คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : BABY witnessinlove : PAST
อดีตที่ผ่านมา ยังเป็นความทรงจำของเรา ตลอดไป และ ตลอดกาล
<ความเดิม>
เสียงดังน่ารำคาญของนักเรียนในห้อง ทำเอาร่างหนาของคนบางคน ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย เพียงสักพักทุกอย่างก็อยู่ในความปกติเมื่ออาจารย์ที่ปรึกษาเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเด็กชายตัวน้อยซึ่งเป็นคนต่างชาติ ที่นี่มีนักเรียนแลกเปลี่ยเยอะแยะ แต่หน้าสวยๆอย่างเด็กหน้าห้องมันก็ทำให้ร่างหนาถึงกับตาโตเลยทีเดียว
“นักเรียนจ๊ะ นี้คือ ลู่หาน เขาจะมาอยู่ในห้องเรียนของเรา ดูแลเขาให้ดีๆนะ”อาจารย์โปรยยิ้มรอบห้องก่อนที่จะให้ลู่หานเดินมานั่งโต๊ะข้างๆเซฮุน
คนหน้าหวานหันมามองเซฮุนสักพัก แต่เซฮุนก็เอาแต่มองออกนอกหน้าต่างอย่างไม่สนใจใยดี ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าตอนนี้ในใจของคนเฉยเมยกลับเต้นโครมครามอย่างบอกไม่ถูก อยากหันไปมองหน้า แต่ก็กลัวว่าจะทำตัวไม่ถูกจนอีกฝ่ายจับจับพิรุธได้
“ขอโทษนะฮะ” สำเนียงเกาหลีที่ชัดเจนเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับนิ้วเล็กๆซึ่งสะกิดบนไหล่ของเซฮุนเบาๆ ราวกับว่ากลัวคู่สนทนาของตนจะเจ็บ
“น่ารำคาญจริงๆ มีอะไร!” คำพูดที่แสนหยาบคายตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ทำเอาร่างเล็กหน้าเสียทันที
“ผะ ผมไม่มีหนังสือวิชาภาษาเกาหลี ไม่ทราบว่า ...”
ยังไม่ทันที่คนสวยจะพูดจบประโยค เซฮุนก็เคลื่อนหนังสือของตัวเองไปไว้โต๊ะลู่หานครึ่งหนึ่ง เพื่อเป็นการแบ่งกันดู สายตาคมของเซฮุนมองลู่หานอย่างสงสัยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั่งก้มหน้าเงียบเนื้อตัวสั่นไหวจนน่าสงสาร
“เป็นอะไร” เซฮุนถามขึ้นมาอย่างเห็นใจ
“คุณไม่พอใจผมใช่มั้ยครับ ฮึก ฮื่อๆ” ลู่หานเริ่มสะอื้นดังขึ้นจนเพื่อนร่วมห้องต่างหันมามองเซฮุนอย่างดุดัน ใครๆก็รู้ว่าเซฮุนขรึมแค่ไหน แต่เขาก็มักจะเฮฮาเวลาอยู่กับเพื่อนฝูง ไม่คิดเลยว่าคนอย่างนี้จะทำให้นางฟ้าหน้าหวานร้องไห้จะเป็นจะตาย
“นักเรียนโอ!!” อาจายร์ทำเสียงดุ จนเซฮุนถึงกับกระวนกระวายทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
“นายนี่อ่ะนะ ปลอบใครไม่เป็นเลยใช่มั้ย?”
นักเรียนที่มีเชื้อสายจีนอย่าง จางอี้ชิง ลุกขึ้นจากเก้าอี้ก็ที่จะเดินมาลูบหลังลู่หานอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มแสนหวานที่เผยให้เห็นลักยิ้มเล็กๆ ทำเอาลู่หานถึงกับหยุดร้องทันที นิ้วมือที่นุ่มนวลไล่เกลี่ยน้ำตาทั่วใบหน้าสวย ร่างเล็กยอมรับว่าตนถูกมนต์สะกดของคนตรงหน้าเข้าแล้วจริงๆ
“นายเป็นอะไร....ไม่ร้องนะครับ คนอื่นมองหมดแล้ว”
คำพูดที่อ่อนนุ่มทำเอาลู่หานพยักหน้ารั่วๆเชิงเข้าใจ ก่อนที่อี้ชิงจะจูงมือ พาลู่หานมานั่งข้างๆตนแทน เซฮุนเองก็มีท่าทีเหรอหราทำอะไรไม่ถูก ทำไมเด็กใหม่ถึงง่ายกับอี้ชิงจัง!! ร่างหนาอดไม่ได้ที่จะอิจฉาเพื่อนร่วมชั้น
“ลู่หาน ไม่ร้องนะ” เพื่อนๆหลายคนในห้องต่างมารายล้อมเหมือนเด็กๆ มิหน้ำซ้ำยังลูบหัวแล้วกล่าวปลอบใจอีกด้วย
“เอาล่ะ ลู่หานลองบอกอาจารย์ซิว่านักเรียนโอ เขาทำอะไรเรา?”
