ" เมื่อนาอึนเดินเข้าไปแล้วพบกับหญิงสาวหน้าตาน่ารัก ดูท่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ แต่นาอึนก็ทักทางอย่างสุภาพ
    "อ่า คุณซนนาอึน ปี 2 สินะคะ" หญิงสาวคนนั้นตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
    "ใช่ค่ะ"
    "ยินดีต้อนรับสู่ชมรมศิลป์นะคะ ชั้นชื่อยูจีเอ ปี 2 ค่ะ เป็นเลขาของชมรมนี้ เชิญนั่งค่ะ" จีเอยิ้มให้คนข้างหน้า
    "ค่ะ" นาอึนนั่งลง จีเอนั่งลงตรงข้าม
    "นี่จะเป็นรายละเอียดต่างๆชมรมนะคะ แล้วก็ข้อควรปฏิบัติ" จีเอยื่นเอกสารจำนวนนึงให้นาอึน
    "ค่ะ ว่าแต่คุณจีเอ แล้วต้องเข้าชมรมได้ช่วงไหนบ้างค่ะ" นาอึนรับเอกสารแล้วถามเลขาผู้น่ารักตรงหน้า
    "ตอนไหนก็ได้ตามสะดวกค่ะ แต่ต้องได้อย่างน้อย 3 วันในหนึ่งสัปดาห์ จะมาวันไหนก็ได้ค่ะ แต่ตอนมาต้องเช็คเวลาเข้าด้วยบัตรนะคะ บัตรของคุณนาอึนจะได้ประมาณ 1-2 วันนะคะ แต่ละเดือนจะมีประชุมครั้งนึงเท่านั้น ที่จริงพวกนี้สามารถอ่านได้ในเอกสารค่ะ" จีเอพูดร่ายยาว
    "ขอบคุณค่ะ คุณจีเอ"
    "ไม่เป็นไรค่ะ ที่จริงไม่ต้องเรียกคุณก็ได้ค่ะ ยังไงก็อายุเท่ากัน ยินดีที่ได้รู้จักนะ" จีเอยื่นมือให้ นาอึนก็จับมือตอบเช่นกัน
    "เช่นกันคะ งั้นชั้นขอตัวก่อนนะคะ" นาอึนลุกขึ้นแล้วโค้งให้จีเอ ก่อนที่พ้นประตูมือปริศนาฉุดให้นาอึนหยุดก่อน
    "จีเอ จะกลับบ้านหรือยัง" เสียงบุคคลปริศนาตะโกนถามจีเอ
    "อ้าว พี่มยองซู กำลังจะกลับค่ะ" จีเอตอบกลับทันที
    "กลับพร้อมพี่เลยมั๊ย พี่ผ่านทางนั้นพอดี"
    "แหม ถ้าไม่ผ่านคงไม่ไปส่งใช่มั๊ยค่ะ นั่งรอก่อนนะคะ จีเอไปเอากระเป๋าก่อน" พูดจบจีเอเดินหายเข้าไปในห้อง ทั้งสองคนจึงตบอยู่ในความเงียบ นาอึนเอามือออกเบาๆ
    "พี่อึนจีให้มารับเธอน่ะ" เป็นมยองซูเอ่ยปากพูดก่อน
    "หืม รับฉัน? ทำไมหรอค่ะ" นาอึนถามอย่างสงสัย ปกติพี่อึนจีไม่เคยให้คนอื่นมารับเธอ มีแต่จะมารับเองไม่ก็ให้พี่อูฮยอนมารับ
    "ไม่รู้สิ" คำตอบที่ได้จากปากร่างสูงนั้น ทำให้ร่างบางหน้านิ่วเล็กน้อย
    "พร้อมแล้วค่ะ พี่มยองซู อ้าว นาอึน รู้จักกันด้วยหรอค่ะ" จีเอเดินออกมาเห็นบุคคลทั้งสองอยู่ด้วย ถามออกมาอย่างสงสัย
    "น้องสาวของรุ่นพี่ที่ชมรมน่ะ" มยองซูตอบจีเอ
    "อ่อ ได้ยินว่าต้องไปส่งนาอึนด้วยใช่ไหมค่ะ งั้นไปกันเลยค่ะ" จีเอเข้าไปกอดแขนนาอึนแล้วเดินนำออกไปทันที ทิ้งให้มยองซูเดินตามคนเดียว
     
