คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Destiny my heart : 01
ในวันที่อากาศดีแบบนี้ชานยอลเองก็ไม่อยากจะหมกมุ่นอยู่แต่ในห้องทำงานสี่เหลี่ยมสีขาวสลับดำ เขาจึงเลือกที่จะเดินตรวจตราโรงพยาบาล ทำหน้าที่ผู้อำนวยการคนใหม่ที่ดีเสียมากกว่า สถานที่ที่เขาเลือกจะไปคือ ตึกแก้วขาว ซึ่งมีแต่ผู้ป่วยกักขังเดี่ยว
คนหน้าหล่อย่างกายเข้ามาในตึกที่มีการดูแลอย่างมิดชิดไม่ใครคนภายนอกเข้ามาได้ ที่นี่นั้นรับแต่ผู้ป่วยทางจิตชนิดรุนแรง อยู่กับใครเขาไม่ได้ ที่สำคัญคือผู้ป่วยพวกนี้มักจะถูกญาติๆนำมาทิ้งให้กับโรงพยาบาลและจะมีการส่งเงินค่ารักษามาให้เดือนล่ะ 8 หมื่นล้านวอน.. 4 หมื่นล้านวอนเข้ากระเป๋า อีกที่เหลือเข้าโรงพยาบาล ... ช่างดีจริงๆ
“ผอ. สวัสดีค่ะ”
พยาบาลในแผนกนี้ เมื่อรับรู้ว่ามีผู้อำนวยการคนใหม่กำลังมา พวกเธอจึงยืนต้อนรับอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยมีหัวหน้าแผนกผู้ป่วยชนิดรุนแรงยืนอยู่หน้าแถว ทุกคนต่างกล่าวสวัสดีและยิ้มแย้มอน่างเป็นมิตร
“ที่นี่มีผู้ป่วยยกี่คนแล้ว”
“ร้อยกว่าคนค่ะ ถ้าท่านผอ. อยากจะตรวจดูผู้ป่วย เชิญได้นะค่ะเดี๋ยว ดิฉัน จะขอเป็นผู้นำทางท่านเองค่ะ”
“อืม ส่วนพยาบาลคนอื่นก็ไปดูแลคนไข้ได้แล้ว” มือหนาปัดไล่พวกนางฟ้าในชุดขาวให้ไปปฎิบัติงานของพวกเธอต่อ หัวหน้าแผนกผู้ป่วยชนิดรุนแรงโค้งหัวเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆเดินนำทางให้ผู้อำนวยการหนุ่มเดินไปดูแต่ละห้อง
ที่นี่นั้น ห้องแต่ละห้องจะสร้างด้วยกระจกใสชนิดพิเศษด้านหนึ่งเพื่อจะได้สามารถมองเห็นผู้ป่วย หากเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยทัน สอดคล้องกับผู้ป่วยแต่ละคนที่อยู่ในห้องมักจะมีอาการทางจิตชนิดรุนแรงเลยต้องมีคนควบคุมดูแลตลอดเวลา
สายตาเฉียบคม กวาดมองไปรอบๆบริเวณ เขาเห็นผู้ป่วยทุกคนมี อาการพูดกับตัวเองบ้าง โวยวายบ้าง หัวเราะบ้าง หรือ ทำลายสิ่งของในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆสีขาวอย่างคลุ้มคลั่ง
สิ่งที่สะดุดตาของชานยอลมากก็คือ หนุ่มน้อยซึ่งนั่งกอดเข่าเหม่อลอยตลอดเวลา ดวงตากลมโตสีนิลของชานยอลเต็มไปด้วยความสงสาร มือของหนุ่มน้อยถูกมัดแนบลำตัวด้วยผ้าสีขาวช่างดูน่าสงสารเป็นยิ่งนัก ทำให้ชานยอลอดไม่ได้ที่จะยืนมองหนุ่มน้อยร่างบางผ่านทางกระจกใส พรางคิดอะไรมากมายเต็มหัวไปหมด
“ผู้ป่วยคนนี้ชื่อ บยอน แบคฮยอนค่ะ เป็นลูกของนักธุรกิจใหญ่ ทางผู้ปกครองเขาเอามาทิ้งไว้และไม่เคยมาเยี่ยมเลยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ลักษณะทางจิตของแบคฮยอนก็จะคิดว่าตัวเองเป็นเด็กตลอดเวลาค่ะ บางทีก็โวยวายทำร้ายคนรอบข้างชนิดรุนแรง ”
“การบำบัดก็อยู่ในกลุ่ม motivation ซินะ”
“ค่ะ ทางเราพยายามจะบำบัดแล้ว แต่ทางครอบครัวเขาไม่อนุญาตค่ะ”
“ปัณหาเรื่องมรดกชัวร์ เปิดประตูให้ฉันเข้าไปซิ ”
“แต่ .. อารมณ์ของแบคฮยอนตอนนี้รุนแรงมากนะค่ะ ดิฉันว่า ..”
