ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic exo]Destiny my heart:วงล้อแห่งโชคชะตา(chanbaek kaido )

    ลำดับตอนที่ #16 : Destiny my heart : 15

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 56


    ในห้องท่านประธานสุดใหญ่โตที่มีแต่บรรยากาศอึดอัดทำให้จงอินถอนหายใจแล้วหายใจเล่าเพราะ  ตอนนี้เพื่อนรักของเขากำลังนั่งกุมขมับกลุ้มใจอยู่บนชุดโซฟาแสนนุ่ม โดยมีจงอินคอยปลอบใจ

     

    ตอนนี้คนของร่างแทนและร่างสูงก็กำลังให้คนออกตามหาแบคฮยอนอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่มีวี่แววจะหาเจอสักนิด เรื่องของโรงพยาบาลเอง จงอินก็จัดการยัดเงินใส่ปากคนพวกนั้นเรียบร้อยแล้ว  และทางโรพยาบาลก็จะเอาเรื่องอีกด้วยเพราะว่าข่าวทั้งหมดถูกปั้นขึ้นมาโดยญาติของคนไข้ที่ต้องการเพียงแค่เงินเท่านั้น

     

     

                                 “กุว่า กุรักแบคฮยอนว่ะ

     

                                 “กุรู้นานแล้วแหละว่ะ .. พึ่งรู้ใจตัวเองหรอมึง!”

     

                                 “เออดิ .. กุเป็นห่วงเจ้าตัวน้อยของกุมึงเข้าใจไหม!! ต่อไปนี้กุจะไม่ขัดใจแบคฮยอนอีกแล้ว ทำไมบนฟ้าจะต้องแยกเจ้าตัวน้อยไปจากกุด้วยว่ะ

     

                                 “เชื่อกุ เดี๋ยวก็เจอ แบคฮยอนไปไหนไม่ไกลหรอก

     

                                 “ถ้าไปไม่ไกลคงเจอไปนานแล้ว!! กุเครียดว่ะ

     

                                               เฮือก!!!

     

    น้ำตาเม็ดใสเอ่อล้นออกจากเบ้าตาของชานยอลเป็นสาย แสดงถึงความอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด ปกติชานยอลไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น แต่บัดนี้ชานยอลเปลี่ยนไป!! จงอินถึงกับอ้าปากค้างเลยทีเดียว!!

     

     

                                 “ร้องไห้ทำส้นเท้าอะไรว่ะสาส!! หยุดเลยๆ มึงไม่อายกุหรอว่ะ0.0

     

                                 “กุเหนื่อย .. กุเครียด กุคิดถึงแบคฮยอน

     

                                 “บักสัสเอ่ย! ห่างกันไม่ถึงวันเองนะมึง เป็นห่าอะไรมากป่ะไอ้ชานยอล ตอนอยู่ที่ปารีสมึงไม่เป็นแบบนี้นะโว๊ย!! คนบ้าแค่หนึ่งคนมีอิทธิพลกับมึงขนาดนี้เลยหรอว่ะ

     

                                 “กุไม่รู้  กุเครียด!!”

     

     

    ชานยอลระเบิดอารมณ์แปรปรวนใส่เพื่อนรักที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าอันหล่อคมตอนนี้กลับกลายเป็นใบหน้าอันหมองมัวอย่างเห็นได้ชัด จงอินเองก็รู้สึกรำคาญใจที่เพื่อนของตนเกิดอาการแบบนี้

     

     

                                        ชานยอลไม่เคยอ่อนแอ

     

                                        ชานยอลไม่เคยร้องไห้

     

                                        ชานยอลไม่เคยเป็นห่วงใคร

     

                                        แต่ตอนนี้ชานยอลกลับกลายเป็นคนละคนโดยสิ้นเชิง

     

     

                                “คุณจงอินครับ เชิญออกมาสักครู่ครับ

     

    เฉิน เลขาของจงอินแง้มประตูเล็กน้อย บอกกล่าวสิ่งที่ต้องการออกไปและในไม่ช้าจงอินก็ค่อยๆเดินออกมาห้องประธานแต่โดยดี 

     

                                “ผมเจอคุณแบคฮยอนแล้วครับ เขามากับคุณคยองซู
     

                                “พวกนั้นอยู่ที่ไหน??
     

                                “ตึกรับรองครับ ผมยังไม่กล้าให้พวกเขาขึ้นมา คุณแบคฮยอนเองมีอาการกระสับกระส่าย ร้อนล้นแปลกๆ ผมเลยอยากมาเรียนคุณจงอินก่อนนะครับ
     

                                “หึ  อย่าบอกนะว่าคยองซูจับตัวแบคฮยอนไป!!”
     