     
     
    [Naeun's Part]
     
     
     
    "ถึงบ้านแล้ว ยัยช้างขาว หยุดเม้าท์ได้แล้ว" เสียงของพี่มยองซูบอกจีเอที่ตอนนี้กำลังคุยกับฉันเรื่องต่างๆอย่างถูกคอ ตอนนี้เราสองคนเข้ากันได้ดี
    "พี่มยองซูบอกให้หยุดเรียกชื่อนั้นไง ชิ" จีเอเบ้เล็กน้อยเหมือนถูกขัด แม้ในกิริยาแบบนี้แต่เธอก็ยังดูน่ารักอยู่ดี
    "ไม่เรียกชื่อนี้เธอจะหยุดไหมล่ะ ยัยช้างขาว" ดูท่าพี่มยองซูยังไม่เลิกพูด จีเอก็เหมือนจะโกรธแล้วด้วย
    "จำไว้เลย นาอึนไว้เจอกันที่ชมรมนะจ๊ะ" จีเอคาดโทษที่มยองซูไว้ แล้วหันมาพูดกับฉัน และลงรถไปทันที
    "บายจ๊ะ" ฉันบอกจีเอ และโบกมือให้ บ้านของจีเอไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่เล็ก บ้านทั้งหลังเป็นสีครีมดูอบอุ่น น่าอยู่ เหมาะกับคนน่ารักอย่างจีเอมากๆ ฉันอยากลองวาดบ้านแบบนี้ดูบ้าน แหม เห็นแบบนี้ ฉันเรียนออกแบบนะคะ แม้ว่าจะชอบวาดรูปต่างๆก็เถอะ
    "จะนั่งข้างหลังอีกนานมั๊ย มานั่งข้างหน้าสิ" 
    ขณะที่ฉันกำลังอยู่ในภวงัค์ก็มีเสียงนึงขัดขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่มยองซูนั่นล่ะ ชักจะเริ่มเข้าใจจีเอซะแล้วสิ
    "ค่ะ" 
     
    ฉันย้ายตัวเองจากเบาะหลังไปนั่งข้างคนขับ และคาดเข็มขัดนิรภัยพร้อม ไม่นานพี่มยองซูก็ออกรถ ให้ตายสิ ถึงบอกว่าพี่อึนจีให้มารับ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี แต่ถ้าถามคนข้างๆไปคงไม่ตอบง่ายๆ จะโทรไปถามพี่อึนจีก็ไม่ได้เอาโทรศัพท์มาอีก ชีวิตฉันจะรันทดกว่านี้ไหมนะ นี่ก็ผ่านมาหลายนาทีแล้ว คนข้างๆไม่พูดไม่จาเลย ใช่ว่าจะเพิ่งรู้หรอก ตอนที่ขึ้นรถมาจากมหาวิทยาลัยเค้าก็ไม่พูดเช่นกัน แต่ฉันยังมีเพื่อนคุยอย่างจีเออยู่นี่ วันแรกที่เจอเค้ายังคุยกับฉันดีๆอยู่ แล้ววันนี้เป็นอะไรมา ดูเหวี่ยงๆชอบกล
     
    "นาอึน เธอชอบซองยอลรึเปล่า" อยู่ดีๆพี่มยองซูก็พูดขึ้น แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
    "ค่ะ พี่มยองซูว่าอะไรนะค่ะ" ฉันถามพี่มยองซู ดูเหมือนเค้าจะอารมณ์เสียนะที่ถูกฉันถามอีกครั้ง ทำไงได้อยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมาฉันก็ตกใจเหมือนกันนะ
    "เธอชอบซองยอลรึเปล่า" ห๊ะ พี่ซองยอลหรอ ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะ
    "เปล่าค่ะ" ฉันตอบตามความรู้สึกไป ฉันไม่ได้คิดอะไรจริงๆนี่น่า พี่ซองยอลก็เหมือนพี่ชายคนนึงของฉันนะ
    "งั้นหรอ" 
     
