คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ✿chapter : VIII
ร่างเล็กส่ายใบหน้าไปมาด้วยความหวาดกลัว ในหัวของเขาฉายภาพเหตุการณ์น่าสะเทือนใจซ้ำๆ ฉายไปเรื่อยๆจนทำให้ซูโฮสะดุ้งตื่นขึ้น เขามองรอบหัวด้วยความระแวง ร่างเล็กรู้สึกโล่งใจที่ตัวเองมาอยู่โรงพยาบาลแล้ว แสงตะวันซึ่งกำลังตกดินสาดส่องเข้ามาในห้องฟักฟื้น VIP
“จือ..เทา”
ซูโฮตกใจนิดๆเมื่อเห็นว่าใครกำลังนอนขดตัวอยู่บนโซฟา คนตัวเล็กอมยิ้มนิดๆ ถึงแม้จะรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่มนุษย์ แต่ถึงยังไงจือเทาก็เหมือนน้องชายของซูโฮอยู่ดี ..แม้ว่าอีกคนจะไม่ค่อยเคารพว่าตนเป็นพี่ก็ตาม
“หลับให้สบายนะ”
มือเรียวหยิบผ้าห่มของตน มาห่มให้อีกคนที่หลับใหล หลังจากนั้นก็ออกไปเดินเล่นข้างนอกห้อง ทั้งแพทย์และพยาบาลที่เห็นซูโฮในชุดคนไข้ต่างพากันทักทายและทำความเคารพตามปกติ คนตัวขาวหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาต่อสายหามารดา เพราะเขากลัวว่าป่านนี้พ่อกับแม่คงเป็นห่วงแย่
“แม่ฮะ..ซูโฮเองนะ”
[เอ๊า! ลูกฟื้นแล้วเหรอ? แม่กับพ่อกำลังจะถึงโรงพยาบาลพอดี รู้มั๊ย แม่ตกใจแค่ไหนที่หนูซูจีโทรมาบอกว่า ลูกแพ้ปลาหมึกจนเข้าโรงพยาบาล!!]
“ฮ่าๆ ซูจีมาส่งผมเองเหรอ? แม่กับพ่อไม่ต้องมาหรอกฮะ ผมกำลังทำเรื่องขอออกจากโรงพยาบาล ว่างๆเดี๋ยวผมกลับบ้านนะจุ๊บๆ”
[จ้า ลูกชายของแม่ ....เอ๋? แต่ตอนที่หนูซูจีโทรมาบอก เธอก็พึ่งรู้ว่าลูกอยู่โรงพยาบาล ...แม่ว่าไม่น่าใช่หนูซูจีนะ]
“หมายความว่า..”
[ทางโรงพยาบาลโทรงมาแจ้งเธอว่าลูกอยู่นี้]
ซูโฮลดสมาร์ทโฟนที่แนบหูลงด้วยความงุนงง ในหัวของเขาเริ่มปะติดปะต่อเหตุการณ์ที่น่ากลัวเหล่านั้นไม่ได้!! มีบางเหตุการณ์บางส่วนที่เขายังไม่รู้ตอนที่สลบไป ร่างเล็กขมวดคิ้วเป็นปมก่อนจะตัดสินใจเดินไปถามเคาร์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของชั้น
“คุณพยาบาล ไม่ทราบว่าใครมาส่งผมที่โรงพยาบาลฮะ”
“อ๋อ ทางเราเจอคุณหมอนอนไม่ได้สติอยู่แผนกศัลยกรรมประสาทค่ะ ดิฉันก็ไม่ทราบว่าคุณหมอมาอยู่ได้ไงเพราะกล้องวงจรปิดเสียพอดี”
“เสีย? ...ครับๆ ขอบคุณครับ”
อย่าบอกนะ ว่าจือเทาพาผมมาส่งโรงพยาบาล?
