คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : +++++ คนที่รักหมดหัวใจ +++++
ร้านอาหารอิตาเลี่ยนเจ้าประจำที่เขามักมาทานระหว่างช่วงพักเที่ยง เนื่องจากสถานที่ตั้งร้านอยู่ไม่ไกลจากบริษัทเขานัก ร้านนี้ถือเป็นอีกร้านหนึ่งร้านโปรดในบรรดาร้านอาหารทั้งหลายที่ร่างสูงแวะเวียนไปชิม ถ้าพูดถึงเรื่องรสชาติแล้วหละก็เขารับรองได้ว่าไม่แพ้ใครแน่นอนและราคาไม่แพง จึงไม่แปลกถ้าจะมีลูกค้ามากมายมารอต่อคิวตั้งแต่เช้า
“แจจุงจะทานอะไรดีครับ”ยุนโฮชะโงกหน้ามาถามร่างบางที่ตอนนี้ทำหน้ามุ่ย
“ผมไม่รู้จะสั่งอะไรดี มีแต่อาหารที่ไม่เคยทาน”แจจุงวางเมนูลง หลังจากที่ตัดสินไม่ถูก รายการอาหารหลายร้อยอย่างทำเอาเขาตาลาย
“งั้นผมขอแนะนำเป็น สปาเก็ตตี้แล้วกันนะครับ”แจจุงพยักหน้าเล็กน้อย
“ขอสปาเก็ตตี้สองที่ครับ”ร่างสูงบอกกับพนักงานสาว
“รับเป็นชุดดีไหมค่ะ ตอนนี้ทางร้านมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคู่รักค่ะ ในชุดจะมีสปาเก็ตตี้สองที่ ไวน์แดง แถมไอศกรีมสตอเบอรี่ชันเดย์เป็นของหวานค่ะ”พนักงานพูดทั้งหมดอย่างรัวเร็วโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าคนทั้งคู่มีสีหน้าแบบไหน ยุนโฮยิ้มจนแก้มปริ ขณะที่แจจุงทำสีหน้าบอกไม่ถูก
“คือพวกผมมะ..”แจจุงบอกปฏิเสธแต่ยังไม่ทันจะจบประโยคร่างสูงก็ขัดขึ้นซะก่อน
“ตกลงรับชุดนี้ครับ”คำพูดของยุนโฮทำเอาแจจุงหันมาถลึงตาให้ อย่างไม่อยากเชื่อ
“ผมชอบของแถมครับ”ร่างสูงทำหน้าทะเล้น ไม่สนใจสายตาของแจจุงที่มองค้อนแล้วค้อนอีก
ไม่นานอาหารพร้อมเครื่องดื่มก็ถูกเสิร์ฟ สปาเก็ตตี้จานร้อนราดด้วยซอสมะเขือเทศสีแดงสด สไตล์อิตาเลี่ยน บนซอสตกแต่งด้วยผักใบเล็กน่ารัก ดูแล้วน่าทานไม่น้อย
“นั่นแจจุงทำอะไรหนะครับ”ภาพของร่างบางที่พยายามตักเส้นสปาเก็ตตี้ขึ้นมา แต่พอใกล้จะถึงกลีบปากสวย เส้นเจ้าปัญหากลับร่วงหล่นทุกครั้งไป ใบหน้าหวานงอง้ำ ไม่รู้จะทำยังไงให้เจ้าเส้นที่ลื่นไหลหยั่งกับมีชีวิตนี้เข้าท้องเขาเสียที ยุนโฮมองแจจุงที่พยายามเอาชนะเจ้าเส้นนี้ด้วยการจิ้มมันจนแทบจะเละไปทั้งจาน แล้วนึกขำในใจ ดูท่าแจจุงคงไม่เคยกินอาหารอิตาเลี่ยนละมั้ง
“ทำแบบนี้นะครับ”ยุนโฮสาธิตวิธีการกินให้แจจุงดู พอดูเสร็จร่างบางก็หัดทำตามทันที เหมือนกับเด็กที่พอได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆแล้วต้องลงมือหัดทำ กริยาน่ารักของแจจุง ทำให้ยุนโฮอดยิ้มกว้างออกมาไม่ได้
ไวน์แดงในแก้วของยุนโฮพร่องลงจนเกือบหมด ผิดกับแก้วของแจจุงที่เต็มยังไงก็เต็มยังงั้น ไม่มีลดลงแม้แต่น้อย จนเขารู้สึกแปลกใจ
“แจจุงไม่ดื่มไวน์หรอครับ”นัยน์ตาสีนิลมองมาทางเขา แล้วหลุบลงต่ำ ขณะที่ดวงหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ ก่อนพูดเสียงเบาราวกับเสียงกระซิบ
