คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : +++Chapter 2+++
กลางดึกคืนหนึ่ง ดวงตากลมโตของจางอี้ชิงเปิดขึ้นท่ามกลางความมืด เมื่อรู้สึกถึงน้ำหนักของอีกคนบนเตียงหายไป คืนนี้คริสมานอนที่นี่เพื่อ... นั่นล่ะ... แตจ่เขาก็ไม่เคยนอนค้างที่นี่หรอก แค่เข้ามา ทำให้มันเสร็จๆ แล้วก็กลับออกไปนอนที่ปีกตะวันตก คืนนี้ก็น่าจะเหมือนกัน....
แต่นี่มันไม่ใช่เวลามาน้อยใจเสียหน่อย!!
อี้ชิงลุกขึ้นมาแต่งตัวก่อนจะแอบเดินตามไปเงียบๆ วันนี้เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่ามีอะไร ...หรือใคร... อยู่ในปีกตะวันตก ทำไมคริสถึงไปค้างที่นั่นบ่อยนักแล้วที่นั่นเกี่ยวกับคนที่ฆ่าจุนมยอนหรือไม่
หญิงสาวค่อยๆก้าวเงียบเข้าไปในปีกตะวันตก และต้องแปลกใจในความสะอาดของมัน เหมือนกับ..
...มีคนอยู่ที่นี่...
“ลู่หลันเป็นยังไงบ้าง? สบายดีไหม” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังแว่วมาจากในห้องที่ประตูเปิดแง้มไว้
“สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก...”
ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันนะ.. ด้วยความสงสัย อี้ชิงจึงแอบไปดูตรงช่องประตูนั่น ทว่า ยังไม่ทันเห็นเสียงผู้หญิงอีกคนหนึ่งก็ดังมาทางข้างหลัง ผู้หญิงอีกคนเหรอ??
“นั่นใครน่ะ?” อี้ชิงวิ่งหนีไป คริสและผู้หญิงในห้องที่ได้ยินเสียงเดินออกมาดู แต่ก็ทันแค่ได้เห็นหลังไวๆเท่านั้น ชายหนุ่มก้มลงเห็นของที่ตกอยู่บนพื้นก็ก้มลงไปหยิบขึ้นมาถือไว้
“อี้ฟาน ไม่ตามไปเหรอ เดี๋ยวเขาก็เอาไปพูดหรอก”
“ไม่หรอก...”
“...”
“คนๆนั้นน่ะ.. จะไม่พูดอะไรแน่นอน”
.
.
.
เช้าวันรุ่งขึ้น ในห้องนอนใหญ่ จางอี้ชิงกำลังตกอยู่ในภวังค์ฝันอันงดงาม โดยไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่ามีคนๆหนึ่งนั่งอยู่ข้างเตียงของตน อี้ฟานจ้องร่างบางที่กำลังหลับด้วยสายตาที่ไม่สามารถอ่านได้
ทำไมคุณต้องขัดคำสั่งผมนะ... จางอี้ชิง....
ไม่นานนัก ร่างบางก็รู้สึกตัว เปลือกตาสีน้ำนมเปิดขึ้นช้าๆ เธอดันตัวลุกขึ้น แต่ก็ล้มลงไปอีกครั้งด้วยอาการหน้ามืด ดวงตาใสจ้องคนเป็นสามีเขม็ง เหงื่อเม็ดโตไหลมาตามไรผม หรือเข้าจะรู้ว่าเมื่อคืนเธอแอบไปที่ปีกตะวันตก... ไม่หรอก เขาจะไปรู้ได้ยังไง...
“คะ.. คุณคริส...” เสียงหวานเอ่ยสั่นๆ
“คุณทำไอ้นี่ตกไว้” คริสจับมือเรียวเล็กขึ้นมา แล้ววางสร้อยสีเงินที่เป็นของอี้ชิงไว้บนฝ่ามือ
“...”
“คุณอยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ในตึกนั้นขนาดนี้เชียวเหรอ”
“คะ... คือ...”
“เดี๋ยวผมจะพาคุณไปดูเอง...”
“...”
“แต่อาทิตย์นี้ผมต้องไปดูงานที่แคนาดา ไว้พอกลับมาจะพาไป ระหว่างนั้น...”
“...”
