ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (ficexo) Destiny my heart วงล้อแห่งโชคชะตา 2 : chanbaek suzy

    ลำดับตอนที่ #6 : ✿chapter : V

    • อัปเดตล่าสุด 11 มิ.ย. 57






    ใบหน้าสวยยิ้มหัวเราะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาชานยอลเองเผลอตัวยิ้มให้ กับความน่ารัก บ๊องแบ๋ว ของแบคฮยอนเข้าเต็มๆ ทั้งสองช่วยกันทำอาหาร และจัดการกินมันเข้าไปเสียหมด ในตอนนี้ ชานยอลเองก็คิดว่า การมีแบคฮยอนอยู่ข้างๆก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร

     

     

                                 “แบคฮยอน นายไม่ไปเรียนหรอ?

     

     

    ชานยอลที่นั่งฟังเพลงผ่อนคลายสบายอารมณ์ เอ่ยถามคนตัวเล็กซึ่งนั่งเล่นคุกกี้รันอยู่ข้างๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใช้สมาร์ทโฟนของใคร ~ บางทีร่างสูงก็อดส่ายหน้ากับความเด็กน้อยของแบคฮยอนไม่ได้เหมือนกัน .. ส่วนไอ้คนตัวน้อยก็ยังคงเคี้ยวขนมใส่ปากพรางกดเกมส์เล่นอย่างมัวมันส์

     

     

                                 “ไม่อ่ะ น้องแบคจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเรียนคืออะไร

     

                                 “เอ๊า!! แล้วพ่อแม่นายล่ะ หรือไม่ก็น้องชาย พี่ชาย ใครก็ได้ที่เป็นครอบครัวของนาย

     

                                 “..ชานยอล

     

                                 “ห๊ะ เรียกฉันเหรอ?

     

                                 “ชานยอลไงล่ะ คือครอบครัวของน้องแบคมือเรียวปล่อยสมาร์คโฟนในมือ จนตกลงพื้นก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าหล่อเหลา ซึ่งตอนนี้มีแต่คำถามเต็มไปหมด

     

                                 “นายไม่มีครอบครัวเหรอ?

     

     

    คำถามของชานยอลทำเอาแบคฮยอนชะงัก ก่อนที่นิ้วเรียวสวยจะจิ้มลงที่แผงอกกว้างเบาๆ เพื่อบ่งบอกว่า ชานยอลไงล่ะ คือครอบครัวเพียงคนเดียวของน้องแบค ซึ้งการกระทำแบบนั่นเองบ พอจะทำให้ชานยอลรู้ว่า เด็กหน้าหวานตรงหน้าไม่มีครอบครัว และชานยอลก็ไม่อยากถามด้วยว่าพ่อกับแม่ไปไหน ..

     

     

                                 เพราะ เขาคิดว่าแบคฮยอนอาจจะร้องไห้ออกมา

     

                                 “ตอนนี้ฉันเรียน ป.โท คณะบริหารอยู่ เฮ้อ ..อาจารย์ให้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับการตลาดที่ปูซาน ดังนั้นฉันเลยต้องเดินทางไปบริษัทการประมงของพ่อ ที่ปูซานวันนี้..อยากไปด้วยไหม?

     

     

    จากตอนแรกที่ใบหน้าหวานดูหม่นๆ ตอนนี้เขากลับยิ้มกว้างพรางพยักหน้าหงึดๆราวกับเด็กน้อยได้ของถูกใจ ชานยอลขยี้หัวทุยๆเบาๆอย่างเอ็นดู ภายในจิตใจที่ต่อต้านแบคฮยอน มันมีแสงสว่างอันริบหรี่ที่ต้องการปกป้องคนตรงหน้า ..สมองสั่งการเสมอให้หนีจากร่างบาง แต่ทำไมจิตใจถึงต้องการผูกมัดด้วยนะ อยากปกป้อง เอ็นดู เป็นห่วง ขาดไม่ได้ ..และทุกอย่างก็อาจกลายเป็นความรัก นั้นคือสิ่งที่ชานยอลกำลังกลัว

     

     

                             

     

     

                                <ซูจี>

     

     

    วันนี้ฉันมาสอนมาโรงเรียนแต่เช้าเพื่อเตรียมแผนในการสอนเด็กชั้นมัธยมปลาย หึ ความจริงแล้วฉันไม่อยากทำให้จิตใจตัวเองฟุ้งซ่านต่างหาก ..เด็กนั้น!!! มันไม่ใช่คน! แบคฮยอนได้ตายไปแล้ว ..ตายไปตั้ง1ปีกว่าแล้ว ทำไมกัน ..ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงกลับมา  ฉันไม่อยากรายงานเรื่องนี้ให้คุณหญิงกับคุณท่านทราบ

     

     

                                 เพราะท่านทั้งสอง ..ยังคงรอคอยให้แบคฮยอนกลับมา

     

                                 ไม่ต่างจากพี่ชานยอล

     

     