“รหัสห้องนี้อะไร!!!” ชานยอลไม่คิดจะฟังเธอด้วยซ้ำ
“1218ค่ะ”
นิ้วแกร่งใส่รหัสเปิดประตูตามที่ได้ยิน และแล้วประตูก็ค่อยๆเลื่อนออกให้บุคคลภายนอกเข้ามา ดวงตาที่แฝงไปด้วยความสงสารมองมายังหนุ่มน้อยที่นั่งกอดเข่าเหม่อลอยไปเรื่อย
ทำไมถึง ต้องสงสาร
ทำไมถึง ต้องเห็นใจ
ทำไทถึง ต้องคิดอยากช่วยด้วยนะ
มันคงต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ทั้งหมดมันมาในรูปแบบของ โชคชะตา
“สวัสดีครับ”
ชานยอลนั่งย่อๆลงให้อยู่ในระดับเดียวกับแบคฮยอน เขาเผยรอยยิ้มอันออกมาจากใจมอบให้คนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่มากมายเต็มไปหมด ใบหน้าสีน้ำนมเอียงคอหันมามองร่างสูงเล็กน้อย พร้อมทั้งเบ้ปากออกอย่างไม่พอใจ
“น้องแบคไม่คุยกับคนนิสัยเสีย!!”
หนุ่มน้อยที่คิดว่าตนเป็นเด็กตะโกนใส่หน้าชานยอลอย่างอารมณ์เสีย ร่างกายระหงส์สะบัดไปมาตามแรงอารมณ์ จนชานยอลต้องจับเอาไว้ให้อยู่นิ่งๆด้วยมือแกร่งทั้งสองข้าง ...เพียงแค่มือสัมผัส ความรู้สึกมันหล่อหลอมมากมายจนเกินคำบรรยาย ผิวพรรณแสนนิ่มอย่างปุยฝ้ายทำเอาชานยอลชักมือกับทันที .. เขากลัวว่าตัวเองจะทำให้ร่างกายน้อยๆที่บอบบางเจ็บช้ำ
ตัวนิ่มขนาดนี้แตะนิดเดียวคงเกิดรอย
“พี่ไม่ใช่คนไม่ดีรู้ไหมครับ ”
“ไอ้บ้า!! ไอ้บ้า!! ฮื่อๆ ๆ ๆ”
“อ่าว..ชิบหาย!”
เจ้าของใบหน้าหล่องุนงงขึ้นมาทันทีที่ร่างบางสวยร้องไห้ฟูมฟายปานญาติเสีย ชานยอลไม่อยากเห็นใบหน้าสวยนี้มีน้ำตาสักนิด เขาสับสนตัวเองเหลือเกิน ไม่รู้ทำไมต้องเป็นห่วงมากขนาดนี้ ชานยอลตัดสินใจโอบกอดร่างบางอย่างอ่อนโยนและลูบหัวเจ้าตัวเล็กเชิงปลอบใจ สัมผัสที่อบอุ่นไหลรวมเข้ามาในจิตใจของคนที่ร้องไห้ฟูมฟาย
แบคฮยอนรับรู้ถึงความรู้สึกอบอุ่นที่ได้จากอ้อมกอดนี้
ทำไมนะ ร่างกายและความรู้สึกมันมักจะไปก่อนสมองทุกที
ทางหัวหน้าแผนกที่ยืนอยู่ข้างนอกรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากกลัวว่าผู้ชายหน้าสวยคนนี้จะทำอะไรที่ไม่ดีกับเจ้านายของเธอ เธอจึงให้พยายาบาลอีกคนเอายาแบบฉีดมา โดนที่เธอไม่ทันสังเกตสักนิดว่ามันเป็นยาอะไร
“ท่านค่ะ ดิฉันจัดการเอง” หัวหน้าแผนก เดินตรงเข้าไปภายในห้อง ผลักทั้งสองร่างที่กำลังกอดกันอยู่ด้วยแรงอันน้อยนิด เธอไม่รีรออะไรทั้งนั้น เธอยกเข็มฉีดยาขึ้นมาฉีดเข้าสู่ร่างกายสวยทันที
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
แบคฮยอนกรีดร้องดังลั่นเมื่อเข็มปลายแหลมได้ทิ่มเข้าสู่ผิวเนียนๆของเขา ชานยอลเห็นถึงกับขมวดคิ้วก่อนจะตบใบหน้าของหัวหน้าแผนกและที่จะดึงเข็มฉีดยาออก ร่างสูงโมโหเป็นอย่างมาก ที่คนของเขาทำอะไรโดยไม่คิดสักนิด เรื่องแค่นี้ใช้แต่ยาแก้ปัญหามันก็ไม่ถูก หากผู้ป่วยรับตัวยามากเข้าอาจเกิดผลข้างเคียงได้
“ทำบ้าอะไรของเธอ!!”