                                “ผมไม่ทราบครับ
     

    ร่างแทนกักเก็บอารมณ์ฉุนเฉียวไว้ในใจ เขาหัวเราะกับตัวเองในลำคอเบาๆก่อนจะเดินไปยังตึกรับรองที่มีร่างสวยทั้งสองรออยู่ หึหึ นายต้องการเจอดีกับฉันใช่ไหม โด คยองซู ได้!! ฉันจะจัดให้

     

     

     

                               <คยองซู>

     

     

    คนของทางโรงพยาบาลให้ผมมานั่งรอภายในห้อง vip ของตึกรับรอง ห้องนี้ไว้สำหรับแขกคนสำคัญที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการรอคิวพบแพทย์ แต่ผมกับรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก - - *

     

                                      มันจะดีมากเลยถ้าไม่มีไอ้พวกชุดดำมาคอยวนเวียนอยู่ในห้องนี้ !!

     

    แบคฮยอนยิ่งเป็นโรคทางจิตอยู่ด้วย เจอใครก็ไม่รู้ท่าทางน่ากลัว 2-3 คน เดินไปมาแบบนี้แบคฮยอนยิ่งสั่นระริก หวาดระแวงเข้าไปใหญ่ คนตัวเล็กเกาะแขนผมไว้แน่น สายตาสวยมองไปรอบๆอย่างวิตกกังวล ผมก็ทำได้แค่ลูบหัวปลอบประโลมคนที่อยู่ข้างๆให้คลายความกังวล

     

     

                                “คยองซู!!”

     

                                “นาย!”

     

     

    ผมแทบจะกรีดออกมาเมื่อเห็นจงอินเดินเข้ามาในห้อง ผมดีใจสุดๆเพราะผมจะได้พาแบคฮยอนไปหา ผอ. สักที ว่าแต่ .. ไอ้สำลีทำไมทำหน้าตาไม่รับแขกแบบนี้แหละ?? ทำอย่างกับโกรธใครมาเป็นชาติ

     

                                          เพี๊ยะ!!

     

                                           0.0

     

    สติของผมแตกกระเจิงปนกันไปหมดเมื่อจู่ๆ จงอินก็เดินเข้ามาตบหน้าผมฉากใหญ่จนผมหน้าหันไปตามแรงปะทะของฝ่ามือหนา .. ผมทำอะไรผิดอีกงั้นหรอ? ไอ้ดำนี้มันผีเข้าหรือป่าวว่ะ?

     

     

                               “สันดานนายมันก็ยังสารเลวอยู่วันยังค่ำ!! ฉันบอกนายแล้วว่าอย่ายุ่งกับแฟนของเพื่อนฉัน!”
     

                               “??

     

     

    ผมงงเป็นไก่ตาแตกกับคำพูดที่มีแต่ความขัดเคืองของเขา แบคฮยอนเองก็ตกใจจนเอามือปิดหู หลับตาปี๋ เหมือนไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น ผมเลิกสนใจไอ้ดำนั้นแล้วหันมาลูบหลังของคนตัวเล็กแทน แต่ไอ้จงอินมันกลับปัดมือของผมออกจากกายของแบคฮยอน

     

     

                               “พวกนายเอาตัวแบคฮยอนไป แล้วออกไปให้หมด อย่าลืมล็อคประตูด้วย

     

     

    น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกพูดอย่างเรียบๆในขณะที่สายตาอันน่ากลัวจับจ้องผมไม่วางตา .. ผมไม่ชอบที่เขาเป็นแบบนี้สักนิด!! ผมขมวดคิ้วเป็นปมอย่างสับสน ในเวลาเดียวกันไอ้พวกนั้นก็นำตัวแบคฮยอนออกมาจนตอนนี้เหลือแค่เพียงผมกับเขาที่กำลังจ้องมองกัน!!

     

                                      ความเจ็บจากแก้มผมมันเทียบไม่ติดกับความเจ็บทางใจสักนิด!

     

     

                               “คนสารเลว ฉันเตือนนายแล้วนะเด็กน้อย แต่นายก็เลือกที่จะต่อต้านมันใช่มั้ย?

     

     

                               “ฉันงงไปหมดแล้ว คิม จงอิน!”
     

                                        ตุบ!

     

    เขาจับไหล่ของผมก่อนจะเหวี่ยงเต็มแรง ทำเอาร่างกายของผมพลิ้วตามแรงผลักดันนั้นไปชนกับสิ่งที่แข็งแรงอย่างกำแพงปูน หัวของผมดันไปโขกกับกำแพงเต็มๆจนเลือดอาบไหลข้างแก้มทั่วเลย ... เจ็บชะมัด

     

    ดวงตาที่มีแต่กิเลสของเขามันทำให้ผมกลัวจนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ คนๆนี้เขาจะฆ่าผมหรือป่าวนะ? ผมหวาดระแวงไปหมดแล้ว ตราบใดที่หมอนี่ยังควบคุมสติไม่อยู่ ผมจะเป็นอย่างไงก็ไม่รู้

     

     

                              “อยากจะแก้ตัวไหม? แต่คำพูดของคนทุเรศ   ฉันไม่อยากฟังหรอกนะ

     

                              “...

     

                              “คราวนี้อยากเจออะไรดีแหละครับคยองซุ!! ให้มันเจ็บไปถึงทรวงในเลยดีไหม?