    พี่มยองซูตอบมาแค่นั้นแล้วยังยิ้มมุมปากด้วย ถ้าฉันไม่ได้ตาฝาดไปนะ ให้ตายสิผู้ชายคนนี้กวนอารมณ์จริงๆ ถ้าไม่ติดว่าหน้าหล่อๆคมๆ นั่นนะ ฉันซัดหมอบไปแล้วนะเนี่ย ชิ แต่เอ๊ะ สร้อยคอเค้ามีตั้งสองเส้น ฉันไม่ได้หื่นนะ วันนี้พี่เค้าใส่กางเกงยีนส์สีดำ และเสื้อคอกลมกว้างนิดหน่อยสีเทา มีเสื้อคลุมสีดำทับ เลยเห็นสร้อยคอนั่น อันนึงเป็นจี้แหวนสีเงินเรียบๆ แต่ดูหรูหรา อีกอันเป็นจี้รูปพู่กันอันเล็ก คล้ายๆกับที่ฉันเคยให้คนๆนึงไป คงบังเอิญมั้ง แต่ฉันไม่ได้สังเกตพี่เค้าจริงๆนะ ไม่ได้สังเกตจริงๆ
     
    "มองอะไร" อีกครั้งที่พี่มยองซูพูดขึ้นมา
    "เปล่าค่ะ" ฉันตอบปัดๆ ทั้งที่หลักฐานมันก็เห็นๆอยู่
    "หึ.." คราวนี้หัวเราะมุมปาก ให้ตายสิรู้แล้วยังจะถามอีกทำไม
    "ก็ได้ๆ ชั้นแค่สงสัยว่าทำไมพี่ถึงใส่สร้อยคอตั้งสองเส้น" ฉันพูดออกไป ลองคิดดูสิถ้าฉันไม่พูดออกไป คนข้างๆนี่คงจะมีอะไรให้ฉันแปลกใจอีกแน่
    "หืม สร้อยคอนี่หรอ" พี่มยองซูหันหน้ามาหาฉันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ฉันได้เเต่พยักหน้าตอบ
    "คนที่ให้ทั้งสองคนแม้จะแทนที่กันไม่ได้ แต่ก็สำคัญทั้งสองคน" พี่มยองซูตอบมา ฉันเห็นแววตาเค้าเศร้าๆด้วยล่ะ ฉันพูดไรผิดรึเปล่านะ
    "งั้น แหวนนี่ จีเอให้มาใช่มั๊ยค่ะ" ฉันถามออกไป ให้ตายสิทำไมรู้สึกเจ็บที่หน้าอกแปลกๆ
    "หืม ทำไมคิดว่าจีเอล่ะ" พี่มยองซูหันหน้ามาฉัน สายตาแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง สายตาที่ดูเหมือนคาดคั้นคำตอบแบบนั้น
    "ก็จีเอเป็นแฟนพี่ไม่ใช่หรอค่ะ" ฉันถามออกไป
    "ฮุ" ไอ้ท่าทางหลุดขำนี่อีกมันหมายความว่าไงนะ
    "ชั้นไม่คว้าน้องสาวช้างขาวมาเป็นแฟนหรอกน่า" เพล้ง! อย่าคิดว่าเป็นเสียงแก้วอะไรแตกนะคะ หน้าฉันเองค่ะที่แตก หน้าฉันตอนนี้เหวอไปเล็กน้อย เกิดมาไม่เคยหน้าแตกขนาดนี้มาก่อน อยากจะเปิดประตูรถออกซะตอนนี้เลย จีเอคือน้องสาวของพี่มยองซูงั้นหรอ ทำไมอยู่ดีๆถึงโล่งอกแบบนี้เนี่ย
    "น้องสาวหรอค่ะ" ฉันถามคนข้างๆอีกครั้ง
    "ใช่ ส่วนแหวนเนี่ยแม่ฉันที่เสียไปเคยให้ไว้เป็นของขวัญวันเกิดน่ะ" แม่ของพี่มยองซูเสียแล้วงั้นหรอ เหมือนกับคนนั้นเลย คนที่ฉันตกหลุมรักเมื่อ 5 ปีก่อน หรือว่าพี่มยองซูจะเป็นคนนั้น
    "ละ แล้วสร้อยอีกเส้นละค่ะ" ฉันตัดสินใจถามออกไป
    "นี่น่ะหรอ เป็นคนที่ฉันรักที่สุดให้ไว้ และเธอก็หายไปเมื่อ 5 ปีก่อน" ฉันได้ยินแค่นี้ หัวใจฉันกลับพองโตแทบจะล้นออกมาตัวได้แล้ว พี่มยองซู พี่คือเด็กผู้ชายคนนั้นใช่ไหม คิมมยองซู คือ แอลใช่ไหม
     
