คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : $#@! ทำอาหาร !@#$
.....
....
...
..
.
แสงไฟยามราตรี สีสันแห่งกรุงโซลส่องประกายสวยงาม แต่กลับไม่อยู่ในสายตาของร่างสูงแม้แต่น้อย รถยนต์คันหรูสีดำเคลื่อนไปตามท้องถนนช้าๆ จนหยุดอยู่ตรงสัญญาณไฟแดงกลางสี่แยก ในความคิดมีแต่ร่างบางที่เขาได้โอบกอดเพียงชั่วครู่ ร่างเล็กที่ร้องไห้ตัวสั่น จนเขาอดไม่ได้ที่จะเข้าไปปลอบ ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ควร ในเมื่อร่างบางเป็นถึงคนรักของเพื่อน พูดถึงเจ้าเพื่อนตัวดีแล้วทำเอาเขาคิดไม่ตก เขาไม่เข้าใจการกระทำของเพื่อนรักเลยซักนิด ถึงจะบอกว่าเมา แต่การไปนอนบนตักผู้หญิงอื่นต่อหน้าคู่หมั้นตัวเอง มองยังไงมันก็ผิดวิสัยสุดๆ ความคิดเรื่อยเปื่อยต้องจบลง เมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว รถยนต์คันงามเคลื่อนตัวออกไปพร้อมความคิดของร่างสูงที่ลอยไปหาใครคนนึงเรียบร้อยแล้ว
“ว๊ายยย คุณหนูค่ะ ทำอะไรค่ะนั่น”สาวใช้ที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องครัวกรีดร้องลั่น ภาพที่เห็นทำให้เธอตกใจไม่น้อย คุณหนูของเธอกำลังทำกับข้าว แม้จะเคยเห็นคุณหนูทำอาหารหลายครั้ง แต่ ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ครัวจะเละเทะ!!อย่างนี้ ข้าวของวางระเนระนาดเต็มไปหมด
“เบาๆหน่อยสิ นาอึน เดี๋ยวคุณแม่ก็ตื่นหรอก”แจจุงหันมาดุหญิงสาวที่ทำเสียงดังจนเกินเหตุ เลยไม่ทันระวัง น้ำมันในกระทะร้อนจึงกระเด็นมาถูกเข้า
“โอ๊ยยย”
“คุณหนู! เป็นอะไรรึเปล่าค่ะ”หญิงสาวตรงรี่เข้ามาดึงมือบางออกมาจากมือขาวอีกข้างที่กุมอยู่เผยให้เห็นรอยแผลผุผองเป็นจ้ำๆ ก่อนจะใช้น้ำอุ่นเช็ดลงที่บาดแผล ความรู้สึกแสบร้อนเพิ่มมากขึ้นทุกขณะจนแจจุงนิ่วหน้า
“นาอึน รีบปิดเตาเร็วเข้า”แม้มือขาวจะเจ็บ แจจุงก็ยังไม่วายห่วงอาหารที่ตนทำเอาไว้ อาหารที่เขาตั้งใจทำเพื่อคนรัก
“ถ้าคุณหนูหิวก็บอกดิฉันรึไม่ก็สาวใช้คนอื่นก็ได้หนิค่ะ ไม่เห็นต้องลงมาทำเองเลย”เสียงบ่นดังของนาอึน ทำเอาแจจุงยิ้มออกมา เขารู้ดี ถึงนาอึนออกจะขี้บ่นไปบ้าง แต่ก็บ่นเพราะเป็นห่วงหรอก ไม่อย่างนั้นคงไม่มานั่งทำแผลให้เขาอย่างนี้
“ผมจะทำให้ ยูซอนหน่ะครับ เลยไม่อยากรบกวน”หญิงสาวถอนหายใจออกมา คุณชายยูซอนอีกแล้ว กี่ครั้งแล้วที่คุณหนูทำทุกอย่างเพื่อชายคนนี้ ทั้งทำอาหารให้ ไหนจะยังคอยเรียนรู้เกี่ยวกับงานบ้านทุกอย่าง แต่เห็นกลับมาทีไรคุณหนูของเธอก็หน้าเศร้ากลับมาทุกที ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไร คุณหนูเองก็ใจดีไม่อยากเห็นใครมากลุ้มใจกับเรื่องของตน จึงไม่เคยปริปากบอกอะไรกับใครเลย แม้แต่กับคุณผู้หญิงก็เถอะ
