ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic exo]Destiny my heart:วงล้อแห่งโชคชะตา(chanbaek kaido )

    ลำดับตอนที่ #11 : Destiny my heart : 10

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 56


     เช้าวันนี้ทางโรงพยาบาลชื่อดังต่างมีนางพยาบาลชุดขาว และคละแพทย์ วิ่งวุ่นจัดเตรียมรายงานเอกสารเกี่ยวกับผู้ป่วย และ ตรวจสอบความเป๊ะทุกตารางเพราะวันนี้ อดีตผู้อำนวยการสูงสุด และ ผู้อำนวยการปัจจุบันกำลังเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้


     

                                      ผอ. คนใหม่ไม่เท่าไร แต่ ผอ. ใหญ่ นี่ซิ น่ากลัวยิ่งกว่าเสือ!!!

     

                                      “โรงพยาบาลดูคนเยอะขึ้นดีนี่นา
     

    ผอ. ใหญ่ เดินนำไปดูสถานที่แสนคุ้นเคยโดยมีลูกชายเพียงคนเดียวเดินอยู่ข้างหลัง และมีบรรดาหัวหน้าแผนกต่างๆค่อยชี้แจ้งถึงความทันสมัยที่ได้พัฒนาขึ้นใหม่ในโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงเล่าลือ
     

                                      “ผอ.ใหญ่ สวัสดีครับ พึ่งกลับจากต่างประเทศหรอครับ
     

    ชานยอลชักสีหน้าทันทีที่ นายแพทย์คิมเดินมาทักทาย อดีตผู้อำนวยการสูงสุดด้วยความสนิทสนม สิ่งที่ทำให้ชานยอลชักสีหน้าก็ไม่ใช่ใครไหนไกล     นักศึกษาแพทย์ที่เดินตามหลังนายแพทย์คิมนี่แหละ!!

     

                                      “ใช่ๆ มาดูไอ้ลูกชายว่ามันบริหารที่นี่เป็นไงบ้าง ”
     

                                      “ผอ. บริหารตึกแก้วขาวได้ดีทีเดียวครับ

     

     คยองซูสวนขึ้นมาและเน้นคำหนักๆ ทำเอาผู้อำนวยการปาร์ค ถึงกับชะงักทันที!!
     

                                      “ไร้มารยาท
     

    ร่างสูงบ่นพึมพำกับตัวเองแต่จงใจให้คนรอบข้างได้ยิน และคนผิวผ่องแต่ก็ได้ยินคำพูดเสียดสีเต็มสองหู ทำเอาบรรยายกาศโดยรอบขุ่นเคืองอย่างเห็นได้ชัด

     

                                      “ขอโทษครับ คยองซูคนนี้จะจำไว้ว่าควรมีมารยาทมากกว่านี้
     

                                     “จำใส่หัวได้ก็ดี!!”
     

                                     “ชานยอล!! หยุดเดี๋ยวนี้นี่ โด คยองซู ลูกเจ้าของบริษัทผลิตเครื่องยนต์แห่งประเทศเชียวนะแกควรมีมารยาทหน่อยซิว่ะ ”

     

        ผัวะ!!มือกว้างของผู้เป็นบิดาตบลงไปบนศีรษะลูกชายตัวดีอย่างไม่แคร์สื่อ
     

                                      “พ่อ!!”
     