     
    ณ คฤหาส ตระกูลจอง
         รถยนต์หรู Porsche 911 Carrera S สีดำ ราคาเกือบยี่สิบล้านบาท แล่นเข้าสู่ตัวบ้านอย่างแผ่วเบา เมื่อรถจอดนิ่งสนิท ร่างบางที่นั่งข้าง ๆ คนขับลงรถแทนจะทันที ไม่มีคำพูดใดๆ เอ่ยออกมา แถมเจ้าตัวยังรีบเดินซะเจ้าของรถคิดว่า 'ฉันทำอะไรผิดรึเปล่า'
     
    " อ้าว นาอึน มาแล้วหรอ " ร่างบางชะงักเล็กน้อย ขณะเดินผ่านห้องนั่งเล่น
     
    " ค่ะ พี่อึนจี ขอตัวนะคะ " นาอึนตอบแล้วรีบเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนทันที ทิ้งความสงสัยให้กับอึนจีเป็นอย่างมาก อึนจีคิดอยู่กับตัวเอง สักพักคนๆนึงก็เดินเข้ามา
     
    " มยองซู นายทำอะไรให้นาอึนไม่พอใจรึเปล่า " บุคคลที่เพิ่งเดินเข้ามา กำลังจะนั่งกลับได้ยินคำถามซะก่อน
     
    " ไม่รู้สิ " มยองซูยักไหล่อย่างไม่แคร์
     
    " ชั้นให้นายไปรับนาอึนไม่ใช่รึไง แล้วนี่ไม่ได้กลับมาด้วยกันหรอ " อึนจีนั่งลงตรงข้ามกับมยองซูอย่างหัวเสีย
     
    " กลับมาด้วยกัน " ร่างสูงตอบมาเรียบๆ
     
    " แล้วไม่ได้คุยอะไรกันบ้างรึไง " อึนจียังถามมยองซูไม่หยุด
     
    " คุย " มยองซูยังคงตอบชนิดถามคำตอบคำ
     
    " เรื่องอะไร " อึนจีหรี่ตามองอย่างสงสัย
     
    " ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นก็ได้ ยัยตี่ แค่คุยเรื่องสร้อยนี่ " มยองซูพูดพร้อมกระตุกสร้อยที่คอ แล้วยื่นให้อึนจีดู
     
         ' สร้อยนี้ลักษณะเหมือนสร้อยของนาอึนเลย ' 
     
    " นะ นายได้สร้อยพวกนี้มาจากไหน " อึนจีพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น แล้วถามมยองซูออกไป
     
    " สร้อยที่เป็นแหวนนั่น ชั้นได้มาจากแม่ ส่วนสร้อยที่เป็นรูปพู่กัน ชั้นได้มาจากคนๆนึงเมื่อ 5 ปีก่อน " มยองซูตอบ ในขณะที่มือของเค้ากำลังลูบสร้อยคอทั้งสอง สายตาที่จ้องมอง ราวกลับกว่าเป็นของสำคัญที่ไม่อยากให้มันหายไปไหน
     
    " เป็นเรื่องจริงสินะ " อึนจีเอ่ยเสียงเบา
     
    " แล้วพวกที่เหลือล่ะ ไม่มาด้วยหรอ " มยองซูเงยหน้าขึ้นมาถาม
     
    " อ่ะ อ่อ เดี๋ยวก็มานายรออยู่นี่ก่อนละกัน " อึนจีพูดพร้อมเดินออกจากห้องนั่งเล่นแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน
     
    ก๊อก ก๊อก ก๊อก 
     
    " นาอึน พี่เข้าไปนะ " อึนจีเคาะเบาๆ พร้อมเปิดประตูเข้าไปหาลูกพี่ลูกน้อง ทันทีที่เห็นอึนจี นาอึนรีบเช็ดน้ำตาที่ไม่รู้ว่ามันไหลออกมาเมื่อไหร่อย่างลวกๆ แล้วเก็บแหวนที่กำลังดูอยู่ไว้ในลิ้นชัก
     
