Hurt Theory ทฤษฎีอุบัติรัก
ผู้เข้าชมรวม
97
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[ทฤษฎีอุบัติรัก]
โดย
จันทร์ฉายในลายเมฆ
เพราะรักแล้วช้ำ…รักมันทำลาย หลังเลิกรากับแฟนหนุ่มด้วยพิษระยะทาง ติญาดา จึงตัดสินใจยุติชีวิตการเป็นอินทีเรียดีไซเนอร์ประจำบริษัทยักษ์ใหญ่นานกว่าสี่ปี และผันตัวเดินทางเข้าสู่วงการฟรีแลนซ์อย่างเต็มระบบ จะงานหนักงานเบาก็ไม่หวั่นแค่ได้เห็นมัดเงินเป็นปั้น ๆ ก็พอ ทว่าด้วยเส้นแรงกรรมหรือฤทธิ์บารมีที่สั่งสมตั้งแต่ชาติปางก่อน ท้าทายให้โชคชะตาจับพลัดจับผลูจากหญิงสาวมือทศกัณฐ์ต้องกลายเป็นผู้จัดการศิลปินชั่วคราวของ สิบ ศิขรินท์ นายแบบตัวโตหน้าคมผมทูบล็อก ดีกรีดาวจรัสแสงอิสระเจ้าของฉายา สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ที่ผู้จัดช่องน้อยไปจนถึงมากสีทั้งหลายต่างหมายปองช่วงชิงให้มาเป็นดาวประจำช่องของตน แต่ภารกิจนี้ดันไม่หมูแบบที่คิด เมื่อการพบกันก่อนหน้าระหว่างสถาปนิกสาวกับซุปตาร์เบอร์ใหญ่ดันเริ่มต้นด้วยความสัมพันธ์สวาทสุดเร่าร้อนและจบลงบนเตียงนอนขนาดคิงส์ไซส์สีครีม เห้อ…ตายพร้อมกันเถอะโรบิ้น ภาวนามาสองเดือนให้เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงสติพังในค่ำคืนหฤโหดนั้นคือเธอ ครั้นจะยกเลิกพันธะสัญญาแสนหนักสมองนี่ก็เป็นไปไม่ได้อีกเพราะรับค่าจ้างงวดแรกกับสิทธิประโยชน์มากมายเข้ากระเป๋าเต็มกราฟ แต่ทั้งหมดทั้งมวลใด ๆ ยังไม่เท่าคำสบประมาทจากพ่อดาราปากดอกพิกุลขี้แอ็คนั่นหรอก
หึ! นักสู้อย่างเธอน่ะหรือจะยอมโดนหย่อนเครดิตกันง่าย ๆ ให้มันรู้ไปสิว่าไอแค่ดูแลดารา(ที่เคยร่วมเตียง)คนเดียวจะยากสักเท่าไหร่เชียว ถูกใจผู้จัดการจำเป็นคนนี้ขึ้นมาถ้าอยากจ้างต่อคงต้องขอพิจารณาก่อนแล้วกัน!
“นี่! ได้กันไม่กี่ครั้ง นายกะจะเป็นเจ้าชีวิตฉันเลยหรือไง”
ร่างบางหันมาตวาดเสียงลั่นทันทีที่ได้ยินข้อเสนอสุดแสนจะสิ้นคิดจากซุปตาร์หนุ่ม
ให้เธอคบกับเขางั้นหรอ? บ้าหรือไง
“ช่วยไม่ได้”
ศิขรินทร์กล่าวออกมาสั้น ๆ ก้มลงหยิบบุหรี่มวนหนึ่งจากกางเกงสแล็คสีเรียบบนพื้นขึ้นมาจุดอย่างไม่ทุกข์ร้อน นึกขึ้นได้ว่าหญิงสาวข้างกายไม่ได้พิศวาสกลิ่นสมุนไพรที่ออกจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์นัก ร่างกำยำจึงลุกจากเตียงหนาและตรงไปยังระเบียงกว้าง
“เลิกคิดเรื่องไร้สาระแล้วอาบน้ำเถอะ วันนี้ตอนเย็น…”
สวบ…
“ไร้สาระ?”