“คุณหนูออกไปรอข้างนอกก่อนนะค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะเก็บของเอง”
“ขอบคุณครับ”ร่างบางเอ่ย พร้อมกับหยิบกล่องข้าวออกไปด้วย
ห้างสรรพสินค้า SM Town
“อืมมม...สีไหนดีหล่ะ”ร่างบางตัดสินใจไม่ถูก ในเมื่อเสื้อทั้งสองสีดูดีเหมือนกันหมด สาเหตุที่เขาต้องมาเลือกซื้อเสื้อนี่เพราะเมื่อวานดันไปร้องไห้กับร่างสูงเสียยกใหญ่จนเสื้อของร่างสูงเปียกไปหมด แถมยังให้เขามาส่งที่บ้านอีก คิดแล้วก็อายจริงๆ มีอย่างที่ไหนไปร้องไห้กับคนที่เพิ่งรู้จักกันวันแรก ภาพของคนตัวเล็กที่กำลังเลือกเสื้อเชิ้ตอย่างตั้งอกตั้งใจ ดูแล้วน่าเอ็นดูยิ่งนักในสายตาของคนที่ผ่านไปมาคิ้วเรียวขมวดมุ่น ตัดสินใจไม่ถูกอยู่นานสองนาน ระหว่างเสื้อเชิ้ตสีดำหรือสีขาว ตากลมมองเสื้อทั้งสองตัวที่อยู่ในมือสลับไปมา ก่อนจะตัดสินใจ
“สีขาวแล้วกันเนอะ”กว่าจะตกลงปลงใจเล่นเอาพนักงานขายมองแล้วมองอีก แจจุงจึงโค้งขอโทษพร้อมส่งยิ้มแหย แหย ไปให้ ทำไงได้ละ ก็มันสวยทั้งสองตัวเลยนี่หน่า
“อ๊ะ”ร่างบางล้มลงเพราะแรงปะทะของใครบางคน เงยหน้าขึ้นมาพบคู่กรณีที่ล้มไม่เป็นท่าเหมือนกัน
“ขอโทษครับ พอดีผมรีบ”ชายร่างเล็กกล่าว ก่อนช่วยพยุงร่างบางให้ลุกขึ้น แล้ววิ่งจากไป ทิ้งให้แจจุงยืนนิ่งอยู่สักพัก คนอะไรน่ารักจัง แก้มที่ยุ้ยเหมือนซาลาเปา ใครเห็นเป็นต้องหลงรักแน่ ผิดกับตัวเขาไม่มีดีซักอย่าง ยูซอนถึงไม่เคยรักเขาเลย ร่างบางส่ายหน้าไปมาสลัดความคิดฟุ้งซ่านของตนเอง แล้วมุ่งหน้าไปยังสถานที่แรกที่เขาต้องไป
Miracle Hotel
แจจุงเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก อดไม่ได้ที่จะชมความสวยงามของโรงแรมนี้ ประตูทางเข้าเป็นกระจกใสแข็งแรง มียามเฝ้าอยู่แทบทุกจุด การรักษาความปลอดภัยแน่นหนา ผู้คนพลุ่กพล่าน บอกถึงความเจริญของโรงแรมนี้ได้เป็นอย่างดี ตรงกลางมีบ่อน้ำขนาดใหญ่เหล่าฝูงปลาแหวกว่ายไปมา พลันสายตาไปสะดุดกับรูปปั้นกลางสระ นางฟ้า แวบแรกที่เห็นทำเอาเขาละสายตาไปไม่ได้ รูปปั้นดินแกะสลักเป็นภาพนางฟ้า ม่านน้ำตกไหลลงมาราวกับน้ำทิพย์ของสวรรค์ ภาพตรงหน้าช่างดูสวยงาม ใบหน้าของนางฟ้าที่ยิ้มแย้ม อยู่ท่ามกลางหมู่ปลาและดอกไม้นานาพันธุ์ทุกสิ่งช่างสวยงามลงตัว เว้นเพียงแต่แววตาของนางฟ้าทำไมถึงได้เศร้าอย่างนี้
“เอ๊ะ”น้ำตาใสที่ไหลลงมา ทำให้แจจุงรู้สึกแปลกใจไม่น้อย เขากำลังร้องไห้งั้นหรือ น้ำตาของเขาไหลลงมาเพียงเพราะมองรูปปั้นนี้ เพราะอะไรกัน คำตอบที่หาไม่ได้ ทำให้ร่างบางถอนสายตาจากภาพตรงหน้า แล้วไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“ผมมาขอผม คุณจุง ยุนโฮครับ”
“รอสักครู่นะค่ะ”หญิงสาวยิ้มให้ร่างบาง ก่อนจะต่อสายโทรศัพท์ ไปยังห้องท่านประธาน