    " นาอึน ร้องไห้ทำไม บอกพี่มาสิ หืม " อึนจีเดินเข้าไปกอดน้องสาวเบาๆ ถึงเธอจะไม่แน่ใจ แต่เธอก็ยังอยากยืนยัน
     
    " นาอึน นาอึนเจอเค้าแล้ว พี่อึนจี นาอึนเจอแล้ว " นาอึนพูดเสียงสั่น แต่ยังกอดอึนจีแน่น ตอนนี้เธอดีใจที่สุดเธอได้พบกับคนที่เธอรักมาตลอด 5 ปี
     
    " คนนั้นคือมยองซูใช่ไหม " อึนจีดึงตัวน้องสาวออกจากอ้อมกอด แล้วจ้องหน้า
     
    " พะ พี่รู้ได้ยังไง " นาอึนแปลกใจนิดๆ เธอเพิ่งรู้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาและยังไม่เล่าให้ใครฟัง เมื่อกลับถึงบ้าน เธอก็เข้าห้องทันทีเลย
     
    " ตอนแรกพี่ก็ไม่แน่ใจ พอเห็นสร้อยรูปพู่กัน เลยต้องขึ้นมาหาเธอ แต่ตอนนี้พี่แน่ใจแล้วล่ะ ยินดีด้วยนะ " อึนจีบอกนาอึนยิ้มๆ พร้อมบีบจมูกเบาๆ
     
    " ขอบคุณมากนะคะ พี่อึนจี " นาอึนพูดพร้อมกอดอึนจีแน่นๆอีกครั้ง 
     
    ต้องขอบคุณเธอจริงๆ ที่ทำให้ได้เจอเค้าคนนั้น คนที่รักมาตลอด 5 ปี
    ...........................
    ......................
    ..............
    .........
    ....
    .
    แต่นาอึนรู้ได้ยังน่ะหรอ? ย้อนกลับไปเมื่อตอนอยู่บนรถ
     
     
    " นี่น่ะหรอ เป็นคนที่ฉันรักที่สุดให้ไว้ และเธอก็หายไปเมื่อ 5 ปีก่อน" มยองซูตอบคำถามของนาอึน แล้วหันมายิ้มให้ 
     
       ' พี่มยองซู พี่คือเด็กผู้ชายคนนั้นใช่ไหม คิมมยองซูคนนี้ คือ แอลคนนั้นใช่ไหม ' นาอึนได้แต่คิดในใจ
     
    " พี่พอจะเล่าเรื่องเด็กคนนั้นให้ฟังจะได้ไหมค่ะ " นาอึนจ้องหน้ามยองซู ด้วยแววตาที่อยากรู้อยากเห็น แต่มยองซูกลับถูกสะกดจิตด้วยแววตาคู่นั้น จนผ่านไปเป็นนาที แน่นอนว่ามันเป็นตอนที่ติดไฟแดงอยู่ จนกระทั่งมีเสียงแตรรถคันด้านหลังดังขึ้น เพราะตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว คนที่อยู่ในรถสองคนต่างหันหน้ากลับทันที บรรยากาศเริ่มจะอึดอัด ถ้ามยองซูไม่พูดขึ้นมาว่า
     
    " ถ้าเธออยากรู้ ฉันก็จะเล่าให้ฟัง.... เมื่อ 5 ปีก่อน ตอนที่ฉันเพิ่งย้ายมาอยู่โซล "
     
           
           ริมแม่น้ำในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง จะมีม้านั่งอยู่เป็นย่อมๆ เพื่อให้คนที่อยากมานั่งเล่น ดูวิวยามค่ำคืนของตัวเมืองโซลได้อย่างสบายๆ แต่ตอนในช่วงเวลาเช้าแบบนี้ คงจะมีแต่ผู้คนส่วนน้อยที่ออกมาวิ่งออกกำลังกาย รับอากาศบริสุทธิ์ในตอนเช้า 
     