ร่างบางเกาะลำแขนแกร่งหนึบไม่ยอมปล่อย แบคฮยอนไม่ชอบสถานการณ์ที่คนเยอะเอาเสียเลย ผู้คนในบริษัทต่างชื่นชมในความน่ารักของแบคฮยอน ผู้อำนวยการให้การต้อนรับลูกชายของประธานใหญ่เป็นอย่างดี ข้อมูลทั้งหมดในบริษัทถูกยกมาวางไว้ในห้องประชุมที่มีเพียง..
ชานยอลและแบคฮยอนเท่านั้น
ร่างสูงตั้งใจหาข้อมูลทำวิจัยส่งอาจารย์เพื่อที่จะได้จบ ป.โท เสียที ส่วนเจ้าตัวน้อยก็นั่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ของชานยอลอย่างสนุกสนาน ชานยอลสั่งห้ามทั้งหญิงและชายเข้ามาในห้องนี้ เพราะเขาแค่หวงแบคฮยอนที่สั้งกางเกงขาสั้นเอามากๆ
เพียงเดินเข้ามา เจ้าตัวน้อยของเขาก็เป็นที่สนใจซะแล้ว
“ชานยอลลลลลล ...มีคนส่งไลน์มาด้วยอ่ะ”
แบคฮยอนลุกขึ้นจากโซฟาก่อนทีจะกึ่งวิ่งกึ่งเดินมานั่งตักของคนตัวสูง ..ชานยอลอมยิ้มนิดๆพร้อมกับโอบเอวเล็กๆเอาไว้แน่น ปลายจมูกโด่งคลอเคลียอยู่กับซอกคอขาวไม่ห่างไปไหน ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหัวเราะคิกคัก
“ใครส่งมาครับ? บอกชานยอลซิ”
“คนที่ชื่อเลขา เขาส่งข้อความแปลกๆมาน้องแบคก็เลยส่งสติ๊กเกอร์น่ารักๆกลับไป^^”
“=…=”
ชานยอลหยิบสมาร์ทโฟนของตนออกจากมือเรียวสวย เขาคิดว่าป่านนี้เลขาที่ภักด์ดีคงประสาทกินตายเลย ร่างสูงผละร่างบางลุกขึ้นออกจากตัก ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อคุยธุระเป็นการส่วนตัว
“ว่ามา และไม่ต้องถามเรื่องสติ๊กเกอร์นะ - -;;”
[เอ่อ ...คุณชานยอลครับ คุณท่านกับคุณนายไปยังสุสานไร้ญาติแห่งหนึ่งที่ชนบทครับ ]
สุสานไร้ญาติ ?
“แล้วเจ้าของสุสานนั้นล่ะ?”
[ผมสืบประวัติของเจ้าของสุสานแล้ว เขาเป็นลูกมหาเศรษฐีคนหนึ่ง แต่กลับโดนพี่ชายต่างสายเลือดขโมยสมบัติทั้งหมดไปและจับตัวเขาส่งมายังโรงพยาบาลครับ ...ซึ่งโรงพยาบาลที่ว่านั้นคือโรงพยาบาลที่คุณชานยอลเคยทำงานเป็นผู้อำนวยการมาก่อน]
ผมรู้สึกตัวชาไปหมด เหงื่อมันไหลซึมออกมาเป็นเม็ดๆ ผมจำได้เพียง ผมตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่สหรัฐ พ่อกับแม่บอกว่าผมเจอกับอุบัติเหตุที่รุนแรงทำให้ผมสูญเสียความทรงจำบางส่วนไป แต่ตอนนั้นผมกลับคิดว่าตัวเองจำได้ทุกอย่าง! ผมจำพ่อกับแม่ได้ จำเพื่อนสนิทอย่างจงอินได้
แต่จงอินก็จากโลกนี้ไปโดยที่ผมไม่รู้สาเหตุ
ผมจำแทบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมเคยเป็นผู้อำนวยการที่โรงพยาบาลในเกาหลี ครั้งสุดท้ายผมจำได้เพียง ..ผมกำลังเที่ยวเล่นของฝรั่งเศส บางทีผมก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังเข้าใกล้ความลับที่จิตใต้สำนึกกำลังปิดกั้น
“..ได้สืบประวัติอีกมั้ย?”