     

                              “กรี๊ดดด! ไม่เอา

     

     

    จงอินดึงแขนผมเข้าหาร่างของเขาก่อนที่เขาจะโอบรัดลำตัวของผมแน่นกระชับจนแทบหายใจไม่ออกแค่นี้ ผมก็รู้ได้ทันทีเลยว่าไอ้สำลีมันต้องการอะไร .. ไม่เอาแล้ว ผมกลัว

     

                                     มันเจ็บเหลือเกิน

     

                              “ฉันจะทำให้นายเจ็บมากกว่าอีก!”

     

                              “ปล่อยนะไอ้บ้า ไอ้งี่เง่า อื๊ม!!”

     

    เพียงแค่ผมแหงนหน้าขึ้นด่าเขาฉอดๆ เขาก็กระตุ้นรอยยิ้มอันน่าสะอิดสะเอียนแล้วใช้ริมฝีปากหนาบดขยี้ริมฝีปากของผมอยากหยาบคาย นิสัยไม่ดี!!

     

    ผมพยายามหุบริมฝีปากให้แน่นเพราะกลัวว่าไอ้ดำนั่นจะลุกล้ำเข้ามาได้  แต่ความพยายามของผมมันก็ไม่เคยมีความหมายเมื่อเขาเอาปลายลิ้นเข้ามาลิ้มรสความหวานในโพรงปากของผม ผมดิ้นไปมาแม้จะดิ้นแรงแค่ไหนอ้อมกอดนั้นมันก็ยิ่งรัดกระชับขึ้นจนผมกับเขาจะกลายเป็นคนๆเดียวกันอยู่แล้ว !


                                                                  
    :::ฉากไม่เหมาะสม:::

     

    .............................................................................................................................................................................................................................

     

     

                              “ชานยอล!”

     

                              “เจ้าตัวน้อย!”

     

     

    ร่างสูงดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่จู่ๆเฉินก็พาร่างบางกลับมาหาตนเสียที  แบคฮยอนวิ่งดุกดิกเข้ามากอดชานยอลให้หายคิดถึง ฝ่ายชานยอลเองก็โอบกอดกลับทั้งน้ำตา  ในที่สุดวิมานบนก็กลับมาหาเสียที

     

    หยาดน้ำตาหยดไหลตกลงมาใส่เนินไหล่ของร่างบางทางข้างหลังทำให้ดวงหน้าสวยที่ยิ้มล่าดีใจถึงกับหุบยิ้มทันทีก่อนที่จะผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดแสนคุ้นเคย ...ดวงตาสวยจ้องแหงนขึ้นมองดวงตาคมที่แฉะชื้นไปด้วยคราบหยาดน้ำตา

     

                              “ชานยอลร้องไห้ทำไม? ไม่ดีใจหรอที่เจอน้องแบค

     

     

    แบคฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงงุนงงระหว่างที่ใช้มือเรียวสวยปาดคราบน้ำตาที่ไหลอาบแก้มจนหยดน้ำตาเหล่านั้นหายออกจนหมดแล้ว ชานยอลยิ้มอย่างละมุนที่มุมริมฝีปากพร้อมทั้งจับมือเรียวสวยที่กำลังสัมผัสใบหน้าของตนแล้วเลื่อนฝ่ามือนั่นมาจุ๊บเบาๆที่หลังมือ ทำเอาคนที่โดนกระทำมีใบหน้าสีระเรื่อขึ้นมาทันทีด้วยความเคอะเขิน

     

     

                              “ดีใจครับ ..ดีใจที่สุดเลย น้องแบคหายไปไหนมาครับ?? รู้ไหมชานยอลเป็นห่วง

     

                             “รู้ ..เพราะรู้ก็เลยมาหา ในโทรทัศน์น้องแบคเห็นหัวใจชานยอลกำลังร้องไห้ ร้องไห้ และร้องไห้

     

     

    แบคฮยอนทำสีหน้าเศร้าใจแล้วค่อยๆเลื่อนหูข้างใดข้างหนึ่งแนบชิดกับหน้าอกด้านซ้ายที่กำลังถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆมากมายออกมา

     

                              “เรื่องต่างๆมันจบลงไปแล้ว .. แค่มีน้องแบคอยู่ใกล้ๆชานยอลก็จะไม่ร้องไห้อีกแล้ว

     

                             “อืม

     

                             “เจ้าตัวน้อยของชานยอลหายไปไหนมาหรอครับ?

     

                              “ไปกินของอร่อยยมา

     

                              “ชานยอลขอโทษที่ทำของอร่อยให้น้องแบคกินไม่ได้ แล้วยังบังคับน้องแบคกินยาอีก ชานยอลขอโทษนะครับ

     

     

    ชานยอลยิ้มรับพร้อมลูบเส้นผมพลิ้วสลวยด้วยความรู้สึกผิด เขายังคงโทษตัวเองว่าเป็นคนทำให้แบคฮยอนหายไปตลอดเวลา ร่างสูงกระชับอ้อมกอดแน่นเมื่อคิดถึงความรู้สึกตอนนี้ไม่มีเทวดาตัวน้อยอยู่ข้างๆ

     

                                    ความรู้สึกที่แสนทรมาน .. ชานยอลไม่อยากรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×