         แต่แบบนั้นไม่ใช่สำหรับ คิมมยองซู เด็กชายอายุ 15 ปี ในตอนนี้หรอกนะ ที่กำลังนั่งบนม้าสีขาว ทอดสายตาไปตามแม่น้ำนึกถึงภาพวันเก่าๆ ระหว่างตัวเค้ากับมารดา ผู้ที่เค้ารักที่สุด วันนี้ เป็นวันเกิดของเค้า แต่เค้าไม่เคยมีความสุขเลยตั้งแต่วันนั้น วันที่เค้าได้เสียแม่อันเป็นที่รักไปอย่างไม่หวนกลับคืน ซ้ำร้ายยังเป็นวันที่เค้าเกิดมาบนโลกนี้ เมื่อ 15 ปีก่อนแม่ของเค้าต้องทรมานในการที่จะทำให้เค้ามีชีวิตบนโลกใบนี้ ซ้ำร้าย 5 ปีหลัง แม่ของเค้าก็รีบร้อนที่จะกลับมาหาเค้า แค่เพราะว่าวันนั้นเป็นวันเกิดของเค้าเอง แบบนี้จะให้เค้าสุขในวันแบบนี้ได้อย่างไร
     
    " ว้าย ไม่นะ " 
     
       เสียงร้องของเด็กสาว ทำให้มยองซูหลุดจากภวังค์  แล้วพบว่า มีเด็กสาวคนนึงกำลังกระโดดเก็บกระดาษสีขาวที่กำลังปลิวว่อนเพราะโดนลมพัด เด็กสาวคนนั้นกำลังเก็บกระดาษอย่างเอาเป็นเอาตาย มยองซูหลุดขำออกมา ใครจะไปคิดละว่าในเวลาเช้าๆ ลมแบบนี้ จะมีคนมานั่งวาดรูป ทั้งๆที่ ถ้ามาในช่วงบ่ายๆอากาศจะดีมากแท้ๆ 
       มยองซูยังมองเด็กสาวคนนั้นไม่วางตา แม้จะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก แต่ก็มองได้ชัดๆ เธอถือว่าหน้าตาน่ารัก ผิวขาวเนียนที่โผล่ขึ้นมาจากชุดเดรสสั้นสีชมพูนั้น ขับให้คนใส่ดูน่ารักขึ้นจากปกติ ที่น่ารักอยู่แล้ว ให้น่ารักเพิ่มเข้าไปอีก แถมยังปล่อยผมตรงยาวนั้น แม้โดนลมพัดปิดบังหน้าตา แต่ความน่ารักก็ยังมีให้เห็นอยู่ มยองซูยังคงมองเด็กสาวคนนั้นตาไม่กะพริบ จนกระทั่งมีกระดาษปลิวมาปะทะที่หน้าของเค้า
     
    " อ่ะ ขอโทษนะคะ " มยองซูหยิบกระดาษออกมา พบกับเด็กสาวคนนั้น 
     
    ' ผิวขาวๆ แก้มใสๆ '
     
    " ขอโทษนะคะ เป็นอะไรรึเปล่าค่ะ " เด็กสาวคนนั้นมองหน้ามยองซูอย่างเป็นห่วง
     
    " อ่ะ ครับ " มยองซูตอบคนตรงหน้า แล้วยื่นกระดาษให้ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นชื่อที่อยู่บนสมุดวาดภาพ
     
    ' นาอึนนี่ งั้นหรอ '
     
    " ขอบคุณมากนะคะ " เด็กสาวรับกระดาษแล้วเก็บใส่สมุด แล้วรีบเดินทันที แต่กลับมีมือนึงฉุดเธอไว้
     
    " เดี๋ยวสิ เธอทำให้ฉันเป็นแผล แล้วจะไปง่ายๆแบบนี้น่ะหรอ " มยองซูจับมือนาอึนไว้ และใช้อีกมือนึงชี้ตรงแก้มด้านขวาที่รู้แสบนิดหน่อย ใช่ เค้าโดนกระดาษบาด แถมมันแสบมากด้วย 
     
    " คุณจะให้ชั้นทำอะไรค่ะ " นาอึนถามคนตรงหน้า แผลแค่นี้คงไม่ต้องถ่อไปถึงโรงพยาบาลหรอกนะ เธอไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น
     