“ช่วยอยู่แต่ในห้องด้วยนะครับ...” อู๋อี้ฟานมองภรรยาสาวที่เด็กกว่าตนถึงแปดปีด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้จางอี้ชิงนอนนิ่งอยู่บนเตียงอย่างนั้น เสียงทุ้มออกคำสั่งกับชายร่างกำยำในชุดดำสองคนที่อยู่หน้าห้องเรียบๆทว่าเด็ดขาดและเยือกเย็น จนหญิงสาวที่อยู่ในห้องรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา
“เฝ้าเอาไว้ให้ดี”
.
.
.
สี่วันต่อมา...
ไม่น่าเชื่อว่าอี้ชิงจะใช้เวลาตลอดสี่วันสี่คืน อยู่แต่ในห้องของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเจ้าตัวอยากอยู่นักหรอก แต่ทุกครั้งที่ประตูไม้แง้มออก ชายชุดดำสองคนหน้าห้องก็จะหันมามองอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ สองคนนี้เขาไม่ต้องพักกันบ้างเลยหรือไงนะ... หญิงสาวได้แต่คิดในใจ และเมื่อรู้แน่แล้วว่านอกจากตนจะหายตัวได้ ก็ไม่มีทางอื่นที่จะออกไปจากห้องนี้ได้ จางอี้ชิงจึงได้แต่ปลง นั่งๆนอนๆอยู่แต่ในห้องจนแทบจะลืมวันลืมคืน
“เปิดประตู” เสียงแหบพร่าของหญิงชราดังมาจากหน้าประตู ป้าหลี่เหรอ...
แอ๊ด...
เสียงเปิดประตูดังขึ้นเบาๆ แต่หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงกลับไม่ได้สนใจอะไรมากมายนัก ดวงตายังคงหลับพริ้ม หญิงชรามองถาดอาหารที่ยังไม่ถูกแตะ อี้ชิงไม่ยอมทานข้าวมาสี่วันแล้ว จะมีก็แต่ป้าหลี่จับน้ำกรอกปากเพื่อไม่ให้ตายเท่านั้น ใช่ว่าจางอี้ชิงคิดจะฆ่าตัวตาย เพียงแต่เธอไม่รู้สึกอยากขยับตัวแค่นั้น...
“คุณอี้ชิงคะ ลุกขึ้นมาทานข้าวเถอะค่ะ”
“...”
“คุณอี้ชิงคะ...”
“...”
“เสี่ยวเวย ไปประคองคุณอี้ชิงนั่งซิ” เมื่อเรียกเท่าไหร่นายหญิงของบ้านก็ไม่ยอมสนใจเสียที ป้าหลี่จึงต้องใช้วิธีเดิม คือการจับกรอกน้ำ แม้จะดูรันแรงไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ร่างบางแห้งตายอยู่ในห้องล่ะนะ
“ป้าหลี่คะ!! คุณอี้ชิงตัวร้อนจี๋เลยค่ะ!!!” เสี่ยวเวยพูดด้วยเสียงตกใจ
“ว่าไงนะ??” ป้าหลี่รีบเดินมาใกล้ หลังมือแนบหน้าผากกลมมนเผื่อวัดอุณหภูมิ “เสี่ยวเวย บอกคนไปตามหมอมา แล้วโทรไปแจ้งคุณคริสด้วยว่าคุณอี้ชิงป่วย”
“คะ.. ค่ะ” เด็กสาวตัวสั่น ตอนนี้เธอตกใจกลัวจนแทบจะทำอะไรไม่ถูก เห็นคุณคริสเป็นอย่างนี้ก็เถอะ จริงๆแล้วคุณคริสเองก็เป็นห่วงคุณอี้ชิงมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่สั่งให้ป้าหลี่บังคับคุณอี้ชิงทานข้าวทานน้ำอย่างนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณอี้ชิง หรือคุณอี้ชิงเป็นอะไรไป... เธอไม่อยากคิดสภาพของตัวเองเลย...
“มัวโอ้เอ้อะไรอยู่! เร็วสิ!!”
“คะ.. ค่ะ ไปเดี๋ยวนี้ค่ะ...” เสี่ยวเวยรีบลนลานออกไปจากห้องป้าหลี่ประคองร่างบางขึ้นอย่างเบามือ มือเหี่ยวย่นปัดไรผมออกจากใบหน้าสวย แววตาของเธอเต็มไปด้วยความห่วงใย
ได้โปรดอย่าเป็นอะไรเลยนะ... อี้ชิง...