                                      “เออซิว่ะฉันพ่อกแกเอง เรื่องนี้อย่าให้ถึงหูแม่แกเด็ดขาดไม่งั้นแกเจอดีแน่ ไอ้ชานยอล!! นายแพทย์คิม พาลูกชายฉันไปดูงานที่แผนกของคุณที  ฉันฝากด้วยนะ

     

    หลังจากที่อดีตผู้อำนวยการสูงสุดขับไล่ให้ลูกชายตัวดีออกไปให้พ้นหูพ้นตาแล้ว เขาก็พานักศึกษาแพทย์โด คยองซูเข้ามาคุยเป็นการส่วนตัวในห้องประธานบริหารโรงพยาบาลทันที

     

                                      “ต้องขอบคุณ คุณชายโด มากนะ ไม่งั้นอาก็ไม่มีทางรู้เรื่องนี้แน่เลย
     

                                      “ไม่เป็นไรฮะ อย่างไงทางธุรกิจ คุณอาก็เป็นหุ้นส่วนกับครอบครัวผมฮะ
     

                                      “อาอยากเห็นผู้ป่วยทางจิต คนนั้นแล้วซิว่ามีอะไรดีถึงทำให้ลูกอาหลงนักหลงหนา
     

                                      “อย่าเลยครับ คนบ้าพันธ์นั้นเห็นแล้วก็รกลูกตาป่าวๆ ว่าแต่คุณอาจะกลับต่างประเทศตอนไหนล่ะฮะ
     

                                      “วันนี้ก็กลับแล้ว แค่อยากจะมาควบคุมไอ้ลูกเวรมันบางอย่างไงก็ตามคุณชายก็เป็นหูเป็นตาให้อาทีนะ
     

                                      “ครับผมจะพยายาม

     

    รอยยิ้มอันชั่วร้ายเริ่มแสยะขึ้นมาอย่างช้าๆด้วยความสะใจ โดยไม่รู้เลยว่าบนนิฬิกาข้อมือยี่ห้อดัง ของ ชายสูงอายุท่าทางภูมิฐานนี้มีเครื่องดักฟังขนาดจิ๋วแอบแฝงอยู่ 
     

    คนที่กำลังฟังอยู่ถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ เขาเองก็พึ่งรู้เหมือนกันว่าไอ้คนที่ปล่อยข่าวนี้มันคนใกล้ๆตัวนี้เอง  โด คยองซู นายคิดว่านายเป็นใคร!!!

     
    ...................................................................................................................................................................................................................



                    การทำงานกับคนที่เคร่งครัดไปซะทุกอย่างแบบนายแพทย์คิม ทำเอาคนที่จบจากเมืองนอก อิดโรยทันทีทันใด ร่างสูงแทบคลั่งเพราะแพทย์คนนี้ทั้งดุและจริงจังกันเรื่องงานเสียจนน่ากลัว กว่าร่างสูงจะเบี่ยงตัวออกจะกำมือนายแพทย์คิมเล่นเอาซะเหนือยเลยที่เดียว!!


                                      ไอ้พ่อบ้า !! ร้ายชะมัดเลย ค่อยดูเรื่องที่พ่อตบหัวถึงหูแม่แน่!!!

     

    ทันทีที่เบี่ยงตัวออกมา ชานยอลก็วิ่งกระเสือกกระสนตรงไปตึกแก้วขาวอย่างรีบร้อนจนนางพยาบาลเองยัง งง อย่าว่าแต่นางพยาบาลเลย .. เจ้าตัวเองก็ไม่รู้เหมือกันทำไมต้องเป็นห่วงหนุ่มน้อยตัวเล็กๆ เปราะบางแบบนี้ด้วย ในหัวมันรู้แค่ว่า เขาต้องการเห็นหน้าเจ้าตัวน้อยมากมายเหลือเกิน จิตใต้สำนึกมันรู้แค่นี้เอง ....
               

                                      “แบคฮยอน
     

    ชานยอลไม่รอช้าที่จะเข้าไปสวมกอดร่างบางที่นั่งกอดเข่าอย่างข่มขืนในห้องกักขังเดี่ยว แววตาที่ร่องรอยค่อยๆหันมามองบุคคลที่มากอดรัดตนอย่างเชื่องช้า
     

                                      “น้องแบคโกรธชานยอลหรอครับ?? ชานยอลขอโทษที่ไม่ได้ส่งน้องแบคเข้านอน ขอโทษนะครับ
     

    มือแกร่งยกขึ้นลูบหัวอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ที่ร่างบางกับปัดมือนั้นทิ้งก่อนที่จะลุกขึ้นมามองบุคคลที่มาใหม่ด้วยอาการหวาดกลัว หวาดระแวงอย่างบอกไม่ถูก
     

                                      “แก แก ..” 
     