“ผะ.....ผมดื่มเหล้าไม่เป็น”ใบหน้าขาวที่บัดนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงทุกพื้นผิว ก้มหน้าต่ำซะจนจะชนโต๊ะอยู่มะลอมมะล่อ
“ฮะ ฮะ”เสียงหัวเราะที่ดังมาทำให้ใบหน้าหวานอมลมจนแก้มพอง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังงอนเขาอยู่
“ครับ ครับ ผมไม่หัวเราะแล้ว”ยุนโฮหันไปสั่งน้ำหวานกับพนักงานให้แจจุงแทน
“นี่เธอดูสองคนนั้นสิ น่ารักดีเนอะ คงรักกันน่าดูเชียว”เสียงพูดชี้ชวนของบรรดาสาวๆทั้งหลายดังขึ้นเกือบทั้งร้าน พร้อมกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะน้อยๆ ขณะที่คนที่พวกเธอเอ่ยถึงนั้น อยากจะมุดหน้าลงดินให้รู้แล้วรู้รอด ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดคำชมไปทั่วทั้งร้าน ไม่ใช่เพราะอะไรอื่น
ไอศกรีมสตอเบอรี่ชันเดย์ถ้วยใหญ่ ประกอบด้วยไอศครีม 5 ลูก สตอเบอรี่ผลอวบวางเรียงรายอยู่เต็มถ้วยพร้อมเชอรี่สีสด วิปครีมนุ่มปาก ราดด้วยท๊อปปิ้งสีหวาน โรยหน้าด้วยอัลมอล์ ทุกอย่างดูลงตัวน่ากินเป็นที่สุด ถ้ามันไม่ได้เสิร์ฟมาถ้วยเดียว!!!!!!!
“ทำไม ไม่กินหละครับแจจุง คุณไม่ชอบไอศกรีมสตอเบอรี่หรอครับ”ร่างสูงถาม เมื่อเห็นคนตรงหน้าไม่แตะไอศกรีมเลย เอาแต่นั่งหน้าแดงแม้แต่ตัวเขาเองร่างบางก็ไม่ยอมสบตาด้วย ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าต้นเหตุมาจากอะไร รู้ดีด้วยซ้ำก็เล่นพูดกันทั้งร้าน ใครบ้างจะไม่ได้ยิน แต่สำหรับเขาแล้วสิ่งที่คนในร้านพูดกันนั้นกลับทำให้เขาดีใจ อย่างน้อยเขาก็สามารถเป็นคนรักของร่างบางได้ ถึงแม้จะเป็นได้แค่ในความคิดของคนที่ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับแจจุงก็ตาม
มือเรียวเอื้อมมาตักกินบ้าง โดยที่เจ้าตัวพยายามไม่มองหน้าเขา ทำเอายุนโฮต้องกลั้นหัวเราะ ถ้ารู้ว่าเวลานางฟ้าอายแล้วจะน่ารักขนาดนี้ เขาจะยอมสั่งไอศกรีมมาอีกสักร้อยถ้วยยังได้เลย
“ติ๊ด ติ๊ด”เสียงนาฟิกาดัง ทำให้ยุนโฮชะงักเล็กน้อย เสียงนาฬิกาที่ดังราวกับเสียงระฆังแห่งสวรรค์ที่ร้องเรียกให้นางฟ้ากลับไป
“ไปกันเถอะครับ ผมจะไปส่งที่ผับ”แจจุงอ้าปากเหมือนจะพูดอะไร ก่อนจะหุบลงตามเดิม สายตาของยุนโฮที่มองมามันดูเจ็บปวดจนเขาพูดอะไรไม่ออก
ร่างสูงเหลือบมองร่างบาง ขณะที่ขับรถไปด้วย แจจุงนั่งหันหน้าไปทางหน้าต่าง มือขาวถือกล่องข้าวไว้แน่น ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มสวย กริยาทั้งหมดของแจจุงอยู่ในสายตาของยุนโฮตลอด แม้อยู่ใกล้กันเพียงเอื้อมมือ แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าแจจุงนั้นอยู่ห่างไกลเสียเหลือเกิน