“เชิญ ชั้น12เลยค่ะ”ร่างบางยิ้มหวานให้ ก่อนกดลิฟต์ ไปยังห้องท่านประธาน
“คุณคิม แจจุงมาขอพบค่ะ”เลขาสาวเข้ามารายงานท่านประธานที่นั่งเก๊กอยู่บนเก้าอี้น่วม
“ให้เข้ามาได้”เพียงแค่เห็นหน้าร่างบางเท่านั้นแหละ สีหน้าเคร่งขรึมแปลเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างทันที
“คือ...ผมมารบกวนคุณรึเปล่าครับ”แจจุงพูดเสียงอ้อมแอ้ม เขารู้สึกเกรงใจที่เข้ามารบกวนร่างสูงในเวลาทำงาน
“ไม่ได้รบกวนเลยครับ”จะรบกวนได้ยังไง ในเมื่อคนที่เขาคิดถึงอยู่ทุกเวลาขนาดนี้ มาหาเขาเองถึงที่ ตอนที่รู้ว่าแจจุงมา เขาดีใจจนตัวลอย หมดเลยมาดท่านประธานผู้เคร่งขรึม
“ผมเอาเสื้อมาให้ครับ เพราะผมเสื้อตัวเก่าของคุณถึงเลอะไปหมด”มือขาวยื่นถุงเสื้อไปให้ แต่แขนแกร่งของยุนโฮกลับจับข้อมือเขาไว้แน่น
“ไปโดนอะไรมาครับ”น้ำเสียงร้อนร่นดังมาจากร่างสูงที่กุมมือเขาไม่ปล่อย แจจุงเงยหน้าขึ้นไปสบตา แววตาที่ทอดมองมาเต็มไปด้วยความห่วงใย จนเขาต้องเป็นฝ่ายหลบสายตา
“เพราะผมไม่ระวัง น้ำมันเลยกระเด็นมาโดน ระหว่างทำอาหาร”แจจุงอธิบายให้คนตัวสูงฟัง
“ทำอาหาร”ร่างสูงเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย
“ครับ ผมทำอาหารให้ยูซอน”ร่างบางตอบเผลอยิ้มกว้าง เมื่อคิดถึงคนรักของตน
“ผมอิจฉาเจ้ายูซอนมันจังเลยครับ”กลีบปากหนาคลี่ยิ้มให้ร่างบาง ทั้งที่ปวดจนใจแทบขาด รอยยิ้มที่อ่อนโยนนั่นปรากฏทุกครั้งเมื่อคุณพูดถึงยูซอน แต่แจจุงรู้ไหมว่าผมเจ็บ เจ็บทุกครั้งที่คุณพูดถึงเขา คนรักของคุณ คนที่ผมไม่สามารถเป็นได้
แจจุงมองยุนโฮสายตาส่อแววไม่เข้าใจ จนยุนโฮสังเกตเห็นจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ไปหาอะไรทานกันไหมครับ”ยุนโฮเอ่ยชวน พร้อมส่งแววตาออดอ้อนมา ทำเอาแจจุงปฏิเสธไม่ลง ดวงหน้าหวานก้มลงมองนาฬิกาตน เที่ยงตรง อีกหนึ่งชั่วโมงเขาต้องไปหายูซอน หวังว่าคงกลับมาทัน รถยนต์คันงามเคลื่อนที่ออกไป สวนกลับเจ้าของรถอีกคัน
“ปึง”ฝ่ามือสวยทุบไปทีโต๊ะอย่างไม่กลัวเจ็บ ในเมื่อความโมโหมันมีมากกว่า
“ไหน แกลองพูดอีกทีสิ”สเตฟานนี่ยืนจ้องหน้าเลขาสาวของยุนโฮ เธอเข้ามาหายุนโฮแต่กลับพบห้องว่างเปล่า พอไปถามแม่เลขาตัวดี คำตอบที่ได้มาทำให้เธอแทบบ้าด้วยความโกรธ
“ท่านประธานออกไปทานข้าวกับ คุณคิม แจจุง”หญิงสาวตอบ เธอเองก็ไม่ชอบคนรักของท่านประธานสักเท่าไหร่ ผู้หญิงอะไรร้ายกาจขนาดนี้ ไม่รู้ว่าท่านประธานทนคบไปได้ไง
“คิม แจจุง แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”หญิงสาวกัดฟันกรอด มือเรียวปัดแฟ้มที่อยู่บนโต๊ะจนแฟ้มหล่นกระจายลงพื้น เป็นการระบายอารมณ์ ก่อนเดินจากไป
TBC
ช่วยคอมเมนต์กันด้วยนะค่ะ
ขอบคุณค่า
ความคิดเห็น