คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : BABY witnessinlove : REQUITAL
อิมเมจเจ๊เจน กะ จือเทา ขอขอบคุณรูปจาก เจนจิรา นะค่ะ >///<
“คริคริ”
เด็กน้อยหน้าสวยหัวเราะเบาๆด้วยความดีใจเมื่อปะป๊าที่ตนรอคอยมาแสนนาน กำลังพาเจ้าตัวเล็กขึ้นไปยังคอนโดที่ดูหรูหรา พนักงานต่างพากันมองเป็นสายตาเดียวกัน เพราะพวกเขาแปลกใจที่เห็นหว่าหวาเดินจูงมือมากับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงซึ้งตอนนี้ครองสถานะโสดสนิท
ในเมื่อโสดอยู่ ... แล้วเด็กคนนี้เป็นใครกัน?
“ปะป๊า ~”
เพียงแค่เด็กน้อยเอ่ยสถานะออกมาเพียงเท่านั้นผู้คนที่เดินไปมาตรงบริเวณล็อบบี้ ก็ถึงกับหันมามองด้วยความตะลึง! นักธุรกิจ และนักการเมืองที่พักอยู่คอนโดเดียวกับเซฮุนก็ถึงกับอึ้งไปตามๆกัน ..ร่างหนาหันมามองเจ้าเปี๊ยกที่ยิ้มแฉ่ง และเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยกลางแขนออก เซฮุนจึงอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนอย่างรู้ใจ
“ขี้อ้อนจังนะไอ้เปี๊ยก”
“ปะป๊าใจดี วาวาก็ชอบอ้อน^^”
เด็กน้อยยิ้มร่าอย่างมีความสุข เซฮุนเองก็ยิ้มเช่นกัน เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เด็กน่ารักคนนี้มาเป็นลูกบุญธรรม ขายาวเดินไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่มีพนักงานสองคนส่งยิ้มแห้งๆให้ พรางมองไปยังเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนด้วยความหมั่นไส้ ใครๆเขาก็จ้องจะจับเซฮุนกันทั้งนั้น อายุก็น้อย แต่ดันมีธุรกิจมากมายไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ
“สวัสดีค่ะ คุณเซฮุน”
“เดี๋ยวขอคีย์การ์ดสำรองห้องฉันหน่อยสิ”
“คุณเซฮุนทำหายหรอค่ะ”
“เปล่าหรอก เอาไว้ให้ลูกนะ เพื่อในกรณีฉุกเฉิน”
“ลูก ??”
“ปะป๊า !! วาวาหิวทำไมถามมากจัง - -*”
เด็กน้อยเริ่มแสดงอาการไม่พอใจขึ้นมา เขาไม่ชอบเอาเสียเลยที่พวกผู้หญิงมองปะป๊าของตนตาเป็นแวว หว่าหวาบอกกับตัวเองว่า นับตั้งแต่นี้ไป วาวาจะปกป้องปะป๊าจะนังจิ้งจอกพวกนี้!! เด็กน้อยไม่อยากให้ใครมาแย่งปะป๊าไปจากมามี๊ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา การที่หว่าหวาเห็นลู่หานแอบร้องไห้คนเดียวนั้นมันช่างเป็นเรื่องที่บีบหัวใจของเด็กน้อยเสียเหลือเกิน
มามี๊รอหน่อยนะ วาวาจะพาปะป๊ากลับไปเอง
<คริส talk>
ผมปลอบลู่หานที่ร้องไห้ราวจะขาดใจจนหลับไป ตอนนี้ภารกิจที่ผมมาเกาหลีนี้มีสองอย่างคือ ตามหาหว่าหวา และ แก้แค้นจางอีชิ้ง!! ตั้งแต่ที่ลู่หานกลับมาจากจีน น้องก็ท้อง น้องไม่เคยเล่าอะไรให้ผมฟังมากนัก ผมใช้เวลาในการตามหา
ต้นเหตุของเรื่องราวทุกอย่างตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
ผมชักใยอยู่เบื้องหลังทั้งหมด ในการล้มละลายของตระกูลจาง
ตอนนี้ อีชิ้งก็ไม่ต่างอะไรจากคนขอทานคนหนึ่ง
คนที่ทำให้น้องผมเจ็บ มันต้องเจ็บเป็นสองเท่า!!