“ขอบคุณที่มาส่งครับ”แจจุงกล่าวกับร่างสูง ที่ส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร ก่อนจะขับรถออกไป ดวงตาสีนิลมองรถที่เคลื่อนหายลับไป ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
ตอนนี้ในผับไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว ดูแตกต่างเหลือเกินกับยามราตรี ที่คึกคึกไปด้วยผู้คน เสียงเพลงที่ดังสนั่น บัดนี้กลับเงียบสงบ ร่างบางหยุดตรงหน้าประตู กลั้นใจเล็กน้อย ก่อนเปิดเข้าไป
ร่างโปร่งละสายตาจากกองเอกสารตรงหน้า ขึ้นมามองผู้มาเยือน คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความไม่พอใจ นัยน์ตาสีน้ำตาลฉายแววโกรธเกรี้ยว แต่กลับแฝงความอ่อนโยนไว้ภายใน
“ยูซอน”แจจุงเอ่ยเสียงหวาน ตาคู่สวยมองยูซอนที่เดินเข้ามาหาด้วยความดีใจ ทั้งที่ปกติแล้วแม้แต่หน้าเขายูซอนยังไม่มองด้วยซ้ำ
“ผมทำอาหารมาให้”มือเรียวยื่นกล่องข้าวไปให้ร่างโปร่ง พร้อมกับหลับตาปี้ กลัว เขากลัวยูซอนจะไม่รับ แต่ผิดคาดเมื่อคนตรงหน้าหยิบมันไปจากมือเขา ความรู้สึกที่เอ่อล้นทำให้เขาเกือบร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ
“น่ากินนะ แต่ ชั้นไม่ต้องการ!!”อาหารที่เขาตื่นแต่เช้ามาทำ อาหารที่เขาหัดทำอยู่นานหลายวันกว่าจะออกมาอร่อย บัดนี้กระจายเกลื่อนพื้น เมื่อถูกขว้างอย่างแรง ดวงตาคู่สวยมองคนตรงหน้าส่งยิ้มเยาะมาให้ ก่อนก้มลงเก็บเศษอาหารเบื้องล่าง
“จำเอาไว้ ถ้าชั้นไม่เรียกอย่าได้เสนอหน้ามาให้เห็นเป็นอันขาด”ยูซอนโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูนิ่ม แล้วออกไปโดยไม่หันมามองอีกเลย
“แหมะ แหมะ”น้ำใสไหลลงสู่พื้นหยาบ ความเจ็บแล่นเข้าสู่กลางอกราวกับโดนมีดกรีด กี่ครั้งแล้วที่ต้องเสียน้ำตาให้กับคนๆนี้ กี่ครั้งแล้วที่หัวใจถูกทำร้าย พอรึยัง ปวดใจพอแล้วรึยัง คิม แจจุง
“แจจุง ผมขอโทษ”เสียงร้องไห้ที่ดังออกมา ทำให้เขาสงสารคนตัวเล็กจับใจ ทั้งที่ตนเองเป็นคนทำร้ายร่างบางเองกับมือ ทั้งเรื่องวันนี้และเมื่อวาน เขาแกล้งทำเป็นเมาแล้วไปนอนตักหญิงอื่น เพื่อให้ร่างบางผิดหวังที่มาชอบคนเจ้าชู้อย่างเขา แต่ก็ไม่แจจุงยังคงทำดีกับเขาเหมือนทุกครั้ง ความรู้สึกผิดก่อตัวเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่จะให้เขาใจดีกับแจจุงนั้นเขาก็ไม่สามารถทำได้ ในเมื่อเขาไม่ได้รักแจจุงเลยแม้แต่น้อย เขาคิดกับแจจุงแค่น้องชายเท่านั้น เพราะเขาเองก็มีคนที่รักหมดหัวใจอยู่แล้ว ดังนั้นต่อให้แจจุงพยายามทำดีแค่ไหน เขาก็ไม่มีวันรักแจจุงเกินกว่าคำว่าน้องชาย เขาต้องทำร้ายแจจุงเพื่อให้แจจุงตัดใจจากเขา แม้การกระทำนั้นจะทำให้เขาต้องเจ็บไปด้วยก็ตาม
