ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {ficexo}Baby witness in loveพยานรักประจักษ์ใจ hunhan krislay

    ลำดับตอนที่ #21 : BABY witnessinlove : HATE

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 57


     

        ถึงนายจะเกลียดฉัน ..แต่นายก็สงสารลูกเถอะนะ   
     

                                 <คริสtalk>

     

     

    ผมเดินวางมาดเข้ามาในบริษัทด้วยความหายห่วง ตอนนี้อี้ชิงก็หนีผมไปไหนไม่ได้แล้ว หึหึ!! ... พนักงานบริษัทและลูกน้องตามพากันโค้งให้กับผมเป็นแถว พวกเขาก็เกรงมากที่ผมเข้ามาตรวจสอบงานอยู่ในบริษัทเป็นประจำ แต่ทำไงได้ ผมยังไม่อยากกลับจีนนี่น่า อีกอย่างเลขาของผมก็ค่อยดำรงตำแหน่งประธานอยู่ที่จีน ผมไม่อยู่ที่บริษัทใหญ่สัก 2-3 เดือนคงไม่ล้มละลายหรอกมั้ง

     

     

                                  สิ่งสำคัญ คือ อู๋ หว่าหวา !!

     

     

    ยิ่งคิดเรื่องหลานแล้วยิ่งเครียด ทั้งตำรวจและคนของผมมันด้อยคุณภาพมากซินะ แค่เด็กคนเดียวก็หาไม่เจอ เฮ้อ !~ ไม่รู้จะด่ายังไงดี  หลานคงจะอยู่สบายมากซินะ ขนาดเจอหน้าผมยังวิ่งหนีตับแลบ .. ไอ้ตัวเล็กมันกำลังทำอะไรอยู่นะ ผมอย่างรู้เสียจริงๆ

     

     

                                  “คุณอู๋ ในขณะที่ผมกำลังรอลิฟท์ เสียงหนักๆ เย็นๆ ทำให้ผมเองต้องหันไปมอง ..ผมจำได้ เสียงนี้เป็นของศิลปินชื่อดัง ! จือเทา

     

                                  “มีธุระอะไรหรือป่าว

     

                                  ผลัก!

     

     

    ไอ้เวรนี้มันไม่พูดพร่ำทำเพลงเลยสักนิด จือเทาเข้ามาต่อยผมหนึ่งหมัดเต็มๆหน้า! การ์ดและ รปภ. ต่างวิ่งเข้ามาห้ามพวกผมสองคน ท่ามกลางสายตาของลูกค้า รวมทั้งพนักงาน ... อายชะมัด!!! ผมหัวเสียสุดๆ ใบหน้าคมของผมแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่สบอารมณ์ จือเทาด้วยเช่นกัน เราทั้งสองคนต่างร้อนทั้งสองฝ่าย  ผมจึงตัดสินปัญหาด้วยการพาเขาไปนั่งดื่มชาที่สวนลอยฟ้าของบริษัท

     

     

                                  เราทั้งสองคนจ้องตากันท่ามกลางเสียงนกร้อง และลมพัดผ่าน

     

                                  “อี้ชิง อยู่ไหนเขาเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

     

                                  “ไม่บอก

     

                                  “สัส! กุถามว่าเพื่อนกุอยู่ไหนหึ ศิลปินชื่อดังตะโกนใส่ผมด้วยความฉุนเฉียว จะดีใจหรือเสียใจดีนะ

     

                                  “เพื่อนหรือเมีย

     

                                  “...เงินที่อี้ชิงเอามาจากคุณ ผมจะจ่ายให้ อี้ชิงเขาบอบบาง ปล่อยเขาไปเถอะ

                                  “...ผมรู้  แต่ถึงอย่างไง ผมก็ไม่สามารถปล่อยเขาไปได้ มันรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก

     

                                  “ผมไม่รู้หรอกนะ ว่าอี้ชิง เขาเคยทำอะไรให้คุณ แต่ที่รู้ๆ อี้ชิงไม่ใช่คนเลว เขาอาจจะทำเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เด็กคนนั้นยิ่งเป็นโรคกลัวที่แคบอยู่ด้วย ..เฮ้อ ยิ่งที่แคบๆมืดๆ อี้ชิงยิ่งกลัวจนแทบเสียสติ

     

                                  “ว่าไงนะ!!”

     

                                  <คริสend>

     
     

                         

      

     

                             “..ลู่หาน

     

    เซฮุนเอ่ยเรียกอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา เขารู้สึกตัวชาแปลกๆ เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดมันช่างงุนงง จนไม่สามารถปะติดปะต่อเรื่องได้ เด็กน้อยตัวเล็กสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  หว่าหวากระโดดลงจากตักของผู้เป็นพ่อ ก่อนที่จะวิ่งไปหลบข้างหลังแบคฮยอนโดยสัญชาตญาณ  ลู่หานไม่แม้แต่สนใจเซฮุนเลยสักนิด!!