“ขะ เขา ..ไม่พอใจที่จะ ..ให้ผมดูหนังสือด้วยครับ”
ลู่หานพูดอย่างกล้าๆกลัวๆพร้อมทั้งหันไปมองเซฮุนที่ชักสีหน้าอยู่ทางด้านหลัง อี้ชิงเห็นแบบนั้นจึงหัวเราะเบาๆและจับใบหน้าของคนสวยหันมาสบตากับอาจารย์แทน ..คำพูดของลู่หานทำเอาเซฮุนอ้าปากค้าง เขายังไม่ได้บอกเลยด้วยซ้ำว่าไม่พอใจ ทำไมคนตัวเล็กต้องคิดไปเองด้วย?
“นาย!!!” เซฮุนตะโกนพร้อมทั้งลุกพรวดออกมาอย่างไม่พอใจเท่าไรนัก ร่างเล็กสะดุ้งโหยงพรางเหงื่อตกไหลอาบแก้มใส
“ออกไปข้างนอกเลยนะ โอเซฮุน!”
อาจารย์พูดเสียงแข็งจนในที่สุดเซฮุนก็เดินกระทืบเท้าออกจากห้องเรียนไป ตอนนี้ทุกอย่างในห้องเรียนอยู่ในสภาวะปกติ อาจารย์เองก็สอนไปตามเนื้อหา คาบแรกลู่หานดูกระวนกระวาย รุกรี้ รุกรนเป็นพิเศษ ร่างบางของจางอี้ชิงเลยมักจะสะกิดให้ลู่หานสนใจตำราเรียนเป็นระยะๆ
“อี้ชิง …คนๆนั้นจะโกรธลู่หานมั๊ย” ลู่หานเอ่ยถามเบาๆ
“คิคิ ไม่หรอก ใครจะโกรธคนน่ารักแบบนายลงล่ะ”
อีชิ้งพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่นก่อนที่จะหยิกแก้มนิ่มของลู่หานเบาๆเพื่อเป็นการหยอกล้อให้อีกฝ่ายคลายความเครียดลง แต่ดูเหมือนร่างเล็กยิ่งกังวลเข้าไปใหญ่ อี้ชิงจึงเขียนในหนังสือเรียนว่า ‘เซฮุนเป็นคนนิสัยดี ถึงแม้หมอนี่จะดูวางมาดก็ตาม มันไม่โกรธลู่หานนานหรอก เชื่อฉันซิ’ ลู่หานอ่านในสิ่งที่อี้ชิงเขียน ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง ร่างเล็กยอมรับว่าเขากลัวคนใจร้ายอย่างเซฮุนสุดๆ เพราะร่างหนาดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
หลังจากที่อีชิ้งพาลู่หานไปทานอาหารกลางวันเสร็จ คนสวยจึงขอตัวไปห้องสมุดเพื่อจะอ่านหนังสือบางวิชาที่ตนไม่เข้าใจ อีชิ้งเลยพาไปแต่ไม่ขออยู่ในห้องสมุดเป็นเพื่อนลู่หาน เพราะร่างบางไม่ชอบอ่านหนังสือสักเท่าไร
นักเรียนแลกเปลี่ยนคนใหม่ของโรงเรียน ต่างเป็นที่จับตามองของสาวๆหนุ่มๆที่อยู่ในห้องสมุด แต่ละคนไม่เป็นอันอ่านหนังสือเลยสักนิด เพราะมัวแต่จับจ้องดวงตากลมที่กำลังหาหนังสือเรื่องที่ตนสนใจ ลู่หานรู้สึกแปลกๆที่มีแต่คนจับตามองแบบนี้ เขาวางหนังสือไว้ที่เดิมก่อนที่จะเดินออกไป
หมับ!!