[ผมให้ลูกน้องไปหาข้อมูลที่โรงพยาบาลแล้วครับ เอกสารทุกอย่างเกี่ยวกับคุณชานยอลถูกทำลายซะหมด แพทย์และพยาบาลทุกคนถูกสั่งห้ามไม่ให้พูดเรื่องของคุณ นอกจากเอกสารของคุณถูกทำลายแล้วผมยังพบว่า มีเอกสารของนักศึกษาแพทย์ที่ชื่อว่า โดคยองซู ถูกทำลายด้วยครับ]
“ดีมาก เป็นประโยชน์มากเลย ว่าแต่เจ้าของสุสานชื่ออะไรเหรอ?”
[บยอน แบคฮยอนครับ]
!!!!!!
<ชานยอล talk>
ผมถึงกับนิ่งค้างเมื่อได้ฟังสิ่งที่เลขาของผมบอก ตอนนี้ผมไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นแม้กระทั่งพ่อกับแม่ ผมสั่งเลขาสืบประวัติของทุกคนที่อยู่ใกล้ตัวผมตั้งแต่ที่ผมกลับมาเกาหลีหลังจากรักษาตัวเสร็จ ... ผมเจ็บจุกที่อกจนพูดไม่ออก ผมทรุดตัวลงกับพื้นและปล่อยน้ำตาที่อัดอั้นออกมาอย่างไม่มีเสียง
ชานยอล ..คิดถึง
ชานยอลรักน้องแบค น้องแบคก็รักชานยอล ...รักจริงๆนะ
ตอนแรกผมพยายามผลักไสเขาโดยไม่เอะใจอะไรสักนิด ...สมองของผมสั่งเพียงแค่เอาเด็กคนนี้ออกไปให้ไกลตัว เพราะสมองรู้ว่าผมต้องเจ็บเอามากๆถ้าอยู่ใกล้เจ้าตัวน้อย ใช่! เจ็บมากทั้งๆที่ผมพร่ำบอกตัวเองว่าให้รักซูจี รัก รักและรัก เธอเพียงคนเดียว!!
“ชานยอล!! เปิดประตูให้น้องแบคนะ! ชานยอลเป็นอะไรหรือเปล่า!”
เสียงใสที่ดูเป็นกังวลพร้อมกับเสียงเคาะประตูถี่รัวทำเอาผมค่อยๆเอื้อมมืออันสั่นระริกไปเปิดประตูเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย ..ผมมันช่างโง่ที่ไม่เอะใจตั้งแต่แรกที่เจอกัน! ! ในหัวผมมันเบลอไปหมด ความรู้สึกมันตีรัว ผมรับรู้ว่าสมองกำลังสั่งผม ให้หยุดค้นหาความจริง
มันกลัวว่าผมรับเรื่องเลวร้ายไม่ได้ มันเลยเลือกที่จะทำให้ผมลืม
“ชานยอล ...ร้องไห้”
มือเรียวยกขึ้นเพื่อจะเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลรินเต็มแก้มของผม แต่ผมกลับคว้าร่างบางเข้ามากอดเสียก่อน ผมร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร ..กลิ่นดอกเดซี่ที่ลอยออกมาจากตัวแบคฮยอนทำให้ผมสับสน เหตุการณ์ทุกอย่างมันตีกันมั่วไปหมด ปวดหัว ผมปวดหัวอีกแล้ว!! ไม่นะ ผมกลัว ทำไมรู้สึกหวาดกลัวแบบนี้
“ฮื่อๆ ฮื่อออ”
“..เป็นวิมานอยู่บนดิน ให้เธอได้พักพิงอิง และนอนหลับใหล..”
