คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : INTRO
ฟ้าหลังฝนมักสดใสเสมอ ... แต่ทำไมผมไม่คิดแบบนั้นนะ ?
ชีวิตของผมเหมือนขาดอะไรไป เมื่อไม่มีเขา ..คนใจร้ายที่กำหัวใจของผม
เมื่อ5ปีก่อนผมอยู่กลางสะพานสายยาวที่มีเส้นทางให้เลือกอยู่สองฝั่ง ... ระหว่างทางเป็นกับทางตาย หัวใจของผมอ่อนแรงแทบหยุดเต้น ผมก้มมองลงในแม่น้ำแสนเย็นเฉียบ หมอกหนาเริ่มปกคลุมจนผมมองไม่เห็นทา บรรยากาศที่เงียบสงัดปลุกเร้าให้หัวใจผมเต้นอีกครั้ง ผมใช้เวลาอยู่กับตัวเองโดยไม่มีใครคอยเคียงข้าง
ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว!!
ผมยังมีลูกในท้องอีกคนที่ต้องดูแล
แม้ว่าพ่อของเขาจะไม่สนใจใยดีก็ตาม ...
ตลอดเวลาผมคิดว่าเสมอว่า คนที่ผมไว้ใจที่สุดนั้นคือ เพื่อน เพื่อนแท้ที่ไม่ทิ้งผม และ ไม่แย่งชิง ของๆผม หึ หึ บางทีผมอาจจะมองโลกสวยเกินไป ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา หรือ บางทีมันก็ตีสองหน้าใส่ผม!!
“ลู่หาน”
มือเรียวยาวของพี่คริสเอื้อมมาแตะที่ไหล่ของผม ทำเอาผมสะดุ้งตัว ตื่นจากภวังค์ที่ผมสร้างขึ้น ดวงตาของผมแหงนขึ้นไปมองพี่ชายแท้ๆที่ผมเคยหนีจากเขาไป และท้ายที่สุด ผมก็ต้องโทรมทรานกับมาหาเขาเมื่อเรื่องราวทุกอย่างมันเกิดขึ้น แต่ถึงอย่างไงซะ ผมก็ไม่เคยมองเด็กในท้องเป็นปัญหา
ผมมองเขา ว่าเขาเป็นของขวัญจากพระเจ้า
แต่ทำไมพ่อของเด็กคนนี้ถึงมองเขา เป็นเพียง มารหัวขน
“มานั่งที่นี่คนเดียวทำไม เข้าบ้านเถอะ ป้าแม่บ้านเตรียมซุปร้อนๆไว้ให้”
“ฮะ”
ผมพยักหน้าเชิงว่าเข้าใจก่อนที่จะลุกขึ้นเดินเข้าไปในบ้านแต่โดยดี ปกติแล้วบ้านผมจะมีเพียงผม พี่ชาย แม่บ้าน และ บอดี้การ์ด อีกเป็นสิบที่ ถึงจะมีคนเยอะอย่างไง ...ในบ้านที่ทุกคนเรียกว่าคฤหาสน์ก็เงียบสงบอยู่ดีเพราะพี่คริสไม่ชอบเสียงดังสักเท่าไร
พอหว่าหวาเกิดมา ทุกอย่างในบ้านก็มีแต่เสียงหัวเราะและความวุ่นวาย
หว่าหวาเป็นลูกชายของผมที่เกิดมาจากแฟนหนุ่มชาวเกาหลีคนหนึ่ง ...คนที่เห็นแก่ตัว มักมากจนผมรู้สึกรังเกียจ ผมไม่อยากให้หว่าหวารัยบรู้เรื่องราวในอดีต ให้เขารู้แค่เพียงว่า .. พ่อของเขาได้ตายหายไปจากโลกใบนี้แล้วก็พอ
“มามี๊ !! ป้าเทียนหมิงทำซุปไว้ให้ฮะ”
เด็กน้อยตัวแสบวิ่งมาหาผมด้วยสีหน้าร่าเริง ผมเองก็ยิ้มให้กับลูกก่อนที่ลูกจะจูงมือผมไปยังโต๊ะอาหาร ตอนนี้หว่าหวาก็อายุ 4 ขวบแล้วซินะ เวลามันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน พี่คริสหัวเราะเบาๆในลำคอตามสไตล์คนขี้เก๊ก เมื่อหว่าหวาอ่านข่าวตอนเช้าเป็นภาษาต่างดาวให้ฟัง ผมเองก็ขำด้วย