ชานยอลพาผมมายังซ่องแห่งหนึ่งในกรุงโซล ในตลอดนี้เป็นเวลากลางคืน สถานที่นี้จึงมีคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ ..พอตระกูลจางล้มละลาย ทางครอบครัวจึงส่งอีชิ้งมาโซล ไม่คิดเลยว่าจะมาอยู่ในซ่องแบบนี้ หึ น่าสมเพชจริงๆ นายมันก็คงจะเป็นพวกโสเภณีชั้นต่ำ! ทุเรศจัง
“เจ้านายครับ โน่น”
ชานยอลชี้ไปยังเด็กเสริผหน้าตาติ๋มๆดูไม่มีพิษมีภัย ผมหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบพรางแสยะยิ้มออกมา แม่เล้าของที่นี่พาผู้หญิงมาให้ผมสองคน รู้สึกว่าสองคนนี้จะไม่ค่อยชอบอีชิ้งสักเท่าไร ก็แบบนี้แหละนะ ..หมอนี่ทั้งสวย ทั้งหวาน ทั้งน่ารักไม่มีติ ผมยอมรับได้เต็มปากว่า จางอีชิ้งน่ารักมาก แต่ก็ร้ายมากเช่นกัน!
“คุณคริสค่ะ ดื่มอีกซิ”
“พอแล้ว ไปรินให้ลูกน้องฉันเถอะ” ผมผลักยัยนี้ให้กับไอ้ลูกน้อง 2 คนที่ติดตามผมมา เห็นพวกมันมองตาเยิ้มเชียวไม่ให้ก็ใจร้ายไปหน่อยมั้ง
“ชิ! มองแต่มัน อีชิ้งไม่เห็นมีอะไรดีสักอย่าง!” ผมหัวเราะในลำคอก่อนที่จะมองหน้าอกของเธอและหันไปมองหน้าอกของอีชิ้ง …แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรดี
“ใช่ค่ะ ทำตัวอ่อยแขกไปทั่ว เจ๊เจนเก็บมาเลี้ยงดูก็ดีแค่ไหนแล้ว ทำตัวไร้ประโยชน์” ผู้หญิงอีกคนพูดส่วนขึ้นมา ทำเอาผมหันไปมองหน้าทันที
“อย่างไง?”
“ผู้ชายที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ติดกับอย่างกะอะไรดี! แต่มันก็เล่นตัว บอกว่าผมไม่ได้มาขายตัวนะครับ ..ถุ๊ย!! สวะอย่างมันจะเป็นเด็กเสริฟไปจนตายหรือไง ปากบอกว่าอยากรวย จะช่วยพ่อกับแม่ที่จีน ส่วนใหญ่มันก็ขึ้นห้องกับคนกระเป๋าหนักอย่างฮวาง จือเทา คนเดียวเท่านั้น”
ผมได้ข้อมูลดีๆมาเยอะเลย หึ!! ผมสะบัดมือให้ชานยอลเป็นสัญญาณให้เอาพวกผู้หญิงนี้ ไปเก็บซะ ผมกวักมือเรียกแม่เล้าของซ่องมา เด็กๆที่นี้เรียกเธอว่า เจ๊เจน เธอเป็นคนรูปร่างผอมพอตัว ใบหน้าขาวเนียนราวเกล็ดหิมะ รอยยิ้มของเธอก็คงมัดใจผู้ชายได้หลายคนเหมือนกัน
“เรียกเจ๊มีอะไรหรือเปล่าค่ะคุณคริส”
“ข้างบนนี้เป็นห้องใช่มั้ย?”