.
.
.
เย็นวันต่อมา...
อี้ฟานรีบกลับมาจากแคนาดา โดยทิ้งงานทั้งหมดไว้ให้คาเรน น้องสาวคนเดียวรับผิดชอบต่อ ตั้งแต่กลับมาถึงบ้านเมื่อวาน ชายหนุ่มก็ไม่พูดไม่จา เอาแต่นั่งเฝ้าอยู่ข้างๆเตียงของคนป่วยอยู่ไม่ห่าง จนกระทั่งหมอบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ถึงได้ยอมลุกไปอาบน้ำอาบท่าบ้าง
‘ปล่อยฉันออกไปนะคริส!!!’
ทันทีที่ได้ยินว่าภรรยาตัวน้อยป่วย ภาพแรกที่ย้อนเข้ามาในความคิดของร่างสูงก็คือภาพประตูบานใหญ่ที่ถูกทุบรัวๆด้วยมือของคิมจุนมยอน ภรรยาคนที่สองของเขา และไม่กี่วันหลังจากนั้น... เธอก็ตาย..
“อื้อ...” เสียงครางเบาๆดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่ม คริสที่กำลังฟุบหน้าอยู่เงยหน้าขึ้นมามอง แต่ฝ่ามือหนาที่กุมมือเล็กอยู่นั้นยังไม่ยอมคลายออก
“อี้ชิง?”
“คุณคริส... เหรอ..?” จางอี้ชิงแทบไปเชื่อสายตาตัวเอง ร่างเล็กแอบกัดกระพุ้งแก้มตัวเองเบาๆ
เจ็บ...
ไม่ได้ฝันไปสินะ...
“อืม... คุณเป็นยังไงบ้าง? รู้สึกดีขึ้นไหม?” อี้ฟานพยุงร่างบอบบางขึ้นมานั่งพิงพนักเตียงอย่างทะนุถนอม อากัปกิริยาเหล่านี้เป็นสิ่งที่จางอี้ชิงไม่เคยได้รับมาก่อน หญิงสาวจึงอดไม่ได้ที่จะมองคนตรงหน้าเนิ่นนาน.. นานเสียจนอีกฝ่ายร้องเรียกขึ้นมานั่นแหล่ะ
“อี้ชิง..?”
“คะ... เอ่อ.. ค่ะ ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะเรียกป้าหลี่ยกอะไรมาให้กิน คุณอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม?”
“ได้สิคะ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ” อี้ชิงหัวเราะเบาๆ คริสจึงรู้สึกตัวว่าเขาทำตัวขี้เป็นห่วงเกินเหตุไป และได้เห็นรอบบิ้มของภรรยาเป็นครั้งแรก ซึ่งเขารู้สึกว่ามัน...
...น่ารักดี...
อี้ฟานอดหมั่นเขี้ยวไม่ไหว จมูกโด่งจึงกดลงบนแก้มใสเบาๆ แต่อารมณ์ดีอยู่ได้ไม่นาน โหนกแก้มที่นูนชัดกว่าก่อนเขาไปทำงานมากรวมถึงกลิ่นยาบนตัวอี้ชิงทำใจให้หัวใจเขาเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างไม่รู้เหตุผล แววตาที่เพิ่งอบอุ่นเปลี่ยนเป็นเย็นชาอีกครั้ง ร่างหนาผละออกห่างแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะหันหลังเดินออกไป
“ผมไปละ ขาดเหลืออะไรก็บอกป้าหบี่หรือไม่ก็คนใช้คนอื่นเอาแล้วกัน”
“...”
“แล้วก็...”
“...”
“พักผ่อนเยอะๆด้วย...”
.
.
.
++++++++++++++++++
ลงให้ครบแล้วนะคะ แอบสปอยค่ะ
...ตอนหน้าแม่ยกคริสเลย์ได้สำลักตายแน่ๆ.. แต่จะสำลักความหวานหรือกระอักเลือดนี่ขออุบไว้ก่อนนะคะ...
เจอกันตอนหน้า ขอบคุณที่ติดตามค่า^___^
ความคิดเห็น