มือแกร่งของใครบางคนคว้าข้อมือเรียวเอาไว้ ดวงตากลมเบิกตากว้างก่อนที่จะหันหน้ากลับมาดู ว่าใครกันที่รั้งตนไว้ พอลู่หานเห็นใบหน้าหล่อที่แสนหงุดหงิด มือเรียวก็รีบสะบัดข้อมือตามสัญชาตณาญ แต่ยิ่งร่างเล็กขัดขืนเท่าไร มือแกร่งก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเป็นสองเท่าตัว
“เอ๊ย ไอ้เซฮุนปล่อยก่อนเถอะว่ะ”
เสียงของไค เพื่อนรักเซฮุนดังขึ้น ทำให้ลู่หานถึงกับเห็นแสงสว่าง เซฮุนส่ายหน้าอย่างไม่พอใจ มิหนำซ้ำยังบีบแรงเป็นสองเท่าจนลู่หานถึงกับนิ่วใบหน้าด้วยความเจ็บปวด ไคเห็นแบบนั้นจึงรีบกระชากตัวเซฮุนออกจากลู่หานทันที
“ปล่อยกุ” เซฮุนกดเสียงต่ำพรางจ้องเขม็งไปยังคู่อริ เมื่อร่างเล็กเป็นอิสระ เขาก็หันหลังเตรียมจะวิ่งออกไป แต่จู่ๆใบหน้าสวยก็หันกลับมามองข้างหลังอีกครั้ง
“ลู่หานขอโทษ แต่เซฮุนอย่าเกลียดลู่หานเลยนะ ลู่หานไม่ได้ตั้งใจ”
ดวงตาที่หมองเศร้าของอีกคนทำเอาร่างหนาชะงักเลย เมื่อเสร็จธุระร่างเล็กๆของกวางน้อยก็วิ่งไปอย่างไม่รีรอ คนผิวคล้ำจึงหันมามองเพื่อนของตัวเองอย่างยิ้มๆ เพราะไครู้ว่า ในใจของเซฮุนตอนนี้มันเต้นแรงจนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
“แหมมม ! หน้าแดงเลยนะมึง อย่าคิดว่ากุดูไม่ออก ฮ่าๆ”
“พูดอะไรของมึง!!”
“วิชาต่อไปจะขึ้นเรียนป่ะ? หรือว่าโดด งอนลู่หานหรือไงที่ทำให้มึงเจอไล่ออกจากห้อง สัส หายงอนได้ล่ะ เขาก็ขอโทษมึงแล้วไม่ใช่หรอ?”
“กุยังไม่ได้บอกว่าจะโดดนี่นา” เซฮุนอมยิ้มที่ริมฝีปากด้วยความเขินอาย
“ไอ้เชี่ยยย จะแดกเด็กใหม่เลยเหรอมึง ร้ายอีกแล้วนะไอ้คุณชาย!”
ในขณะที่ประธานสภานักเรียนและคณะกรรมการสภานักเรียน กำลังเดินตรวจสอบความเรียบร้อนภายในและภายนอกบริเวณโรงเรียนอย่างเคร่งครัด จู่ๆ ก็มีเด็กนักเรียนบางคนวิ่งมาเหมือนจะหนีอะไรบางอย่าง ประธานนักเรียนจึงคว้าแขนเขาไว้เพื่อจะทำการตักเตือน
เพียงแค่อีกฝ่ายหยุดจะหันมามองเท่านั้น ประธานนักเรียน อย่างมินซอกก็ถึงกับอ้าปากค้างในความสวยของใบหน้าหวาน ลู่หานเอียงคอด้วยความงุนงงว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร ทำไมถึงคว้าเขาไว้และไม่เห็นยอมพูดอะไรเลย แล้วอย่างนี้ลู่หานจะรู้ได้ไงว่าตัวเองทำผิดอะไร ?
“ขอโทษฮะ” ลู่หานเลือกที่จะขอโทษออกมาเมื่อเห็นป้ายสีแดงตรงแขนขวาที่เขียนคำว่า ประธานสภา คำขอโทษนั้น ทำเอามินซอกถึงกับหลุดออกจากภวังค์
“อะ อ๋อทีหลังอย่าวิ่งอีกนะ นี้มันอาคารเรียนไม่ใช่สนามเด็กเล่น”
มินซอกเองถึงกับพูดติดๆขัดๆเมื่อเห็นว่าลูหานกำลังทำตากลมแป๋วใส่ตน เขารู้สึกเขินๆและหัวใจเต้นแรงในขณะที่ลู่หานงุนงงกับท่าทีบิดไปบิดมาของประธานสภา ร่างเล็กขมวดคิ้วเป็นปมพร้อมกับจับมือของมินซอกบนแขนตัวเองออกอย่างนุ่มนวล
“ขะ ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะลวนลามนาย”
“ผมรู้ฮะ ผมขอตัวนะฮะ พอดีผมมีเรียน”
รอยยิ้มแสนสวยของกวางน้อยทำเอาคนที่ได้รับมันถึงกับต้องมนต์สะกด มินซอกไม่พูดอะไร เขาได้แต่เพียงพยักหน้าเบาๆ เพื่อเป็นสัญญาณว่าไปได้ ลู่หานเห็นดังนั้นจึงโค้งเล็กน้อยแล้วเดินจากไป แม้ว่าคนสวยจะไปแล้ว แต่ประธานสภากลับยังยืนอยู่ที่เดิมจนรองประธานได้พูดเอ่ยขึ้นอย่างอึดอัดใจ
“ประธาน เป็นอะไรค่ะ”
“ป่าว … หาประวัติของเด็กคนเมื่อกี้ในฉันด้วยนะ”
“รับทราบค่ะ”
ความคิดเห็น