“แจจุง”เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับร่างของคนที่เขาเพิ่งบอกลาไปได้ครึ่งชั่วโมง
ยังไม่ทันที่แจจุงจะได้ถามอะไร มือหนาก็คว้าตัวเขาขึ้นรถทันที
Japan Restaurent
“คุณอีกแล้วหรอ”ร่างเล็กส่ายหน้าหน่ายๆ กับลูกค้าคนเดิมที่มานั่งทานอาหารที่นี่ทุกวัน จนเขาจำหน้าได้ขึ้นใจ
“ถ้าผมไม่มาแล้วจุนซูจะเสียใจนะครับ”คำพูดหวานที่เขาได้ฟังทุกวัน ตั้งแต่วันที่เขาได้เจอกับผู้ชายคนนี้ครั้งแรก
“วันนี้ก็เหมือนเดิมนะครับ”ร่างเล็กจดจดรายการอาหาร แล้วเดินไปยังหลังร้าน เพียงแค่รู่เดียวก็ออกมาพร้อมของที่สั่ง
“แหม ได้เร็วจัง รึว่าทำเอาไว้รอผม”ยูซอนส่งยิ้มยียวนไปให้ คิดว่าจะได้รับคำด่ากลับมาเหมือนทุกที แต่ก็เปล่ากลับเป็นใบหน้าของร่างเล็กที่ขึ้นสีจัด ก่อนจะทิ้งให้เขามองตามคนตัวเล็กที่วิ่งหายเข้าไปหลังร้านเรียบร้อยแล้ว
“แบบนี้ผมก็มีหวังใช่ไหม จุนซู”ร่างโปร่งพึมพำ แล้วลงมือจัดการอาหารตรงหน้า ดูท่าวันนี้อาหารของเขาคงจะอร่อยเป็นพิเศษเชียวหละ
TBC
TALK ~ มาลงต่อแล้วค่า ทั้งที่บอกว่าไม่แน่ว่าจะมาลงต่อไม่ได้ แต่ก็มาลงต่อทุกที -_- วันนี้ก็อย่างที่บอกกันไปทัศนศึกษามาค่ะ ที่ตลาดน้ำ ดำเนินสะดวก ของกินงี้เพียบ แต่ไม่อยากจะบอกว่าแพงมากกกกก ขนาดน้ำดื่มที่พวกเราชื่อกินกันขวดหละ 7 บาทนั่นแหละค่ะ ที่นั่นขาย 25 บาท แพงไหมค่ะ แล้วก็รองเท้าแบบหนีบอะค่ะ ที่เราหาซื้อกันได้คู่ละ 49 199บาทที่สยามรึตลาดนัดทั่วไป แต่ที่นั่นกลับขาย 300 บาท ราคาน่ากลัวเหลือเกิน (นี่เราไม่ได้นินทารึทำให้การค้าเขาเสียหายนะค่ะ เราแค่มาเล่าสู่กันฟังเท่านั้นเอง ^_____^ ) ต่อมาเราแวะไปที่สวนหลวง ร.2 ค่ะ แดดร้อนมากมาย แต่สวนสวยดีค่ะ มีบ้านเรือนไทยด้วย สวยค่ะสวย ขากลับอยู่บนรถ เปิด MV ดงบังซินกิ ดูกันค่ะ เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดดดดกันใหญ่ เราจากที่หลับอยู่พอได้ยินเพลงดงบังเท่านั้นแหละรีบตื่นขึ้นมาดูแทบไม่ทัน อ๊าาาาาาา แจจุงน่าร๊ากกกกกที่สุดเลย หุ หุ และแล้วเราก็กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยและมานั่งพิมพ์ฟิคจนมือหงิกนี่แหละค่ะ นอกเรื่องไปไกลกลับมาที่ฟิคกันดีกว่าค่ะ
ในตอนที่แล้วอย่างที่บอกไว้ว่าจะแต่งฉากยุนแจหวีทหวานกัน ก็แต่งมาลงได้แล้วนะค่ะ ตอนนี้มิคเซียน้อยแต่ตอนต่อไปจะพยายามให้เยอะขึ้นนะค่ะ ตอนนี้อ่านความหวีทหวานของยุนแจไปก่อนนะค่ะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ ( ขอชมคนที่ทนอ่านความไร้สาระของเราจนจบ )
ปล.เดือนหน้าเราต้องสอบแล้วนะค่ะ คงมาลงฟิคได้น้อยลงและอาจจะสั้นกว่าตอนนี้ ( อย่าเพิ่งเขวี้ยงรองเท้ามาน๊าาาาาา ) ขอบคุณทุกคนค่ะ
ความคิดเห็น