แรงยุบยวบจากเตียงฝั่งข้าง ๆ เกิดขึ้นอย่างเนิบช้า จังหวะที่หญิงสาวในสภาพกึ่งเปลือยกำลังจะลุกขึ้นเพื่อจัดการตัวเอง ท่อนแขนหนาก็คว้าข้อมือเล็กไว้หลวม ๆ พลางแสดงสีหน้าเชิงตั้งคำถาม
“ใช่ อนาคตนายยังอีกไกล คบออกสื่อหรือคบแอบ ๆ มันก็มีผลกระทบต่อเราทั้งคู่ในอนาคตอยู่ดี”
ศิขรินทร์นั่งฟังนิ่ง เขารู้ดีว่าระหว่างตนและผู้จัดการสาวไม่ได้มีความรู้สึกต่อกันแค่นายจ้างกับลูกจ้าง
“เฮ้ย! นี่ สิบ…จะทำอะไร?”
ชายหนุ่มพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างบอบบางด้วยความรวดเร็วโดยที่อีกฝั่งไม่ทันระวัง ถ้อยประโยคของติญาดามีแต่คำปฏิเสธ ฟังแล้วไม่รื่นหูสักนิด
“พี่คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้าพูดแบบนี้”
รวบข้อมือเล็กทั้งสองไว้เหนือศีรษะมนด้วยฝ่ามือแข็งแรงเพียงข้างเดียว จากนั้นจึงกดจูบหนักหน่วงบนริมฝีปากนุ่มหยุ่นลากไล้ไปยังยอดอกสีอ่อนที่กำลังเต่งตึง พลันมืออีกข้างก็บีบเค้นสะโพกเนียนด้วยความรู้สึกแน่นหนัก
“ร่างกายพี่เป็นของผม”
“อื้อ…สิบ”
แม้จะรู้ว่าติญาดากำลังพยายามต่อต้านด้วยการขยับตัวแรง ๆ ทว่าชายหนุ่มก็ไม่หยุดละเลงอารมณ์ราวกับต้องการสั่งสอน ขบริมฝีปากหนาจนเกิดรอยแดงบริเวณไหปลาร้าและต้นคอขาวเนียนเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของเสร็จจึงหันมาสั่ง
“ยกเลิกงานคู่ของผมกับซินนี่เย็นนี้” ศิขรินท์กดดัน
“ทำแบบนั้นงานก็พังหมดสิ ผู้ใหญ่เค้า…”
“ถ้าไม่ยกเลิกพี่ก็อยู่แบบนี้ทั้งวันนั่นแหละ”
“แล้วผมจะไม่เบาแรงเหมือนเมื่อคืนด้วย”
เนื้อความทั้งหมดของนิยายเรื่องนี้
เกิดขึ้นจากจินตภาพและจินตนาการ
ของผู้เขียน
จึงขอให้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
อาจมีวัจน-อวัจนภาษา
และบางฉากบางตอนที่ไม่เหมาะสมกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า18ปี
ทั้งนี้
หากมีคำพูด ประโยค วลี ในตอนใด ที่ผู้อ่านคิดว่าไม่สมควรจะเผยแพร่ออกมาผ่านเนื้อหาการใช้ภาษา,คำ ที่ไม่ถูกต้อง
ไม่ชัดเจนตามหลักอักขระ
หรือหากผู้อ่านต้องการแสดงอารมณ์
วิจารณ์ ติ-ชม ให้คำแนะนำต่างๆ
สามารถร่วมแสดงความคิดเห็น
ได้ตามความเหมาะสมค่ะ :)
ผลงานอื่นๆ ของ จันทร์ฉายในลายเมฆ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ จันทร์ฉายในลายเมฆ
ความคิดเห็น