     

     

                             ร่างบางเดินตรงไปกระชากหว่าหวาออกมาทั้งน้ำตา

     

                             มามี๊น่ากลัว ..มามี๊ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

     

     

                             “คุณหนู!!” แบคฮยอนแสดงท่าทีตกใจเมื่อเห็นว่าลู่หานแปลกไป เขาพยายามจะห้ามให้กวางน้อยใจเย็นๆ แต่ดูเหมือนว่า คงไม่ทันแล้วแหละ!! มือเล็กๆ ตีก้นเด็กน้อยในชุดนักเรียนอย่างแรงหลายที ทำให้เซฮุนถึงกับลุกขึ้นพรวดด้วยความตกใจ

     

                             “ลู่หานหยุดนะ ทำอะไร อย่าทำลูก!!”

     

     

     เซฮุนตะโกนออกมาท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย ..ร่างเล็กหยุดการกระทำของตนก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองร่างสูงทั้งน้ำตา  หว่าหวาเองก็ยืนร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวผู้เป็นมารดา  ตอนนี้แบคฮยอนเองก็มืดแปดด้าน ไม่รู้เลยว่าเรื่องราวต่อไปมันจะแสนวุ่นวายขนาดไหน

     

     

                             “นี้ลูกของฉัน !! นายอย่ามายุ่ง หว่าหวาไม่ใช่ลูกของนาย

     

     

    คำพูดที่พูดออกมาโดยไม่คิดทำเอาเซฮุนถึงกับชะงัก สมองของเขาประมวลผลได้ว่า ..หว่าหวาเป็นลูกของคริสและลู่หาน แต่จู่ๆคำถามนี้ก็ผุดขึ้นมา ทำไมเด็กแปลกหน้าคนนี้ถึงเรียกร่างสูงว่าปะป๊า  ทั้งๆที่ตัวเองก็มีปะป๊าอยู่แล้ว แถม หว่าหวาก็บอกว่า มามี๊และปะป๊าคนก่อนตายหมดแล้ว ?? สรุป เรื่องมันยังไงกันแน่?

     

     

                             “ฮื่อๆ มามี๊ วาวาเจ็บ มามี๊บีบแขนวาวา ฮึก ฮื่อๆ จนแดงหมดแล้ว

     

                             “แล้วลูกจะดื้อทำไม!!! หยุดร้องนะ หว่าหวาหยุด!!”

     

                             เพี๊ยะ เพี๊ยะ!!

     

    ลู่หานฟาดฝ่ามือของตัวเองลงไปยังเด็กเล็กอีกครั้ง ..คุณแม่คนสวยซึ่งใบหน้าเปรอะไปด้วยน้ำตาแทบจะขาดใจเมื่อเห็นลูกรักร้องไห้ฟูมฟายด้วยความเจ็บระบม ..เซฮุนทนดูภาพเหล่านั้นไม่ไหว เขาตรงเขาไปผลักลู่หานให้ออกจากลูกโดยเร็ว  หว่าหวาเห็นแบบนั้นจึงวิ่งไปหลบอยู่หลังปะป๊าของตน

     

     

                             “หยุดบ้าได้แล้ว!! ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายกับไอ้คุณคริสจะมีลูกน่ารักๆแบบนี้ได้ไง  แต่ถึงอย่างไงไอ้เปี๊ยกก็เคยเรียกฉันว่าปะป๊ามาก่อน ... ฉันขอแหละอย่าทำลูกของนายเลย

     

     

    ลู่หานรู้สึกจุกเบาๆ ร่างบางสะอึกเล็กน้อยก่อนที่จะไปกระชากเด็กน้อยให้ออกมาจากข้างหลังเซฮุน  ร่างหนาเองก็ไม่ยอมให้กวางน้อยทำร้ายลูกอีกแล้ว !!! แต่ผลสุดท้าย เสี่ยวลู่ก็เอาหว่าหวามาจนได้  .. ร่างบางอุ้มลูกขึ้นมาในอ้อมแขนพร้อมทั้งเดินออกจากภัตตาคารไปท่ามกลางความตกใจของผู้คนในห้องอาหาร

     

     

                             “ ..สะ เสี่ยวลู่ อย่าไป ..เซฮุนพูดขึ้นด้วยเสียงอันแผ่วเบา แต่แบคฮยอนก็สามารถได้ยินชัดเจนทุกประโยค

     

                             “คุณโอครับ เราไปหาที่คุยกันดีกว่า

     