    ดวงตาสวยวอกแวกกรอกดวงตาไปรอบข้าง ริมฝีบางชมพูได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ ฝีเท้าเล็กก้าวถอยหลังเร็วๆ จนแผ่นหลังบางติดชิดกับกำแพง อาการลนลานกลัวบุคคลรอบข้างมันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ป่วยอาการทางจิตอย่างนี้อยู่แล้ว

     

                       แต่ถึงอย่างไงชานยอลก็ไม่ชอบอยู่ดี

     

                                      “เจ้าตัวน้อยครับ.. เป็นอะไรหรือป่าว??”
     

    ชานยอลพยายามทำหน้าให้ยิ้มแย้มเข้าไว้เผื่อแบคฮยอนจะกลับมามีสติบ้าง แต่แบคฮยอนกับกรีดร้องลั่นสุดเสียงด้วยความทุรนทุราย
     

                                      “อย่าทำแบบนี้ซิ ! เจ้าตัวน้อย
     

    จากที่เริ่มกรีดร้องตอนนี้ร่างบางกลับเอาหัวโขกกับกำแพงแรงๆอย่างบ้าคลั่งจนเลือดอาบแก้มทั้งสองข้าง ภาพตรงหน้าทำเอาชานยอลเองทนอยู่เฉยไม่ได้จึงวิ่งเข้าไปโอบรัดร่างกายเปราะบางด้วยลำแขนอันแข็งแรงเพื่อให้ร่างบางหยุดทำร้ายตัวเองไปมากกว่านี้ 
     

                                      “กรี๊ดดดด ! ปล่อยย ปล่อย กรี๊ดด
     

                                      “ได้โปรด หยุดเถอะ เจ้าตัวน้อยหยุดเถอะนะ ชานยอลทนไม่ได้ ”

     

    ใบหน้าหล่อดูเป็นกังวลใจกับการที่เจ้าตัวน้อยที่ทำร้ายตัวเองโดยไม่มีเหตุผล  ยิ่งเห็นอาการทรมานของร่างบาง  หัวใจของร่างสูงเองก็เหมือนถูกบีบรัดจนแทบหลุดออกจากอก
     

                                      ถ้านายจะต้องเจ็บปวดฉันขอรับความเจ็บปวดนั้นเอง
     

                                      ถ้านายจะต้องทรมานฉันขอรับความทรมานนั้นเอง
     

                          ได้โปรด .. ฉันไม่อยากให้นายถูกจับมัดกับเตียง .. ไม่อยากให้นายเจอกับเข็มฉีดยา
     

    น้ำตาลูกผู้ชายเอ่อล้นของมาจากดวงตาทั้งสองข้างโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ น่าแปลก .. ตั้งแต่ขึ้นมัธยมมาชานยอลเองก็ไม่เคยร้องไห้ให้ใครแท้ๆแม้แต่พ่อหรือแม่ของตน แต่แบคฮยอนกับทำให้คนเห็นแก่ตัวแบบร่างสูงร้องไห้ออกน้ำตาเป็นสายท่ามกลางเสียงกรีดร้องอันคร่ำครวญ
     

    ตกลงฉันเอ็นดูนายหรือรักนายกันแน่ เจ้าตัวน้อย??

     

    ...................................................................................................................................................................................................................................................

     

                                      <จงอิน>
     

                                   [มึง .. แบคฮยอนทำร้ายตัวเองอีกแล้ว ทะ  ทำไงดี]

     

    ระหว่างที่ผมกำลังจนออกจากบริษัทของตัวเองเพื่อไปสะสางคดีบางอย่างกับคยองซู ไอ้ชานยอลมันก็โทรมาด้วยน้ำเสียงสั่นคลอเสียก่อน    หาไอ้นี่มันร้องไห้หรือป่าวเนี่ย??