“ฮื่อออออ”
“ฮึก..กะ เก็บดวงเก็บเดือน..ฮื่อๆ มาร้อยมาลัย..เก็บหยาดน้ำค้างกลางใจ...ฮื่ออออ”
แบคฮยอนร้องเพลงหนึ่งที่ผมคุ้นเคยทั้งน้ำตา มือเรียวยกขึ้นลูบหลังของผมอย่างแผ่วเบา คนตัวเล็กร้องไห้ตามผมราวกับจะขาดใจ ผมเจ็บ..แต่แบคฮยอนเจ็บมากกว่าผม เราทั้งสองคนต่างเจ็บปวด ทั้งๆที่เรายังไม่พูดคุยกันแต่กลับรับรู้ความรู้สึกของกันและกันได้ดี
<ชานยอล end>
“ความจริงพี่จือเทาไม่ต้องมาเป็นเพื่อนซูจีก็ได้นะค่ะ”
หญิงสาวใบหน้าสวยเอ่ยขึ้น ตอนนี้เธอกำลังเดินเข้ามายังบริษัทการประมงที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี กับเพื่อนของแฟนหนุ่ม!! หลังจากที่เธอลงจากรถ เธอก็เห็นผู้ชายลึกลับคนนี้ยืนรอเธออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว
“....” จือเทาไม่พูดอะไร เพียงแค่ส่งสายตาไม่พอใจกลับไป
ซูจีรีบปิดปากตัวเองก่อนจะเดินมาขอพบชานยอลกับทางแผนกประชาสัมพันธ์ ...ตอนแรกเธอกะจะมาหาชานยอลพร้อมกับซูโฮแต่เพราะซูโฮเข้าโรงพยาบาลทำให้เธอต้องจำใจมาคนเดียว! มิหนำซ้ำคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนอย่างชานยอลก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเธออีกด้วย นี้เป็นสิ่งที่น่าโมโหมาก!
หมับ!
คนของบริษัทพาเธอมายังห้องประมุขที่ถูกปิดเอาไว้ เธอคิดว่าชานยอลต้องอยู่ในนั้นแน่ๆ มือเรียวเล็กกำลังจะผลักประตูออก แต่มือแกร่งก็คว้าจับมือของเธอไว้ ใบหน้าสวยขมวดคิ้วด้วยความงุนงงพร้อมทั้งบิดมือตัวเองไปมา ยิ่งซูจีบิดจือเทาก็ยิ่งจับแน่นขึ้น
“พี่จือเทาค่ะ ...ปล่อยเถอะค่ะ”
“อย่าทำอะไรแบคฮยอน..ฉันขอเตือนเธอด้วยความหวังดี”
น้ำเสียงอันเยือกเย็นบวกกับดวงตาคมกริบซึ่งกำลังเชือดเนื้อของเธอเป็นชิ้นๆ ทำให้เธอถึงกับใจหาย ใบหน้าสวยเริ่มมีเหงื่อออก เธอรู้สึกหวาดกลัวผู้ชายตรงหน้าอย่างบอกบอกไม่ถูก สักพักจือเทาก็เหยียดยิ้มและปล่อยมือออกอย่างนิ่มนวลราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“หมายความว่าแบคฮยอนอยู่กับพี่ยอลงั้นเหรอค่ะ”
“...”
ไม่มีเสียงตอบรับอะไรจากอีกฝ่าย ซูจีกัดฟันแน่น เธอไม่ต้องการจะเสียบ่อเงินบ่อทองอย่างชานยอลไป!! ถ้าแบคฮยอนกลับมาก็หมายความว่า ..เธอก็ต้องไป เรื่องแบบนั้นมันไม่ควรจะเกิดขึ้น ซูจีไม่รอช้าที่จะผลักประตูบานนั้นเข้าไป เธอต้องขัดขวางแบคฮยอน!
“พี่ยอล!!!”
ความคิดเห็น