     

    …             …

     

     

                             “ฮึก ฮื่อๆ

    ลู่หานขึ้นมานั่งบนแท็กซี่ก่อนที่จะบอกจุดหมายปลายทางของเพ้นท์เฮ้า  เมื่อขึ้นมาบนรถแล้ว เสี่ยวลู่ก็กอดลูกชายไว้แน่นพรางน้ำตาไหลสะอึกสะอื้น หว่าหวาก็เช่นเดียวกัน เด็กน้อยทั้งตกใจและหวาดกลัวผู้เป็นมารดา ..มือเล็กๆของหว่าหวาพยายามจะผลักมามี๊ออกไป  เขายังเด็กเกินที่จะแยกแยะเรื่องราวทั้งหมด

     

     

                             “ปล่อย ฮื่อๆ มามี๊ใจร้าย

     

                             “มามี๊ขอโทษ ..ฮื่อๆ ลูกเจ็บมากใช่มั๊ยครับ? ตีมามี๊คืนนะ ตีมามี๊ .. มามี๊ผิดเองที่ตีหนู

     

                             “..มามี๊

     

     

    ลู่หานผละตัวเองออกจากร่างของลูกชาย ก่อนที่จะจับมือเล็กๆของหว่าหวามาตีตนเอง การกระทำที่ขาดสติของผู้เป็นแม่ ทำเอาเด็กน้อยรับรู้ถึงความรู้สึกแสนสับสนของลู่หาน   หว่าหวาชักมือของตัวเองกลับก่อนที่จะเข้าไปโอบกอดเสี่ยวลู่ ...เจ้าตัวเล็กรัดอ้อมกอดไว้แน่นพรางหลั่งน้ำตาอย่างเข้มแข็ง  ..วาวาไม่ได้โกรธมามี๊ อย่าทำร้ายตัวเองเลยนะฮะ ปะป๊าอยู่ไหน มาปลอบมามี๊ได้แล้ว !

     

     

                             

     

     

                                  “อือ ..ฮื่อๆ พี่อี้ฟาน ทำไมทำแบบนี้

     

     

    นัยน์แสนเลื่อนลอยเหม่อมองไปรอบกลางท่ามกลางความมืด ร่างกายบางที่ขดตัวอยู่ภายในตู้เสื้อผ้าแคบๆ มันทั้งแคบทั้งมืดจนน่ากลัว อี้ชิงกอดตัวเองอย่างเดี่ยวดาย มือบางของเขาเจ็บไปหมด เนื่องจากการทุบประตูตู้เสื้อผ้า ..เขาทั้งเจ็บคอ เจ็บจนแทบพูดไม่ได้ อี้ชิงร้องตะโกนขอความเมตตาทั้งๆที่รู้อยุ่แก่ใจว่าไม่มีใครได้ยิน ลมหายใจมันติดๆขัดๆ ..หวาดกลัว หวากระแวง วิตกกังวล ในขณะนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับอาการเหล่านี้

     

     

                                  สติของอาอี้ เริ่มจางหายไป ... เขาไม่อยากไม่ชีวิตอยู่ต่อแล้ว

     

                                  “อี้ชิง!!”

     

     

    ร่างสูงของคริสว่ากระเสือกกระสนมายังคอนโดของตนเอง เขาร้อนรนจนจือเทาแปลกใจ ปกติแล้ว อู๋อี้ฟานเป็นคนรู้จักวางตัว และเก๊กอยู่เป็นประจำไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์  ..เมื่อคริสไขกุณแจตู้เสื้อผ้าในสำเร็จ เขาก็รู้สึกใจหล่นวูบ จือเทาไม่รอช้าที่จะพาตัวอี้ชิงซึ่งหมดสติออกมาจากที่แคบๆ

     

     

                             “เวร!! มึงเลวจริงๆ มึงขังอี้ชิงไว้ในที่แบบนี้ได้ไง มึงมันไม่ใช่คนจือเทาสถบคำด่าออกมาอย่างไม่เกรงใจ เขาวางร่างอันหมดสติไว้บนเตียงของคริสก่อนที่จะโทรเรียกรถพยาบาล

     

     

     

    ในตอนนี้ทุกอย่างมันช่างวุ่นวาย ร่างสูงรู้สึกตกใจและแปลกใจ ยามที่เห็นใบหน้าอันซีดเซียวของร่างบาง คริสทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ผิดกับจือเทา ..คนที่มีใบหน้าหล่อมคล้ำจัดการสถานการณ์ได้อย่างมีสติพร้อมทั้งดูแลอาอี้ด้วยความห่วงใย จือเทาไม่ยอมให้คริสเข้ามาใกล้อี้ชิงเลยสักนิด !!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×