    ทั้งวันฉันนั่งจดจ่อแต่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของแอปเปิ้ลที่พี่ชานยอลซื้อให้ ..แต่ทำไมพี่เขาไม่โทรหาหรือไลน์มาเลยนะ นี้มันก็เที่ยงแล้วด้วย เพราะเมื่อคืนทำพิธีการเรียกปีศาจ บ้าๆบอๆที่ยัยแม่หมอจอมหลอกลวงบอกแท้ๆ วันนี้เลยรู้สึกเหนื่อยและอยากนอนชะมัด -^-

     

     

    ฉันของลาโรงเรียนครึ่งบ่ายเพื่อไปหาพี่ชานยอลที่คอนโด ที่จู่ๆก็เกิดอุบัติเหตุกลางสี่แยกไฟแดงทำให้รถติดชิบหาย!! ฉันขมวดคิ้วจนยุ่งไปหมดพร้อมทั้งทักไลน์พี่ชานยอลเป็นร้อยกว่าครั้ง แต่พี่เขากลับส่งสติ๊กเกอร์โคนี่หน้ากวนส้นตีนมาให้ - - นี่มันอะไรกัน!!!

     

     

                                 ** ทางด้านชานยอล

     

     

                                 “คิคิ ชานยอลลล กระต่ายน่ารักกก

     

     

    นิ้วเรียวบรรจงกดจิ้มสติ๊กเกอร์ไลน์อย่างมันส์มือ ก่อนที่จะหัวเราะคิกคัก ส่วนชานยอลเองก็ไม่คิดอะไรพรางนั่งทำแผนวิจัยต่อไป จะได้เอาไปพรีเซ็นต่อคณะศาสตรจารย์ เพื่อให้พวกอาจารย์ได้ลงคะแนนออกใบจบ ป.โทให้อย่างเป็นทางการ

     

     

                                 ส่วนแบคฮยอนก็ยังคงกวนประสาทซูจีต่อไป

     

                                 **จบด้านชานยอล



                                 “เอ๊ะ!!”

     

     

    จู่ๆพี่จื่อเทาก็เปิดประตูรถของฉันทั้งๆที่มันล็อกอยู่ -0- เขาเข้ามานั่งด้านคนขับพร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์ออกจากมือของฉัน หน้าฉันตอนนี้มีแต่เครื่องหมาย ? เต็มไปหมด มาได้ไงว่ะ ผู้ชายคนนี้เป็นคนเดียวในกลุ่มพี่ชานยอลที่ฉันไม่ถูกชะตาสุดๆ!! เขาไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ชี้ว่าตอนนี้บนถนนเริ่มมีรถทะยอนเคลื่อนตัวแล้ว ดังนั้นฉันจึงต้องหันมาสนใจการจราจรบนถนน!!

     

     

                                 “สวัสดีค่ะ พี่จื่อเทา

     

                                 “...

     

                                 “คือซูจีกำลังไปหาพี่ชานยอล พี่จื่อเทาไปด้วยกันไหมค่ะ

     

                                 “...มันมีแขกอยู่ที่คอนโด

     

                                 “แขกของพี่ชานยอลก็เป็นแขกของซูจีค่ะ เพราะเราหมั้นกันแล้วฉันหันไปยิ้มหวานให้กับคนข้างๆก่อนที่จะหันมาขับรถต่อ หึหึ พี่จื่อเทาดูท่าจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวแฮะ

     

                                 “งั้นหรอ? รู้สึกว่าชานยอลยังไม่เปิดตัวเธอเลยนะ ในตอนนี้สังคมรู้แค่เพียงว่า..

     

                                 “..ว่าอะไรค่ะ?

     

                                 “ไอ้ชานยอลโสดเพราะแฟนมันตายเมื่อ1ปีที่ผ่านมา

     

     

    ฉันกัดฟันดังกรอก!! ใช่!! พี่ชานยอลยังไม่เปิดตัวฉันกับสื่อเลย เขาเป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคม แถมคุณท่านกับคุณหญิงยังเป็นบุคคลสำคัญของประเทศนี้ ที่ไม่เปิดตัวกับสื่อเพราะฉันรับจ้างเป็นแฟนของพี่ชานยอลงั้นล่ะ!!!

     

     

                                 เขารักฉัน ฉันเพียงแค่รักเงินของเขา

     

                                 “พี่จื่อเทาค่ะ ซูจีรู้สถานะตัวเองดีค่ะ

     

                                 “...