    " นั่งอยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนสิ " มยองซูบอก พร้อมสะบัดหน้าไปยังที่นั่งข้างๆ ทำให้นาอึนเบ้ปากเล็กน้อย แต่ก็ยอมนั่งโดยดี
     
    " ชั้นมีเวลาไม่มากนะคะ " นาอึนบอกผู้ที่นั่งอยู่ข้างๆ
     
    " เธอชอบวาดรูปหรอ " มยองซูถามเด็กสาว
     
    " ค่ะ เป็นงานอดิเรก "
     
    " คุณแม่ฉันที่เสียไปแล้ว เธอชอบวาดรูปมากๆเหมือนกัน " มยองซูบอก พร้อมกับดวงตาที่หลุบต่ำลง
     
    " เสียใจด้วยนะคะ " นาอึนเห็นอาการคนตรงหน้า อยู่ดีๆหัวใจก็กระตุกวูบ
     
    " ไม่เป็นไร ฉันชินแล้ว " มยองซูยิ้มออกมา แต่ดูก็รู้ว่าฝืนยิ้มออกมา
     
    " ชั้นว่า ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้ แม่ของคุณที่อยู่บนสวรรค์จะไม่สบายใจเอานะคะ คุณเป็นผู้ชายต้องทำให้แม่คุณเห็นสิว่าคุยยังสามารถมีชีวิตต่อไปได้อย่างเข็มแข็ง  "
     
    " นั่นสินะ " มยองซูยิ้มน้อยๆให้กับคนตรงหน้า ก่อนจะเงยหน้ามองขึ้นบนท้องฟ้า
     
    ' แม่ครับ แม่จะไม่โกรธผมใช่ไหมครับ '  จู่ๆลมที่กำลังเย็น กลับกลายเป็นว่าเหมือนมีคนมากอดเค้า มันอบอุ่นอย่างไม่อย่างเชื่อ
     
    " อ่ะนี่ " จู่ๆนาอึนก็ยืนกล่องเล็กๆสีชมพูมาให้มยองซู
     
    " อะไร " ถึงปากจะถาม แต่มือยังยื่นไปรับกล่องมา แล้วเปิดดูพบว่าเป็นสร้อยคอสีเงินที่มีจี้เป็นรูปพู่กันเล็กๆ น่ารัก
     
    "ถ้าคุณแม่ของนายชอบวาดรูป ชั้นว่ามันน่าจะเหมาะกับนายมากกว่า โชคดีนะ " นาอึนพูดแล้วรีบเก็บของ เดินออกไปทันที
     
    " เดี๋ยวสิ " มยองซูฉุดแขนนาอึนไว้ (อีกแล้ว)
     
    " เธอให้ฉันฝ่ายเดียวไม่ได้หรอก " มยองซูไม่พูดเปล่า แถมยังถอดแหวนตรงนิ้วนางข้างขวาที่สลักเป็นรูปตัว L ไว้ แล้ววางไว้บนมือนาอึน
     
    " ถือว่าหายกัน " มยองซูยิ้มให้ร่างบาง
     
    " ขอบคุณนะ " นาอึนยิ้ม แล้วรีบเดินออกไปทันที
     
    ' หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะ รักแรกของคิมมยองซู นาอึน '
     
     
    " จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่รู้เลยว่าเธอคนนั้นอยู่ที่ไหน " มยองซูพูดแล้วยิ้มให้กับตัวเอง แล้วหันไปหานาอึน ที่นั่งเงียบมาตลอด
    ..
    .
     
    " นาอึน นาอึน นาอึน ซนนาอึน! " 
     
    " อ่ะ คะ ค่ะ พี่มยองซูมีอะไรค่ะ เรียกซะดัง " 
     
    " เธอเป็นไรรึเปล่า " มยองซูถามคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง
     
    " อ่อ ไม่มีอะไรค่ะ " นาอึนยิ้มให้มยองซูเล็กน้อย แล้วก็นั่งเงียบตลอดทางจนถึงบ้านของอึนจี
     
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
     
     
    Writer's Talk :: เรื่องแรกของไรเตอร์อย่าว่าไรนะ T____T จากบอร์ด APINKTHAILAND จ้า
     
    farry テーマ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×