“แหม ! ก็ใช่ซิค่ะ เดี๋ยวเจ๊จองห้องให้นะ จะเอาเด็กคนไหนดีค่ะ อ๊าว! แล้วสองคนนั้นไปไหนแล้วล่ะ ลูกน้องสามคนของคุณคริสก็หายไปแล้วด้วย 0.0”
“ฉันเมาแล้ว ให้คนพยุงฉันขึ้นไปบนห้องซิ เรื่องเด็กนะ ชานยอลมันกำลังไปเลือกให้ฉันอยู่”
“ค่ะ เอ๋? ใครว่างบางนะ (. . )( . .) อีชิ้ง!! มานี้เร็วลูก พาแขกVIP ไปห้อง 1309 หน่อยซิจ๊ะ”
“ครับ”
คนสวยพยักหัวหงึกๆเชิงเข้าใจและรีบวิ่งมาพยุงผมทันที เขาเอาแขนของผมพาดไหล่ตัวเอง เหอะ!! ตัวอย่างกับมดทำเป็นเก่งจริงๆ ผมจึงแกล้งถ่วงน้ำหนักตัวเองไปทางอีชิ้งเต็มๆจนหมอนี่เซเลยทีเดียว สมน้ำหน้า
“ว๊าย!! อาอี้ไหวไมลูก ??”
“ไม่เป็นไรครับเจ๊”
เขายิ้มกว้างจนห็นลักยิ้มทั้งสองข้าง มองตรงไหนๆก็ช่างมีเสน่ห์ซะจริง น่ารักมากจนผมหันไปมองตาไม่กระพริบ ใบหน้าหวานอยู่ห่างกับผมไม่ห่างคืบ ลมหายใจของผมกระทบกับแก้มนวลๆจนรู้สึกได้ ไม่แปลกใจเลยแฮะที่มีแต่ผู้ชายมารายล้อม แต่ก็อย่างว่าอ่ะนะ กระเป๋าไม่หนักจริงก็คงเอานายไม่ได้ใช่มั้ย? ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ว่า อู๋อี้ฟานคนนี้ จะรวยสู้ ฮวาง จือเทาได้หรือเปล่า
ตุบ!!
“เฮ้อ คนอะไรตัวหนักเป็นบ้าเลย” นายมันตัวเล็กเองต่างหาก จางอีชิ้ง!!
เขาวางผมลงกับเตียงก่อนที่จะยืดเส้นด้วยการบิดขี้เกียจ ผมเห็นอย่างนั้นจึงลุกขึ้นมานั่งตรงขอบเตียงพร้อมกับมองการกระทำของอีกฝ่ายด้วยสายตานิ่งเฉย ..อีชิ้งดูเหมือนจะรู้ตัวแล้วหันมาสบตากับผมด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสา เขาอ้าปากค้างพรางทำตาปริบๆอย่างสงสัยพรางหน้าขึ้นสีนิดๆ หึ เขินงั้นหรอ?
“คุณไม่ได้เมาเหรอ? ”
“แล้วนายเห็นว่างั้นล่ะ?”
ผมฉุดข้อมือของอีกคนจนเสียการทรงตัวและล้มลงกับพื้น ดวงตาสวยเบิกออกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าผมขึ้นคร่อมบนตัวของเขา อีชิ้งพยายามดิ้นและดิ้นอีก ผมเห็นอย่างนั้นจึงต่อยเข้าที่ท้องอย่างแรงจนหมอนี่จุกไปเลยทีเดียว แววตาแสนผิดหวังมองมาที่ผม ผมก็ทำเพียงแสยะยิ้มให้
ใครทำน้องผมเจ็บ มันต้องเจ็บเป็นสองเท่า!!
“คะ คุณทำอะไร? .. ปะ ปล่อย ..ผมเดี๋ยว..”
เพี๊ยะ!
ความคิดเห็น