     

     

    บทสนทนาของเราก็จบเพียงเท่านั้น ฉันขับรถไปเรื่อยๆเพื่อจะไปถึงคอนโดของพี่ชานยอล แต่ทำไมมันวนกลับมาที่เดิม? ฉันไม่เข้าใจสักนิด ราวกับว่าฉันวนอยู่ในถนนเส้นนี้หลายต่อหลายรอบ พี่จื่อเทาเองก็ยังคงเงียบไม่พูดอะไร ....เอ๊ะ!! มะ มันแปลกๆแล้วนะ

     

     

                                 “ทำไมถึงวนอยู่ที่เดิมก็ไม่รู้ ขอโทษด้วยนะค่ะ งั้นเราไปหาพี่ซูโฮกันเถอะ

     

     

    ฉันพูดไปแบบนั้นเพราะอยากเปลี่ยนเส้นทาง ฉันก็แค่อยากรู้ ว่าถ้าเปลี่ยนเส้นทางแล้วยังจะอยู่วนมาที่เดิมอีกหรือเปล่า ..แต่ทุกอย่างก็ปกติ ฉันไม่ได้วนบนถนนเส้นนั้น ฉันมาถึงโรงพยาบาลเร็วกว่าที่คิด  พอมาถึงโรงพยาบาลที่พี่ซูโฮทำงานอยู่ ฉันก็ตีรถกลับไปยังเส้นทางที่จะไปหาพี่ชานยอล

     

     

                                 แต่สุดท้ายก็วนมายังโรงพยาบาลเหมือนเดิม !!

     

                                 ห่าอะไรว่ะสัส!!

     

                                 “จอด

     

     

    คำพูดหนักๆที่ดูเกรงขามทำให้ฉันต้องทำตามคำสั่งทันที!! ผู้ชายคนนี้มีรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาตลอดจนฉันรู้สึกร้อนๆหวานๆตลอดทางในการเดินไปหาพี่ซูโฮ ที่ห้องทำงานส่วนตัวของพี่เขา  ฉันเดินตามพี่จื่อเทาที่เดินฉับๆอย่างคล่องแคล่ว ..เฮ้อ!! ซูจี นะซูจี เธอไม่น่าหมุนพวงมาลัยมาที่นี่เลย

     

     

                                 “พี่ซูโฮ~”

     

     

    ฉันเดินเข้าไปกอดพี่ซูโฮคนสวยจากทางด้านหลัง พี่เขาดูตกใจมากก่อนที่จะหันมาลูบหัวฉันอย่างเอ็นดู  พี่ซูโฮกับฉันพูดคุยกันตามประสาคนรู้จักโดยที่พี่เขาไม่สังเกตสักนิดว่าพี่จื่อเทาก็อยู่ในห้องด้วย ทั้งๆที่พี่จื่อเทากำลังยืนกอดอกอยู่ห้องประตูห้อง

     

     

                                 “จริงซิ!! พี่มีเคสสำคัญตอนบ่ายสอง นี้มันก็ใกล้บ่ายสองแล้วด้วยพี่ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่คุยกับเรานานกว่านี้

     

                                 “ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ พี่ซูโฮอย่าลืมหาอะไรทานด้วยนะค่ะ ดูจากท่าทางแล้วคงลืมทานข้าวเที่ยงแน่เลย คิคิ

     

                                 “เฮ้ยยยย~ รู้ได้ไง เดี๋ยวค่อยทานก็ได้ผู้ป่วยสำคัญกว่า ..เอ่อ..ว่าแต่เราปลอยภัยยดีนะพี่ซูโฮถามเรื่องความปลอยภัยของฉันรอบที่สิบแล้ว -0-

     

                                 “แน่นอนซินะ มีทั้งพี่ซูโฮ พี่ชานยอล และพี่มินซอก คอยดูแลแบบนี้ ถ้าไม่ปลอดภัยก็แปลกแล้ว

     

     

    พี่ซูโฮถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนที่จะหยิบเอกสารและเดินออกจากห้องไปโดยไม่ทักทายพี่จื่อเทาเลย ...เอ๊ะ!! ถ้าจะบอกว่าพี่ซูโฮเมินก็ไม่น่าจะใช่ พี่เขาไม่ได้เมินนะ แต่ดูเหมือนเขาไม่เห็นพี่จื่อเทามากกว่า 0.0 บ้าไปแล้ว!!! พี่ซูโฮพึ่งเดินกระแทกไหล่พี่จื่อเทาไปเมื่อกี้ แต่ทำไมคนตัวเล็กๆอย่างพี่ซูโฮเหมือนเดินทะลุผ่านไปมากกว่า

     

     

                                 “มองทำไม

     

                                 “ปะ ..เปล่าค่ะ พี่จื่อเทาไม่ทักทายพี่ซูโฮหน่อยเหรอค่ะ

     

                                 “ไม่ใช่เรื่องของเธอ

     

                                 “ซูจีแค่สงสัย

     

                                 “...

     

                                 “..ว่าพี่ซูโฮเห็นพี่จื่อเทาหรือเปล่าฉันถามขึ้นมาด้วยแววตาจับผิด ส่นยพี่จื่อเทาเองก็มองฉันด้วยแววตาที่ว่างเปล่า

     

                                 “ฉันไม่ใช่พี่ซูโฮ

     

     

    พี่จื่อเทาตอบคำถามฉันพร้อมกับเดินออกไปจากห้อง ฉันวิ่งตามออกไปติดๆ แต่กลับไม่พบพี่จื่อเทาเลย - - นี้เขาหายตัวได้หรือไงถึงหายไปไวขนาดนี้!!




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×