     

                                   “เป็นอะไรมึง??”
     

                                   [วันนี้แบคฮยอนเอาหัวโขกกับกำแพงเลือดไหลออกมาด้วย .. อะ  ไอ้สำลี ...กะ กุจะทำไงดี มึงช่วยแบคฮยอนด้วย เจ้าตัวน้อยยังไม่ฟื้นเลยมึง]
     

                                   “ห๊าทำไมไม่ฟื้นว่ะ ร้ายแรงเลยหรอมึง
     

                                   [ป่าว .. แพทย์มันให้ยา Major Tranquilizers ด้วยว่ะ มึงรู้ไหมสัส แขนขาวนุ่มของเจ้าตัวน้อยมีแต่รอยเข็มแท่ง แม่งเอ๊ยทั้งรอยเก่าแล้วรอยใหม่เลยว่ะ กุสงสาร]
     

                                  “ถุยไอ้บัดซบ ยา Major Tranquilizers มันทำให้ง่วงซึมไม่ใช่หรือไงว่ะ ยานี้มันใช้กับผู้ป่วยทางจิตที่มีอาการประสาทหลอนนี่หว่า

                                  [อออ่ะดิ  แม่งเอ๊ย อาการแบคฮยอนกำเริบไงสัส แพทย์มันเลยใช้ยานี้]

                                  “ไอ้ชานยอล .. กุว่าแบคฮยอนเริ่มไม่ปลอดภัยแล้วว่ะยิ่งมีพ่อมึงมาอยู่ด้วยอีกคน .. กุกลัวเจ้าตัวน้อยของมึงจะเจออะไรยิ่งกว่านี้ กุว่าจะขอรับแบคฮยอนมาเลี้ยงดูว่ะ
     

                                   [ไอ้เชี่ย!! แบคฮยอนของกุ!]
     

                                  “งั้นกุจะทำเรื่องขอดูแลผู้ป่วยให้  มึงแค่เซ็นต์อนุมัติ จบแล้วก็พาแบคฮยอนไปอยู่ที่คอนโดมึงชั่วคราว พอทางญาติต้องการที่จะนำตัวคืนก็ส่งตัวแบคฮยอนให้เขาไป
     

                                  [เรื่อง .. ผู้ปกครองเจ้าตัวน้อยล่ะ]
     

                                  “กุให้เฉินไปขออนุญาตผู้ปกครองแบคฮยอนแล้ว  ตอนนี้เขาอยู่ฝรั่งเศส เขาเป็นพี่ชายของแบคฮยอนอ่ะนะ เขาบอกว่าให้เราสามารถเป็นผู้ปกครองชั่วคราวได้ถ้าเขากลับเกาหลีแล้วเราก็ต้องนำตัวแบคฮยนส่งคืนเขา
     

                                  [จริงหรอ?? ดีใจว่ะ กะ กุจะได้นอนกอดเจ้าตัวเล็กบนเตียงแล้วหรอว่ะ!!]
     

                                  “เรื่องนี้ไม่มีทางถึงหูพ่อมึงแน่กุสัญญา!”

     

    ใช่เรื่องนี้ผมจะบอกกับคยองซู และแน่นอนว่าหมอนั่นไม่มีทางอ้าปากพูดออกมาแน่ หึหึ คราวนี้ผมจะสั่งสอนเขาถึงน้ำถึงเนื้อเลยทีเดียว !!!

     

                                   ฉันเตือนนายแล้วนะ โด คยองซู
     

                                   ฉันขอแค่นายเลิกยุ่งกับเพื่อนฉันเอง... แค่นี้ทำไม่ได้ซินะ
     

                                   หึหึ 

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×