“ท่านค่ะ .. ดิฉันกลัวท่านเป็นอันตราย คะ คือ..”
ในขณะที่เธอกำลังแก้ตัวอยู่นั่น ร่างกายน้อยๆก็มีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อรุนแรงในบริเวณคอ หลอดลม ลิ้น ปาก รวมถึงบริเวณลูกตา ทำให้คอบิด ลูกนัยน์ตาเหลือกขึ้นข้างบน ลิ้นแลบออกมานอกปาก ดูทรมาณเป็นอย่างมาก ชานยอลหันไปเห็นจึงรีบประคองเจ้าตัวน้อยขึ้นมาทันที
“แบคฮยอนๆ แบคฮยอนนาย ..เป็นอะไร”
ร่างกายสวยบิดเบียวไปมาด้วยความทรมาน แต่คนที่ทรมานมากที่สุดคือร่างสูงต่างหาก เขาทั้งสับสน ทำอะไรไม่ถูกเลย เขาหวาดกลัว.. หวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่จะเสียคนตรงหน้าไป ทั้งๆที่พึ่งเจอกันแท้ๆแต่ทำไมไม่รู้ชานยอลรู้สึก ผูกพัน เป็นห่วง และ สับสนกับหัวใจของตัวเอง
“เอ๊ะ นี่ดิฉันนึกว่ามันเป็นยาสลบซะอีก .. อะ เอ่อ”
“บัดซบ!! นี่มัน EPS ไม่ใช่หรอ ! แบคฮยอนไม่ได้ใช่ยาเป็นประจำใช่ไหมมันถึงเกิดผลข้างเคียงAcute dystonia แบบนี้ นี่เธอกล้าทำกับผู้ป่วยแบบนี้หรอ!!”
“ดิฉันไม่รู้ค่ะ ..คะ คือมัน.. ”
“เอายาbenztropine มาซิว่ะ ยืนบื้อทำห่าอะไร!!”
ร่างสูงได้แต่ตวาดโวยวาย หัวหน้าแผนกตามแรงอารมณ์ที่พุ่งสูง พยาบาลข้างนอกมากมายต่างมายืนดูเหตุการณ์แต่ไม่มีใครสักคนที่คิดจะเอาตัวยาที่เป็นประโยชน์มาเลย เพราะในสถานการณ์แบบนี้ต่างคนต่างอยากชื่นชมความหล่อเหลาของผู้อำนวยการคนใหม่มากกว่าช่วยชีวิตหนึ่งชีวิต
“ยาตัวนั้น ทางแผนกหมดแล้วค่ะ .. เอ่อ มันมีแต่อยู่ในตึกใหญ่เท่านั้น”
“ เบนาดริล หรือ โคเจนทิน มีหรือเปล่า อะไรก็ได้ที่มันเป็นประโยชน์!!”
ทุกคนต่างมองหน้ากันและก้มหน้าหลบสายตาของผู้อำนวยการเลือดร้อน ชานยอลไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก ในหัวเขาตอนนี้มีแต่ความเป็นความตายของแบคฮยอนเท่านั้น ชานยอลตัดสินใจอุ้มร่างกายสวยขึ้นมาในอ้อมอกก่อนที่จะนำตัวออกไปจากตึกแก้วขาว เพื่อไปยังตึกใหญ่ที่มีทั้งยาและอุปกรณ์ ครบถ้วน
ผมไม่อยากเห็นเขาทรมาน
ผมไม่อยากเห็นเขาร้องไห้
ผมไม่อยากเห็นเขาเสียใจ
ผมไม่อยากให้ดวงตากลมใสแบบนั้นมีแต่ความเศร้า ..... ผมจะดูแลเขาเอง
มันคงเป็น โชคชะตา ที่กำหนดทุกอย่าง ระหว่าง ผม กับ เขา
ความคิดเห็น