“เอาล่ะๆ ลูกหยุดอ่านแล้วกินข้าวเลยนะ เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย” ผมหยิบหนังสือพิมพ์ในมือลูกชายก่อนที่จะลูบหัวเบาๆด้วยความรัก เด็กตัวน้อยก็ยิ้มให้กับผมพร้อมทั้งใช้มือหยิบอาหารขึ้นมากินโดนไม่ใช้ช้อน =[]=
“ไอ้ตัวเล็ก!! ลูกทำอย่างนี้ได้ไงครับ”
“ก็ช้อนมันหนักนี้ฮะมามี๊ วาวาหนัก~”
ไอ้ตัวเล็กทำให้ผมกับพี่คริสส่ายหน้าพร้อมกันเบาๆ หลังจากนั้นผมก็ต้องเป็นคนป้อนอาหารให้ลูกจนหมดจาน พี่คริสมักจะฝึกให้หว่าหวาช่วยเหลือตัวเองโดยการกินข้าวโดยม่มีผมเป็นคนป้อน แต่หว่าหวามักจะใช้ข้ออ้างตลอดจนผมต้องเป็นคนป้อนให้ทุกครั้งนั้นแหละ เฮ้อ~
“มามี๊”
“หวาหว่า ..รักษามารยาทบนโต๊ะอาหาร” พี่คริสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจนหว่าหวาถึงกับเอามือผิดริมฝีปาก
“พี่ฮะ หลานยังเด็กอยู่นะ”
ผมเอามือลูบหัวลูกเบาๆ หว่าหวาเองก็ค่อยๆลดมือลงเมื่อเห็นว่าผมออกโรงปกป้อง เด็กน้อยหันซ้ายหันขวา มองบอดี้การ์ดของพี่คริสและแม่บ้าน ที่ยืนขนานกับโต๊ะรับประทานอาหารด้วยสายตาที่แสนสงสัย
“วาวาแค่อยากรู้ว่าทำไมเวลาเราทานอาหาร พี่ๆเขาถึงต้องมาดูเรากินด้วยอ่ะฮะ”
“เพราะอันตรายอยู่กับเราทุกที่ พวกเขาก็มีหน้าที่แค่ป้องกันเราจากอันตรายพวกนั้น”
พี่คริสตอบในขณะที่ยังคงกินอาหารในจานต่อไป หว่าหวาลุกจากเก้าอี้ เดินเตาะแตะไปดึงชายเสื้อพี่คริสที่นั่งหัวมุมโต๊ะเบาๆ ผมมองการกระทำของลูกด้วความงุนงง ..พี่คริสเองก็มองหว่าหวา พรางคิ้วขมวดเป็นปม
“ลุงฮะ”
“ว่าไงเด็กน้อย”
“ถ้าปะป๊ายังอยู่ พวกพี่ๆบอดี้การ์ดก็ไม่ต้องมองเรากินอาหารใช่มั๊ยฮะ”
เกร๊ง!
คำถามที่แสนใสซื่อทำเอาช้อนในมือของผมล่วงล่นลงกับพื้นกระเบื้องเงาทันที ...ถ้าเราไม่เปิดประเด็นเรื่องพ่อ หว่าหวาก็จะไม่พูดถึง แต่นี้หว่าหวากำลังพูดถึงผู้ชายคนนั้น !! ผมพยายามควบคุมสติให้อยู่ แม่บ้านคนหนึ่งเดินมาเก็บช้อนที่ผมทำตกก่อนที่จะเดินออกไป ผมเองก็เดินตามเธอออกไป
ผมไม่อยากให้ลูกเห็นน้ำตาอันอ่อนแอของผม
“ปะป๊าจะปกป้องวาวา มามี๊ และก็ลุง เราก็ไม่ต้องอยู่ในอันตรายอีกต่อไปใช่มั๊ยฮะ” คำพูดเมื่อกี้ทำเอาฝีก้าวของผมหยุดชะงัก น้ำตาไหลอาบแก้มออกมาอีกครั้ง ผมเช็ดมันอยากลวกๆก่อนที่จะหันไปหาลูก เด็กน้อยตัวเล็กจ้องมองผม แววตาของลูกดูมีความหวัง
หว่าหวาอยากอยู่กับปะป๊าของเขา
“จะไปโรงเรียนสายแล้วนะ ถ้าเราไปสายจะพลอยทำให้ลุงคริสไปทำงานสายด้วยนะ”
“ตะ แต่ปะป๊า ...”
“ไปกันเถอะ”
พี่คริสพูดตัดบทก่อนที่จะอุ้มหว่าหวาขึ้นมา แล้วเดินออกจากคฤหาสน์ไปพร้อมกับลูกน้องอีกสี่ห้าคน หลังจากที่ลูกออกไปแล้วผมเองก็แทบทรุดลงกับพื้น โชคดีที่ป้าเทียงหมิงและแม่บ้านคนอื่นๆมาพยุงผมเอาไว้ทัน ก่อนที่จะพาผมไปพักผ่อนที่ห้องนอน
ลูกคงคิดถึงปะป๊ามากซินะ
มามี๊ขอโทษนะครับ .. ที่ไม่สามารถเอาปะป๊มาอยู่กับหนูได้
ความคิดเห็น